นั่งรถไฟเที่ยววันหยุด

เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์         โดย อุทิศ บุญช่วย

        ในช่วงวันหยุด ผมได้มีโอกาสใช้บริการของการรถไฟแห่งประเทศไทย เดินทางไปเที่ยว เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าแก่งเสือเต้น เป็นเขื่อนดินขนาดใหญ่กั้นแม่น้ำป่าสักในจังหวัดลพบุรี

 


        รถไฟขบวนที่ผมโดยสารไปเป็นขบวนรถนำเที่ยวซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทยได้จัดนำเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญในช่วงวันหยุดเป็นการเฉพาะก่อนเดินทางผมได้โทรศัพท์ไปสอบถามรายละเอียดที่การรถไฟแห่งประเทศไทยหากท่านต้องการทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางสามารถโทร.ไปได้ที่หมายเลข 02-2237010 ผมใช้บริการจองตั๋วล่วงหน้า เพื่อจะได้มีหลักประกันว่า จะมีที่นั่งให้สามารถโดยสารไปได้ การจองตั๋วไม่จำเป็นจะต้องไปจอง ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ซึ่งเป็นสถานีที่ขบวนรถออกโดยตรงแต่สามารถจองที่ไหนก็ได้ที่มีบริการจองแบบออนไลน์ค่าโดยสารคนละ200บาทเป็นรถปรับอากาศบริการแบบไปเช้าเย็นกลับ

        ในวันเดินทางขอแนะนำว่าควรจะไปถึงสถานีที่จะขึ้นก่อนกำหนดเวลารถไฟออก เวลา 07.30 น.สักเล็กน้อย เพื่อจะได้มีเวลาตรวจสอบตู้และที่นั่งโดยสารตามที่ได้จองเอาไว้ สำหรับท่านที่ไม่ได้เตรียมเสบียงไว้ก่อนจะได้หาซื้อได้ ซึ่งในบริเวณสถานีรถไฟหัวลำโพง เดี๋ยวนี้มีร้านซูเปอร์มาร์เก็ตบริการ นับว่าสะดวก ส่งผลให้สถานีรถไฟหัวลำโพงซึ่งเมื่อก่อนมีความสกปรกไม่เป็นระเบียบ แลดูสวยงานสะอาดขึ้นเยอะ หากไม่ต้องการซื้ออาหารที่สถานีรถไฟจะไปซื้อบนขบวนรถก็ได้ มีพนักงานเดินขายอาหารและเครื่องดื่มอยู่ตลอกเวลา สำหรับท่านที่มีประสบการณ์จากการนั่งรถไฟคงจะนึกภาพออกว่า หากไม่จำเป็นจริงๆ อย่าไปซื้ออาหารบนรถไฟเพราะราคาจะแพงกว่าปกติ

        การเดินทางในวันนั้นผู้โดยสารค่อนข้างจะพลุกพล่านและแลดูหนาตาเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาวติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน จึงทำให้มีการเพิ่มตู้โดยสารจำนวนหลายตู้ ขบวนรถจึงยาวเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามการรถไฟได้จำหน่ายตั๋วตามจำนวนที่นั่งโดยสาร ไม่มีการจำหน่ายตั๋วเกิน หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าตั๋วยน ทำให้จำนวนผู้โดยสารในแต่ละตู้ไม่แออัดจนเกินไป การทำงานของเครื่องปรับอากาศค่อนข้างเย็น ช่วยผ่อนคลายความร้อนจากอากาศข้างนอกได้ แต่ที่เป็นข้อเสียที่เกิดขึ้นควบคู่กับการรถไฟมานานก็คือ ขบวนรถในวันนั้นได้ออกล่าช้าไปประมาณ 30 นาที ซึ่งเป็นสิ่งปกติที่เกิดขึ้นควบคู่กับการรถไฟมานานแก้ไม่ได้สักทีคงจะต้องคอยรถไฟรางคู่กันต่อไป หากสร้างเสร็จเมื่อไร ก็คงจะแก้ปัญหาได้บ้าง

       ขบวนรถเริ่มเคลื่อนออกจากสถานีรถไฟหัวลำโพง เวลา 08.00 น. ไปตามเส้นทางรถไฟสายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แวะจอดรับผู้โดยสารที่สถานีรถไฟสามเสน บางซื่อ และพระนครศรีอยุธยา เพื่อให้ผู้โดยสารที่จองตั๋วและประสงค์ที่จะขึ้นที่สถานีดังกล่าวสามารถขึ้นได้ เวลาผ่านไปประมาณ 3 ชั่วโมงเศษขบวนรถวิ่งมาถึงสถานีแก่งเสือเต้น หากเดินทางในฤดูหนาวซึ่งเป็นช่วงที่ดอกทานตะวันบาน รถไฟจะหยุดให้ชมทุ่งทานตะวัน ซึ่งสามารถเดินไปชมได้อย่างใกล้ชิด บังเอิญในช่วงที่ผมโดยสารไปเป็นช่วงต้นฤดูฝน จึงไม่สามารถชมทุ่งทานตะวันได้

       จนกระทั่งถึงเวลา 10.00 น. รภไฟเริ่มวิ่งผ่านป้ายหยุดรถเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ก่อนถึงเขื่อนป่าสักเล็กน้อยพนักงานได้ชี้แจงข้อสังเกตในการชมวิวให้ทราบ นับว่ามีประโยชน์สำหรับผู้โดยสารอย่างผมที่ไม่เคยเดินทางมาก่อน เมื่อรถไฟเริ่มวิ่งผ่านเขื่อนป่าสักจะมีทิวทัศน์และบรรยากาศที่งดงามมากทีเดียว ผมได้เปิดหน้าต่างรถเพื่อซึมซับกับบรรยากาศ ข้อดีของการนั่งรถไฟเที่ยวที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือสามารถชมเขื่อนและทิวทัศน์ของเขื่อนได้อย่างเต็มที่หากนั่งรถยนต์ไปรถยนต์จะจอดอยู่ที่ริมสันเขื่อน ไม่สามารถวิ่งเข้าไปในเขื่อนได้เช่นเดียวกับรถไฟ ภาพของรถไฟที่วิ่งผ่านข้าไปในเขื่อนจึงดูเหมือนรถไฟลอยน้ำ ซึ่งไม่สามารถจะหาชมที่ไหนได้ กลิ่นอายของน้ำและละอองน้ำได้ปะทะกับใบหน้าของผมซึ่งโผล่ออกไปรับลมนอกหน้าต่าง ช่วยเพิ่มความสดชื่นได้ไม่น้อย จนกระทั่งเวลาประมาณ 11.45 น. รถไฟจึงเคลื่อนมาจอดที่สถานีสุรนารายณ์ เพื่อสับเปลี่ยนหัวรถจักรและวิ่งกลับไปในเส้นทางเดิม รถไฟจะหยุดอยู่ที่สถานีดังกล่าวประมาณ 20 นาที ผู้โดยสารสามารถลงไปซื้ออาหารและน้ำ มีอาหารและน้ำดื่มวางจำหน่ายเป็นจำนวนมาก สิ่งที่น่าชมเชยก็คืออาหารและเครื่องดื่มที่จำหน่ายค่อนข้างจะสะอาดและราคาปกติไม่แพง ไม่เหมืนกับบางแห่งที่ถือโอกาสอาเปรียบนักทองเที่ยว ผมได้ลงไปซื้อข้าวผัดกะเพรา 2 กล่องราคากล่องละ 20 บาท เมื่อถึงเวลา รถไฟจึงค่อยๆเคลื่อนย้อนกลับไปในเส้นทางเดิม และหยุดจอกอีกครั้งที่ป้ายจอดรถไฟเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เพื่อให้ผู้โดยสารได้แวะที่สันเขื่อน ในจุดนี้จะจอดอยู่นานถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง


     

       บริเวณเขื่อนอากาศค่อนข้างจะร้อนมาก คำแนะนำสำหรับการเตรียมตัวก่อนเดินทางก็ตือ ควรจะเตรียมร่มหรือหมวกไปด้วย หากไม่ได้เตรียมไปสามารถหาซื้อได้จากร้านค้าในบริเวณดังกล่าว ที่ตัวเขื่อนมีร้านค้าและร้านอาหารจำนวนหลายร้านด้วยกัน ร้านค้าส่วนใหญ่จจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากดอกทานตะวัน เช่น ดอกทานตะวันแห้ง ดอกทานตะวันประดิษฐ์น้ำผึ้งดอกทานตะวัน เมล็ดทานตะวัน สามารถดินชมและหาซื้อได้ตามสะดวก เสร็จจากการจับจ่ายซื้อสินค้าและชมร้านค้า สามารถพักผ่อนและชมทัศนียภาพรอบตัวเขื่อนได้จนกระทั่งถึงเวลา 15.00 น. ได้เวลาขบวนรถเริ่มเคลื่อนกลับกรุงเทพฯ

       รถไฟขบวนนำเที่ยวได้นำผมและเพื่อนร่วมทางกลับในเส้นทางสายเดิม ถึงกรุงเทพฯ ประมาณ 18.30 น. การเดินทางในวันนั้นเรียกได้ว่าสามารถเก็บเกี่ยวบรรยากาศและประสบการณ์ในการเดินทางได้ไม่น้อย

 

กลับหน้าหลัก