- เครื่องปรับอากาศ
|
|
องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐ (Food and Drug Administration - USA) ประกาศอนุมัติในการใช้ยาเม็ดเพื่อทำแท้งบุตรชื่อ RU-486 หลังจากมีความพยายามถึง 12 ปีเพื่อให้มีการอนุมัติใช้ยานี้
ฝ่ายที่สนับสนุนการใช้ยานี้ ระบุว่า ยานี้มีการใช้ใน 13 ประเทศทั่วโลกโดยผู้หญิงกว่าล้านคน สำหรับในอเมริกาจะทำให้การทำแท้งสะดวกขึ้นและเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น แต่ยานี้สามารถใช้ได้เฉพาะช่วงสัปดาห์แรกๆ ของการตั้งครรภ์เท่านั้น
ทางด้านฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการอนุมัติในการใช้ยานี้ขององค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐ ได้ประกาศที่จะต่อต้าน
คำอนุมัติเพราะถือว่าเป็นการใช้สารเคมีทำลายชีวิตของมนุษย์ผู้บริสุทธิ์ ทำให้ทางฝ่าย FDA ต้องเพิ่มกำลังในการรักษาความปลอดภัยของสถานที่ทำงาน และรักษารายชื่อเจ้าหน้าที่แพทย์ซึ่งเป็นผู้ทบทวนการใช้ยานี้ให้เป็นความลับ
ทาง FDA ออกประกาศเพิ่มเติมเพื่อให้แน่ใจว่า มีการใช้ยานี้อย่างถูกต้องและปลอดภัย โดยออกโบรชัวร์ให้ความรู้แก่ผู้หญิงทั่วไป เรียกว่า "MedGuides" อธิบายถึงคุณสมบัติของผู้ที่สามารถใช้ยานี้เพื่อการทำแท้งได้ และบอกถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยา และผู้ที่ใช้ยานี้ทุกคนจะต้องมาพบแพทย์ 3 ครั้งในการใช้ยานี้
ยาแท้งบุตร RU-486 หรือชื่อทางเคมีว่า Mifepristone สามารถใช้ได้ภายใน 49 วันนับจากวันแรกที่ประจำเดือนมาครั้งสุดท้าย โดยผู้หญิงจะต้องทานยาเม็ด mifepristone จำนวน 3 เม็ด และ 2 วันต่อมา จะต้องกลับไปพบแพทย์อีกเป็นครั้งที่สองเพื่อทานยา misoprostol ซึ่งจะมีผลทำให้ร่างกายขับ "ตัวอ่อน" (Embryo) ออกมา และจะต้องกลับไปพบแพทย์อีกเป็นครั้งที่สามภายใน 2 อาทิตย์ต่อมาเพื่อให้แพทย์ตรวจเพื่อความแน่ใจว่า การแท้งบุตรโดยยานี้เป็นไปอย่างสมบูรณ์และเรียบร้อยดี
ทาง FDA อนุญาตให้ยานี้สามารถจ่ายโดยแพทย์ที่ได้รับการฝึกฝนและเชี่ยวชาญในการคำนวณระยะเวลาการตั้งครรภ์ได้อย่างถูกต้องแม่นยำเท่านั้น นอกจากนั้นแพทย์ที่สามารถจ่ายยาแก่คนไข้จะต้องสามารถทำการผ่าตัดเพื่อการแท้งบุตรได้ หากมีความจำเป็นดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อให้การรักษาเสร็จสมบูรณ์หรือในกรณีที่คนไข้มีอาการตกเลือดอย่างมาก หรืออาจจ่ายยาได้โดยแพทย์ที่สามารถนัดหมายแพทย์ผ่าตัดได้ล่วงหน้า เพื่อทำการรักษาคนไข้กรณีต้องการการผ่าตัดเร่งด่วน
จากการศึกษาพบว่า mifepreistone ให้ประสิทธิภาพในการแท้งบุตรในระยะต้นของการตั้งครรภ์ได้ถึง 92 - 95% โดยขัดขวางการทำงานของฮอร์โมนที่จำเป็นเพื่อการเจริญครรภ์ต่อไป ทั้งนี้หากไม่มีฮอร์โมน, โปรเจสเตอโรน และ เยื่อบุมดลูกบาง ทำให้ตัวอ่อนไม่อาจฝังตัวกับผนังมดลูกและเจริญเติบโตได้
การใช้ยาเพื่อทำการแท้งบุตรนี้อาจทำให้มีการเจ็บปวดได้ เพราะจะทำให้มีการตกเลือดและวิงเวียน ศีรษะ
ซึ่งผลข้างเคียงของยานี้คือ การตกเลือดมากๆ แต่ว่าทาง FDA ประกาศว่ามีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อย จากการทดสอบในการใช้ยา mifepristone นี้กับหญิงชาวอเมริกันจำนวน 2,100 คน พบว่ามีจำนวน 4 รายที่เกิดอาการตกเลือดจนถึงขั้นต้องให้เลือด
ทางด้านบริษัทผู้ผลิตยา Danco Laboratories คาดว่าจะวางจำหน่ายยานี้ภายใต้ชื่อทางการค้าว่า Mifeprex สามารถจำหน่ายได้ภายใน 1 เดือนนับจากนี้ สำหรับราคายาคาดว่าคงจะมีราคาเท่ากับค่าใช้จ่าย
ในการผ่าตัดเพื่อทำแท้ง ซึ่งทางประชาสัมพันธ์ Danco ยังไม่ได้ยืนยันในเรื่องราคาของยาเม็ดชนิดนี้
ปัจจุบันชาวอเมริกันส่วนใหญ่ในจำนวน 1.3 ล้านที่ทำแท้ง จะใช้วิธีผ่าตัดเพื่อทำแท้ง และมีแพทย์บางรายในปี 1995 ออกมาวิจารณ์ว่า ยาที่ใช้ในการรักษามะเร็ง ชื่อยา Methotrexate ก็สามารถทำให้เกิดการแท้งบุตรได้เช่นกัน
สำหรับทางผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพกล่าวว่า ยา mifepristone จะไม่ช่วยเพิ่มให้อัตราการทำแท้งสูงขึ้น แต่การที่ FDA อนุมัติในการใช้ยานี้จะทำให้แพทย์หลายรายซึ่งไม่ยอมทำแท้งให้คนไข้ จะหันมาใช้ยานี้แทน รวมทั้งผู้หญิงบางรายที่ต้องการทำแท้งก็ไม่ต้องเดินทางมาคลีนิคเพื่อผ่าตัดทำแท้ง ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกต่อต้านโดยกลุ่มผู้ประท้วงการทำแท้ง
Posted: 3 October 2000
|
|
|