ข้อ
7.
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
และ ป.วิ.อ.
ได้ให้ความสำคัญแก่การ
คุ้มครองสิทธิเสรีภาพของผู้ถูกกล่าวหาที่จะไม่ต้องให้การที่เป็นปฏิปักษ์ต่อตนเอง
โดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
มาตรา 243 บัญญัติว่า
"บุคคลย่อมมีสิทธิไม่ให้ถ้อยคำเป็นปฏิปักษ์ต่อตนเองอันอาจทำให้ตนเองถูกฟ้อง
คดีอาญา
ถ้อยคำของบุคคลซึ่งเกิดจากการจูงใจ
มีคำมั่นสัญญา
ขู่เข็ญ หลอกลวง
ถูกทรมาน
ใช้กำลังบังคับ
หรือกระทำโดยมิชอบประการใด
ๆ
ไม่อาจรับฟังเป็นพยานหลักฐาน
ได้"
ป.วิ.อ.
ม.135 บัญญัติว่า
"ห้ามมิให้พนักงานสอบสวนทำหรือจัดให้ทำการใด
ๆ ซึ่งเป็นการล่อลวง
หรือขู่เข็ญ
หรือให้สัญญากับผู้ต้องหาเพื่อจูงใจให้เขาให้การอย่างใด
ๆ
ในเรื่องที่ต้องหานั้น"
และ
ม. 226 บัญญัติว่า
"พยานวัตถุ
พยานเอกสาร
หรือพยานบุคคลซึ่งน่าจะพิสูจน์ได้ว่าจำเลยมีผิดหรือ
บริสุทธิ์
ให้อ้างเป็นพยานหลักฐานได้
แต่ต้องเป็นพยานชนิดที่มิได้เกิดขึ้นจาก
การจูงใจ
มีคำมั่นสัญญา
ขู่เข็ญ หลอกลวง
หรือโดยมิชอบประการอื่น
และให้สืบ
ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่นอันว่าด้วยการสืบพยาน"
ดังนั้น
เพื่อป้องกันในเรื่องมิให้เกิดการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพ
ของบุคคลดังกล่าว
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ม.241 วรรคสอง จึง
บัญญัติให้สิทธิผู้ต้องหาไว้ว่า
"ในชั้นสอบสวน
ผู้ต้องหามีสิทธิให้ทนายความหรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจเข้าฟังการ
สอบปากคำตนได้"
สิทธิของผู้ต้องหาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ม.241 วรรคสอง และ ม.243
ดังกล่าว
มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของผู้ต้องหา
ในชั้นสอบสวนตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
ผู้ต้องหาจึงมีสิทธิที่จะให้บุคคล
ซึ่งตนไว้วางใจเข้าฟังการสอบปากคำตนได้
และคำให้การของผู้ต้องหาเป็นเพียง
ส่วนหนึ่งของพยานหลักฐานในการสอบสวนเท่านั้น
เพราะผู้ต้องหามีสิทธิตาม
ป.วิ.อ. ม.134
ที่จะไม่ยอมให้การ
ให้การปฏิเสธ
ให้การรับสารภาพ
หรือเมื่อ
ให้การรับสารภาพแล้วจะถอนคำรับสารภาพเมื่อใดก็ได้โดยชอบด้วยกฎหมาย
เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะต้องปฏิบัติตาม
ม.131 แห่ง ป.วิ.อ. ซึ่ง
บัญญัติว่า
"ให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิดเท่าที่สามารถทำได้
เพื่อประสงค์จะทราบข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ต่าง
ๆ
อันเกี่ยวกับความผิดที่
ถูกกล่าวหา
และเพื่อจะรู้ตัวผู้กระทำความผิดและพิสูจน์ให้เห็นความผิด"
ดังนั้น
การที่พนักงานสอบสวนไม่อนุญาตให้นายศักดิ์ซึ่งเป็นบุคคลที่นายสม
ไว้วางใจเข้าฟังการสอบปากคำนายสม
โดยอ้างว่าคนทั้งสองเป็นผู้ต้องหาคดี
เดียวกัน
หากให้ร่วมฟังการสอบปากคำจะทำให้เสียรูปคดี
จึงเป็นการปฏิบัติ
หน้าที่ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย |