กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ข้อ
2.
แม้ความจะปรากฏแก่ศาลจากการไต่สวนมูลฟ้องว่า
นายกรอบ
แจ้งความกล่าวหาว่าถูกนายมวยทำร้ายร่างกายไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตราย
แก่กายหรือจิตใจ
ซึ่งเป็นความผิดลหุโทษ
นายมวยให้การรับสารภาพ
พนักงาน
สอบสวนทำการเปรียบเทียบปรับ
ทั้งนายกรอบและนายมวยต่างยินยอม
และ
นายมวยผู้ต้องหาชำระค่าปรับตามที่พนักงานสอบสวนได้เปรียบเทียบแล้ว
คดีอาญาดังกล่าวย่อมเลิกกันตาม
ป.วิ.อ. มาตรา 37(2)
และมาตรา 38(1)
สิทธินำคดีอาญาในความผิดลหุโทษของนายกรอบย่อมระงับไปตาม
ป.วิ.อ.
มาตรา
39(3) ก็ตาม
แต่เมื่อปรากฏว่าในวันเดียวกันหลังจากเกิดเหตุ
นายกรอบมีอาการโลหิตคลั่งในสมองเนื่องจากเหตุถูกนายมวยทำร้าย
ต้อง
รักษาตัวต่อมานานประมาณ
30 วัน
อันเป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกาย
ผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส
คดีจึงไม่อาจเลิกกันได้
เพราะกรณี
ไม่ใช่ความผิดลหุโทษเสียแล้ว
สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของนายกรอบจึง
ยังไม่ระงับไป
ศาลจะพิพากษายกฟ้องเพราะคดีอาญาเลิกกันไม่ได้
นาย
กรอบจึงมีอำนาจฟ้องนายมวยในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้
รับอันตรายสาหัสได้
(ตามแนวคำพิพากษาศาลฎีกาที่
354/2541)
Thailegal
11/11/43
|