สรุปสถานการณ์ทั่วไปในติมอร์ตะวันออก ห้วง ก.พ. มี.ค. ๔๖
๑๕๐๙๐๐ ก.พ. ๔๖ ได้มีการชุมนุมประท้วง ที่สถานฑูต
ออสเตรเลีย โดย มี กลุ่มผู้ประท้วงประมาณ ๑๐๐ นาย พร้อมแผ่นป้าย
แสดงความไม่เห็นด้วยในการ ทำสงครามกับอิรัก
การชุมนุมประท้วง เริมจาก สถานฑูตสหรัฐ ในช่วงเช้า และช่วงบ่ายสถานฑูต
ออสเตรเลีย ฝ่าย ข่าว กกล. รักษาสันติภาพได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปสังเกตการณ์
โดยการชุมนุมเลิกเวลาประมาณ ๑๔๓๐ น.
สรุปเหตุการณ์
การยิงรถประจำทางสาย บัลตูเกจ-ดีลี ATABAE Incident
เมื่อ ๑๙ ๑๓๐๐ ก.พ. ๔๖ นาย อาร์เบล โดส ซานโตส อายุ ๕๗ ปี ขณะที่ อยู่ที่ไร่ของตนเองที่
หมู่บ้าน ORLUI ประมาณ พิกัด YL 2115 ได้ ถูก กองกำลังติดอาวุธ
กำลังประมาณ ๙ นาย บังคับให้นำทางไปยัง เขตแดน อำเภอ ATABAE นายอาเบล
ให้การ กับ เจ้าหน้าที่ กองกำลังสหประชาชาติ( พัน .ร ออสเตรเลีย)
กลุ่มดังกล่าว มีอาวุธ ปลย. SKS และ G3
ม, ปลย. Mauaser และอาวุธ ปืนแสวงเครื่อง
รวมทั้ง ลูกระเบิดขว้าง
เมื่อ ๒๔ ๑๒๔๕ ก.พ. ๔๖ ได้มี กลุ่มคนร้าย ได้พยายาม
ขวางถนนเพื่อหยุดรถ แต่ รถไม่หยุด กลุ่มดังกลาวจึงได้ทำการยิง ไปยัง รถบรรทุก
รถบรรทุกคันดังกล่าวได้ขับหนีไปได้ ต่อมาในเวลาใกล้เคียงกัน รถประจำทาง สาย ได้
ผ่านมากลุ่มดังกล่าวทำการหยุด รถ ด้วยการใช้ ปลย. SKS ยิงไปยังกระจกรถ
ผลทำให้กระสุนไปถูก ผู้โดยสาร บาดเจ็บ ๔ คน และ เสียชีวิต๕ คน คนร้าย ได้ ขออาหาร
และทรัพย์สิน
หลังจากนั้นได้หลบหนี ไป
เมื่อ ๒๔ ๑๔ ๐๐ ก.พ. ๔๖ กำลัง สหประชาชาติ
เขต ตะวันออกได้ทำการ ปิดล้อมพื้นที่ ตามเส้นทางหลัก และใช้อากาศยาน ในการค้น หา
กลุ่มคนร้าย
เมื่อ ๒๔ ๑๕๐๐ ก.พ.๔๖ บก.กองกำลัง ได้ทำการประมาณสถาน การ และวางแผนการปิดล้อมตรวจค้น
และการไล่ติดตาม ได้ส่งเจ้าหน้าที่ ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ จากส่วน ข้อมูลทางทหาร ( Military Information
cell ) ไปยังพื้นที่เกิดเหตุ
เพื่อ หาหลักฐาน และเพื่อ ค้นหากองกำลังดังกล่าว
เมื่อ ๒๕ ก.พ. ๔๖
พัน ร. ออสเตรเลีย ได้ปฏิบัติ ภารกิจ
ปิดล้อมตรวจค้นระดับกองพัน เพื่อ ติด กองกำลังกลุ่มดังกล่าว
เมื่อ ๒๗๑๖๕๐ ก.พ. ๔๖
ชุด ลาดตระเวน ของ กองร้อย ประเทศ ฟิจิ ( กองร้อย ฟิจิ ขึ้นกับพัน ร.
ออสเตรเลีย ) ได้ปะทะ กับ กลุ่มดังกล่าว ใกล้แม่น้ำ LOES พิกัด YL
394314.สามารถ จับ ฝ่ายตรงข้ามได้ หนึ่ง นาย และยึดอาวุธปืน
แสวงเครื่องได้ ๑ กระบอก
เมื่อ ๒๗ ๑๔๐๐ ก.พ. ๔๖ กองร้อย ร. ออสเตรเลีย
ได้ทำการ ตรวจค้นพิสูจน์ทราบ พื้นที่ปะทะ พบ ฐาน ลาดตระเวน ขนาด
พบ ศพ ฝ่ายตรงข้าม พร้อม ปลย. SKS , ลข.แบบ k๗๕ และ เครื่องใช้ทางทหาร หลายชนิด เช่น เป้สนาม , รองเท้าคอมแบต
. กระเป๋ากระสุน รวมทั้ง พบกระสุน ขนาด ๗.๖๒ x ๓๙ และ ๗.๖๒ x
๕๑ มม. หลายสิบนัด
เมื่อ ๐๓ ๐๘๐๐ กพ. ๔๖ กองกำลัง ตะวันออก
ได้ประมาณสถานการณ์และ เพิ่มระดับ ของการประเมินค่าภัยคุกคาม จาก ระดับตำเป็น
ระดับปานกลาง
เมื่อ ๐๓ ๑๐๐๐ ก.พ. ๔๖ ฝ่ายข่าว
ได้ประสานกับ ชุดทำลายวัตถุระเบิด ในเรื่อง การตรวจสอบ กระสุน
และระเบิดที่ยึดได้พบว่ากระสุน ส่วนใหญ่ เป็นกระสุน เก่า และ ทำในอินโดนีเซีย บางส่วน ทำในโปตุเกส
เมื่อ ๐๓๑๐๐๐ มี.ค. ๔๖ ได้มีการประท้วงของ
กลุ่มผู้ใช้แรงงานที่ถูกเลิกจ้าง ที่ กระทรวงแรงงานประเทศ ติมอร์ กลุ่มผู้ประท้วง
ถือ ธง มีสัญลักษณ์ ค้อนเคียว
เมื่อ ๐๗๑๐๐๐ มี.ค. ๔๕๖ มีการประท้วงของกลุ่ม
ผู้ขับรถรับจ้าง โดยกลุ่มผู้ชุมนุนมไม่พอใจรัฐบาล ที่ขึ้นราคาน้ำมันโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า
โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ นำรถ มาบริเวณทีชุมนุม การชุมนุม เป็นไปอย่างสงบ โดย
รัฐบาลได้ส่งตัวแทนออกมา เจรจา และ ได้สัญญาว่าจะ นำเรื่องเข้าที่ประชุม ต่อไป
การชุมนุมเลิกเวลาประมาณ ๑๕๔๕
รายงานสรุปเหตุการณ์ประจำสัปดาห์
๑๐-๑๙ มี.ค.
๑๐ มี.ค. ๕๖
ภารกิจ ที่มีความเร่งด่วนลำดับ หนึ่ง
คือการติดตาม คดี การยิงรถบรรทุก ซึ่ง เมื่อ วันที่ ๙ มี.ค. ๔๖ PNTL หรือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ติมอร์
ได้ มีการจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยเพิ่มอีก ๑ นาย โดย จับได้ที่ ตำบล ฮาโตเลีย ในเขต
ลิคิวเซีย และได้ส่งตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ ดิลี
ภารกิจรองคือการดำเนินการค้นหา
กำลังพลของเกาหลีที่ถูกน้ำป่าพัดไปเมื่อ วันที่ ๖ มี.ค. ๔๖
โดย กำลัง ที่ใช้ในการค้นหาประกอบด้วย
ชุดประดาน้ำ ของ โปรตุเกส
เรือลาดตระเวน ทร. ติมอร์
ชุดค้นหา ของ เกาหลี จำนวน ๔ ทีม
พิธี รำลึก ถึงผู้เสียชีวิต ในวัน ที่ ๑๒ มี.ค.
๔๖
๑๑ มี. ค. ๔๒
ผลการสอบสวนผู้ต้องสงสัย ที่จับได้เมื่อ ๙
มี.ค. ๔๕ โดย ผู้ต้องสงสัยให้การรับสารภาพว่าเป็นกลุ่มเดียวกับ กลุ่มที่
ทำการยิงรถบรรทุก โดย การสอบสวนได้ข้อมูลว่า
ผู้ต้องสงสัย ชื่อ เบอร์นานโด
เดิมเป็น มิลิเทีย อยู่ใน เขต อีเมร่า ปัจจุบันอยู่ที่ อตัมบัว ในติมอร์ตะวันออก
และได้ประชุมวางแผนการปฏิบัติ
ในติมอร์ตะวันออกโดย ชุด ดังกล่าวประกอบด้วย กำลังพล ๑๒ นาย ส่วนใหญ่เป็น มิลิเทีย
เดิมที่มีภูมิลำเนาอยู่ในเขต อิเมร่า
วัตถุประสงค์ในการมาคือเพื่อที่จะ ตั้งฐาน กองโจร ใน เขต ฟาตูเบซี่ , อิเมร่า โดยผู้ต้องหาได้ บอกรายชื่อ
กำลังพลในชุด ทั้งหมด โดย ได้มีชื่อนาย โดมิงโกเด จีซัส ซึ่งเป็นผู้ต้องหา
ที่ถูกจับได้ในการปะทะกับกองกำลังรักษาสันติภาพ
กลุ่ม
ผู้สังเกตุการณ์สหประชาชาติ ( UNMOs ) ได้รายงาน ว่ามีการขัดแย้ง
เรื่องเกี่ยวกับที่ดินทำกันในหลายหมู่บ้าน โดย ส่วนใหญ่เกิดจาก เมื่อมีเหตุ
การรุนแรงใน๒- ๓ ปีที่ผ่านมา
มีการอพยบ ออกจากพื้นที่ของตนเอง ต่อมาเมื่อ เหตุการสงบ ก็มีชาวบ้าน
กลัยถิ่นฐานเดิม รวมทั้งมีการย้ายถิ่นที่อยู่ ทำให้เกิดปัญหา ความขัดแย้งเรื่องที่ดินทำกิน
ในบางพื้นที่ เจ้าหน้าที่บ้านเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนของพรรคการเมือง ได้ใช้อำนาจ อนุญาติให้คนของตนเอง เข้า
ทำกินในพื้นที่ที่กำลัง มีปัญหา
ทำให้เกิดความไม่พอใจ
ปัญหา
นี้ กองกำลัง สหประชาชาติได้ แจ้ง ให้ ตำรวจสหประชาชาติ ประสาน
กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ติมอร์ ตะวันออก ดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะสามารถเป็นเงื่อนไขในการใช้ความรุนแรง
และการก่อความไม่สงบ ได้
๑๒ มี.ค. ๔๕
ฝ่ายยุทธการ บก. กองกำลังรักษาสันติภาพ
ได้มีการประชุมหารือ ในการปฏิบัติการกวาดล้าง กองโจร ติดอาวุธ (Armed group ) โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม
จาก สำนักงานตำรวจสหประชาชาติ, ฝ่ายยุทธการกองกำลังเขตตะวันตก , ตัวแทนจาก
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เขตลิคิวเซีย , ส่วนข่าวบก.กองกำลังรัษาสันติภาพ ,
ส่วนยุทธการ บก.กกล.รักษาสันติภาพ
จากการที่มีข่าวการแทรกซึมเข้ามา ของ
กองโจรติดอาวุธ อยู่ในหลายพื้นที่ กำลังดังกล่าว กระจาย กำลัง ตามหมู่ บ้าน ในเขต ลิคิวเซีย และ เขต อีเมร่า โดย การประชุม เริ่มจาก ฝ่ายข่าว
( Military
Information cell ) ได้ ให้ข้อมูลสถานการณ์ทั่ว ที่เกิดขึ้น ใน
รอบเดือนที่ผ่านมา
โดยได้แบ่งกองกำลังที่ก่อความวุ่นวาย เป็น ๒ ส่วน คือ กลุ่ม ที่เป็น อดีต
ฟาลินทิล ที่ไม่ได้รับการคัดเลือก เป็น กองกำลังป้องกันตนเองแห่งประเทศติมอร์ , อีกกลุ่มเป็น กลุ่ม อดีต มิลิเทีย
กลุ่มแรก ยังคงไม่มี เหตุการณ์ ที่ เด่นชัด โดยทั่วไปเป็นการข่มขู่ การเก็บ ค่าผ่านทาง โดย ใช้ อาวุธ
พื้นบ้าน เช่น มีด หอก ส่วนในกลุ่มที่ ๒ เป็น กลุ่ม อดีต มิลิเทีย ที่เข้ามาเพื่อ
เตรียมการ ปฏิบัติ การในห้วง ปี ๒๐๐๔ โดย จะเข้ามาเพื่อ จัดตั้ง ฐานสนับสนุน
กองโจร ในพื้นที่ ภูมิลำเนา ของตนเอง โดยอาศัยเงื่อนไข ความ
ไม่เพียงพอของสภาพความเป็น อยู่พื้น ฐาน
การเข้ามาหาประโยชน์ของคนต่างชาติ
โดยกลุ่มดังกล่าว จะได้อาวุธสงคราม จาก ติมอร์ตะวันออก
ฝ่ายข่าวได้แสดง
เส้นทางการแทรกซึม ที่ได้จากการ ประมาณการ ข่าว สารข้อมูลที่ได้รับ เพื่อ
ให้ส่วนยุทธการ นำไปวาง แผนการปฏิบัติ
โดย ผลการประชุม ตกลงใจให้
กองกำลัง เขตตะวันตก ปฏิบัติการ ลว.
พื้นที่ และเส้นทาง โดย พื้นที่เป้าหมายที่เป็นหมู่บ้าน จะประสานกับ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติติมอร์
ในการดำเนินการ ตรวจค้น หาผู้ต้องสงสัย
๑๖ มี.ค. ๔๖
เมื่อ ๑๖ ๑๔๐๐ มี.ค. ๔๖ กกล. ของสิงค์โปร
ตรวจพบ ผู้นำ มิลิเทีย กลุ่ม
ลักซารัส นายเฮนดริกคุส ที่ ตลาด แนวชายแดน บริเวณ จุดผ่าน แดน JP- E ครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๓ ในรอบ ๑ เดือนที่ ตรวจพบ ชายผู้นี้ ซึ่งปัจจุบัน
อาศัยอยู่ที่เมือง อัลตัมบัว ติมอร์ตะวันออก มีรายงานว่า นา ย เฮนดริกคุส มีญาติพี่น้องอยู่ใน ติมอร์ตะวันออก
ในเขต หมู่บ้าน NANU ซึ่งห่างจากแนวชายแดนประมาณ ๕ กม. กองกำลังรักษาสันติภาพ กำลังติดตาม
ความเคลื่อนไหว ของบุคคลผู้นี้อย่างใกล้ชิด
๑๗ มีนาคม ๒๕๔๖
เมื่อ ๑๗ ๑๓๓๐ มี.ค. ๔๖
มีรายงานด่วนจาก ฝ่ายข่าวกรมตำรวจว่า มีชาวบ้าน พบ กำลังติดอาวุธประมาณ ๑๕
นาย เข้ามา ในบริเวณ หมู่บ้าน Mauubura พิกัด YL 5141 โดย
ผู้หญิงและเด็กในหมู่บ้าน อพยพออก
มาอยู่ ในบริเวณ หมู่บ้านใกล้เคียง โดย ชาวบ้าน ได้แจ้งกับตำรวจ ติมอร์ ว่า
กลุ่มดังกล่าว มีอาวุธ ปืนยาว ๓ กระบอก และปืน พก อีกจำนวนหนึ่ง กองกำลัง
รักษาสันติภาพ ได้ส่ง กำลัง เข้าพื้นที่เพื่อ พิสูจน์ทราบ
โดย
ใช้ชุด ลาดตระเวน ของ กองพัน โปตุเกส เคลื่อนที่เข้าพื้นที่ ดังกล่าว เมื่อ
๑๔๓๐ โดยมีกำลัง วนใหญ่
เคลื่อนที่โดยทางรถยนต์ เพื่อทำการ ลว.ค้นหา กลุ่มดังกล่าว กำลงชุด
ลว.ไปถึงประมาณเวลา ๑๕๐๐ น. ได้เคลื่อนที่ ไป ในพื้นที่ที่ได้รับแจ้ง
แต่ไม่พบกำลังกลุ่มดังกล่าว
ต่อมาเมื่อกำลังส่วนใหญ่ไปถึง กำลังพลในชุด ลว. ไดั ยินเสียงปืนดังขึ้น ๑
นัด แต่ไม่ทราบ ชนิด และที่มา
ความเห็น ของ
เจ้าหน้าที่รวบรวมข่าวสาร
พื้นที่
ตำบล ลิคิวเซีย เป็นพื้นที่ ที่ ตร.สหประชาชาติ ได้ส่งมอบ ความรับผิดชอบให้กับ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติติมอร์ และ ข่าวลือ ที่จะมีกลุ่มติดอาวุธ
เข้ามาใช้พื้นที่ดังกล่าว ทำให้ ชาวบ้านต้องการ ความคุ้มครองจากกำลังของสหประชาชาติ
อาจจะ เห็น กลุ่มคน เดินทาง หรือ อาจจะเป็นเรื่องที่ กุขึ้นเพื่อ สร้างสถานการณ์
๑๘ มี.ค. ๔๕
ประธานาธิบดี จอร์ บุช และ นายก รัฐมนตรี จอนห์โฮเวอรด์
ได้ ประกาศ พร้อมที่ ทำสงคราม ในการที่จะ ปลดอาวุธอิรัก ส่วน สหประชาชาติได้สั่ง
ถอน เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์ UNIKOM ออก ในวันนี้
ในส่วนของ กองกำลังรักษาสันติภาพ ในติ
มอร์ตะวันออกได้ เตรียมการประมาณการภัยคุกคาม
ของผู้ก่อการร้ายในพื้นที่ติมอร์ตะวันออก โย
คาดว่าอาจจะมีการปรับระดับภัยคุกคาม
โดย เจ้าหน้าที่ ผู้สังเกตการณ์ สหประชาชาติได้ รับ ความเร่งด่วนในการ
สังเกตการณ์ ตามที่ตั้งมัสยิด และชุมชนอิสลาม ในพื้นที่ รับผิดชอบ
๑๙ มี.ค. ๔๕
สหรัฐ เริ่มทำการโจมตี อิรัก โดยมีเป้าที่ ที
บุคคลสำคัญของ อิรัก โดย ใช่จรวด นำวิถี ยิงเข้า สู่ที่
ได้รับข่าวสารว่ามีความเป็นไปได้ที่มีผู้นำ หรือบุคคลสำคัญ ในขณะเดียวกันที่ ใช้กำลัง
ทางภาคพื้นดินรุกเข้าทางตอนใต้ของอิรัก
เข้าควบคุม บ่อน้ำมัน ของอิรัก เพื่อป้องกันการเผาทำลาย โดย ส่วนหนึ่งได้ใช้กำลัง
หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ร่วม ผสม ในการ เข้า ยึด สนามบิน สำคัญ ๒ แห่ง
ทางฝั่งตะวันตกของอิรัก
โดย จากการปฏิบัติการ มีเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์
สหรัฐตก จำนวน ๑ ลำ มีทหารสหรัฐและอังกฤษ เสียชีวิต ๑๒ ราย ในการปฏิบัติการครั้งนี้
สหรัฐใช้เวลาเตรียมสนามรบ ด้านการข่าว นาน ถึง เกือบ ๑๐ ปี
ส่วนในเรื่องของการ เตรียมการในการยุทธ นั้น CENTRAL COMMAND ซึ่งเป็น การจัดกำลัง หรือหน่วยเฉพาะกิจที่รับผิดชอบภูมิภาคนี้ ได้เป็น
หน่วยหลักในการควบคุมการรบ ถ้าเทียบ ก็คล้ายกับ กองกำลังผาเมือง หรือกองกำลัง
ที่รับผิดชอบเป็นพื้นที่เฉพาะ ต่างกันตรงที่ขนาด และความสมบูรณ์
หน่วยรบพิเศษที่รับหน้าที่หลัก ในงานนี้ ได้แก่ กรมรบพิเศษ ที่๕ กรมรบพิเศษที่ ๑ ซึ่ง
โดยปกติกรมรบพิเศษ ที่ ๕ ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ตะวันออกกลาง ส่วนกรม ๑
จะรับผิดชอบทาง เอเชีย
ขั้นตอนทั่วไปของการเตรียมทำสงคราม
แผน ยุทธการจะต้อง ออกมาก่อนอย่างน้อย เป็น ปี เพื่อทีเตรียมการ ซักซ้อม ปรับแผน
โดยในขั้น ส่วน ทีจะต้องดำเนินการตลอดเวลา ตั้งแต่เริ่มคิดที่จะทำสงครามคือการเตรียมสนามรบด้านการข่าว
ที่จะต้องใช้ ทรัพยากร เครื่องมือ ทั้งมวลเพื่อที่จะให้ได้มาซึ่ง
ข่าวสารข้อมูลที่ทันสมัย ในส่วน ของสหรัฐ เครื่องมืออิเล็กโทรนิคส์ ดาวเทียบระดับต่ำ เครื่องบิน จารกรรม
ในส่วนที่เครื่องมือเหล่านี้ไปไม่ถึง ก็ต้อง ใช้ มนุษย์ หรือเจ้าหน้าที่
ด้านการข่าว ทำทุกวิถี ทางเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่ต้องการ
ในขั้น
การเตรียมการ ภารกิจของหน่วยรบพิเศษ ยังคง ต้องปฏิบัติอยู่ตลอกเวลา ในทุกพื้นที่
ที่เป็นแหล่งผลประโยชน์ ของสหรัฐ
มีงานหลายอย่างที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง เช่นการเตรียมพื้นที่สงครามนอกแบบสนับสนุน
กองกำลังหลัก ได้แก่ การเข้าไป ให้การสนับสนุน กับกลุ่มที่ต่อต้าน รัฐบาล เป้าหมาย ทั้งทางตรง และทางอ้อม
ทั้งนี้การ เข้าไปทำเช่นนั้น ต้องใช้เวลา ที่นานพอที่จะสร้างความมั่นใจให้กับกลุ่ม
ต่อต้าน และเสริมสร้าง กลุ่มต่อต้านนั้น ให้เข้มแข็ง
หรือมีคุณลักษณะตรงกับความต้องการที่ จะใช้ในการสนับสนุน เช่น การแทรกซึมเข้า
เพื่อ ไปทำการชี้เป้าหมายสำคัญ ที่ไม่สามารถ ใช้อุปกรณ์ เทคโนโลยีสูง ทำได้ การนำทางในพื้นที่ ที่ ซับซ้อน เมื่อ
เตรียมกำลังส่วนนี้เรียบร้อยแล้ว เมื่อเกิดเหตุการณ์ หน่วยรบพิเศษ
จะเป็นเพียงผู้ชี้นำแนวทางการปฏิบัติให้กับ กำลังส่วนนี้ ตัวอย่าง ได้แก่
กลุ่มพันธมิตรฝ่ายเหนือ ในอัฟกานิสสถาน , เรื่อง ของสงครามนอกแบบ สหรัฐ เคย
ผิดพลาด มหาศาล ในการทำสงครามนอกแบบ ในอัฟกานิสสถาน สหรัฐละเลย
การปฏิบัติขั้นสุดท้าย ของสงครามคือการปลดปล่อยกองโจร ( Demobilize )เมื่อครั้ง
โซเวียตรุกราน อัฟกานิสถาน
สหรัฐตัดความช่วยเหลือ ตัดงบประมาณในการทำขั้นตอนดังกล่าว
ทำให้กองโจรซึ่งเครั้ง หนึ่งเคย รบ เพื่อ คานอำนาจให้สหรัฐ โดดเดี่ยว ชายฉกรรณ
จำนวนมาก ที่ ในห้วงตลอดเวลา ๑๐ ไม่รู้จักการทำงานอย่างอื่นนอกจาก สงคราม ผู้นำหลายคนที่เคย ทำงานให้สหรัฐ
เริ่มเห็นภาพ ความเห็นแก่ตัวของโยบายสหรัฐ เปลี่ยน กลับมา ทำร้านสหรัฐเอง หนึ่ง
ในจำนวนนั้น คือ นายอุสมาบินลาเดน และกลุ่มตาลีบัน
สถานการณ์ห้วง ๑๙ มี.ค. ๓ เม.ย.
จากการรายงานข่าวการพบ
กลุ่มมิลิเทียในพื้นที่ลิคิวเซีย
และ มีการจับกุม สมาชิกมิลิเทียเก่า ได้ที่ จุดผ่านแดน เอ ทำให้มีการประมาณสถานการณ์ว่า
ในขณะนี้ได้มี กลุ่ม ติดอาวุธ หรือกลุ่มมิลิเทียเก่าได้แทรกซึมเข้ามากระจาย
ตามพื้นที่ หลายแห่ง แต่เมื่อ
ใช้กำลังเข้าไปพิสูจน์ทราบ ไม่พบหลักฐานใด รวมทั้ง จากการสอบสวน
เพิ่มเติมจากชาวบ้านที่รายงานข่าว เป็น เพียงการเข้าใจผิด
แต่อย่างไรก็ตาม
สหประชาชาติได้มีมติให้ ปรับการ ลดกำลัง ของกองกำลังรักษาสันติภาพ
โดยให้ยืดเวลาในการคงกำลัง โดยเฉพาะ กองพันทหารราบ ๒ กองพัน ตามแนว ชายแดน และ
ดำรง กำลังพลในส่วนของ ฝ่ายข่าวทางทหารไว้จนจบภารกิจ
ในพื้นที่เขต
ตะวันตก พัน
ร.ออสเตรียได้ทำการพิสูจน์ทราบโดยการส่งชุดลาดตระเวนเฝ้าตรวจ ชุดพลซุ่มยิง SNIPER TEAM แบบพราง (Green Hat Patrol) ในพื้นที่ที่ชาวบ้าน รายงานว่า มีความเคลื่อนไหวของมิลิเทีย โดยเฝ้าตรวจประมาณ ๓
วันโดย ที่ไม่ให้ชาวบ้าน รู้ตัว ผลปรากฏว่า มีอยู่หมูบ้านหนึ่ง
ห้วงกลางคืนมีการร้องรำทำเพลงอย่างสนุกสนาน ดำเนินชีวิตแบบปกติ ในวันถัดมา พัน ร
ออสเตรเลีย ได้ส่งกำลัง ชุดลาดตระเวณ มาตรฐานสหประชาชาติเข้าไป ไปถามว่าที่ผ่านมา
มี ความเคลื่อนไหวอะไรบ้าน ชาวบ้า รายงานเหมือนเดิมว่ามี กำลัเคลื่อนไหวในพื้นที่
แต่งกายชุดสีดำ.. ซึ่ง สรุปได้ว่า การที่ชาวบ้ายรายงานเท็จเพื่อให้มีกำลังของ
กองกำลังรักษาสันติภาพอยู่ในพื้นที่
การจากสรุปการรายงาน
ในห้วง ๓ เดือนที่ผ่านมา ๒๐๐ กว่ารายงาน
มีเพียง ๒ เหตุการณ์เท่านั้นที่เป็น เหตุการณ์รุนแรง และ
๑เหตุการเป็นการตรวจพบโดย กองกำลังรักษาสันติภาพเอง โดยพื้นที่
ที่มีการรายงานมากที่สุก คือ BOBONARO และ LIQCIA
จากการประชุมหารือขั้นต้น ในเรื่องของแนวทางการปฏิบัติการ
ได้ข้อมสรุปที่ตรงกันว่า กองกำลังรักษาสันติภาพจะต้องเพิ่ม ประสิทธิภาพของการสร้าง
ทัศนคติของชาวบ้านในการรายงาน ข่าว ให้ทางการทราบ เมื่อพบความผิดปกติ
และรายงานตรงกับความเป็นจริง รวมทั้ง การสร้าง คามสามัคคี ระหว่างหมู่บ้าน
และคนในชาติทั้งหมดโดนเน้นที่พื้นที่ ๒ อำเภอ ตามแนวชายแดน รวมทั้ง อ. ลิคิวเซีย
และ เบาเกา
สรุปประมาณ
สถานการณ์ ในรอบสัปดาห์ ห้วงเดือน มีค.
ด้าน ความมั่นคง ภายใน
มีรายงาน การเตรียมการก่อความไม่สงบของกลุ่ม Militia ซึ่งส่วนใหญ่จะรับทราบจากชาวบ้าน
หรือผู้นำหมู่บ้าน รวมทั้ง การ แทรกซึมเข้ามาของกลุ่มดังกล่าว ทั้ง
การเล็ดลอดทางเท้า และการปะปนกับ ชาวบ้าน และอีกส่วนหนึ่งของผู้ที่เคยร่วม
อยู่ในกลุ่ม แต่ปัจจุบันไม่ได้เข้าร่วม จาก
การกดดันของสหประชาชาติและกลุ่มสิทธิมนุษย์ชน ที่มีต่อรัฐบาลอินโดนิเชีย
ทำให้การสนับสนุน Militias อย่างเต็มที่ในอดีตกระทำได้น้อย ลง แต่จากประสพ การณ์
อันยาวนานในการทำสงครามนอกแบบ ของ อินโดนีเซีย
เป็นสิ่งหนึ่งที่อาจทำให้เชื่อได้ว่า อินโดนีเซีย ยังคง
ดำเนินการบางอย่างเพื่อดำรงไว้ซึ่ง อิทธิพลในพื้นที่ติมอร์ตะวันออก ซึงการดำเนินการดังกล่าวนั้น ในขณะนี้
คงไม่ใช่การ ต่อสู้ด้วยอาวุธ โดยที่ จากการายงาน เป็นไปได้ว่า
ในขณะนี้อยู่ในช่วงที่ กำลังดำเนินการ รวบรวมข้อมูล
แนวทางการปฏิบัติการของกองกำลังรักษาสันติภาพที่มีต่อ ข่าวที่เกิดขึ้นรวมทั้ง
เหตุการณ์ การยิงรถประจำทาง สาย บัลตูเกจ ดิลี ซึ่ง เป็น
เหตุการณ์ที่สามารถทำให้ทราบถึง เวลาในการตอบสองต่อเหตุการณ์ , ยุทธวิธีการปฏิบัติ
, ขีดจำกัดของ กองกำลังรักษาสันติภาพ
คาดว่าเหตุ การรุนแรงจะมีขึ้นหลังจาก ที่ กกล.
สหประชาชาติ ออกไปจากประเทศติมอร์ตะวันออก
กำลังตำรวจ
ของติมอร์ตะวันออกยังไม่เพียงพอต่อประชากร และ เป็นปัญหา เนื่องจาก
การคัดเลือกตำรวจ ในช่วงแรก
กำลังที่คัดเลือกได้ ส่วนใหญ่จะเป็นตำรวจเก่า ในสมัย ที่ อิโดปกครอง เนื่องจาก
ได้รับการศึกษาและอบรม รวมทั้งมีประสบการณ์และขีดความสามารถที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ทำให้ในบางครั้ง ประชน ที่ ไม่ชอบ อินโดนีเซียยัง จดจำภาพพจน์ที่เลวร้าย ในอดีต
ระยะเวลาในการอบรมเพียง ๓ เดือน
ไม่เพียงพอในการสร้าง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะต้องรับมือกับปัญหา
อาชญากรรมที่นับวันจะมีสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสอบสวน การพิสูจน์หลักฐาน ,
ความรู้ข้อกฏหมาย
กฎ หมายของ ประเทศติมอร์เองก็ยังไม่เรียบร้อย
อย่างเป็นรูปธรรม
ในเดือน พ.ค. จะมีแผนที่จะมอบพื้นที่ รับผิดชอบ
บางพื้นที่ ของ ตร.สหประชาชาติ
ให้กับ ตำรวจติมอร์
เจ้าหน้าที่ตำรวจสหประชาชาติหลายนายให้ความเห็นว่า
จะต้องมีปัญหาเกิดขึ้นมากมาเนื่องจากความไม่พร้อมแล้ปัญหาเหล่านี้ อาจจะลุกลามเหมือเห็นการในช่วง
เดือน ธันวาคมที่ผ่านมา
สังคมจิตวิทยา
ประชากรส่วนใหญ่
ในเมืองหลวง ยังไม่มีงานทำ ธุรกิจส่วนใหญ่เป็นของชาวต่างชาติ รายได้ส่วนใหญ่
การใช้จ่ายของสหประชาชาติและ เจ้าหน้าที่ หลังจากการลดกำลัง ของ UNMISET อัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้น เงื่อนไขต่าง
ที่จะก่อให้เกิดความไม่พอใจของประชาชน มีมากขึ้น เป็นช่องว่างให้กับ
ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลในการสร้างความ ไม่มั่นใจ และบันทอนเสถียรภาพของ รัฐบาล และเป็นการง่ายที่อินโดนิเซียจะสามารใช้วิถีทางทางการเมือง
ที่จะลดบทบาทของรัฐบาลที่ สนับสนุนโดย ชาติตะวันออกรวมทั้งออสเตรเลีย
อย่างชอบธรรม ประชากรตามแนวชายแดนยังคงต้องการ ความปลอดภัย
ใยชีวิต เนื่องจากการมีข่าวลือเรื่องการแทรกซึมเข้ามาของกลุ่ม มิลิเทีย ประชาชนยังคงต้องการให้มีกองกำลังรักษาสันติภาพอยู่
เพื่อ ความปลอดภัย
เป็นไปได้ว่าข่าวลือส่วนหนึ่งเกิดจากความต้องการการดูแลจากเจ้าหน้าที่บ้านเมืองซึ่งในขณะนีมีเพียง
เจ้าหน้าที่ กกล.สหประชาชาติเท่านั้นที่พึ่งพาได้
สถานการณ์การก่อการร้าย
เนื่องจากเหตุการสงครามอ่าวได้ส่งผลถึงระดับภัยคุกคามที่มาจากการก่อการร้าย
ในทุกภูมิภาคของโลก
โดยเฉพาะประเทศที่สนับสนุนสหรัฐในการโจมตีดังกล่าประเทศติมอร์ตะวันออกเป็น
พื้นที่หนึ่งที่การรักษาความปลอดภัยยังไม่ดีนักทำให้
และมีประเทศออสเตรเลียที่เป็นประเทศที่ให้การสนับสนุนในการทำสงครามครั้งนี้โดยตรง
สถานการณ์ห้วง ๓ เม.ย.-๘ พ.ค. ๔๕
ในห้วงนี้มีการรายงานว่า พบ กลุ่มบุคคลติดอาวุธ
อยู่ในหลายพื้นที่ มีการประชุมเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหา ในขั้นต้นของการประชุม
แรกฝ่ายยุทธการจะใช้การลาดตระเวน ค้นหา ด้วย GREEN HAT Patrols หรือ การลาดตระเวน
ที่ไม่ใช้หมวกสีฟ้า เป็นหลัก แต่จากการวิเคราะห์ของฝ่ายข่าว
เนื่องจากกองกำลังดังกล่าวเป็นกลุ่มที่เคยอยู่ในพื้นที่นั้นๆ สามารถกลมกลืนกับ
ชาวบ้านได้เป็นอย่างดี รวมทั้งรายงานที่เข้ามายังมีความน่าเชื่อถืออยู่ในเกณฑ์ต่ำ
การที่จะรบกับกองกำลังขนาดเล็กหรือกองโจรนั้น จุดศูนย์ดุลอยู่ที่ประชาชน
ดังนั้นแนวทาง ที่ ฝ่ายข่าวเสนอ
คือการใช้มาตรการทาง การประชาสัมพันธ์ และ กิจการพลเรือน โดยกำหนดพื้นที่ปฏิบัติการกิจการพลเรือนและการประชาสัมพันธ์
มุ่งเน้นให้ประชาชน ให้ความร่วมมือในการแจ้งข่าวสารที่ถูกต้อง
และไม่สร้างข่าวที่ไม่เป็นความจริง โดยเนื้อหาในการปฏิบัติแล้ว
จะเป็นการปฏิบัติการจิตวิทยา มากกว่า
หลังจากห้วงแรกเมื่อมีการปฏิบัติการดังกล่าว
รายงานการตรวจพบ กองกำลังติดอาวุธลดลงมาก ลดลงมาก อาจจะเป็นเนื่องจาก
กองกำลังรักษาสันติภาพ มีการลาดตระเวนมากขึ้นทำให้กลุ่มติดอาวุธดังกล่าว
ลดการเคลื่อนไหว
ในห้วงท้ายของเดือนมีการตรวจพบ
การขนเงินสดจำนวนมากเข้ามาทางจุดผ่านแดน เอ
เจ้าของเงินบอกว่า นำมาเพื่อ รับซื้อกาแฟ โดยอีกรายบอกว่าจะมาซื้อมะพร้าว
จากการตรวจพบ ดังกล่าวเป็นที่น่าสงสัยเนื่องจาก มีรายงาน
จากหน่วยข่าวกรองทางยุทธศาสตร์ ว่า มีผู้สนับสนุนการเงิน ให้กับกลุ่มผลประโยชน์
หรือกลุ่มติดอาวุธ โดยมีผู้รับ อยู่ในกรุงดิลี เป็นผู้ที่ทำงานในรัฐสภา โดย
หน่วยข่าวมีรายชื่ออยู่แต่ยังไม่มีหลักฐาน แน่ชัด เรื่องนี้อยู่ในระหว่างการติดตาม
กลุ่มที่
สร้างความ สงสัย ให้กับทุกฝ่ายในช่วงนี้คือกลุ่มของ นาย มาคอส ดา คอสต้า
เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ สร้าง ชุมชนขึ้น ในพื้นที่ ที่ห่างไกล
ห่างจากถนนหลัก ภูมิประเทศโดยทั่วไปเหมาะในการตั้งฐาน กองกำลังเป็นอย่างมาก
เพียงแต่ว่า นายมารคอส ได้ประกาศเจตนารมณ์ว่าพื้นที่ที่ เข้าสร้างขึ้นทำเพื่อเป็น
ที่ทำกิน ในลักษณะของสหกรณ์ สำหรับ อดีตกำลังพลในกองกำลังกู้ชาติ (Ex FALINTIN) เมื่อ ปี ๒๐๐๑ กองกำลังรัษาสันติภาพได้เข้าไปทำการสำรวจ และ
ประเมินว่าการกระทำของนายมาคอส ไม่ได้เป็นภัยคุกคาม แต่ตอมามีรายงานว่ามี
กลุ่มคนจำนวนมากเดินทางไปยัง พื้นที่ดังกล่าว ชาวบ้านที่อยู่ ในอำเภอใกล้เคียง
ยังไม่ทราบถึง เจตนารมณ์ ดังกล่าว จึงเกิดความหวาดระแวง
และแจ้งมายังกองกำลังรักษาสันติภาพ
จากการเข้าไปสังเกตการณ์ของผู้สังเกตการณ์ทางทหาร
ครั้งล่าสุด ได้ข้อมูลเพิ่มเติม นาย มาคอส ยังคงยืนยัน เจตนารมณ์
ในการที่จะสร้างพื้นที่นี้ให้เป็นที่ทำกินของ อดีตกำลังพลในกองกำลังกู้ชาติ (Ex FALINTIN) เมื่อ วัน ที่ ๖ ที่ผ่านมา
นาย มาคอส ได้เข้าพบ นายกในขณะที่นายกไป ตรวจเยี่ยมประชาชน ในอำเภอ นาย มาคอส
ได้แนะนำ แนวทางของกลุ่มตนกับนายกรัฐมนตรี
กองกำลัง
รักษาสันติภาพ ยังไม่มั่นใจ ใน สถานการณ์ภายใน อำเภอเบาเกา
ว่าจะมีการก่อความไม่สงบขึ้น หรือไม่เนื่องจาก ความเคลื่อนไหวของ L7 เมื่อ วันที่26 มีประชาชนจำนวนประมาณ ๕๐
กว่าคน ชุมนุมรอบๆ บริเวณ โรงแรม FLABOYANT ในเมืองเบาเกา เนื่องจาก
ความความขัดแย้งเรื่องเกี่ยวกับผลประโยชน์ ในที่ดินที่ก่อสร้างของโรงแรมซึ่ง
เจ้าของที่ดินเป็น ญาติของ L7 และ มีคนพยายามที่จะเข้าไปเผา
โรงแรม ใน ที่COM ในอำเภอ เลาเทม
สถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความสงบเรียบร้อย ข่าวลือเกี่ยวกับ ความเคลื่อนไหว
ของกลุมติด อาวุธ ยังคงมี อยู่บ้าง แต่ จากการตรวจสอบ
เกิดจากการแจ้งของแหล่งข่าวเพียงแหล่งเดียว ซึ่งเป็นข่าวที่เป็นการ
ได้ยินได้ฟังมาจากวงสนทนา ในตลาดตามแนวชายแดน ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า
ในติมอร์ตะวันตกมีอดีตสมาชิกมิลิเทีย อยู่ และอาจจะเป็นที่มาของข่าว
ที่พูดกันปากต่อปาก จนเพี้ยนไปจากความเป็นจริงมาก รวมทั้งสภาวะจิตใจของชาวบ้านที่
มีความหวาดระแวง ซึ่งในห้วงที่ตกอยู่ภายใต้ สถานการณ์ที่เลวร้ายเป็นเวลานาน ส่งผลต่อสุขภาพจิตของประชาชน
ในขณะที่ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลไม่มีโอกาส ที่
จะได้รับการรักษาทางจิตที่ถูกต้องรวมทั้ง จากนโยบายการประชาสัมพันธ์
ของกองกำลังที่ เน้นให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นใน PKF ทำให้
ประชาชนขาดความเชื่อมั่นใน กำลังของ FDTL ที่ จะต้อง
รับช่วงต่อ ในอีกไม่นาน
ด้านการเมือง มีการเคลื่อนไหวของกลุ่ม ทางการเมืองโดยเฉพาะ กลุ่ม CPD RDTL มี ข่าวการประท้วง ออกมาเป็นระยะๆ ซึ่ง
เมื่อประมาณ ๑๘ พ.ค. ๔๖ มีใบปลิวเชิญชวน ให้ อดีต นักรบกู้ชาติทั้งหลายจาก ๑๓
อำเภอ มารวมตัวกัน เพื่อ ประท้วงให้ สหประชาชาติมอมอำนาจให้กับ
รัฐบาลติมอร์ โดยเร็ว