หนังสือพิมพ์กุ้งไทย ออนไลน์

กุ้งไทยวาไรตี้ :: www.ThaiShrimpNews.com


ข่าวสารฉับไว ทันใจเกษตรกร	ทีมงาน กุ้งไทยวาไรตี้ ติดต่อโฆษณา

	เมนูหลัก
	ข่าวเด่นประเด็นร้อน
	ข่าวย้อนหลังฉบับก่อน
	ทิศทางการตลาด
	บทความวิชาการ
	เยี่ยมชมฟาร์ม
	สมัครสมาชิก
	ติดต่อโฆษณา
	ทีมงาน นสพ.
	เว็บบอร์ด
	ราคากุ้ง

บ่น 3 เรื่อง ไม่เสียศักดิ์ศรี
.......... เราจะอยู่ในธุรกิจได้จะต้องมีความสามารถในการแข่งกับคู่แข่งในตลาดโลกได้ ที่กังวลคือตอนนี้คู่แข่งเรามีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน และสามารถแก้ปัญหา แก้สถานการณ์ได้ดี ยกตัวอย่างเช่น เวียตนาม ที่เจอปัญหาเรื่องยาปฏิชีวนะจนญี่ปุ่นระงับการนำเข้าทั้งหมด แต่ในช่วงเวลาสั้นๆ รัฐบาลเขาสามารถแก้ปัญหาได้ดีและเร็ว ไม่น่าเชื่อว่าใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือน ญี่ปุ่นก็กลับมายอมรับได้ใหม่ พูดถึงเวียตนามแล้วต้องยอมรับเถอะนะคะว่า เขาฉลาด ที่มาเรียนรู้อะไรๆ จากเราไปจนหมด แต่เราไม่เคยได้เรียนรู้อะไรจากเขาได้เลย ถ้าปล่อยแบนี้ในอนาคตมีโอกาสแพ้ได้เหมือนกันค่ะ เพราะสินค้าเราทุกตัวที่สู้กับเวียตนาม เราแพ้มาเรื่อย ไม่ว่าข้าวก็ดี ยางก็ดี หรือแม้แต่กุ้งกุลาดำ ปัจจุบันเวียตนามเลี้ยงกุ้งกุลาดำเก่งเป็นอันดับ 1 ของโลก ส่วนพี่ไทยนั้น แทบจะนับตัวได้เลยทีเดียว ส่วนคนไทยเองก็อ้างแบบไม่มีเหตุผลว่าที่เขาทำได้เพราะเขาเป็นคอมมิวนิสต์ เฮ้อ!ไม่เห็นจะเกี่ยวกับระบบปกครองบ้านเขาตรงไหน เขาฉลาดต่างหาก
..........ปัจจุบันวัดคุณภาพกันที่สารตกค้าง ที่ผ่านมาบ้านเราตรวจไม่เจอ ถือว่าโชคดี แต่วันข้างหน้าจะโชคดีแบบนี้หรือไม่ยังไม่แน่ ดังนั้นเราต้องเตรียมตัวกันตั้งแต่เนิ่นๆ ภาครัฐเองก็ต้องเตรียมมาตรการไว้เนิ่นๆ เช่นกัน เผื่อวันหน้ามีปัญหาจะได้แก้ไขได้ทัน เหมือนที่ที่เวียตนามทำ เรียนรู้เขาไว้บางไม่ใช่เรื่องเสียหน้าอะไร
..........พูดถึงเวียตนามแล้วต้องยอมรับเถอะนะคะว่า เขาฉลาด ที่มาเรียนรู้อะไรๆ จากเราไปจนหมด แต่เราไม่เคยได้เรียนรู้อะไรจากเขาได้เลย ถ้าปล่อยแบนี้ในอนาคตมีโอกาสแพ้ได้เหมือนกันค่ะ เพราะสินค้าเราทุกตัวที่สู้กับเวียตนาม เราแพ้มาเรื่อย ไม่ว่าข้าวก็ดี ยางก็ดี หรือแม้แต่กุ้งกุลาดำ ปัจจุบันเวียตนามเลี้ยงกุ้งกุลาดำเก่งเป็นอันดับ 1 ของโลก ส่วนพี่ไทยนั้น แทบจะนับตัวได้เลยทีเดียว
.......... เราปล่อยให้เขามาเก็บเกี่ยวความรู้จากเมืองไทยมาตลอด เราถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีให้เขาอย่างง่ายดาย แต่พอเราขอดูบ้าง เขากลับปกปิดได้เก่ง เรียกได้ว่าตอนนี้เราถูกเวียตนามเปลือยจนล่อนจ้อนไปหมด ตอนนี้เลยมานั่งนึกได้ว่า เราควรปกปิดเทคโนโลยีใหม่ๆ เอาไว้บ้าง เพราะไม่มีประเทศไหนในโลกที่เปิดเผยข้อมูลทางธุรกิจให้คู่แข่งทราบกันแบบนี้
..........ใครว่ากุ้งมาก ต้องฟังทางนี้
.......... สถานการณ์การผลิตปีนี้ไม่ค่อยดีเสียแล้ว ต้นปีคนลงกุ้งกันมาก แต่คนที่วิเคราะห์ชอบเอาไปเทียบบัญญัติไตรยางศ์ ว่าลงลูกกุ้งมาก ก็จะต้องมีกุ้งมากตามไปด้วย แต่ปีนี้อากาศไม่เอื้ออำนวยค่ะ ทำให้ความล้มเหลวมีมากกว่าปีก่อน เสียหายกันมากในช่วงไตรมาสแรก และสิ่งที่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก ก็คือราคาอ่อนยวบ ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในฤดูผลผลิต
.......... เกษตรกรตกใจค่ะ เพราะ “เลี้ยงยาก แต่ราคาอ่อน” คนเลี้ยงไม่ได้กำไร แถมลงกุ้งมากยิ่งขาดทุนมาก ทำให้แรงจูงใจในรอบต่อไปน้อยลง แถมมีข่าวด้านลบออกมาตลอดเวลา ส่งผลให้คนเลี้ยงชะลอการลงกุ้งออกไป หรือไม่ก็เลี้ยงน้อยลง บางคนบอกว่าลงน้อยตอนนี้ไม่เป็นไรเดี๋ยวไปสปีดตอนปลายเอง (ช่วง 3 เดือนสุดท้าย) ก็ขอตอบแทนคนเลี้ยงกุ้งได้เลยค่ะ ว่า จะไปสปีดทำไมในเมื่อราคามันไม่ดี ยิ่งสปีดมากก็ยิ่งขาดทุนมาก สถานการณ์แบบนี้ไว้ใจคำพูดใครได้ที่ไหน
.......... มีหลายท่านวิเคราะห์ให้ฟังว่า ที่ว่าแย่ในตอนนี้ ถือว่ายังไม่แย่ (งงมั้ยคะ) แต่ของแท้ที่จะเจอในปีนี้ จะแย่ยิ่งกว่านี้เยอะ เพราะราคาที่ไม่มีเสถียรภาพทั้งที่อยู่นอกฤดูกาลจะกระทบต่อผลผลิตรวมทั้งประเทศ เพราะคนเลี้ยงจะหยุดโดยอัตโนมัติ อย่าลืมว่าคนเลี้ยงกุ้งก็คิดเลขเป็นเหมือนกันค่ะ
.......... คิดเลขกันเล่นๆค่ะว่า ถ้าหนูเลี้ยงกุ้งเอง กุ้งไซซ์ 50 ตัว ห้องเย็นซื้อ กก.ละ 80 บาท ก็ต้องขายค่ะ เพราะไม่งั้นก็ต้องเก็บกุ้งมานั่งกินเอง แต่เมื่อขายกุ้งหมดแล้ว ก็คงต้องขายบ่อไปด้วย ขายบ้านขายที่ดินไปด้วย แล้วเลิกอาชีพนี้กันไปเลย (นี่ยกตัวอย่างการคิดเลขของหนูนะคะ)
.......... ปัญหาคือ ทำไมเราไม่พยายามเกื้อกูลกันให้มากที่สุด ในภาวะที่ลำบากก็ต้องลำบากด้วยกัน ให้พออยู่กันได้ ไม่ใช่จะเอาอย่างเดียว ขาขึ้นก็เอา ขาลงก็เอา ทำไมขี้...แบบนี้
..........คอนแทรกเก๊
.......... ในภาวะราคาที่ไม่เอื้ออำนวยแบบนี้ ทางพึ่งของคนเลี้ยงกุ้งมีอยู่ทางเดียวคือ องค์จตุคาม รามเทพ เอ๊ย ไม่ใช่ค่ะ คือการทำคอนแทรกฟาร์มมิ่งกับห้องเย็นโดยตรง แต่ล่าสุด ได้ยินข่าวเรื่องการแหกคอนแทรกของห้องเย็นค่ะ ว่าพยายามจะไม่รับซื้อกุ้งที่ทำคอนแทรกไว้ โดยอ้างเหตุผลต่างๆนานา ทั้งสีไม่สวยบ้าง แตกไซซ์บ้าง พอไม่ซื้อคนเลี้ยงจับกุ้งมาแล้วก็ต้องเอาไปขายที่ตลาดมหาชัยน่ะสิค่ะ ผลปรากฏว่า คนที่มารับซื้อในตลาด ก็เป็นห้องเย็นเดิมน่ะแหล่ะ( มากวาดซื้อในตลาดให้เจ็บใจ) กุ้งก็เป็นกุ้งตัวเดิมที่คุณบอกว่าสีไม่สวย แถมซื้อในราคาที่ไม่ต้องคอนแทรกคือถูกกว่า 20 บาท คนที่น่าสงสารมากที่สุดคือ คนเลี้ยงกุ้งค่ะ ที่ต้องเสียความรู้สึก เพราะเขาอุส่าห์ตั้งใจ เมื่อเซ็นต์สัญญากันแล้วก็พยายามผลิตกุ้งส่งให้ตามที่รับปากไว้
.......... เอามาเล่าสู่กันฟังเป็นอุทธาหรณ์ค่ะ ถ้าไม่พูดเรื่องนี้คงอกแตกตายแน่ ตอนนี้เกษตกรเองลำบาก เราต้องจริงใจในการคอนแทรกกัน ทั้งห้องเย็นและเกษตรกร ไม่เช่นนั้นจะทำให้ความร่วมมือกันเพื่อความยั่งยืนของอุตสาหกรรมไม่มี เราต้องประสานกันทั้งสองฝ่าย ตบมือข้างเดียวไม่ดังค่ะ ภาครัฐ หรือองค์กรเอกชนก็พยายามส่งเสริมให้มีการซื้อขายตรงกันมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ข่าวนี้เป็นการบ่อนทำลายภาคธุรกิจอย่างแรง
.......... หนูไม่ได้เข้าข้างใคร แต่มองในฐานะเป็นผู้ดู (ดูทุกคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้) ดังนั้นกลุ่มไหนที่มีปัญหาสามารถแจ้งข่าวเข้ามาได้ เรายินดีเป็นสื่อกลางให้ หรือแม้แต่ผู้ซื้อเอง(ห้องเย็น) ถ้าถูกคนเลี้ยงกุ้งเบี้ยวคอนแทรก ไม่ทำตามสัญญา ก็ให้แจ้งมาได้เช่นกัน
.......... การทำคอนแทรกฟาร์มมิ่ง เป็นการซื้อขายตรง ระหว่างผู้เลี้ยงกุ้งและโรงงาน ทำให้ทราบต้นทุนที่แน่นอน ทราบปริมาณสินค้าที่แน่นอน ส่วนคนเลี้ยงกุ้งมีที่ขายแน่นอนเช่นกัน และขายได้ตามราคาที่ตกลงไว้ เป็นราคาที่พอใจกันทั้งสองฝ่าย
.......... ผลที่ตามมาคือ win win ชนะด้วยกันทั้งคู่ ธุรกิจก็เดินไปได้เรื่อยๆ เป็นความยั่งยืนของอุตสาหกรรม ไม่ใช้ปล่อยให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดแพ้ ฝ่ายไหนเจอแพ้สัก 2-3 หน ก็หมดตัวกันแล้ว
..........ท่านพุทธทาส สอนไว้ว่า ให้รู้จักคำว่าพอดี เมื่อมี “พอ” แล้ว ก็ต้องมี “ดี”ตาม เกิดเป็นความ “พอดี” ค่ะ
ปาริชาติ ตุ้มปี
เมษายน 2550

แซวกันนิด หยอกกันสักหน่อย

.........

นสพ.กุ้งไทยออกช้าหน่อยเดียวทีมงานโดนบ่นมากเหลือเกิน โดยเฉพาะฉบับนี้ เราพยายามเก็บข่าวของเดือนกุมภาพันธ์ให้ได้ทั้งหมด ทำให้หนังสือล่าช้าจริงๆ น่ะแหล่ะ ยังไงก็ต้องขอโทษทุกๆท่านมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ คราวหน้าจะไม่ให้ช้าอีกแย้ว แง แง

ไปร่วมงานวันกุ้ง จ.สุราษฎร์ธานี ครั้งที่ 17 เมื่อวันที่ 21-22 ก.พ. 2550 คนมาร่วมงานกันครึกครื้นทั้ง 2 วัน ผู้ที่ได้รับรางวัลกุ้งทองปีนี้ไปครอง คือ แอ่น แอน แอ้น คุณประยูร หงส์รัตน์ เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งอินทรีย์จาก จ.จันทบุรี นั่นเอง แต่เนื่องจากคุณประยูร เดินทางไปยุโรป เพื่อประชาสัมพันธ์กุ้งอินทรีย์ของประเทศไทย น.สพ.ยุทธนา สิงหพันธ์ นายกสมาคมกุ้งตะวันออกไทย จึงขึ้นรับแทน งานนี้เป็นการมา จ.สุราษฎร์ธานีครั้งแรกของ คุณหมอยุทธนาเลยทีเดียว แหม!! ยังพกความหล่อมาเหมือนเดิม

คนมาร่วมงานหันไปทางไหน ก็มีแต่คนแขวนจตุคามกันเยอะมาก นั่งคุยกันในวงกาแฟกันไปก็เอาออกมาโชว์กัน ส่วนของคุณหมอสุรศักดิ์ ดิลกเกียรติ ก็พกใหญ่เหมือนกันค่ะขอบอก ไม่ต้องรอให้เอาออกมาโชว์แต่ว่าห้อยโตงเตงอยู่ที่คอตลอด 12 ชั่วโมงอยู่แล้ว คุณหมอบอกว่า “รุ่นนี้สีดำ แถมหนักอีกต่างหาก ห้อยคอไว้ทั้งวันจนปวดคอหมดแล้ว” โอ้โหคุณหมอทันสมัยกะเขาเหมือนกัน แขวนองค์จตุคามรามเทพเลย คุณหมอตอบทันควัน “ใครว่า! ของผมรุ่นเก่ากว่าใครเลยดูสิ แถม(โนเกีย)รุ่นนี้เขาเลิกผลิตแล้ว” โถ่ มือถือห้อยคอมาก็ไม่บอก

ในงานแข่งขันฟุตบอลระหว่างชมรมผู้เลี้ยงกุ้ง จ.สุราษฎร์ และผู้ซื้อ (แพที่จับกุ้งในสุราษฎร์) ที่ดวลแข้งกันหลังจากจัดงานวันกุ้ง 1 วัน ผลปรากฏว่า ฝ่ายแพ ชนะไป 5 ประตู ต่อ 3 งานนี้ ชมรมฯ สุราษฎร์ มี คุณทวี เป็นผู้จัดการทีม แต่งตัวชุดนักกีฬา ยืนลุ้นขอบสนามหน้าเครียด ก็หนูบอกแล้ว ถ้าอัดฉีดซะตั้งแต่แรก ก็กินขาดไปแย้ว ท่านผู้จัดการ

ฟิตซ้อมกันมานาน วันแข่งจริงทีมชมรมฯสุราษฎร์ฯ วอมนานไปหน่อย พอลงแข่งไป 5 นาที เดินขากระแพลกคนแรก ก็คือพี่ตุ๋ย แถมมีบ่น น้ำมันมวยยี่ห้อนี้ไม่ได้เรื่อง ถัดมาก็พี่เป้(รองเลขาฯ) เดินขาเป๋ออกนอกสนามหลังจากโดนคู่แข่งยิงเข้าประตูไปหลังจากเริ่มเล่นได้ 3 นาที ส่วนพี่หนุ่ม เอกพจน์ เป็นศูนย์หน้าเล่นได้แค่ครึ่งแรก กล้ามเนื้อฉีก (คงเดินไม่ได้อีกหลายวัน) และคนที่ (เปลี่ยน)เข้าๆ ออกๆ บ่อยที่สุด ก็คือ พี่สมชาย (รองประธาน)นั่นเอง ชนิดที่เรียกว่า เล่น 5 นาที พัก 5 นาที เฮ้อทีเดินรอบบ่อกุ้ง เป็นวันๆ ไม่รู้เอาแรงมาจากไหน นักหนา

ส่วนคนที่เล่นอึดที่สุด ไม่มีใครเกินคือพี่ใหญ่ปรัชญานั่นเอง เพราะเล่นทั้งครึ่งแรกครึ่งหลัง เต็มเวลา ไม่ต้องเปลี่ยนตัว อึด! แบบนี้ไปแอบซุ่มซ้อมที่ไหนมาเนี่ย

พอแข่งเสร็จ พี่ใหญ่ปรัชญา ศรีสวัสดิ์ ที่ปรึกษาชมรมฯ บอกว่า “คราวหน้าจะจัดให้มีการแข่งระหว่าง ชมรมผู้เลี้ยง-ผู้ซื้อ แข่งกับ ชมรมผู้ขโมยกุ้ง จ.สุราษฎร์ นัดดวลกันอีก 3 เดือนข้างหน้า ขอให้สมาชิกชมรมฯดังกล่าวติดต่อมาด่วนเพื่อร่วมแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตร จะได้รู้จักหน้าคร่าตากัน และสนิทสนมกันมากยิ่งขึ้น และไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ใด เราจะเอารถไปรับท่านมาแข่งถึงที่ จึงขอเชิญชวนมา ณ โอกาสนี้” เอ่อ พี่คะ หนูเกรงว่า ถ้าแข่งกันจริงๆ พี่ๆ จะไม่เตะบอลกันน่ะสิคะ หนูเกรงว่าพวกพี่ๆ ตั้งใจจะเตะคนซะมากกว่าละมั้ง

คุยกับหมอปุ่น ปรีชา เอกธรรมสุทธิ์ ผู้บริหารบ.อินเทคค์ แนะนำว่าหนูว่า อยากให้ไปทำหนังสือแบบนี้กับวงการสัตว์บกบ้าง เพราะคนในวงการสัตว์บก ชอบอ่านหนังสือ หนูฟังแล้วฮึกเหิม ว่า ต้องได้ทำแน่ๆ เพราะเล็งๆ ไว้เหมือนกัน แต่พอกลับมาถึงบ้านเจอข่าวประท้วงเชือดลูกหมู 2 พันตัวที่หน้ากรมปศุสัตว์หน่อยเดียว ถึงกับลมจับ แข้งขาหมดเรี่ยวแรง นั่งดมยาดมอยู่พักใหญ่ เลยโดนทีมงานแซวว่า แค่ดูทีวียังขนาดนี้ ไปเจอของจริงทำข่าวไปเป็นลมไปแน่เลย อะจึ๊ย

มาสุราษฎร์ทั้งที ต้องแวะไปกินกาแฟที่ร้านคอฟฟี่โซน ของคุณพลาธิป โรจน์เจริญศักดิ์ หรือพี่เฮงนั่นเอง สาขาใหม่เปิดบริเวณหน้าศาลเจ้า บรรยากาศดีมั๊กๆ ขอบอก กาแฟรสชาติถูกปาก ที่สำคัญขนมเค้กอร่อยมากๆ ทีมงานไปทำข่าวต้องแวะไปนั่งกินทุกวัน โดยเฉพาะเค้กมะพร้าว(โอ้ยอยากกินอีกแย้ว) ใครมีโอกาสแวะมาสุราษฎร์อย่าลืม รวมตัวกันที่ คอฟฟี่โซนด่วน!! ที่นี่มีสภากาแฟสำหรับคนเลี้ยงกุ้งโดยเฉพาะ บริการตั้งแต่ 10 โมงเช้า ถึง 4 ทุ่มทุกวันค่ะ

สนใจสมัครสมาชิก
นิตยสารกุ้งไทยวาไรตี้
หรือติดต่อลงโฆษณา
ขอทราบรายละเอียดได้ที่
เบอร์โทร.02-422-6346
:: สมัครสมาชิก
:: ติดต่อลงโฆษณา

เยี่ยมฟาร์ม

-> การเลี้ยงกุ้งขาวฟาร์มกุ้ง ท่าปูน โดย น.สพ.สุรศักดิ์
........ 1. แหล่งเลี้ยงบริเวณคลองท่าปูน - ได้รับอิทธิพลสะสมกรดจากน้ำพุร้อน ซึ่งมีสภาพกรดจากกำมะถัน (S) - สภาพดิน ตะกอนปนทรายละเอียด พี.เอช. ต่ำ อัตราส่วนดินเหนียวต่ำ - สภาพน้ำ เป็นทางระบายน้ำฝน และน้ำพุร้อน พี.เอช.จะต่ำ แร่ธาตุในน้ำน้อยกว่าปกติ คุณภาพน้ำในแต่ละรอบการเลี้ยงจะแกว่งตามความถี่ของปริมาณฝน ลักษณะน้ำเช่นนี้ “ยิ่งถ่ายน้ำมาก กุ้งยิ่งเครียด” - มีความเสี่ยงจากสารประกอบศัตรูพืช และยาฆ่าแมลงจากแปลงเกษตร (ปาล์ม, ยางพารา,นาข้าว) โดยเฉพาะในช่วงต้นฤดูฝน 2. แนวทางการเลี้ยงกุ้ง บริเวณคลองท่าปูน - เน้นการเลี้ยงกุ้งระบบปิดรายบ่อ โดย - ใช้แร่ธาตุบำรุงดิน (ก่อนการเตรียมน้ำ) ตามความจำเป็น - ใช้ปูน และแร่ธาตุ ปรับปรุงคุณภาพน้ำให้เหมาะสมก่อนการปล่อยกุ้งลงเลี้ยง - ใช้วิธีการให้อาหารพอเหมาะ ระดับ 80-90% ที่กุ้งกินจริง เพื่อป้องกันไม่ให้คุณภาพน้ำเสื่อมเร็ว และเพื่อลดความเสี่ยงจากการถ่ายน้ำ (การถ่ายน้ำ กุ้งอาจเครียด ชะงักการเติบโต และเสี่ยงต่อการป่วยเสียหาย) - เติมน้ำระหว่างการเลี้ยง ครั้งละน้อย เท่าที่จำเป็น และปรับคุณภาพน้ำทุกครั้งหลังเติมน้ำ (วัดคุณภาพน้ำ ทั้ง พี.เอช.และแร่ธาตุในน้ำ ก่อนใช้วัสดุปูนและแร่ ธาตุ) - ปริมาณกุ้งที่ปล่อยลงเลี้ยง ไม่เกิน 100,000 ตัว/ไร่ ถ้ากุ้งติดเกิน (มีอัตรารอด 1 เดือน แรกสูงกว่า 70 %) ต้องมีการย้ายแบ่งเป็น 2 บ่อ หรือจับออกบางส่วน เพื่อให้กุ้งที่เหลือ โตต่อไปได้ถึงขนาดใหญ่ตามเป้าหมาย - เน้นการบริหารออกซิเจนในน้ำให้สูงกว่า 4.0 อยู่เสมอ โดยการบริหารการใช้ อุปกรณ์ตีน้ำ โดยดูที่ขนาดกุ้ง, ปริมาณแสงแดดในแต่ละวัน ( ซึ่งมีผลต่อการผลิตออกซิเจนของแพลงค์ตอน ) ทั้งนี้ต้องดูความหนืดของน้ำเป็นเกณฑ์ประกอบการเร่งหรือเพิ่มการตีน้ำด้วย (ถ้าน้ำหนืด ต้องให้ออกซิเจนในน้ำสูงกว่าปกติ โดยเฉพาะ ในช่วง 20.00 ถึง 8.00 ของวันถัดไป) ..........

:: เนื้อหาทั้งหมด

ข่าวเด่นประเด็นร้อน

-> ระดมพลคนกุ้งแก้ปัญหาวิกฤติราคาตกต่ำ
........ หลังจากเกิดภาวะวิกฤติราคากุ้งตกต่ำอย่างหนักตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา ทำให้มีการคาดการณ์กันว่า สถานการณ์ต่อไปจะอยู่ในภาวะตรึงเครียด โดยสาเหตุหลักมาจากปัญหาเรื่องเอดี ค่าเงินบาทแข็งตัวอย่างต่อเนื่อง ภัยธรรมชาติ โรคระบาด และภาวะน้ำมันแพง รวมไปถึงปัจจัยลบอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการผลิต ทำให้อุตสาหกรรมกุ้งไทยเข้าขั้นวิกฤติอีกครั้ง ในการนี้ภาคการผลิตคือเกษตรกร ภาคผู้ส่งออกหรือห้องเย็น และภาคผู้ค้าปัจจัยการผลิต จึงได้จัดการประชุมกลุ่มขึ้นที่สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม และ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ ทั้งในระยะยาวและปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งในการประชุมดังกล่าว ก็มีตัวแทนจากชมรมผู้เลี้ยงกุ้ง และสมาคมต่างๆ รวมถึงตัวแทนจากภาคผู้ส่งออก และภาคผู้ค้าปัจจัยการผลิตเข้าร่วมประชุมกันอย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็น สมาคมผู้เลี้ยงกุ้งในพื้นที่น้ำจืด สมาคมผู้เลี้ยงกุ้งทะเลไทย สมาคมผู้เลี้ยงกุ้งตะวันออกไทย สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย สมาคมกุ้งไทย สมาคมผู้ค้าปัจจัยการผลิตสัตว์น้ำไทย และสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย สำหรับประเด็นหลักของการประชุม ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การแก้ปัญหาและสาเหตุที่ราคากุ้งตกต่ำ ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้คือ 1. ประเด็นปัญหา -เกิดภาวะโรคระบาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะไวรัสหัวเหลืองในหลายพื้นที่ -แหล่งผลิตในพื้นที่ต่างๆ ส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะในภาคกลาง ยังไม่ได้ให้การรองรับระบบมาตรฐานฟาร์ม GAP จากกรมประมง -ต้นทุนการผลิตกุ้งขาวสูงขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น ลูกกุ้งมีอัตราการเจริญเติบโตช้าลง ทำให้ต้องใช้เวลาในการเลี้ยงนาน (คาดว่าเป็นผลจากอาหารกุ้งมีคุณภาพด้อยลง รวมทั้งแหล่งเลี้ยงหมักหมมเนื่องจากเลี้ยงกุ้งแน่น และระบายสารอินทรีย์ลงแหล่งน้ำกันมาก อีกทั้งมีสารอินทรีย์ส่วนเกินจากอาหารมากกว่าเกณฑ์ที่ควรจะเป็น เพราะใช้แหล่งโปรตีนที่ไม่ใช่ปลาป่นมากเกินไป ราคาอุปกรณ์และปัจจัยการผลิตเพิ่มสูงขึ้นตามราคาภาวะน้ำมันแพง มีค่าใช้จ่ายจากการจัดทำระบบมาตรฐานฟาร์ม และการจัดทำระบบตรวจสอบย้อนกลับ ในขณะที่ผลผลิตที่ได้มาตรฐานแต่ราคากลับไม่สูงขึ้นตาม -ภาวะอากาศแปรปรวนจากปรากฏการณ์เอลนิญโญ ..........

:: เนื้อหาทั้งหมด

ข่าวย้อนหลัง

-> เก็บตกข้อมูลน่าสนจาก งานวันกุ้งไทยครั้งที่ 17 โดย ::: เอกอนันต์ ยุวเบญจพล
........ ผ่านไปด้วยดีกับงานวันกุ้งไทยครั้งที่17 งานกุ้งไทยนี้เขาจัดขึ้นทุกปีที่จังหวัดสุราษฏร์ธานี โดยปีนี้จัดขึ้นในวันที่ 21-22 กุมภาพันธ์2549 ทุกปีก็จะมีการมอบรางวัลกุ้งทองให้กับผู้ที่เป็นตัวอย่างที่ดีหรือมีผลงานที่ดีและก่อให้เกิดประโยชน์ต่อวงการกุ้งซึ่งในปีนี้มอบให้กับ คุณประยูร หงส์รัตน์ แห่ง สุรีรัตน์ฟาร์ม ส่วน ในภาคการสัมมนาพบว่ามีหัวเรื่องและเนื้อเรื่องที่แตกต่างและที่ใกล้เคียงกับงานวันกุ้งจันท์ตะวันออกแฟร์ ซึ่งเคยได้สรุปให้ไปในหนังสือกุ้งไทยฉบับที่ผ่านมา ส่วนในฉบับนี้จะขอสรุปเนื้อเรื่องที่แตกต่างและที่น่าสนใจจากงานวันกุ้งไทยหนนี้แล้วกันครับ เริ่มด้วยการนำเสนอข้อมูลของกรมประมงในเรื่อง นโยบายพัฒนากุ้งไทย ปี2550 ซึ่งจะมีการเพิ่มศักยภาพพื้นที่เลี้ยงและพัฒนาสายพันธุ์โดย ..........

:: เนื้อหาทั้งหมด

ทิศทางการตลาด

->การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าปี 50 คือการชี้อนาคตกุ้งไทย
........ราคากุ้งที่ตกต่ำยาวนาน ทำให้หลายองค์กรต่างวิตกกังวลว่าจะส่งผลกระทบระยะยาวให้แก่ผู้เลี้ยงกุ้งโดยเฉพาะรายกลางและรายเล็ก ล่าสุดได้มีการประชุมหารือกันจาก สมาคมฯ และชมรมฯผู้เลี้ยงกุ้งทั่วประเทศ ตั้ง 8 องค์กรร่วมภาคเอกชน จัดทำคลัสเตอร์กุ้งในนามของเอกชนเพื่อทางออกในระยะสั้นและระยะยาว(เมื่อวันที่ 11 พ.ค.50) ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการร่วมมือกันอย่างจริงจังระหว่างผู้เลี้ยง ผู้ส่งออก และปัจจัยการผลิต (เนื้อหารายละเอียดอ่านได้ในเล่ม) ทีมงาน นสพ.กุ้งไทย ได้สรุปเนื้อหาและสัมภาษณ์ น.สพ.สุรศักดิ์ ดิลกเกียรติ แกนประสานเครือข่าย “คนไทย-กุ้งไทย” ในฐานะที่เดินสายเข้าร่วมประชุมร่วมกับ 8 องค์กรดังกล่าว และประชุมกับหน่วยงานภาครัฐถึงแนวทางในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเอาไว้อย่างน่าสนใจ น.สพ.สุรศักดิ์ ท่านบอกว่า “แก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกี่ยวกับราคากุ้งในปีนี้ จะต่างกับปีก่อนๆ เนื่องจากสถานการณ์ธุรกิจกุ้งโลกเริ่มก้าวเข้าสู้ระยะแข่งขัน ถึงขั้นใครดีใครอยู่ หากไม่พิจารณาให้ครอบคลุมในภาพรวมเพื่อกุ้งไทยอย่างจริงจัง กุ้งไทยในอนาคตอาจฝ่อ เหมือนกับสับปะรดกระป๋อง หรือไก่เนื้อในอดีตได้ ซึ่งปัจจุบันได้เสียฐานะผู้นำในตลาดโลกโดยพลิกฟื้นไม่ขึ้นอีกแล้ว ดังนั้น การหารือเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในปี 50 นี้ จึงเป็นการชี้อนาคตกุ้งไทยไปโดยปริยาย” สถานการณ์ ณ ปัจจุบัน น.สพ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า ไทยผลิตกุ้งเพิ่ม โดยส่วนที่เพิ่มหลักๆ คือฟาร์มของบริษัทและฟาร์มส่วนบุคคลที่ทุกคนต่างขยายตัวกันไม่หยุด ซึ่งผลผลิตที่เพิ่มจาก 450,000 ตัน/ปี ยิ่งมากเท่าใดจะกลายเป็นส่วนผลักดันให้ไทยต้องพยายามขายส่งออกมากขึ้นเท่านั้น ตัวที่บ่งชี้สถานการณ์ ความพยายามขาย คือ การระบายสินค้ากุ้งไทยในตลาดสหรัฐตั้งแต่เดือน ธ.ค.2549,ม.ค. 2550 และต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ซึ่งจะล่อแหลมต่อการเกิดปัญหาคือ ภาคส่งออกตัดราคากันเอง และกระทบต่อการประกอบการโดยรวมได้ในอนาคต น.สพ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า หากวิกฤติราคารอบนี้ แก้ไขไม่ลงตัว จะส่งผลให้ฟาร์มเลี้ยงบางส่วนต้องหยุดพักและบางรายต้องเปลี่ยนเจ้าของ (เปลี่ยนมือ) ไปสู่ฟาร์มใหญ่ หรือฟาร์มของบริษัทเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดอาหารกุ้ง ลักษณะการผลิตจะเข้าสู่ “น้อยราย แต่มากตัน” ในอนาคตอันใกล้นี้ ส่วนเรื่องของต้นทุนการผลิต ปัจจุบันมีต้นุทนสูงกว่าที่ควรจะเป็น เพราะ .....

:: เนื้อหาทั้งหมด

บทความวิชาการ

-> จุลินทรีย์ กับ การเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไม โดย น.สพ.สุรศักดิ์
........ เมื่อกล่าวถึง “ จุลินทรีย์ ” เชื่อมั่นว่า เพื่อนชาวฟาร์มกุ้งคงจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่ด้วยความรับรู้และเข้าใจที่ยังแตกต่างกันอยู่มาก ทั้งคัดค้านและคิดว่าไม่ควรจะใช้กับการเลี้ยงกุ้งเพราะในธรรมชาติมีอยู่แล้ว กลุ่มนี้แม้จะเป็นส่วนน้อยแต่มักจะเสียงดัง ตามลักษณะเฉพาะของสังคมไทยที่คนค้านมักจะเสียงดังกว่าคนเชียร์ ส่วนกลุ่มที่สอง รู้สึกเฉยๆ เพราะไม่เคยใช้หรือเคยใช้แล้ว แต่ไม่เห็นผลแตกต่างระหว่างใช้และไม่ใช้ ส่วนกลุ่มสุดท้าย เป็นกลุ่มที่ใช้อยู่เป็นประจำแต่ก็ด้วยความลึกซึ้งในเรื่องจุลินทรีย์ที่แตกต่างกันไป ทั้งการเลือก การใช้ และประเมินผลการใช้ เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะ ........

:: เนื้อหาทั้งหมด

อื่นๆ

. โชคชะตาราศรี เมษายน 50 กุ้งไทยวาไรตี้เปิดคอลัมน์ตรวจเช็คโชคชะตาราศรีตามราศรีเกิด ใครจะดวงดี จะมีโอกาสขายกุ้งได้เงินได้ทอง หรือจะสมหวังในสิ่งที่หวังมองเห็นโลกเป็นสีชมพูหรือไม่ อยากรู้ก็ลองคลิ๊กไปดูได้เลยค่ะ...

:: เนื้อหาทั้งหมด

เว็บบอร์ด กุ้งไทยวาไรตี้

เนื้อที่โฆษณา

-> 1

->2

-> 3

-> ' 4

-> 51'

->6

-> 7

-> 8

-> 9

LINKS

ราคากุ้งต่างประเทศ

เว็บเพื่อนบ้าน

สำนักงานกุ้งไทยวาไรตี้ :: 101/128 หมู่10 หมู่บ้านมัณฑนารัตนาธิเบศร์ ถ.ราชพฤกษ์ ต.บางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทรศัพท์/แฟกส์ 02-422-6346 อีเมล์ nong02@gmail.comจัดทำเว็บไซท์โดย ปาริชาติ ตุ้มปี