สั่งจ่ายเช็คชำระหนี้ค่าแชร์
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 173 บัญญัติว่า
"ถ้าส่วนหนึ่งส่วนใดของนิติกรรมเป็นโมฆะ
นิติกรรมนั้นย่อมตกเป็นโมฆะทั้งสิ้น
เว้นแต่จะพึงสันนิษฐานได้โดยพฤติการณ์แห่งกรณีว่า
คู่กรณีเจตนาจะให้ส่วนที่
ไม่เป็นโมฆะนั้นแยกออกจากส่วนที่เป็นโมฆะได้"
พ.ร.บ.การเล่นแชร์
พ.ศ.2534 มาตรา 6
ห้ามมิให้บุคคลธรรมดาเป็นนายวงแชร์
หรือจัดให้มีการเล่นแชร์ที่มีทุนกองกลางต่อหนึ่งงวดรวมกันทุกวงเป็นมูลค่ามาก
กว่าจำนวนที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง
มีปัญหาว่า
ลูกวงแชร์ที่ฝ่าฝืนกฎหมาย
ดังกล่าว
สั่งจ่ายเช็คเพื่อชำระค่าแชร์
เช็คนั้นตกเป็นโมฆะหรือไม่
ซึ่งศาลฎีกา
ได้มีคำวินิจฉัยในคำพิพากษาศาลฎีกาที่
85/2543 ว่า
จำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คพิพาท
และโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คพิพาท
แม้เช็ค
ดังกล่าวโจทก์จะได้มาจากการเล่นแชร์ซึ่งตาม
พ.ร.บ.การเล่นแชร์ พ.ศ.2534
มาตรา 6 ห้ามมิให้บุคคลธรรมดาเป็นนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์ที่มีทุน
กองกลางต่อหนึ่งงวดรวมกันทุกวงเป็นมูลค่ามากกว่าจำนวนที่กำหนดไว้ใน
กฎกระทรวง แต่ในมาตรา 7
ก็บัญญัติให้สิทธิแก่สมาชิกวงแชร์ที่จะฟ้องคดีหรือ
ใช้สิทธิเรียกร้องเอากับนายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์ได้
ย่อมแสดงว่า
กฎหมายมิได้กำหนดว่าการเล่นแชร์ดังกล่าวตกเป็นโมฆะเสียหมด
การที่โจทก์
จำเลยกับพวกซึ่งเป็นผู้เข้าร่วมเล่นแชร์มีการประมูลระหว่างกัน
และจำเลยสั่งจ่าย
เช็คพิพาทเพื่อชำระหนี้ค่าแชร์
แล้วเช็คมาอยู่ในความครอบครองของโจทก์ซึ่ง
เป็นลูกวงแชร์ด้วยกัน
ย่อมไม่เป็นการฝ่าฝืนมาตรา
6
นิติกรรมการเล่นแชร์ของ
โจทก์จำเลยจึงไม่ตกเป็นโมฆะตาม
ป.พ.พ. ม.173
จำเลยต้องรับผิดใช้เงินตาม
เช็คให้โจทก์
(คำพิพากษาศาลฎีกาของสำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ปี 2543 เล่ม 1 หน้า 45)
Thailegal
10/11/43
|