มาเริ่มภาค 9 กันดีก่าท่าจะลุ้นกันนานแล้ว
.
..
...
....
ผ่านไปอีกหลายวัน
ทุกวันนี้ก็ยังไม่หายความรู้สึกที่เจ็บปวดอยู่เสมอ
ทุกก้าวที่เดิน ไม่เคยลืมมินเลย.....
แต่ผมก็ยังมีเพื่อน
ผมก็พึ่งรู้ว่าเพื่อนสำคัญกับเรามาก...
มากจริงๆเวลาที่เราเจ็บ...
เวลาที่เราไม่มีใคร.....
พวกมันคอยปลอบใจผม แล้วทุกคนก็ทำเหมือนว่ามินไม่เคยอยู่กับพวกผมมาก่อน
ไม่มีใครพูดถึงมินหรือเอ่ยถึงเลย...
คงเพราะไม่อยากให้ผมเจ็บหรือคิดมากอีกล่ะมั้ง......
ตอนนี้ผมก็ทำเรื่องแปลกๆหลายอย่าง..
ไม่รู้ว่าทำไมผมต้องสะดุ้งทุกครั้งก็ไม่รู้เวลาที่โทรศัพท์เข้า
ผมจะรีบหยิบมันขึ้นมาดูว่ามินโทรมาหรือเปล่า
แต่ก็ไม่เคยเลย ไม่มีแม้แต่ข้อความ
ผมอยากถามมินจริงๆว่ามินรักกลอฟขนาดนั้นเลยเหรอ
หรือเธอไม่เคยจะรักผมกัน
...........................................
ผมนั่งเหม่อในห้องเรียนอีกแล้ว
จนนายโจตบไหล่
เห้ยนายเจม เป็นไรว่ะ ผมหันไปมองมันส่ายหัว
ไม่มีอะไรว่ะ กรูคิดนู่นคิดนี่ไปเรื่อยเปื่อยแหละ....ผมตอบมัน
................................
....................
เรื่องของมินใช่ไหม มันถามผม.
................
..............................
ผมเงียบได้แต่ตอบมันไปตรงๆสั้นๆว่า
“ใช่”
เห้ยไม่เอาเว้ยไม่คิดมาก ดูน้องหน้าห้องดิน่ารักสราดอะ
สนป่าวเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนของกรูอีกทีเขารู้จักเดี้ยวติดต่อให้ นายโจบอกผม
เวง-“- หลายต่อเหลือเกินจะได้ไหมเนี่ยผม
ไม่ล่ะว่ะ กรูเบื่อแล้ว ถอนหายใจยิ้มให้มัน
ห่วงไรตูนักเนี่ย เป็นเกย์ป่าววะ ผมด่ากระทบมัน
ว้ายเพิ่งรู้เหรอ มามาหอมทียังไงก็รู้ความจริงแล้ว
นายโจพูดพลางเอื้อมมือมาจะกอดผม
เห้ย ตีนย่อมเร็วกว่ามือเผลอยันมันไป1ที
เวงตูล้อเล่นถีบจริงเหรอว่ะ โจฉุน
ยกมือไหว้ -/\-
โทษฮ้าบนึกว่าจริงอะ(คือกลัวมันเจอศึกประเทืองมาแล้วติดใจ)
ดีแล้วล่ะมรึงไม่คิดมากก็ดีแล้วว่ะ ผมช่วยดึงมันขึ้นมาจากพื้น....
เห้ยเดี้ยวไปเล่นบาสกะพวกนายหนันกันเถอะวะ
จะได้ลืม.........
เออก็ได้ว่ะ ไม่มีแฟนแล้วว่าง
ก็ดีเหมือนกัน.....
.............................................
ซู้ตไป3ลูกติดวันปล่อยผี มือขึ้นแดร็กตังรอบสนาม
เอิ้ก เอิ้ก กลับไปฝึกมาใหม่นะเว้ย ผมร่าเริงได้ตังกินหนมฟรี500
มาเล่นกะครายไม่เล่น
เห็นซึมๆแต่ฝีมือไม่ตก
เวงเอ้ยไม่น่าท้ามันเลย นายโจส่ายหน้า
นายหนันกะนายบอยส่ายหัวยิกๆ
แมร่งอยู่ดีๆนายโจพาเสียตัง ไหนบอกได้แน่ไงวะ....
เออน่านิดหน่อย เจมอีกเกมปล่าววะป็อดป่าว....
ผมหันไปดูทีมผม นายโอ้ตกับนายทอมยักคิ้ว
เชิงแบบบอกผมว่ายังมีแรงเหลือเฟือ
มา มายังไม่เข็ดลงขันมาเลยเว้ยผมบอก มั่นใจเต็มเปี่ยม
อย่างซวยก็แค่เท่าทุนผมคิดในใจ
แล้วผมก็ชู้ตเตรียมเปิดเกมกัน....
แต่เวรกรรมชู้ตพลาดลูกกลิ้งออกข้างสนาม
เวงเอ้ยผิด ผมบ่นวิ่งไปเก็บลูก
แต่ก็ต้องตะลึงเมื่อลูกกลิ้งไปอยู่ที่ปลายเท้าของคนคนนึงซะก่อน.....
.............................................................
ทุกคนในสนามนิ่งเงียบ
มิน........
ทุกคนรู้จัก แต่ไม่มีสักคนที่พูดอะไรออก
.............................................................
ผมก้มลงเก็บลูก
อยากจะยิ้มให้แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
มาทำไมผมถาม...............
มีเรื่องอยากพูดด้วย.....เธอตอบสั้นๆ
ก็เอาสิ ตรงนี้เลยหรือว่าแค่เราสองคน.....
มินหันไปมองเพื่อนๆผม...
ถ้าไม่รังเกียจน่ะเจม เราอยากจะคุยกับเจมแค่สองคนน่ะ
ได้ไหม? เราอยากคุยด้วยเป็นการส่วนตัว....
ผมได้แต่พยักหน้าโยนลูกบาสคืนเพื่อน......
เดินตามมินไปเพียงสองคน
.........................................................
เสียงนาฟิกาดัง ติ้กๆ......เป็นจังหวะสั้นๆสม่ำเสมอ
ไม่ใช่เพราะนาฟิกาดัง
แต่มันเป็นเพราะความเงียบเสียมากกว่า
มินเรียกผมมาแต่ไม่ยอมพูดอะไร.......
เหมือนเดิมไสตล์เดิมๆ........
อย่างงี้ทุกที.....
เราเข้าใจสิ่งที่มินจะบอกเรา.....
ทำใจให้สบายเถอะมินเราไม่เป็นไรหรอก....
เราจะไม่ยุ่งจะไม่กวนมินอีก
ต่อไปนี้เราสองคนจะไม่มีแม้แต่คำว่าเพื่อนกัน....
แมดเซดที่เราส่งไปให้เมื่อวานอาจทำให้มินลำบากใจ....
แต่เราอยากจะให้มินเข้าใจล่ะกันว่า
นั้นคือสิ่งสุดท้ายที่เราจะบอก...
ไม่ต้องกลัวว่ามันจะมีอีกแล้ว.....
เราขอโทษ.....แค่นี้แหละ
ผมพูด...................เดินไปพลักประตู
ในเมื่อดึงมันไว้ได้ ผมก็ยินดีที่จะทิ้งมันไปให้หมดเสียดีกว่า....
เพื่อมันจะได้ไม่ต้องเจ็บอีกแล้ว......
แต่เราว่ามันไม่ถูกต้อง
มันไม่ดีกับเจม....
มันไม่ยุติธรรมกับเจมเลย
มินพูด
เล่นเอาผมชะงัก.............
หันหน้าเข้าห้องบอกมิน.........
ความรักมันไม่ต้องมีความยุติธรรมหรอกมิน......
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร
ไม่ว่าจะทำยังไง
บทสรุปก็คือ..........เราไม่มีกันแล้วก็แค่นั้น...
เจมเคยบอกมินน่ะว่าเจมจะไม่เป็นคนทิ้งมินก่อน
เจมก็ทำดีที่สุดแล้ว จนมินมาบอกเลิก....
เราทนมาเสมอกับความเอาแต่ใจของมิน....
ไม่เคยแม้แต่จะโกรธเลยด้วยซ้ำ...
และครั้งนี้ก็เหมือนทุกครั้งที่เราจะทำแบบเดิม
ทำในแบบที่มินอยากทำเถอะ.....ผมบอก...
..........................................
..................................
........................
ก็สิ่งที่มินอยาก ก็คืออยากจะให้เจมเข้าใจ
เข้าใจอะไรล่ะมิน.........เข้าใจว่าทำไมมินถึงเลือกกลอฟ์เหรอ
ขอโทษทีเถอะน่ะ
ที่เราใจไม่กว้างพอ.............พอที่จะมาดูแลคนที่เขาทิ้งเราไป
คนที่เราเคยรักเขามาก
แล้วอยุ่ๆก็เปลี่ยน....
ทำไมล่ะ
เพราะอะไรล่ะ
ไหนล่ะคำอธิบาย.......
ไม่ต้องหรอกเราไม่เคยต้องการมันเลย........
อย่างนั้นเจมก็โกหกนะสิ มินพูด
...................................................................
โกหกเหรอมิน?
ใช่โกหกทั้งตัวเจมเองและก็เราด้วย....
ยังไง...........เราเคยบอกอะไรมินแล้วเราทำไม่ได้ไหม...
ก็นี่ไงก็เจมกำลังทำอยู่.....
จำได้ไหมเจมเป็นคนบอกเองน่ะ.....
ว่ายังไงก็จะอยู่ข้างมินเสมอ ตราบเท่าที่เราต้องการ...
............................
ก็ใช่เราพูด แต่ตอนนี้มินไม่ต้องการเราแล้วนี่ ผมบอกกลับไป
..........................
ใครว่าไม่ต้องการล่ะ มินก็ยังรักเจมน่ะ
ยังอยากให้เจมอยู่ข้างๆอยากจะให้เราเหมือนเดิม
อยากให้ตรงนี้ยังมีเราเหมือนเดิม....
เราเลิกเป็นแฟนกันไม่ได้หมายความว่า
เราจะเลิกเป็นเพื่อนกันนี่เจม.....
................................
........................
...................
เจมดีมากน่ะ นิสัยดี อะไรก็ดี เราไม่อยากเสียเพื่อนดีๆอย่างเจมไป มินพูดเพียงเท่านี้
..................
“เพื่อนกับแฟนมันไม่เหมือนกันหรอกน่ะมิน มันทดแทนกันไม่ได้หรอก” ผมบอก
มินตกลงเป็นแฟนกับเราจริงๆเพราะอะไรเหรอ?
เพราะจริงๆแล้วมินชอบเรา
หรือมินๆไม่มีใคร...........
พอดีใช่ไหมที่เราเขามาในชิวิตมินตอนที่เขาจากไป
เราเสียใจน่ะ..................มินไม่มีแม้แต่เหตุผล
น้ำตามันไม่ได้ช่วยทุกสิ่งหรอก.....
จริงๆมินกับเราเป็นอะไรกัน
เราเหมือนถูกหลอกเลยมิน
รู้สึกเหมือนโดนคนที่เรารักจริงๆแทง
ทุกคืนต้องฝันร้าย
กับคำว่า ที่ผ่านมาโกหกทั้งเพ.........
แล้วก็ทนที่ต้องให้ตัวเองทำเฉยๆเป็นเพียงเพื่อน...
เราทำไม่ได้เข้าใจไหม?เข้าใจบ้างสิ?
ผมเขย่าไหล่มิน.............
มินต้องการอะไรกันแน่................
ทำไม
ต้องแคร์ความรู้สึกของคนที่มินไม่เคยรักเลย....
..........................................
...........................
...................
มินหันหน้าไปอีกทาง....
ก็เพราะรักน่ะสิ เลยต้องลำบากใจอยู่อย่างนี้......
................
มินเจ็บน่ะเจม เธอบอกผมจนผมต้องปล่อยมือ...
ขอโทษ............ ผมตอบ
เจมคิดเหรอว่า เราจะไปไหนกับคนที่เราไม่รักได้ทุกวัน โทรหาได้ทุกคืน
มีวันดีๆกับเขา ยิ่งเจมเจ็บมินยิ่งเจ็บน่ะ
............................................
คนที่เรารัก.........ต้องมาทุกขเพราะเราทุกวัน
นึกเหรอว่ามินไม่รู้ว่าเจมจะเป็นยังไงรู้สึกยังไง
วันนั้นที่เจมเจอเรากับกลอฟ์
เรายอมรับน่ะว่าผิด สำนึกผิดทุกอย่าง.....
แล้วเพราะอะไรล่ะ ผมถาม
...............................................
เพราะช่วงนั้นกลอฟโทรมาหามินตลอด
มินก็บอกตัวเองน่ะเจม ว่าจะไม่มีวันกลับไปรักเขา
เพราะมินคิดว่ามีคนที่รักมินอยู่จริงๆแล้ว
ผู้ชายตรงหน้าคนนี้
.............................
เธอมองมาที่ผมดวงตาคู่เดิม แต่ก็ทำให้ผมไม่กล้าสบตา
ที่มินนัดเจอก็เพราะเจมนั่นแหละ

เพราะเราเหรอ? ทำไมล่ะ
เพราะมินอยากให้เขาเลิกยุ่งกับมิน
มินอยากจะบอกให้เขาตัดใจ...
จนวันนั้น วันที่เจมเจอมินนั่นแหละก็คือวันที่มินกำลังจะบอกเขา....
มินไม่ตั้งใจเจอเขาจริงๆน่ะเจม
เขามาดักรอมินเองที่มหาลัย
มินไม่อยากให้เจมไม่สบายใจ
ก็เลยโกหกไปแบบนั้น.........
มินยอมขึ้นรถกับเขาก็เพื่อเพียงบอกให้เขาเข้าใจ.......
อยากให้ทุกอย่างมันเครียล
.......................................
...........................
แต่เจมก็มาเจอซ่ะก่อน
มินทำอะไรไม่ถูก
พยายามจะอธิบายแต่ก็ไม่กล้าสู้หน้าเจม......
มินก็แค่หวัง
หวังว่าเจมจะถามมินซักคำ
แต่ที่เจมทำก็คือเฉยเมยไป
ไม่แม้แต่จะถาม มันทำให้มินเสียใจรู้ไหม
มันเหมือนเจมไม่แคร์มินเลย
..............................
..........................................
มินเลยแกล้งบอกเลิก
มินอยากให้เจมแคร์ เจมตื้อมินเหมือนเก่า
แต่เจมก็นิ่ง ยังอยู่กับเพื่อนๆ
ไม่มีสักครั้งที่จะโทรหามิน...... 
มินไม่มีความหมายเลยใช่ไหมสำหรับเจมน่ะ
จะให้มินพูดยังไง จะให้มินทำยังไง.....
จะให้มินบอกเจมเหรอว่าแค่ลองใจ มินทำไม่ได้หรอก.....
วันนั้นที่ป้ายรถเมล์
ที่เจมส่งข้อความมาให้
มินดีใจมากน่ะ ดีใจที่สุด...........มินไม่อยากให้เราจบกันแค่นี้
ผมลูบหัวมิน 
จริงเหรอที่พูดมาน่ะ มินยังรักเราเหรอ
.................
............
มินมองตาผม อืมรักสิ มินตอบ
งั้น........เรากอดมินได้ใช่ไหม
...........
.................
อยากกอดก็กอดสิ ยังไม่ทันสิ้นคำพูดของมินดี
ผมก็ดึงมินเข้ามากอดแล้ว
ให้มันคุ้มค่า ให้มันหายคิดถึง
ให้มันทดแทนความรู้สึกที่สูญเสียไป
เติมเต็มให้กับความรักของเราสองคน.....
รู้สึกอบอุ่นในอ้อมแขน
มีความสุขหัวใจเต้นแรง
ในหัวมีแต่มินเต็มไปหมด
ไม่อยากจากกันไม่อยากปล่อยมือ
อยากอยู่แบบนี้ให้นานที่สุด.....
.................
............
ผมเดินจูงมือมินออกมาจากห้อง
พวกเพื่อนๆอยู่กันหน้าห้องครบแกงค์
เวงกรรมพวกมันแอบฟังกันเหรอเนี่ย-_-
นายโจเริ่มฮัมเพลงวิวา
นายพวกบ้าทั้งหลายก็พากันตบมือ รับมุขกันใหญ่
ยินดีด้วยเว้ย.........
แมร่งซึ้งชิบ
กรูว่าแล้วว่ามินไม่เปลี่ยนไปร้อก....
เสียงวิจารย์ของพวกมันกึ่งๆแซวเล่นเอาผมทำอะไรไม่ถูก
หันไปทางมิน
ผมยิ้มให้ คราวนี้เธอก็ยิ้มตอบ
มีความสุขจริงๆครับเพื่อรอยยิ้มจะเอาอะไรก็บอกผมมาได้เลยครับเต็มที่ทุกอย่าง.....
ผมน่าจะถามตั้งนาน
ความรักบางทีก็ต้องใช้ความเข้าใจ........
..............
ผมกับมินเดินลงมา
เอาเล้ยเว้ยไปกินข้าวกัน..........กรูเลี้ยงเอง
ผมหันไปบอกพวกมัน อารมดีวันนี้เลยยอมให้พวกมันถล่ม....
เอาจริงดิเจม มินสะกิดหลายคนเลยน่ะนี่
^_^อืมไม่เป็นไรหรอกเนื่องในโอกาศที่เรากลับมารักกันไง....
แค่นี้เรื่องเล็ก
แต่มินกินเก่งน่ะ มินแอบแซว
ไม่เป็นไรหรอก จะได้ฝึกๆไว้ไงเดี้ยวต่อไปเราก็ต้องอยู่ด้วยกันอยู่ดี
บ้า.................ใครจะอยู่ด้วย
ไม่แน่น้าเดี้ยวอาจจะมีดารารูปหล่อพ่อรวย ขาวตี๋มาแย่งไปก็ได้น้า มินบอก
อะน่ะ-_-“
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงจะตามไปแย่งคืนมาให้ดู......
เชอะเอาให้จริงเถอะ วันนี้เตรียมกระเป๋าฟีบกลับบ้านล่ะกัน มินขู่
ผมกับมินหยอกกันสนุกปาก
แล้วก็มีรถมาจอดเทียบข้างพวกผม
กระจกรถเลื่อนลง
กลอฟ์ มินกับผมตกใจ แทบจะพูดออกมาพร้อมกัน......ทีเดียว
มินขึ้นรถ....
กลอฟ์พูดสั้นๆ.......ไม่หันมาสบตาผมหรือมินเลย
ก็แค่พูดเท่านั้น......
มินแสดงท่าทางลังเลอย่างเห็นได้ชัด.....
ทำไมเธอต้องลังเล ทำไมและเพราะอะไร....
ผมดึงมือมินมาจับ
ผมจะไม่ถามว่าเธออยากไปไหม......
เพราะยังไงผมก็จะไม่ให้เธอไปแน่ๆ.....
มิน................ ผมเรียกชื่อเธอสั้นๆ
มินก้มหน้ามองถนน.......
ดูเธอลำบากใจมาก พูดอะไรทำอะไรไม่ถูก
มินขึ้นรถสิ..................
กลอฟ์พูดย้ำ รถในซอยไม่มีมากลอฟ์เลยจอดรถรออยู่อย่างนั้น....
เจม.............ขอเวลามินสักนิดน่ะ มินหันมาบอกผม
สะบัดมือออก เดินไปเปิดประตูรถ......
ไม่น่ะ..............นี่ผมต้องเป็นคนแพ้อีกแล้วหรือ
กลอฟ์ยิ้ม หันมาทำหน้าเยาะเย้ยผม.....
มินเปิดประตูไปนั่งข้างๆกลอฟ์
ต่อหน้าสายตาทุกคน.............
...............................
..........................
....................
กลอฟ์............ มินพูด
หือว่าไงมิน.......... บอกให้เขาตัดใจหรือยัง กลอฟ์ถาม
อือ...........บอกแล้วล่ะ
บอกตั้งนาน บอกหลายครั้งแล้วด้วย
มินยื่นหน้าไปใกล้กลอฟ์กระซิบข้างหู
............................
......................
บอกว่าให้กลอฟ์ตัดใจจากเราสักที เรามีคนรักคนใหม่แล้ว
เรื่องของเรามันจบ มันเป็นอดีตเข้าใจไหม.....เลิกตื้อสักทีแบบนี้มันน่าเกลียดรู้ไหม
แล้วมินก็ลงรถมายืนข้างๆผม
กลอฟ์โกรธฉุน หันมาด่าผมกับมิน
เห้ยทำไมพูดงี้วะ...................ทำงี้ได้ไง
มินกลอฟ์จะถามอีกครั้งน่ะ จะขึ้นไหมถ้าไม่ขึ้นก็ไม่ต้องเจอกันอีกเลย กลอฟ์ตะโกนใส่ยื่นคำขาด
อือ ไม่ขึ้นหรอก มินพูดทั้งๆที่ยิ้ม
ยังไม่ไปอีกเหรอ.......หน้าด้านจังเลยว่ะ นายบอยพูดใช้เท้าถีบไปที่ตัวข้างของรถ
ดังปึงจนเป็นรอยบุบ.......
เห้ยมรึงทำไรอะ นายกลอฟ์ตะโกนด่า
จะเอาใช่ป่ะหาเรื่องเหรอมรึง
เห้ย............หยุดๆ นายโอ้ตบอก
นายเวรมรึงก็ใจร้อนไปไม่ดี ไม่เป็นไรน่ะครับเดี้ยวผมจ่ายค่าซ่อมให้นายโอ้ตบอก
เอามือล้วงกระเป๋าหยิบเหรียญ10ขึ้นมาเหรียญนึง
เดินขูดตั่งแต่กระจดหน้ารูดมาจนถึงท้ายรถ แล้วก็โยนเหรียญใส่กลอฟ์
หวังว่าคงพอน่ะครับ นายโอ้ตพูดหัวเราะใส่......
กลอฟ์ทำท่าจะเดินลงรถ แต่โดนถังขยะเหลือข้างทางทุ่มใส่ซ่ะก่อน....
ไม่ใช่ใครอื่นครับนายทอมกับนายโจนะแหละที่ทุ่มมาใส่.....
เขาให้โอกาศยังไม่ไปอีก ต่อไปอย่าโผล่มาอีกน่ะมรึง........พวกมันตะโกนบอก
ผมกับมินยืนดูเพื่อนๆปกป้องพวกผม
โว้ย นายกลอฟ์ฉุนจัดจนหน้าเปลี่ยนสี
ปิดประตูรถ มองมาทางผมท่าทางอาฆาต
ระวังไว้นะมรึง ไม่จบแค่นี้แน่มันบอก
ผมว่าจะไม่แล้วน่ะ-_-“
แต่ทนไม่ไหวเอาเท้าถีบที่ตัวรถเต็มแรง
ได้ไปอีกแผล...........
เออรีบมาเอาคืนล่ะกัน........ผมบอกพากันเดินไปพร้อมพวกเพื่อนๆ
กลอฟ์ได้แต่ขับรถหนี.......
พวกมันตบมือให้กับความสำเร็จของตัวเอง
เห็นหน้าแมร่งป่ะขำว่ะ นายโอ้ตพูด
งิดเลยว่ะ งิดเลยเล่นกะใครไม่เล่น นายนพพูด
ต่างคนก็ต่างพูดไปตามความคะนองปาก........
เวงกรรมผมว่าจะให้ฉากที่ผมคืนดีกับมินซึ้งๆแล้วน่ะ
พวกเวรนี่-“-
ช่างเถอะครับอย่างน้อยพวกมันก็ช่วยผมเต้มที่ ยังกับเป็นเรื่องของตัวเอง......
เอาเป็นว่าตอนนี้ผมก็มีมินมีเพื่อนอยุ่ข้างๆ
ดีใจที่เธอเลือกผม
ถึงแม้มันจะไม่โรแมนติกเหมือนเรื่องของใครๆ
แต่แค่นี้ก็เพียงพอแล้วล่ะสำหรับสองเรา.....
แค่นี้ก็พอจริงๆ
p.sพวกเพื่อนๆเวรของผมมันมาอ้อนบอกอยากกินเสต็ก บอกแทนค่าเหนื่อยอุตสาหออกหน้าให้
อุแม่เจ้าผมก็ตายจิตั้งกี่คน-_- เลี้ยงน่ะได้แต่กินเองจ่ายเองล่ะกัน ^^

.....
เจม เจม มินวิ่งตื้นเต้นมาหาผม
ผมกำลังอ่านการตูนอยู่ก็เลยได้แต่ตอบ 
อือ อือ มีอะไรอ่า
เจมมินได้เมลล่ะเมื่อเช้าเองไปเช้คมา
เหรออืม ก็ดีนิ สมาธิกำลังจดจ่อกับตัวเอกที่กำลังบู้ล้างพลาญ
ไม่สนเหรอว่าส่งมาจากใคร มินถาม
อือ......... จากใครล่ะ......ผมถาม(ไปอย่างนั้น)
จากผู้หญิง สวยด้วย......แล้วเจมก็รู้จัก มินเริ่มทำท่าใบ้
ผมเอาการตูนลงนั่งนึก.....
อืม ผุ้หญิงเหรอ สวยด้วย แล้วเราก็รู้จัก......ผมทวนคำ
แล้วคนนี้มินรู้จักหรือเปล่าล่ะ....เอ่อแบบมันเยอะอ่า
รู้จักสิ เดี้ยวเจม.....หมายความว่าไงเนี่ย พูดงี้หมายความว่ามีอีกหลายคนที่มินไม่รู้จักใช่ไหม...
-“-อุ้ความแตก เุ้ยไม่ช่าย.........
แบบว่า......เอ่อ....เราหมายถึงมีคนสวยกว่ามินด้วยเหรอก็เท่านั้นเอง
อ้อ ใบ้ให้น่ะว่าเจมสนิทมาก
วาวาเหรอ? จริงด้วยเดี้ยวนี้ไม่ค่อยมาเจอกันเลยนิ
ชอบไปไหนกับนายนัทบ่อยๆ
ม่ายช่ายเจมโถ่คิดอีกที ให้ตอบอีกหนึ่งครั้ง
เวงกรรม-“-จะนึกออกไหมเนี่ยมันแบบเยอะแยะไปหมด
ใครอ่า.................. แบบนึกไม่ออกแล้วไม่อยากทาย..
โถ่เจม ยูมิไงยูมิ.....
ยูมิไหนอ่า -_-ที่เมกาเหรอ.......
ก้ใช่น่ะสิ หรือมีคนไหนที่ไทยชื่อยูมิอีก
อะเจงดิมินเขาเขียนมาว่าไงมั่งล่ะ สบายดีไหม
แล้วทำไมไม่ส่งหาเราอะ
เขาบอกจะมาเยี่ยม
เหรอ.....เห้ย.....
มาเยี่ยม!!!!!!!!
มินหมายถึงมาเมืองไทยเนี่ยน่ะ
ก็ใช่น่ะสิ กว่าจะนึกออกแปลว่าลืมสนิทเลยน่ะนี่ มินตอบ
แล้วทำไมเราไม่รู้เรื่องเลยเนี่ย
ทำไมไม่เห็นโทรบอกเราเลยอ่า
ก็เจมไม่ได้ให้เบอรเขาไว้อะ ให้ทั้งที่ให้ไว้แต่ที่อยู่
เอาเจงดิกรรม -_-“……ทำหน้ายอมรับผิด
แล้วทำไมเขาจะมาไทยล่ะมิน มีตังแล้วเหรอ.....
โถ่เจมทำไมจะไม่มี ยูมิเขากลับญี่ปุ่นตอนนี้ได้เป็นนางแบบ
หาเงินได้เยอะเลย มินยังคุยmsnกับเขาบ่อยๆ
อ่าวไม่เห็นรู้เรื่องเลยอ่ะ มินเล่นเงียบเลย
ก็ไม่ค่อยอยากให้เจมคุยกะยูมิเท่าไหร่ เอาตรงๆน่ะ เจมลามกแถมหม้ออะ
แบบไม่ค่อยวางใจ เชื่อใจไม่ได้ ชอบเหล่ผู้หญิง แถมโกหกเก่ง มินเลยปิดๆเอาไว้ก่อน
-_-+พอ พอ ยายมินพุเลยสรุปไม่มีดีเลยใช่มะเนี่ย
มินมองผม ก็มีดีน่ะนิดนึง
โหตั้งนิดนึงแหนะครับน่าดีใจเหลือเกิน....(แล้วแบบนี้มาเป้นแฟนผมทำไมอ่า)
แล้วเขาจะมาเมื่อไหร่เนี่ย....
วันจันทร์นี้แล้วเจม....
เหรอ............กรรมอีกสองวันเองนิ....
แล้วใครจะพาเขาเที่ยวล่ะ
ก็เจมไงมินตอบเสียงร่าเริง
-_-“ เหอ................................................................................ไม่มีคำบรรยาย
ตื่นมารับที่สนามบินตอนตีสี่
ว้าเว้ย........เวลาอื่นมีตั้งเยอะไม่บินมา
ตีสี่ของวันอาทิตย์นะครับ วันที่ผมอยากจะตื่นสายให้มากที่สุด
แต่มินก็ย้ำนักย้ำหนาว่าให้มารับก่อนสัก1ชั่วโมง
จากที่คำนวณคร่าวๆ
ถ้าผมจะมาสนามบินให้ทันตีสี่ผมต้องตื่นตั้งแต่ตี2
ถ้าจะตื่นตีสองผมสู้ไม่นอนเลยยังจะดีกว่า
อย่าลืมนะเจม..........ต้องไปรับให้ทันยูมิไม่เคยมาไทยเลยเดี้ยวจะโดนหลอกเอา ผมนึกคำที่มินย้ำเอาไว้
แล้วมินไม่มาด้วยเหรอ
ไม่อะมินจะนอนตั้งตีสองใครจะตื่นไหว 
เจมไปรับนะแล้วเดี้ยวเจอกันสัก 10 โมงเช้าที่บ้านเราหรือบ้านเจมก็ได้
ซึ้งเลยครับซึ้ง คำพูดของหวานใจ
จะนอนครับจะนอน แล้วผมอ่าT”T
เอาว่ะเพื่อยูมิ ผมก็อุตสาหขับรถมาสนามบิน....
สองข้างทางมีแสงนีออนสีส้มส่องสว่างสวย
ถนนโล่ง รถน้อย...........
เหมือนเป็นอีกโลกหนึ่งเลยครับ 
ผมปิดแอร์เปิดหน้าต่างให้ลมตีหน้า
ลมกลางคืนช่างเย็นสบายเหลือเกิน
เท้าเหยียบเร่งเครื่อง.............
แล่นรถไปตามป้ายบอกทาง สนามบิน.......
ไม่นานครับก็ถึง
จอดรถ.........เหลือบดูนาฟิกา
2.45 มาก่อนเวลาตั้งชั่วโมง.....ไม่มีไรทำแล้ว
กรรม ผมจะมาตั้งแต่เช้าทำไมเนี่ย.......
เลยปรับพนักผิงเบาะ แล้วข่มตานอนกะจะนอนสักงีบ........
..........................................
..........................
..............
.......
สะดุ้งตื่น โอ้รู้สึกสบายตัวขึ้นเป้นกอง
การนอนสัก10นาทีช่วยได้มากจริงๆครับเวลาที่รู้สึกง่วง....
เหลือบดูนาฟิกา
3.55 แหมผมนอนไปแค่10นาทีจริงๆน่ะนี่.....
เห้ยตีสาม.............ตกใจตะโกนกับตัวเอง
ชิบ ชิบ ชิบแล้ว........
กระโดดลงรถวิ่งไปที่ประตูผู้โดยสารขาเข้า
เอาไงดีว่ะเขียนป้ายไม่ทันแล้ว.....
เห็นชื่อเครื่องของยูมิลงจอดแล้วบนบรอด์
มองไปรอบๆ เวรกรรมหนักนึกว่าคนจะน้อย ที่ไหนได้มารับกันเพียบเลย....
แล้วผมก็เหลือไปเห็นของสิ่งหนึ่ง.........
.......................
............
ยูมิใจสั่น มาไทยครั้งแรก....
ได้ข่าวว่าเป็นเมืองยิ้ม ผู้คนมีน้ำใจแล้วก็สวยงาม........
ไม่รู้ตัวเองว่าคิดถูกไหมที่อยู่ๆมาไทย...
จะทำให้เจมกับมินลำบากหรือเปล่าน่ะ 
แต่เธออยากเจอเจมกับมินมาก
ไม่รู้ทำไม............ก็เลยคุยเล่นๆกับมินทางmsnว่าจะมาไทย
แล้วมินก็ชวนจริงจังเลยพูดอะไรไม่ออก
ยังไงก็มาเยี่ยมเพื่อนสักครั้ง
คงไม่ผิด แล้วเพื่อนก็คงไม่รังเกียจใช่ไหม....
นั่งอยู่บนเครื่อง ใกล้จะจอดแล้ว
เจมจะมารับไหมน่ะ....
หวาย ดูนาฟิกา ตี4.10นาที
เวลามันต่างกันขนาดนี้เลยเหรอนี่ สงสารคนมารับแย่เลย ยูมิคิด
เครื่องเริ่มลดระดับการบิน
กับเสียงของกัปตัน พูดขอบคุณแล้วแจ้งที่หมายให้ฟัง....
ถ้าเจมไม่มารับจะทำไงดี.....
พูดภาษาไทยก็ไม่เก่ง พูดอังกฤษได้นิดหน่อย
ที่ทางก็ไม่รู้อะไรเลย.......
จะโดนหลอกไหมน่ะ ได้ข่าวว่าก็มีคนไม่ดีเยอะเหมือนกัน
ไม่เอาไม่คิด จัดของเตรียมลงดีกว่า....
ยูมิเริ่มจัดของแต่ก็เจอแอร์โฮตเตสดุ บอกว่าให้นั่งดีๆเครื่องจะลงจอดแล้ว.....
ได้แต่พยักหน้างึกๆ
ไม่กล้าจัดของเลย............แย่จังT_T
กว่าจะผ่านด่านตรวจ กว่าจะโหลดกระเป๋า ปาเข้าไปเกือบตี5
เจมรออยู่ด้านนอกหรือเปล่า สายตาเธอชะเง้อมองออกไปตอนตรวจพาสปรอต์ จนโดนนายตรวจมองหน้า
หวายไม่เอา >_<
ถ้าเขาไม่ให้ผ่านจะทำยังไงดีเนี่ย
จนแล้วจนรอดเขาก็ยิ้มหวานให้แล้วยื่นผ่านสปรอต์ทำหน้าแบบokให้ผ่านไป
เย้ๆ ผ่านแล้ว เดินไปที่โหลดกระเป๋า
ใบแรกเลยค่ะใบแรก วิ่งไปเอาที่รางเพื่อหยิบ กลัวเจมรอนาน
หนักอ่าT”T
ที่นี่ไม่มีคนมาช่วยคนกระเป๋าแบบที่ญี่ปุ่นมั้งเหรอค่ะเนี่ย
แล้วในที่สุดก็กึ่งดึงกึ่งลากเอาไปวางบนรถเข็นได้สำเร็จ
ของใช้สำหรับสองอาทิตย์ไม่เบาเลย
เล่นเอาน้ำหนักรถไปหลายโล
ก็ดีจิ จะได้ผอมๆอิอิ......
แล้วก็ผ่านออกมาจนได้
มองหาเจม เจมอยู่หนายยูมิอยู่นี่เธอคิดในใจ
พยายามชะเง้อดูป้าย 
เห้นคนนู้นคนนี้ดีใจกอดกัน
พ่อมารับลูกที่ดูท่าจะไปเรียนต่อ......เพิ่งกลับมา
สามีมารอรับภรรยาที่ไปเที่ยว
ดูมีความสุขนี่สิน่ะที่เรียกว่าอบอุ่น.............
แต่เจมไปไหน ทำไมหาไม่เจอล่ะเนี่ย....
หรือเจมจะลืมหรือมินจับวันผิด คิดไปต่างๆนานา
แล้วก็เจอคนคนนึง
คนที่คุ้นหน้า ในมือไม่มีป้ายต้อนรับอะไร
แต่ที่นิ้วก้อยของเขา มีด้ายแดงพันไว้อยู่
ชูให้เห็นชัดเจน แถมยิ้มทำหน้าทะเล้น...
เจม.....................
วิ่งไปหา มองซ้ายมองขวามินไม่มาเลยกอดเข้าให้......
ให้หายคิดถึง ให้คนบ้ารู้สึกตัวว่ามาช้าขนาดไหน(กลัวน้าT”T)
แล้วก็ล็อคคอเข้าให้
.........................
.................
........
พอพอ ยูมิจะกอดหรือจะฆ่าเลยเนี่ย
ขอโทษน่ะที่มารับช้า กว่าจะขอแบ่งด้ายมาได้แทบแย่......
มารอรับตั้งนานแล้วแหละ แต่แบบอยากจะมีเซอรไพล์น่ะ
ยูมิพยักหน้ายิ้มตอบ
ป่ะกระเป๋าใบเดียวใช่ไหมเดี้ยวเราเข็นให้น่ะ ผมพูดเดินไปเข็นกระเป๋า
“ยินดีต้อนรับสู่เมืองไทยน่ะ”
เธอโค้งเบาๆแล้วยิ้มให้
ผู้หญิงคนนึงซึ่งเงียบเหลือเกินจนผมไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่....
แต่สิ่งนั้นก็ไม่สำคัญเท่าความคิดถึงที่ผมมีให้กันหร้อก ^_^
.................................
....................
บันไซ บันไซ. ไชโย..... \^0^/
ยูมิแนวหน้ามากครับขอบอก
ที่บอกว่าแนวหน้าไม่ใช่เพราะอะไรน่ะครับ
แต่เพราะเธอล้ำยุคจริงๆ.......
เรียบร้อยน่ารัก แต่ไม่โง่อย่างที่คิดครับ......
ทุกอย่างที่เธอเห็น เธอใช้เป็นเธอรู้ เธอเข้าใจหมด
ไม่ต้องอธิบาย ขนาดเอากุญแจโรงแรมเธอยังจัดการแค่ไม่กี่นาทีที่ผมเข้าห้องน้ำ
เธอพูดไทยไม่ค่อยรับแต่เธอเก๋าจริง
เธอสามารถซื้อส้มตำกับไก่ย่างหน้าโรงแรมมากินได้...
แถมกินเป็นบอกอร่อยอีก-_-“
แล้วเธอยังรู้ราคาค่าอาหารคร่าวๆด้วยนะครับ
อย่าเห้นเป้นคนต่างชาติแล้วจะหลอกเธอได้
ไม่โง่ครับไม่โง่........
ผมถามทำไมรู้กับเมืองไทยเยอะจัง
เธอหันกับมาตอบสั้นๆครับ
....ศึกษา...
เล่นเอาผมอาย......ที่อยู่เมืองไทยมาตั้งนานไม่เคยศึกษาเกี่ยวกับประเทศตัวเองเลย
กินทุกอย่างที่ขวางหน้า...^_^”
กินทุกอย่างที่ขวางหน้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันทำมาจากอะไร
แต่เธอก็เป้นกุลสตรีน่ะครับ
ก่อนขึ้นห้องเธอยังแวะซื้อน้ำจากซุปเปอร์พร้อมขนมนิดหน่อยไปแช่ในตู้เย็นของโรงแรม
เธอบอกจะได้ไม่แพง เล่นเอาผมตะลึงในความรอบคอบ
พอเข้าห้องก็สำรวจห้องหยิบกระเป๋าออกมา จัด จัด จัด
ไม่ถึง5นาทีเลยครับ
ของกว่าสองร้อยชิ้นของเธอ(ไม่เวอร์)
ก็เข้าที่เข้าทางเรียบร้อย......
เท่าที่ดูคร่าวๆก็มี โฟมล้างหน้า ยาทาหน้า ลิปสติก เสื้อผ้า ถุงเท้า ผ้าพันคอ กล้อง ฟลิม์ ขนม
สบู่ แชมพู โลชั่น ครีมกันแดด ชุดว่ายน้ำ กระโปรง และอีกมากมายครับที่ไม่อาจกล่าว
ก็เข้าที่เข้าทางครบหมด
อุแม่เจ้า ถ้าเป็นยายมินของขนาดนี้คงสัก2ชั่วโมงอะครับ
แล้วที่ทำให้ผมแปลกใจที่สุดครับ ตอนเก็บของเสร็จ(ผมช่วยนิดหน่อยเอง)
ยูมิก็เดินไปรินน้ำจากตู้เย็นยื่นมาให้ผม
พร้อมเอาผ้าคนหนูมาเทน้ำใส่ให้ผมเช็ดหน้า
โอ้นี่สิลูกผู้หญิงตัวจริง......
แล้วโทรศัพท์ก็ดังครับ
จะใครซะอีกล่ะครับ มินครับมิน
ก็รับโทรศัพท์นัดเวลาบอกห้องเรียบร้อย มินบอกเดี้ยวจะมาสมทบ.....
ก็ดีครับก็ดี ผมจะได้ผลัดเวรให้มินดูยูมิ
ผมจะได้หนีกลับบ้านไปนอนก่อนตอนนี้แย่แล้วครับ
ตาจะปิดแหละ=_=
ยูมิกำลังเปิดโทรทัศน์รายการทีวีของไทยดูครับ
ดูเธอจะสนใจมากซ่ะด้วยก็ไม่แปลกหรอกครับดูทุกอย่างจะแปลกสำหรับเธอไปหมด
ด้วยความง่วงครับ
เลยนอนแผ่บนเตียงแล้วก็นอนหลับไปเลย
.........................................
เจมตื่นได้แล้ว
มินสะกิดผม อือ.........มินมาแล้วเหรอ
ผมพูดพลางบิดขี้เกียจ ส่ายหัวให้หายมึน...ยิ้มให้มิน
อืมเอ้านี่เจมขนของที่เราไปซื้อกะวาวาไปเก็บหน่อยสิ แล้วเดี้ยวไปส่งเราที่บ้านด้วยน่ะ
ผมรับถุงมาถือ งงครับงง.......
เริ่มนึก.....
ถ้ามินไปซื้อของกะยูมิ
ก็แปลว่าไปนานแล้ว
ถ้าเขาไปกันนานแล้วก็แปลว่าผมนอนเพลิน
อะจ้าก.............หันไปดูนาฟิกา
6โมงเย็น หันไปมองหน้ามิน
เธอทำท่าแบบช่วยไม่ได้น่ะ
ก็มินปลุกเจมแล้วน่ะ แต่เจมไม่ยอมลุกเองมินเลยพายูมิไปเที่ยวก่อนน่ะ
เอ้ากรรม ความรู้สึกเหมือนโดนฉกเนื้อชิ้นมัน
ปลุกแล้วผมไม่ตื่น ได้ไงผมไม่ขี้เซาขนาดนั้นซ่ะหน่อย
T_Tโอ้ไม่...........
ความฝันที่จะถือดอกไม้สองมือ.....
ว้าก ว้าก คิดว่าจะพาไปเดินอวดที่สยามซ่ะหน่อย
อดเสียแล้ว..............
มินปลุกเรายังไงอะเราถึงไม่รู้ตัว ปลุกจริงหรือเปล่า.....ผมถาม
อ่าวเจม พูดงี้ก็หาว่ามินโกหกน่ะสิ มินปลุกแล้วน่ะจริงๆถามยูมิก็ได้
มินหันหน้าไปหามินพร้อมใจกันพยักหน้า รู้เห็นเป็นใจจริงๆ-“-
ที่มินถามอะรู้เรื่องอะป่าวเนี่ยพยักหน้าแบบนั้น....หายูมิผมล่ะอยากจะถามจริงๆ
เนี่ยมินอุตสาหกระซิบเบาๆตั้งหลายที.....
เจมก็ไม่ยอมตื่น...........เห็นม่ะ เนี่ยดูดิคอแห้งไปหมด......
-_-+………….พูดอะไรไม่ออกครับผมอึ้งอย่างเดียว....
โหอุตสาหกระซิบถ้านี่ไฟไหม้ผมคงตายไปแล้วล่ะมั้ง
ขับรถพามินกลับบ้านเหนื่อยก็เหนื่อย.......
เที่ยวก็อด ไรว้าเนี่ย
เลยหงุดหงิดนิดหน่อยเงียบผิดปรกติ
นั่งเงียบขับรถไปตลอดทาง
โถ่เจมแค่นี้โกรธเหรอค่ะมินถามผม
อือโกรธ ผมตอบไปตรงๆ
อย่าโกรธเลยเจมมินก็แค่มีเรื่องอยากจะคุยกะยูมิน่ะ
เรื่องแบบผู้หญิงผู้หญิงน่ะค่ะ.....
เหรอ อือ กำลังฉุนแล้วก็งอนเต็มที่เลยครับ
เอางี้พรุ่งนี้เราชวนยูมิไปเที่ยวมหาลัยกันดีไหมค่ะ....
หา?……………

ให้ยูมิไปมหาลัย.......

แน่ใจเหรอมิน ผมถามมินยิ้มพยักหน้า......
แล้ววันต่อมากเป็นหน้าที่ของผม(อีกแล้ว)ที่ต้องตื่นเช้ามารับยูมิ
คิดไปคิดมาไม่น่าดีใจเลยT_T
ผมก็สังหรณ์ตะหงิดตะหงิดอยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้
ส่วนมินก็เหมือนเดิมครับ
ไปมหาลัยเรียบร้อย พ่อเธอจะไปส่ง
ไปรับยูมิหน้าโรงแรม
โทรขึ้นไปบอกเธอเรียบร้อยครับ
เธอบอกกำลังแต่งตัวกำลังจะลงมา
ผมก็เลยไม่ได้ดับเครื่องรถจอดรออยู่อย่างนั้น....
แล้วก็ตะลึงเมื่อเห้นยูมิเดินลงมาครับ
โอ้.....................เธอใส่ชุดนักศึกษาของมหาลัย
ตะลึงกับภาพที่เห็นถึงตายก็ไม่เสียดายชิวิต
หายากน่ะครับหายาก คนญี่ปุ่นในชุดนักศึกษาของไทย
ขาขาวๆเด่นชัดเจน
เมื่อบวกกับรอยยิ้มที่ส่งมาให้แล้วล่ะก็
ต่อให้ตื่นตีสี่ทุกวันก็ไม่หวั่นเลยครับ
อรุณสวัสดิ์ค่ะยูมิพยักหัวให้ก้าวขาเข้ามาในรถ
อย่าหาว่าผมลามกเลยครับตอนเธอยื่นขาเข้ามาเล่นเอาผมหยุดหายใจไปสองวิเลยทีเดียว
T_Tน้ำตาแห่งความปลื้ม+ซกมกพรั่งพรูออกมาเต้มหัวใจเลยล่ะครับ....
กระดี้กระด้าพาเธอไปมหาลัย
ต้องพาเดินอวด อิอิ โลกต้องตะลึง
อย่างที่คาดครับ ไม่ว่าพาเดินไปที่ไหนคนต้องมองตามเป็นระยะ
ก็ให้รู้ซ่ะมั่งว่าเดี้ยวนี้ผม โกอินเตอร์
นิยมของนอกแล้วครับ ถึงไม่ใช่เจ้าของแต่ก็ขอแอบอ้างด้วยความยินดี.....
พาเธอไปเรียนด้วย อาจารย์ที่สอนไม่ยักด่าซักคำครับ
ไม่ถามด้วยแค่ส่งยิ้มมาอย่างเดียว.......
เหอ............
ไม่อยากบอกที่ผมพาเพื่อนผู้ชายมาเรียนด้วยตะเพิดเสียยังกะหมูกะหมา
ไม่รู้ว่าวันนี้อาจารย์อารมดีหรือความหม้อ(เงียบ)กันแน่........
เรียนเสร้จก็ว่างครับเรียนถึงเที่ยงเอง
โทรหาเพื่อนๆ มันอยู่กันร้านเกมครับ
กำลังโจ้ แล็คนาล็อค ผมก็บอกอืมๆเดี้ยวไปหา....
แต่ไม่ได้บอกน่ะครับว่าจะพายูมิไปด้วย
เดินไปร้านเกมแป้บเดียว เพราะอยู่แค่ใกล้ๆ
เห็นนายบอยกับนายโอ้ตและก็นายโจกำลังล่าบาโฟ(บอสในเกม)
ตะโกนโวยวายลั่นร้าน
มันยังไม่รู้ตัวเลยครับว่าผมมา......
เห้ยบอย เห้ยโอ้ต ไงนายโจ
“เออ”รอแป็บพวกมันพูดเป็นเสียงเดียวกัน
นายเจมไปเอาพลีส(นักบวช)มรึงมารักษาให้หน่อยดิบอสตบหนักชิบ
น่านมาปุ้บมันก็ใช้เลย-_-“
ไม่ว่างวะ เออแนะนำให้นี่ยูมิเพื่อนกรูมาจากญี่ปุ่น
นายบอยหันมาดูแป็บนึง ยูมิพงกหัวให้
ด้วยความตะลึงหรือเกมค้างไม่รู้ครับ
นายบอยถึงกับโดนบาโฟตบลงไปกองกับพื้น......
เมื่อแนวหน้าตาย นายโจกับนายโอ้ตหรือจะเหลือพากันลงไปนอนสลบวัดพื้นอย่างสวยงาม
เห้ย.............ทำไรว่ะบอยลากมาไงเนี่ยอยู่ๆนึงสราดนี่ นายโอ้ตโวย
ฉุนจัดเนื่องจากเลเวลสูงเวลาตายค่าประสบการณ์จะเสียมาก
หันมาด่านายบอยแล้วก็ตะลึงกับภาพที่เห็น
โอ้นางฟ้า นายโอ้ตละเมอออกมาเบาๆ
ส่วนนายโจเหรอครับไม่ต้องกล่าวถึง มันวิ่งเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าจัดผม+แตะแป้งออกมายืนเก็กเรียบร้อยแล้ว
นายบอยลุกขึ้นมาเดินมาหายูมิ
พยายามร่ายภาษาญี่ปุ่นทุกคำที่มันรู้จักออกมาคุยด้วย
ผมลิโกะ ป็อกกี้ ชินไม โตชิบ้า ยามาฮ่า แดวู เมื่อเห็นว่ายูมิทำหน้างงกับคำพูดของมัน
(ผมยังไม่เข้าใจเลย)
มันถึงกับเล่นไม้ตายจ้องหน้ายูมิ
ชิเมโจได๋ ชิเมโจได๋ พูดวนไปวนมา กะสะกดจิตเลยล่ะมั้งเนี่ย
มันบ้าไปแล้วครับ-_-.
ในความคิดเห็นของผม
ส่วนโอ้ตครับ ภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงเลยยิ้มให้อย่างเดียว
ไม่รู้ว่าผู้หญิงจะมองมันน่ารักหรือเปล่าแต่สำหรับผู้ชายอย่างผมแล้วผมว่ามัน
-_-ทุเรศอ่ะครับ....... 

นี่ครับน้ำคงเดินมาเหนื่อยๆ นายโจยื่นน้ำให้ ยูมิ
สุดยอดของนักวางแผนครับ
มันมักนำไปหนึ่งก้าวเสมอ เล่นสินบนเลยครับสินบน
ยูมิยิ้มรับแก้วพงกหัวให้(อีกแหละ)
คิดดูน่ะครับผมก็ยืนอยู่แท้ๆมันกับ ถือมาแค่แก้วเดียว
ดูความรักเพื่อนของมันสิครับ-_-
พ่อด่ามันตอกกลับเฉย
มรึงเป็นผู้ชายต้องอดทน อยากได้ตู้เย็นอยู่นู่นไปซื้อเอาเองมันบอก
เออ ผมไม่ได้ว่าหรอกครับแต่ก็จำ จำไว้
......................................................
.....................................
........................
แล้วยูมิเอาชุดมาจากไหนอ่ะผมถาม
ยูมิหันมาอมยิ้ม โถ่เจมนึกว่าจะไม่ถามเสียแล้ว มินให้มาค่ะ...
หา...............ชุดนี้นะน่ะของมิน ทำไมมินใส่ถึงไม่ดูดีเท่ายูมิก็ไม่รู้สิ ก็อย่างว่าแหละคนมันอ้วนนิ
เราว่ายูมิดูมีเสนห์มากกว่าเป็นไหนๆ ไม่โวยวายไม่งี่เง่า
งอนก็ไม่งอน.........
ยูมิน่าจะอยู่ไทยนานๆเนอะจ่ะได้......
จะได้อะไรเจม จะได้อะไรเสียงดังมาจากข้างหลังผม
หันไป อุแม่เจ้า -_-“มินยืนกอดอกทำหน้าแบบเย้ยใส่
แหะ แหะ มินมาตั้งแต่เมื่อไหร่จ้ะ ผมถามพยายามเฉไปเรื่องอื่น.....
มาตั้งแต่มีคนแอบว่าลับหลังว่ามิน “อ้วน” “เอาแต่ใจ” “ขี้งอน”
หันไปทางพวกนายบอยมันพากันขำกลิ้ง
นายพวกเวงเห้นมินเดินมาแล้วไม่บอก-_-“
คอยดูน่ะนายบอยเดี้ยวตูจะไปฟ้องน้องเจน
ว่ามรึงหม้อยูมิผมแอบพยาบาทมันในใจ
นี่เวลาคุยกะมินมองมินด้วยมองไปที่ไหน มินว่าผม
จำใจต้องทำตัวลีบ
จ้าแม่ เอ้ย จ้ามิน.......
สงบปากสงบครับ กลัวทะเลาะกันอีก
ไม่ได้ไม่ได้ เดี้ยววันนี้ต้องพามินไปเลี้ยงข้าวด้วย มินยื่นข้อเสนอ
อีกแล้วเหรอผมโวย จะไม่ให้โวยได้ยังไงอะครับก็เดือนนี้เอะอะอะไรมินให้เลี้ยงข้าวยันเลย
กระเป๋าผมไม่ฉีกจะทนไหวเหรอ......
อ้อเดี้ยวนี้เลี้ยงแฟนแค่นี้ไม่ได้ใช่ไหมมินถาม......
ก็เปล่า เลี้ยงได้จ้า(T_Tกระซิก กระซิก)
ถ้าเจมไม่เต็มใจไม่ต้องก็ได้น่ะ เดี้ยวมินหาคนอื่นเลี้ยงก็ได้.....
ไหนใครอยากเลี้ยงข้าวมินกะยูมิมั่งค่ะ ขอมือหน่อย มินหันไปถามพวกนายบอย
ทำยังกะนักร้อง
แต่พวกเวงนี้มันเจรือกรับมุขครับยกกันให้พรึบ.......
ผมก็เลยปล่อยเลยตามเลย ไม่คัดค้านไม่พูด
เอาความเงียบเข้าสยบ
ใครใคร่เลี้ยงเลี้ยง ใครใคร่จ่ายจ่ายล่ะกัน......
แล้วก็เดินไปจ่ายตังออกจากร้านเกม
ตกลงบอยกะโอ้ตจะเลี้ยงเรากะยูมิใช่ไหมมื้อนี้
นายบอยกะนายโอ้ตยิ้มรับ
เหอะ ยิ้มไปเถอะ ไม่รู้เสียแล้วว่านรกมีจริง......
แน่นะ มินถามย้ำ
พวกมันพากันพยักหน้ารับกันใหญ่....
กินอะไรดีล่ะยูมิ มินหันไปถาม...
อะไรก็ได้ค่ะยูมิกินไม่เยอะหรอก เธอบอก.....
นายบอยกับนายโอ้ตยิ้ม................ทำท่ากวนตีนยิ่งนัก...
คงคิดล่ะสิว่าสบายจ่ายน้อยแต่ได้เครดิตเยอะ คุ้ม.....
เอางี้ไหมยูมิไปกินเสต็กหลังมหาลัยกัน อร่อยมากเลยน่ะถึงราคาจะแพงไปหน่อย
แต่..................... มินลากเสียงยาวหันมาทางนายบอย..
เรามีคนจ่ายแล้วนี่มินพูดพากันเดินไป.....
นายบอยกับนายโอ้ตยังยิ้มออกอยู่
อย่างเก่งก็เลี้ยงคนล่ะร้อย ไหวอยู่แล้ว....
ส่วนผมน่ะเหรอครับ ก้ตามไปด้วยแหละ
อยากจะรู้ว่าพวกมันจะเลี้ยงแฟนผมสักคนได้จริงหรือเปล่า.....
ไปถึงปุ้บ
นายบอยวิ่งนำหน้านายโอ้ตเดินมาเลื่อนเก้าอี้ให้ยูมินั่ง
กระแดะพูดภาษาณี่ปุ่น(วันล่ะคำ)ของมัน
โดโซะ โดโซะ บอยพูด(โดโซะแปลว่าเชิญ)
.ยูมิประหลาดใจ ยิ้มให้กล่าวขอบคุณ
เล่นเอานายโอ้ตอยู่ไม่สุขเดินไปหยิบผ้าเช็ดโต้ะมาเช็ดตรงหน้ายูมิเสียสะอาด
เวรกรรมอะไรมันจะขนาดนี้เนี่ยผมคิด-_-“
โอ้ตยื่นเมนูให้ยิ้มหวาน
กินอะไรดีครับยูมิ......
ยูมิยิ้มแล้วเธอก็ชี้ไปที่เมนู
ซูชิปลาชุดใหญ่ 850-
มีปลาหลากหลายชนิดอยู่ในภาพ
ผมว่าภาพปลามันซีดแล้วน่ะแต่หน้านายโอ้ตซีดกว่า
น่าอร่อยจังวาวา งั้นมินเอาด้วยชุดนึงน่ะ เอามาสองชุดเลยค่ะพี่
มินพูดหันไปสั่งคนจด
ไม่ได้ดูสีหน้านายโอ้ตกะนายบอยเลย
ฆ่ากันชัดๆ ดีแล้วที่เราไม่ได้รับปากว่าจะเลี้ยง ผมคิดในใจ
สงบเสงี่ยมสั่งข้าวแกงกระหรี่หมูทอดไปที่นึก^^(ถูกดีอะ)
เดี้ยวผมไปเข้าห้องน้ำหน่อยน่ะครับ นายโอ้ตบอกทุกคน
ค่ะรีบกลับเร็วๆน่ะ มินบอก
กดAtmมาเผื่อด้วยน่ะโอ้ตจะรอ.........ผมแซวมัน
เห้ยไปเข้าห้องน้ำจริงๆเว้ย แค่นี้เด็กๆว่ะ มันยิ้มเยาะ
ผมไม่พูดอะไรครับ จะไปเข้าส้วมต้องเอากระเป๋าสะพายไปด้วยเหรอว่ะถ้าไม่ไปกดATM
ช่างเถอะครับ ไม่อยากให้มันเสียหน้า
แกล้งโง่ดีกว่าทะเลาะกับเพื่อนครับ....
ข้าวมาตั้งแล้ว โอ้เย้.............
หมูทอดกับแกงกะหรี่ในจานใบโตส่งกลิ่นหอมไปหมด
ได้คนแรกเลยครับ
สั่งของถูกก็ดีเงี้ยได้ก่อน อิ่มก่อนแถมจ่ายน้อย......
เจม เจม มินเรียกผม
อะไรอ่าหมูทอดกำลังจะเข้าปากอยู่แล้ว
เจมรักมินไหมค่ะ มินถาม......
อืมรักสิจ้ะรัก ผมตอบงงครับทำไมอยู่ๆมาถามเอาตอนนี้เนี่ย
จริงๆน่ะ มินถามย้ำ
จริงสิ ใจผมอยากจะเอาหมูเข้าปากสักทีแล้ว
แล้ว......เจมรักมากกว่าหมูทอดในมือนั้นหรือเปล่าค่ะ.....
หมูแทบร่วงจากมือ
-“-ยายมินเล่นมุขเก่า...................
จะให้ตอบอย่างไรล่ะครับโถ่
หมูทอดกับแฟนก็รู้ๆอยู่แล้วล่ะครับว่าต้องเลือกอะไร
หมูทอดย่อมสำคัญกว่ามินอยู่แล้ว
เอ้ยไม่ใช่ มินย่อมสำคัญกว่าหมูทอด....
เอาตะเกียบหมูป้อนให้มิน กินคำโตยิ้มแก้มตุ่ยเชียวครับ.....
กำลังจะกินต่อ เวรกรรมยูมิมองมาทางผม
-“-……….
ยูมิเอาด้วยไหม ยูมิยกมือขึ้นบอกไม่ค่ะไม่ใหญ่เลย
นี่สิลูกผู้หญิงตัวจริง 
จ็อก .......... เสียงอะไรไม่รู้ครับแต่มันดังออกมาจากท้องยูมิ....
คนสวยก็หิวเป้นครับ เธอยิ้มแลบลิ้นนิดๆมองมาทางผมกับบอย
สงสัยท้องมันจะไม่ร่วมมือ แหะ แหะ เธอบอก
ผมคีบหมูคำโต ใหญ่กว่าของมินวางใส่จานให้ยูมิ
ไม่กล้าป้อนครับอาจตายได้.....
ลองกินดูน่ะ อาจจะช่วยอะไรไม่ได้มากแต่รองท้องไว้ก็ดีน่ะครับ ผมบอก....
กำลังจะกินต่อครับ นายบอยมองผมทำท่าน่ารัก
เจม.......................ฮ้าบ บอยทำเสียงอ้อน
เห้ย-_- ไม่ต้องเลยเวรนี่......
นะ บอยก็อยากกินอ่า อุด้งที่บอยสั่งไปยังไม่มาเลย แค่นี้ได้ไหมเพื่อน เพื่อเพื่อนได้ไหม......มันถามย้ำไปย้ำมา...
หรือเห็นหมูทอดสำคัญกว่า เอ้อจำไว้เลยนะแฟนมรึงก็ยังเลี้ยงได้
แล้วก็ยัง.........
เห้ย พอ พอ เอ้านี่ ผมคีบหมูให้นายบอยหมูจ๋าหนูลาก่อน...
เห้ยขอบใจเว้ย มันเอาเข้าปากเคี้ยวเย้ยอย่างเอร็ดอร่อย
รู้ไหมนั่นน่ะเหมือนกับเคี้ยวเนื้อผมเลยจริงๆน่ะT_T
ข้าวแกงกะหรี่(เกือบไร้)หมูทอด
หลังจากฟ่าด่านของบรรดานักชิม หมูทอดที่มีสี่ชิ้นก็เหลือเพียงชิ้นเดียว....
ชิ้นนี้ยังไงก็จะกินให้ได้ครับ ตั้งปฐิญานแน่วแน่......
เห้ยน่าอร่อยวะชิมคำดิ เสียงนายโอ้ตมาจากข้างหลัง
พร้อมกับมือที่ไวพอกันตักหมูทอดเข้าปากชิ้นสุดท้าย
อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ผมตะโกนในใจ
ได้แต่จับตะเกียวด้วยมือที่สั่นเทา
ข้าวแกงกระหรี่T”Tไม่มีหมู เหอ เหอ
อร่อยครับอร่อยมาก แทบคลั่งตาย
มันนั่งเคี้ยวแก้มตุ่ยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
เกือบครับเกือบ เกือบเอาตะเกียบเสียบคอคน
ถ้ามินกับยูมิไม่นั่งอยู่นี่ซ่ะก่อนน่ะ
ขอโทษครับที่ทำให้รอ บริกรนำอาหารที่เหลือมาเสริฟ.....
ชุดปลาดิบใหญ่น่ากินมาก..................
มากจริงๆ
มินจ๋า ผมเรียกเสียงหวาน
มินรักเจมไหมครับ ผมถามกะเอาคืนเต็มที่ (ก็คนมันไม่อิ่มงะ)
รักสิเจม แต่ตอนนี้รักปลาตรงหน้ามากกว่า เอาไว้อิ่มแล้วเจมค่อยขึ้นที่1ของที่รัก
รักที่สุดของมินล่ะกันน่ะค่ะ มินบอก
เอาเนื้อปลาจิ้มซอส ส่งเข้าปาก
เห้ยยายมิน เล่นแรงน่ะเล่นแรง โหที่ตัวเองไม่ให้ผู้หญิงเอาแต่ใจจริงๆ
นี่ค่ะ ยูมิคีบปลามาจ่อปากผม
โอ้พระเจ้าช่างน่ารักจริงๆยูมิจ๋า
ผมเอาปากรับปลาแทบจะในทันที.....
ขอย้ำน่ะครับว่าลืมตัวจริงๆ
พอปลาเข้าปากปุ้บผมสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิตรอบตัวทันที
มินมองผมทำหน้าไม่ค่อยพ่อใจ
ส่วนโอ้ตกับบอยทำท่าแบบเห้ยทำงี้ได้ไง
ผมหันไปยิ้มแหะ แหะ ลืมตัวงะ
แล้วมินก็........
ยิ้มหวานหยดย้อยมาให้ผม
หลายคนอาจจะคิดว่าดี แต่สำหรับผมมันคือสัญญานอันตรายครับ...
มินยิ้มก็เหมือนมัจจุราชยิ้ม ผมจะรอดไหมเนี่ยT”T
ผมวางตะเกียบลงข้างตัว
กินไม่ลงแล้วครับรู้สึกเหมือนตัวเองเป้นเด็กมีความผิด
พยายามทำตัวให้สงบเสงี่ยมที่สุด
ทำหน้าแบบอ้อนวอนเหมือนเด็กตัวเล็กๆไปให้
แต่มินกับขมวดคิ้ว เอากระดาษเช็ดปาก
มีการเดาะกระดูกข้อมือเสียงดังกร็อปๆ ได้ยินชัดเจน
เหอ มินเป้นผู้หญิง แต่หักกระดูกได้ด้วย......
เจม ไปข้างนอกกับมินแป้บนึงสิ....
-“-อุตายแน่ผม............ ทำไมล่ะมินมีอะไรเหรอ....ผมถาม
ถามตรงๆครับแต่เสียงสั่น.....
มีเหงื่อเม็ดโตไหลลงข้างแก้ม
ผมกลัวว่านี่จะเป็นอาการอรกเริ่มของโรคที่สามีมักจะเป็นกัน
ศัพท์ทางแพทย์ก็คือ
โรค “กลัวภรรยา” 
นี่ผมกำลังจะเป็นไปอีกคนเหรอนี่....
ไม่เอาน่ะ ผมไม่อยากให้มินเปลี่ยนไป ผมอยากได้มินที่อ่อนหวานคนเดิม
ได้แต่บ่นในใจ มินจะคุยอะไรกับผม
ถ้าเป็นเรื่องธรรมดาก็น่าจะคุยที่นี่เลยสิ.......
แต่นี่เธอชวนไปคุยเป็นการส่วนตัว
เล่นเอาผมสังหรณ์ไม่ดีเลย......
เดินตามมินออกมานอกร้าน มีกำแพงยาวสีขาวอยู่ด้านนอก มินเดินไปผิงกำแพงกอดอก
มองมาที่ผม............................
แค่นี้โกรธเหรอมิน ผมถาม....
เปล้าไม่ได้โกรธหรอกเรามีเหตุผลพอ เรารู้เจมไม่ได้ตั้งใจ น่าแปลกใจที่เธอให้อภัยผม
ไม่ได้โกรธ ผมทวนคำของมิน แล้วเรียกเราออกมาทำไมล่ะ
ยังไม่รู้อีกเหรอ เจมเดีย้วเข้าไปในร้านเรียกออกยูมิมาน่ะบอกเราจะคุยด้วย
แล้วเจมก็ออกมาพร้อมยูมิเลยเรายังคุยด้วยไม่จบ มินสั่ง
งง สิครับ งง มินจะทำอะไรกันแน่เนี่ย
เดินไปตามยูมิทั้งยังเบลอๆ
เห็นยูมิทำหน้าเศร้าๆเธอตงกังวลว่าทำให้ผมทะเลาะกัน
สงสารขึ้นมาจับใจ 
ยูมิมินเรียกแหนะ ผมบอกเธอมองผมหิ้วกระเป๋าลุกเดินตามผมออกมาโดยดี
มีโอ้ตกับบอยทำหน้าแบบ เห้ยเกิดอะไรขึ้นว่ะ
ผมหันไปมองพวกมัน ส่ายหน้า “กรูก็ไม่รู้เว้ย”
แล้วก็เดินออกมา.....
ปล่อยนายโอ้ตกับนายบอยนั่งจู๋จี๋กันสองคน
ได้ยินคำนินทาของพวกมันแว่วๆมาให้เจ็บใจด้วย
ตูพนันว่ามินชนะ 1 จ่าย 5เลย
แล้วมินกับยูมิก็ยืนเผชิญหน้ากันหน้าร้าน
สาวไทย vs สาวญี่ปุ่น
แก็ง.....................
เอ้ยไม่ใช่ 
มินกับยูมิมองหน้ากัน ผมล่ะกลัวจะมีเรื่อง
รีบเดินเข้าไปยืนหน้ามิน
มินใจเย็นสิ เรื่องนี้ไม่มีใครตั้งใจหรอก ยูมิเขาไม่รู้ที่ประเทศเขา คงไม่ถือมั้ง
ผมพยายามอธิบายแต่ไร้ผล มินกับยูมิเดินเข้ามาใกล้กันแล้ว
ผมหันไปหายูมิ ดูเหมือนเธอก็จะไม่ยอมแพ้เดินดุ่มๆเข้าไปหามิน
เจมหลีกไป มินพูด...........
พูดอะไรไม่ออกทำอะไรไม่ถูกแล้วครับ....
แล้วทุ้งคู่ก็ยืนห่างกันไม่ถึงหนึ่งช่วงแขน
แล้วมินก็ ก็..................ยิ้ม
ยูมิก็ยิ้มตอบหัวเราะกันคิกคัก
ปล่อยผมยืนงง เกิดอะไรขึ้นกันแน่
เจมไปเร็ว มินบอกมาจูงมือผมเดินไกลออกมาจากร้านอาหาร....
เร็วสิมันมองอะไร เดี้ยวพวกนั้นก็รู้ตัวหรอก 
อะไรอะ อธิบายหน่อยได้ไหมเนี่ยไม่เข้าใจเลย......
ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ มินยิ้ม...
ก็เนี่ยเป็นแผนของเรากับยูมิ
แกล้งนายบอย กับโอ้ต
ดูนี่สิเจมดูนี่ ยูมิโชว์กระเป๋าตังให้ผมดู ผมจำได้ติดตานี่มันของนายบอยกับนายโอ้ตนี่หว่า...0_O
ตอนที่มินเรียกเจมไปข้างนอก บอยกับโอ้ตมัวแต่ดูเจม
เราเลยแอบหยิบออกมาไม่ให้รู้ตัว........
ไม่รู้สิ หม้อนักต้องแกล้งเสียให้เข็ด.....
ให้รู้ซ่ะมั่งว่าผู้หญิงก็ร้ายเป็น....(ยังร้ายไม่พออีกเหรอ)
มินกับยูมิมองหน้ากันอีกครั้งหัวเราะออกมาราวกับมันเป้นเรื่องตลกที่ไม่เคยเบื่อ....
แล้วบอยกับโอ้ตจะทำยังไงล่ะ ทิ้งไว้นี่เหรอกระเป๋าตังก็อยู่กับเรา.....
ช่างเหอะหน้า อย่างมากก็ล้างจาน
ล้างจาน?ผมย้ำ
อย่างนายโอ้ตกับบอยเนี่ยน่ะล้างจาน
ผมปล่อยให้เพื่อนโดนหยั่งงั้นไม่ได้หรอก
ต้องล้างส้วมสิครับ (ความคิดชั่ว)
จะดีเหรอมินอย่าเลยเดี้ยวมันโกรธ ยังไงเขาก็จะเลี้ยงอยู่แล้วนี่
ไปเหอะไปดูบอยกะโอ้ตกัน.....
ไม่เอา.............ไม่ทิ้งก็ได้แต่ยังไม่ไปน่ะเจม มินบอก
อ่าวทำไมล่ะ?
ก็หมั่นไส้ เจอใครก็จีบหมดแบบนี้มินเกลียดมากเลย ถ้าไม่สอนต่อไปจะจำไหม....
ผู้หญิงน่ารักเขาก็มีสิทธิเลือกนะเจม
ว่าจะคบใคร จะเป็นแฟนใคร......
ทุกวันนี้มินก็จะบ้าตายอยู่แล้ว.....
เวลามีคนมาจีบน่ะเจม....
ถ้าเราไม่คุยด้วย เขาก็จะบอกว่าหยิ่ง
ถ้าเราเงียบ ก็จะหาว่าเล่นตัว ไม่มีมนุษย์สัมพันธ์
ถ้ายิ้มให้พอเป็นพิธิก็ชอบคิดว่าผู้หญิง เปิดทางมีใจให้
แล้วถ้านั่งคุยแบบเพื่อนเลยนี่น่ะยิ่งแล้วใหญ่ ไปประกาศเสียทั่วเลยว่า เนี่ยแฟนฉัน
ถ้าอ้างว่ามีแฟนแล้วก็บอกเพื่อนไง พอนานๆไปก็ทำหน้าซึ้งบอกจะรอ...
ถ้าคบทีสองคนก็เป็นวันทองสองใจ
ผู้ชายไม่เคยเลยที่จะย้อนไปดูตัวเอง
บางทียังไม่เคยตกลงเป้นแฟน เดินมาพูดเฉยเลยพอเห็นเราเดินกะใคร
ที่ผ่านมาคืออะไร?
คิดดูสิเจม มินอยากจะกรี้ดให้ลั่น
เพื่อนไง เพื่อนแค่นั้นเลิกฝันได้แล้ว มินอยากจะพูดกรอกหูให้เข้าใจ
แต่ก็ทำไม่ได้เพราะคำว่า กุล-สตรี มันค้ำคออยู่
มินทำท่าจริงจังโกรธจัด
โอ้ไม่น่ะ แฟรผมเป็นคนเก็บกดเหรอเนี่ย-_-“
ผมมองมิน ไหนใครว่ามินลองบอกมาให้เราฟังหน่อยสิ ผมถาม
มินไม่พูดหน้าแดง เดินมาใกล้ผม จนได้กลิ่นหอมจางๆจากผมของเธอ
เปล่า มินแค่อึดอัดน่ะ ขอโทษน่ะเจม
มินทนไม่ไหวกับผู้ชายแย่ๆที่เรียนพิเศษด้วยกัน
.........................................
ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมช่วงนี้มินถึงหงุดหงิดง่ายชอบแกล้งคน.....
ได้แต่ลูบหัวปลอบเธอ
อะแฮ่ม ยูมิกระแอมเตือน เหมือนจะบอกว่า
ฉันยังยื่นหัวโด่อยู่ทำอะไรเกรงใจมั่ง
เล่นเอาผมกับมินทำหน้าไม่ถูกเลย
ไปเหอะ เข้าไปดูพวกบอยในร้านกันถ้าจะแย่แล้ว
ผมบอกมินกับยูมิ แล้วทั่งคู่ก็เดินตามผมมา
.........................................
เห้ยทำไมไปนานจังว่ะ
นายโอ้ตกะบอยถาม ถ้าจะยังไม่รู้ตัวว่าผมน่ะเป็นพระผู้รอดสำหรับพวกมัน
เปล่ามินเกิดอยากเข้าห้องน้ำน่ะ วุ่นวายไปหมดเลยยังกะเด็ก ผมเฉไปเรื่องอื่น...
มินหันมามองผม
เล่นงี้เลยน่ะเจม โห...............ได้ครั้งนี่จะยกให้ไปก่อนเธอกระซิบข้างหู
-_-ถ้าระยะนี้ยัุไม่หายหงุดหงิดดีล่ะมั้งเนี่ย...
ดุจริงๆ
เดีย้วต้องถามซะหน่อยแล้วว่าจริงๆเกิดอะไรขึ้นกันแน่
อิ่มแล้วใช่ไหมเนี่ย บอยถามแต่ไม่ได้มองผมเล้ย
ถามใครไม่ถามไปถามยูมิ
ยูมิพยักหน้า อิ่มแล้วค่ะขอบคุณ....ยิ้มหวานไปให้
เล่นเอานายบอยล่องลอยไปไกล
ไกลจนไม่รู้ล่ะมั้งเนี่ยว่ากระเป๋าตังมันน่ะ
อยู่กับมินเรีบยร้อยแล้ว
บ๋อยเช็คบิล
นายบอยเรียกทำหน้าเท่
ท่าทางตอนนี้มันยังกะเสี่ยใหญ่ยังไงหยั่งงั้น
มันไม่รู้ตัวเลยเหรอเนี่ย ว่ามันกำลัง
ขอปังตอมาเชือดคอตัวเอง-_-“
พอบิลมาวางป็บร่วม 2500-
-_-กินเข้าไปได้๹งไม่รู้ครับ แต่นายบอยก็ยังยืนยันที่จะจ่าย
มินช่วยไหมบอย มินถาม ไม่รู้ว่าถามมาจากใจ
หรือถามด้วยความเกรงใจกันแน่...
ไม่เป็นไรมินแค่นี้เอง บอยขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก
มันเอามือล้วงกระเป๋า หน้าถอดสี....
เห้ย......!!!!!! นายบอยอุทานสั้นๆเอากระเป๋าขึ้นมาค้น
หน้าถอดสีเป็นไก่ต้มงานตรุษจีน...
แน่นอนครับว่ามันต้องหาไม่เจอ
แต่ด้วยความไว้ฟรอม์ของมัน ดูเหมือนจะยังไม่ยอมแพ้
เห้ยโอ้ต มีจ่ายไปก่อนป่ะ เดี่ยวเอาส่วนที่หารคืนให้แบบพอดีไม่มีเศษว่ะ
2500 นี่น่ะไม่มีเศษ-_- นายโอ้ตถาม
เอ่อน่า มีปล่าวออกไปก่อน...นายบอยรีบกลบเรื่องที่ตัวเองทำพลาด...
เออ ก็ได้ว่ะ กลัวกรูชักดาบว่ะ ข้อร้องไม่กระจอก โอ้ตพูดเอื้อมมือไปที่กระเป๋าอีกคน
กรรม........!!!!!! กระเป๋าตัง หายไปไหนไม่รู้ว่ะ เพิ่งกดเอทีเอ็มมาด้วย
นายโอ้ตค้นของกระจาย
เห้ยหาย ก็วางไว้ในนี้นี่ 
บอยอย่างกออกไปก่อนกระเป๋าตังกรูหาย นายโอ้ตบอก
บอยทำหน้านิ่ง
กรูก็หาย...................................
เห้ย เป็นไปได้ไงว่ะ
มินยิ้มครับ ส่วนผมกับยูมิสงสาร...............
อ่าวไหนบอกจะเลี้ยง แล้วไม่มีตังได้ไง.....มินถาม
โถ่มิน ก็ ก็ มันหายอ่ะ มินก็รู้จักเราดีนี่ ว่าเรา....
ขี้โม้ใช่ไหม................มินเติมให้เสร็จ....
ปล่าว นายเจม มันหันมาเรียกผม
-_-“กรรมอีกแล้ว....
มีป่ะออกไปก่อนเดี้ยวคืน แน่ๆสัญญา มันบอก
เออ เออ ก็ได้ว่ะ
T_Tอยากร้องให้ไห้ดังจริงๆอะไร อะไรก็ลงผม
นี่ถ้าผมไม่มีขึ้นมาอีกคน
ไม่ต้องนั่งวงล้างจานกันกลางห้างเหรอนี่
นี่ใจคอมินจะไม่คืนจริงๆเหรอเนี่ย ผมหันไปมอง
ความรู้สึกตอนนี้ของบอยกับโอ้ต
เรื่องเงินอะเรื่องเล็กครับ
แต่เรื่องเสียฟรอม์นี่สิเรื่องใหญ่
หน้าแตกต่อหน้ายูมิ กลับบ้านไปพวกมันจะคว้านท้องหรือเปล่าเนี่ย
แล้วอีกเรื่องที่ผมห่วงก็คือเรื่องเงินที่ผมออกไปคราวนี้ผมจะได้คืนไหมเนี่ย
T”Tตังผม เหอ .......เหอ........
บอยหน้าเป็นตูดเลยครับ บ่นอุบ
โอ้ตทำท่าจ๋อยไปเลย
ส่วนผมน่ะเหรอครับ ก็ยิ้มแห้งๆอีกคน
มินทำเอาพวกผมระทวยกันท่วนหน้า
สรุป 2500ใช่ไหมครับ หันไปถามคนเก็บเงิน
ที่รอนานจนจากยิ้มๆคิ้วก็ขมวดเป็นเกลียว
เธอคงคิดในใจล่ะมั้งครับว่าสรุปพวกนี่มีจ่ายไหม(วะ)
แล้วก็มีบริกรวิ่งเอากระเป๋าตังมาให้
พี่นี่กระเป๋าพี่เปล่าครับ ลืมไว้ต้องเคาท์เตอรเก็บเงินน่ะครับ
เด็กเสริฟถาม....................
เหมือนเห็นผู้รอด บอยขึ้นคว้าหมั่บ 
เห้ยขอผมจริงๆด้วย ทำไมไปอยู่ที่นั่นได้เนี่ย
ผมก็ไม่รู้ครับดีน่ะครับที่ผมเห็นบัตรประชาชนก่อนเลยเอามาให้ทั้งสองใบเลย...
อาจจะมีคนเอาไปวางน่ะครับ
บอยรับกระเป๋า หลังจากเช็คดูเงินอยู่ครบ จะสนทำไมว่าใครไปวาง
ขอแค่มีตังจ่าย มีตังกลับบ้านก็พอแล้ว
บอยหยิบแบงค์ร้อยออกมาสองใบยื่นให้ คนที่เอากระเป๋ามาให้.....
เอ้ยไม่ต้องครับ.....เขาปฏิเสธ
แต่มือคว้ามารับแบงค์เรียบร้อยแล้ว-_- (สรุปเอาใช่ม่ะ)
นายโอ้ตไหวตัวทันเช็คเงินแต่เงียบอยู่

สรุปผมไม่ต้องจ่ายครับ \^o^/

นายบอยกับนายโอ้ตก็ไม่น่าแตก 

ท้องอิ่ม..............ครับมีความสุข

ตอนทุกคนแยกกันแล้ว เหลือผมมินแล้วก็ยูมิ
สรุปมินเป็นคนเอากระเป๋าตังไปวางใช่ไหม ผมกระซิบถาม
ถ้าไม่ใช่มินแล้วจะใครล่ะ มินแค่จะสั่งสอน
ให้ลดความซ่าลงซ่ะมั่งน่ะ ไม่ได้กะให้ใครเสียใจกลับไป
ผู้ชายถ้าไม่กำราบให้หงอซ่ะก่อน ต่อไปจะยิ่งได้ใจ......
........................................
........................
............
ต้องตัด...........................................................ไฟเสียตั้งแต่ต้นลม มินทำมือเป็นรูปกรรไกร
-_-“เล่นเอาผมเสุยว
แล้วผมจะไม่กลุ้มใจเลยครับ ไม่กลุ้มเล้ย ถ้ายูมิไม่ทำมือเลียนแบบมินแล้วหันมาทางผม
ตลกไม่ออกครับจริงๆ......-_-|||||
ตอนนี้ผมนั่งอยู่หลังรถกระบะ
จะทำไมซ่ะอีกล่ะครับ
ถ้าไม่ใช่เพราะ ยูมิ อยากจะไปเที่ยว
ไปสมุยครับ ไปสมุย เธอบอกว่าอยากเล่นกะลิง อยากดูวัฒนธรรมไทย
ถ้าอยากดูลิงผมพาไปสวน!ดุสิตก็ได้ แล้วถ้าจะไปดูวัดนู่นเลยวัดพระแก้ว
แต่ก็นี่แหละครับผู้หญิง
เลือกแล้วตกลงใจแล้ว ยังไงหนูก็จะไป
แล้วคนที่จะต้องพาไปก็ผมอีกแหละครับ
ดีหน่อยตรงที่มีคนมาช่วยผมขับเยอะเลย
แต่ตอนนี้ถ้าจะหลับจนหมด
หันไปดูเบาะหลัง บอย โจ โอ้ต นพ ทอม แนท
มากันเพียบ
จุดหมายคงไม่ใช่อื่นไกล คงหวังมาดูยูมิกับมินในชุดว่ายน้ำ 
นายบอยหนักกว่าเขาเพื่อน ในมือมันมีกล้องเตรียมพร้อมเต็มที่
ผมเรียกหยั่งงี้ว่าส่อครับ.....
พร้อมใจพากันโดดเรียน
อาจารย์คงตกใจที่อยู่ๆนักเรียนพากันหายไปแบบนี้......
อาจารย์ไม่ผิดน่ะครับไม่ผิด เด็กมันเชี้ยเองครับ
ดีหน่อยที่คนที่หลับตาพลิ้มอยู่กับผมที่เบาะหน้าคือวาวา
ใช่ครับวาวามาด้วย
รวมถึงน้องเจนด้วย
เป็นการเที่ยวที่สนุกละมีความหวังยิ่งนัก
หลายคนอาจอยากมาเที่ยวกับเพื่อนเฉยๆ เช่นนายนพ นายแนท
ส่วนที่ผมดูๆแล้วมีจุดประสงค์นี้นายโอ้ตกับนายบอย แล้วก็นายโจนี่เต้มๆ
ดีหน่อยที่นายบอยสงบ(ปาก)ไปเยอะ
จะไม่สงบได้ไงครับก็น้องเจนตามมาคุมแบบนี้
ขนาดหลับน่ะครับ ยังเอามือคล้องแขนไว้เลย
สงสัยกลัวบอยทำอะไรน่าสงสัยแหงๆ-_-“
แล้วเวรกรรมอะไรของผมเนี่ยที่ต้องมาขับรถทั้งๆที่พวกมันหลับสบายแบบนี้
ง่วงอ่าง่วง...............
เหลือบดูนาฟิกา ตี2.30
นายโอ้ตบอกจะเปลี่ยนเวรตอนตีสอง
ผมหันไปปลุกมัน3รอบแล้วครับ
มันตอบขออีกสิบนาทีทั้งสามรอบเลย
แล้วเป็นไงครับก็หลับยาว
ขี้เกียจปลุกมันแล้วครับ
ปลง.........-“-
กดเปิดเพลง ให้มันเป็นเพื่อนคลายเหงา กลัวจะเห็นอะไรแว้ปๆข้างทางเหมือนกัน
ไม่นอนเหรอเจม เสียงใสๆข้างๆผมถาม
อ่าววาวาตื่นเหรอ ขอโทษทีน่ะ รบกวนหรือเปล่า
ถามมาได้ว่าไม่นอนเหรอ ขืนเรานอนก็เจอศาลาสองสิวาวา
จริงด้วยเนอะ สงสัยเพิ่งตื่นเลยเบลอๆ แล้ววาวาก็เงียบ
...................................
.......................
..................
วาวานอนเถอะ ผมพูด
ไม่นอนหรอก มีเรื่องจะคุยด้วยนิดหน่อยน่ะ.....เรื่องดีๆที่ไม่อยากให้เจมรู้คนเดียว
วาวาหันไปมองพวกเบาะหลังกับท้ายกระบะว่าหลับจริงหรือเปล่า
เมื่อแน่ใจว่านอนชัวร์
เธอก็หันมากระซิบบางอย่างข้างหูผม
คืองี้น่ะเจม......
ผมคิดในใจ เอาอีกแล้วเหรอวาวา-_-“
เรามีเรื่องปรึกษาน่ะ วาวาพูดเกริ่นๆดูเธอก็เกรงใจที่จะถามผม
สมมุติว่าเจมรักคนคนนึง แต่คนคนนึงมารักเจม....
แล้วเขาก็ดีคนละแบบเท่าๆกัน 
แล้วเราก็ไม่ได้เกลียดสักคน....
จะฟังดูไม่ดีไหมถ้าเราจะบอกว่าเราก็รักทั้งคู่เท่าๆกัน
ถ้าเป็นเจมน่ะเจมจะเลือกใครเหรอ วาวาถาม
................................
......................
แอร์ในรถเย็นช่ำ บรรยากาศเลยพลอยจริงจังไปด้วย
คำถามพื้นๆกับทำให้ผมคิดหนัก
ผมรู้ครับผมรู้ ว่าวาวาอยากจะสื่อถึงอะไร
แล้วคนบางคนนั้นก็คงไม่พ้นผมกับนัทแน่ๆ(คิดว่าน่ะ)
เขาสองคนสำคัญสำหรับเราทั้งคู่เหรอ ผมทวนคำถาม
วาวาไม่ตอบเธอเพียงแต่พยักหน้าเท่านั้น....
แล้วถ้าเลือกคนนึงแล้วอีกคนนึงจะเป็นยังไงล่ะ ผมถามต่อ
ก็คง... จะเสียใจล่ะมั้ง เราไม่อยากให้ทั้งคู่เสียใจเลยเจม 
เพราะเขาสำคัญเท่าๆกัน ดีพอๆกัน 
นั่นแหละที่ทำให้เราลำบากใจที่สุด
เรากลัว กลัวว่าถ้าเลือกคนนึง
อีกคนจะเดินจากไป......
ตัวเราเองยังแยกไม่ได้เลยว่า เราควรจะยืนข้างๆใคร วาวาทำหน้ากลุ้ม
วาวาพยายามแล้วล่ะเจมที่จะไม่เจอเจมสักพัก ลองดูว่าจะอยู่ได้ไหม
...........................................
..............................
ว้าย........หลุดชื่อออกมาจนได้ เธอแลบลิ้น
ไม่เอาแล้วไม่ถามแล้ว เจมลืมๆมันไปซ่ะน่ะ วาวาจะนอนต่อแล้ว
วาวาหันหน้าไปนอน
ผมไม่รู้ว่าเธอนอนจริงหรือแกล้งหลับ
แต่ผมก็ทายไม่ผิด
ผมก็หวั่นนะครับ
จากคนที่ไม่เคยอยู่ในสายตาเธออย่างนัท กลายเป็นคนสำคัญ
...................................
.......................
สำคัญเท่าๆกับผม?
…………….
………………………
ผมหันไปดูวาวาคำตอบมันอยู่ในหัวเรียบร้อยแล้ว.....
ถ้าเราเป็น วาวาน่ะเราจะไม่รีบ
จะไม่เร่งคำตอบให้มันออกมา
หัวใจของคน มันยากที่จะหาบทสรุปน่ะ
ค่อยๆให้เวลาสั่งสมความใกล้ ชิดความผูกพัธน์เถอะ
ไม่ต้องลำบากใจหรอก
ไม่ว่าวาวาจะเลือกใครจะเป้นยังไง
เจมก็จะเป็นเพื่อน คนที่คิดถึง
ห่วงใย จะเป็นเจมคนเดิมอย่างนี้แหละ
เพราะฉะนั้นหลับเถอะ
ไม่ต้องคิดมากน่ะ...... ผมพูดขึ้นมาลอยๆไม่รู้เธอจะได้ยินไหม
แต่ช่างเถอะ ผมก็แค่อยากจะบอกความคิดของผมให้เธอฟังเท่านี้ก็พอแล้ว.......
.......................................
..........................
แต่ผมก็ต้องแปลกใจเมื่อได้ยินเสียงรับเบาๆว่า”อือ”
มาจากวาวา
เสียงสุดท้าย แล้วเธอก็ไม่พูดอะไรอีก........
ไฟสองข้างทางเริ่มมากขึ้น
ผมคงกำลังจะเข้าตัวเมืองแล้ว
ยะหู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ไอ้บอยกระโดดลงจากหลังรถกระบะ
ร่าเริงแจ่มใส สมกับได้นอนเต็มอิ่ม
ส่วนผมนี่สิครับ
โทรมสุดๆ ขับรถทั้งคืน เหนื่อย แถมกลุ้มนิดๆกับเหตุการณ์ที่เจอเมื่อคืน
คิดไปคิดมาเกือบเอารถไปจูบปากกับสิบล้อ
ดีมีสติทัน................
เกือบเปลี่ยนขากนอนรีสรอท์ไปนอน....(แล้วแต่จะคิด)
ฟ้าพึ่งเริ่มสว่าง
ดูสวยมากเลยครับ ผมก็เพิ่งรู้ว่าชายหาดริมทะเลมีนกบินไปบินมาด้วย
มินก็สะกิดจัง
เจมดูนกดิ นกไรอ่ะ นกไรอ่ะ ถามผมอยู่นั้น
ผมก็ยิ้ม ไปงั้นแหละครับ จะไปรู้ได้ไง(วะ) ว่านกอะไร
ผมไม่ได้เรียนเกี่ยวดับนกมาสักหน่อย 
อย่าน่ะครับ อย่าพึ่งคิดว่าผมอยูที่พักแล้ว
ยังอยู่ที่ท่าเรือครับ
มีตลาดสดขายของเยอะมาก ย้ำมากจริงๆ
กว่าเรือจะเดินทางไปเกาะสมุยก็ สิบโมง.......
ซื้อตั๋วไว้เรีบยร้อยครับ แต่ตอนนี้พึ่ง7โมงกว่าๆเลยว่างกันเกือบๆสามชั่วโมง
ไม่รู้ผมจะรีบเหยียบมาทำไมเนี่ย
หิวโว้ยไปหาอะไรกินกัน เหนื่อยชิบ ไอ้โอ้ตบอก
เออ กรูก็โคตรเมื่อยเลยวะ ไอ้โจรับคำ คู่นี้เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยทุกที
-_-แล้วที่สำคัญุวกมันนอนสบายทั้งคืนยังเหนื่อย
แล้วผมล่ะ ตลอดคืนน่ะครับตลอดคืน
นอนก็ไม่ได้นอน รถก็ต้องขับ
อาจจะมีบ้างที่แกล้งสะบัดรถ ให้หัวมันกระแทกกันเล่นแบบว่าแก้แค้น สะจายยยยยยยยยย
ไม่ได้นอนยังไม่บ่นให้ใครได้ยืนสักคำ
อันที่จริงบ่นไปคงไม่มีใครฟังแถมอาจโดนด่า สรุปเงียบดีกว่าT_T
ผมละงง
คนที่นี่ชอบมาเดินตลาดตอนเช้ากันเหรอครับ
ผมเห็นตั้งแต่ลูกเด็กเล็กแดง แม่ค้า คุณหญิงคุณนาย จนกะทั่งตำรวจ
ไม่อยากจะบอกหลอกครับ
7โมงที่กรุงเทพ ถ้าไม่ใช่วันสำคัญ
ไม่มีทางที่คนจะเยอะขนาดนี้
เจม มานี่เร็ว ทางนี้ มินตะโกนเรียกผม
ผมรีบเดินไป 
เห็นมินยืนอยู่กับยูมิ
ตรงหน้ามีคนตัวใหญ่ ยืนมองหน้าอยู่
เห้ย หรือว่าจะมีเรื่อง ผมรีบเดินเข้า
มีผู้ชายมาหนุน อะไรก็คงคุยง่ายขึ้น
แต่พอเดินไปถึงแทบอยากเดินกลับ
เจมดูดิ ตัวไรไม่รู้อ่ะน่าเกลียดดี ดูสิเอานิ้วจิ้มแล้วขยับได้ด้วย
ยายมินชี้ไปที่แมงดาทะเล
แล้วพี่ที่ยืนอยู่เขาก็คือคนขาย
ดีน่ะครับที่ผมยังไม่พูดอะไรไม่งั้นหน้าแตกกระจายแน่ๆ
ยูมิมองไปที่แมงดา
สงสัยเธอจะไม่เคยเห็น แล้วเธอก็ทำสิ่งที่ผมแทบไม่เชื่อสายตา
เธอเดินเข้าไปทำมือเป็นสัญญานบอกคนขาย
เอาสองตัวค่ะพี่ 
เห้ย เอาจริงสิยูมิจะกินจริงๆเหรอ ผมพยายามเตือน
เธอหันมามองผม
อ่าวเจมทำไมล่ะ มันไม่อร่อยเหรอ
-_-……………..
ก็ไม่เชิงว่าจะๆไม่อร่อย
เอาตรงๆคือแบบไม่เคยกินเลยดีกว่า ผมสารภาพ
อ่าวอะไรเจม คนไทยทำไมไม่กินของไทยล่ะ รู้ไหมที่ประเทศเราไม่มีเราอยากลองจะตาย
แล้วยูมิคืดว่ารสชาติมันเป็นยังไงเหรอ ผมถาม
อืม......เธอเอานิ้วมาจ่อตรงคาง ทำท่าเหมือนจะคิดหนัก
คิดว่ารสชาติมันคงจะเหมือนกุ้งล่ะมั้ง
อะน่ะ -_-“รูปร่างมันอาจจะคล้ายแต่ที่แน่ๆรสชาติไม่ใช่แน่ๆ
แล้วถ้าเกิดซื้อไปแล้วยูมิกินไม่เป็นขึ้นมาจะทำไงล่ะ ผมถาม
อ้อ ยูมิคิดไว้แล้วล่ะเจม ยูมิจะ....
จะอะไร?ผมถาม
จะให้เจมกินไง 
ผมว่าแล้ว ว่าภาระมันต้องมาลงที่ผม
แต่คราวนี้ผมคงต้องขอผ่านล่ะมั่ง
ผมทำหน้ามุ่ย ทำเอายูมิเริ่มคิด(เพิ่งจะคิด)
เอ มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ งั้นไม่เอาได้ไหม
นี่ครับ 40 บาท คนขายยื่นของมาให้แล้ว ดูเหมือนจะบอกไม่เอาไม่ได้เสียแล้ว
นี่แหละครับหลักการขายที่แน่นอน
รวดเร้ว แม่นยำ มันมือชก.....
ยูมิเอื้อมมือไปรับมา
หันมามองผมด้วยสายตาสำนึกผิด
เอาไงดีอะเจม แมงดาตั้งสองตัว
ไม่เป็นไรเดี้ยวยูมิทำตามที่เราบอกนะ แล้วผมก็บอกแผนไป
..............................
..................
บอย...............หิวหรือยังค่ะ ยูมิตะโกนถาม
นายบอยหันมาทำหน้าหวานใส่
ยังไม่ค่อยหิวเลยล่ะครับ ยูมิหิวแล้วเหรอ เดี้ยวบอยพาไปกินก็ได้น่ะครับ
ไม่เป็นไรค่ะ คือยูมิซื้อของสดจากทะเลมา เดี้ยวจะทำอาหารให้กินน่ะ 
ครับ โอ้ ดีใจจัง
ทำให้เรากินคนเดียวเหรอ
อือค่ะแค่บอยคนเดียว
เล่นเอานายบอยคิดไกลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลล
ยิ้มหวานเดินตัวลอยไปเลยครับ
สรุปว่าแมงดาทะเลมีทางออกแล้ว....
ท้องนายบอยไงครับท้องนายบอย
ช่วยกันภาวนาเถอะครับ
อย่าให้ถึงต้องเข้าโรงพยาบาลเล้ย 
คิดเอาเองครับ แม่ครับญี่ป่นผู้ไม่เคยแตะแมงดาเลย
กับแมงดาสดฟองยังฟอดๆเต็มปากสองตัว.........
จะรอดเหรอครับ............
ตอนนี้ผมยืนด้านหน้าเรือที่พึ่งขึ้น
นายบอยแซวผมว่าเป็นพระเอกมิวสิค
หารู้ไม่ว่าจริงๆแล้วผมยืนไว้อาลัยให้มันล่วงหน้า
..................................................
......................................
แน่นอนและชัวรเลยยูมิต้องมีใจให้กรู นายบอยพูดเบ่ง
มันประกาศต่อหน้าพวกผมทุกคน
แต่เหมือนสีสอให้....ฟัง
ทุกคนเมินเฉย บางคนก็ส่ายหน้า
มีนายโจเดินไปตบไหล่สองที
เล่นเอานายบอยยิ้มนึกว่าจะมีพวก
เพื่อนรักนายบอยบอกกับนายโจ
นายโจยิ้มให้กระซิบข้างหูมัน
มรึง เพ้อ เหรอ ว่ะ
ง่ายๆสั้นแล้วเดินออกมา
สราดดดด พวกมรึงไม่เชื่อกรูเหรอวะ เขาบอกจะทำอาหารให้กกรูกินคนเดียว
คนเดียวเท่านั้นให้ตีความหมายเอาเองเว้ย
เห้ยจริงเหรอว่ะเล่นเอานายโอ้ตตะลึง
เขาบอกเมื่อไหร่ว่ะ
ก่อนขึ้นเรือเว้ย ไม่เชื่อถามนายเจมกับมินดูได้ยินทั้งคู่
-_-“”””””
ผมอึ้ง พยักหน้าช่วยนายบอย......
ในใจผมละสงสารมันจับใจ เดี้ยวถึงฝั่งผมไม่รู้ว่ามันจะยังดีใจอยู่หรือเปล่า.....
แต่ตอนนี้ปล่อยครับปล่อย....
อย่างน้อยก็ให้มันมีความสุขไปก่อน
เหมือนนักโทษก่อนประหาร
ผมไม่รู้ว่านายบอยจะทำหน้ายังไงถ้ารู้ความจริงว่าที่จริงมันเป็น “แพะ”
ไม่ใช่ที่รักอย่างที่มันคิด
ถึงแล้วเจมสวยจังมินตะโกนเรียกผม ผมรีบเดินขึ้นกระโดงเรือไปดู
สวยจริงๆครับ
เกาะสวรรค์ที่จะกลายเป็น
ดินแดนแห่งการห้ำหั่น....................และความทรงจำความรักของใครบางคนไปอีกนานแสนนาน.....
...........................................................
......................................
ไปเลยบอยอยากไปไหนก็ไป้
เจนตะโกนลั่นพร้อมกับกระเป๋าสะพายใบเก่งของนายบอยที่เกือบโดนเขวี้ยงลงทะเล
ดีครับดีที่นายบอยมือไวคว้าเอาไว้ได้ทัน 
ใจเย็น เจนใจเย็นอย่า
ผมเดินออกมาดู
ยังกะหนังจีนเลยครับ
น้องเจนเป็น ฤทธิมีดสั้นลิ้มกิ้มฮวง เจออะไรเธอคว้าเขวี้ยงใส่นายบอยหมด
โดนบ้างไม่โดนบ้างครับ
แต่ของที่น้องเจนขว้างแต่ละชิ้นนี่สิครับของนายบอยล้วนๆ
เจ็บยิ่งกว่าโดนขว้างใส่ซะอีก
ใครมาเห็นตอนนี้จะเห็นความสามารถของนายบอยครับ
หลบไปคว้าของไปได้
ถ้าพลาดของก็หล่นทะเลเกมโอเวอร์
ผมก็ไม่ได้ห้ามหรอกครับยืนดูแล้วสนุกดี
ยิ่งเห็นสีหน้านายบอยยิ่งขำหนัก
แต่ไม่กล้าหัวเราะครับกลัวมันต่อยเอา
แต่ในที่สุดผมก็ต้องเป็นพระเอกจนได้
ทำไมน่ะเหรอครับ ก็ของนายบอยมันโดนขว้างไปหมดแล้ว
เหลือแต่ของผมที่วางไว้ใกล่ๆนายบอย
ยังไม่ทันขาดคำเลยครับน้องเจนก็คว้ากระเป๋าผมเข้าแล้ว
เวงแล้วตู ผมคิด-_-“
เจนหยุดก่อนเรื่องไรเนี่ย ค่อยๆพูดสิอย่างงี้คนอื่นเดือดร้อนนะ ผมรีบพูดห้ามทัพ
นายบอยหันมาทำตาขอบคุณที่ช่วยมัน
ผมยิ้มตอบแล้วนึกในใจว่าไม่ได้ช่วยมรึง -_-
เป็นบุญคุณก็เอาไว้ก่อนแหละครับเก็บไว้ทวง....
เจนหันมามองผมทำตาแดง
ไม่รู้เพราเห็นแก่ผมหรือโกรธจนทนไม่ได้เดินหนีไปเลย
ก่อนไปโยนกระเป๋าผมดังตุบ-_-
นายบอยทำท่าแบบให้ผมตามไปดูหน่อย
เวง................................
ทำไมผมต้องออกกองหน้าด้วยมรึงไปเองดิ ผมบอก
กรูก็อยากไปวะ แต่...... นายบอยอ้ำอึ้ง
แต่ไรว่ะ 
นายบอยหันถอดเสื้อให้ผมดู
ว้าย เอ้ย เห้ย ตูไม่ได้มีรสนิยมอย่างนั้นนะเว้ย
เวงดูที่แขนที่หน้าตูสิวะ
ผมค่อยเริ่มสังเกต ตามตัวนายบอยมีแผลเต็มไปหมด
รอยเล็บ รอยหยิก รอยตบครบเลยครับ
ก็อย่างที่เห้นตูพูดไรเขาไม่ฟังแล้ววะ นะช่วยหน่อย เพื่อเพื่อน นายบอยบอกผม
T_Tถ้าเป็นคุณจะบอกว่าไม่ออกไหมละครับ
ได้แต่จำใจ+ทำใจเดินตามเจนไปด้านหลังเรือ
เจอน้องเขามองเหม่อเงยหน้ามองทะเล
น้ำตาไหลออกมาเต็มสองข้าง
น้องเจนรู้แล้วล่ะครับว่าผมมา.....
เธอหันมามองพูดออกมาด้วยเสียงสั่นเครือ
“เจนไม่ไหวแล้วพี่ เจนจะเลิก”
...............................
....................
อะไรน่ะเจนผมถามย้ำไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
จะเลิกไงเลิกกับผู้ชายเจ้าชู้ไม่รักษาสัญญา
ถ้าเจนรู้ว่าบอยจะทำตัวหยั่งงี้อย่าหวังเลยว่าจะยอมเป็นแฟนด้วย
พี่เจมมาก็ดีฝากไปบอกบอยด้วยเลยน่ะว่า
ต่อไปนี้เราจบกัน................
ผมอึ้ง เจนหมายถึงจบกับการเป็นแฟนเหรอ
ไม่เจนหมายถึงจบทุกอย่างอั้งเพื่อน ทั้งแฟน ทั้งพี่
ต่อไปนี้เจนกับพี่บอยไม่เกี่ยวข้องกันอีกแล้ว.....
เจนจะบอกว่าเจนไม่รักบอยแล้วเหรอ
ก็ยังดีครับที่น้องเจนไม่ตอบ เธอยืนนิ่งหันหน้าไม่ยอมสบตาผม
ไม่ใช่ไม่รัก แต่เจนทนไม่ได้......
ถ้าเป็นหยั่งงี้สู้เจนไม่มีพี่บอยยังจะดีกว่า
.....................................
...........................
เจนใจเย็น ไหนลองเล่าให้พี่ฟังสิว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร ผมถามเดินเข้าไปหา
เจนก้มหน้าน้ำตากับมาไหลอีกครั้ง
ก็หยั่งงี้ล่ะน้า เขาถึงยังไม่ให้ปลอบคนเวลาเศร้า
แต่จะไม่ปลอบได้ยังไงล่ะครับ
ผมยังไม่อยากให้การพายูมิมาเที่ยวไทยครั้งนี้กร่อย...
ก็พี่บอยนะสิพี่เจม พูดออกมาได้ต่อน้าทุกคนว่า ยูมิจะทำอาหารให้กิน
แล้วเจนล่ะ เจนเป็นอะไรกับเขาพูดอย่างนี้ไว้หน้าเจนมั่งไหม
คนอื่นเขาจะคิดยังไง
เจนเป็นผู้หญิงนะพี่ จะให้ลุกขึ้นมาโวยวายเจนคงจะทำไม่ได้
เจนเลยเรียกบอยออกมาถาม เจนถามตรงๆเลยว่าคิดกับยูมิยังไง
แล้วพี่รู้ไหมพี่บอยตอบว่าอะไร น้องเจนเว้นช่วงหายใจเอาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตา
ตอบว่าอะไรล่ะเจน ค่อยๆเล่าก็ได้ผมพยายามปลอบ
คิดด่านายบอยในใจ โง่จริงๆจะจีบซ้อนต้องอย่าทำให้อีกคนรู้ตัวก่อนสิวะ
มันสมองไม่รู้มีไว้ทำไม
มีที่ไหนประกาศต่อหน้าแฟนว่าผู้หญิงอื่นจะทำอาหารให้แถมทำหน้าภูมิใจเสียด้วย
พี่บอยเขา....พี่บอยเขา บอกว่ายูมิก็น่ารักดี แล้วน้องเจนก็ซ่ะอื้นหนัก
แปลว่าอะไรล่ะพี่ น่ารักดีแปลว่าจะทิ้งเจนใช่ไหม
พี่บอยโกหก โกหกทุกอย่างเลย
เจนคิดว่าเขาเป็นผู้ชายโรแมนติค เสียสละแต่จริงๆพี่บอยไม่ใช่

ไม่ใช่ คนคนนั้นของเจนเหรอ?~ผมถาม

.............................................................
.........................................
เวลาเจนเจอผู้ชายหล่อๆเจนก็เคยมองใช่ไหม
ก็นั่นแหละความหมายเดียวกันกับที่บอยบอก
นายบอยมันก็เป็นคนแบบนี้แหละเจน
ซื่อๆตรงๆ มันคิดยังไงมันก็พูดแบบนั้น
บอยตอแหลไม่เป็นหรอก
น้องเจนก็ชอบพี่บอยตรงที่เขาเป็นคนแบบนี้ใช่ไหม?
.............................................
.................................................................
เอาล่ะพี่พูดในสิ่งที่ควรพูดไปหมดแล้ว ถ้าเจนยังไม่เปลี่ยนใจ พี่จะเดินไปบอกให้ล่ะกันว่าเจนจะเลิก ผมพูดลุกขึ้นอย่างช้าๆ แล้วก็เป็นไปอย่างที่ผมแอบคิดน้องเจนก็ฉุดแขนเสื้อผมไว้
เดี้ยวค่ะพี่เจม............
ฝากบอกพี่บอยด้วยน่ะค่ะว่า
ว่า? ผมทำท่าประหลาดใจน้องเจนไม่ได้จะห้ามผมหรอกเหรอ
ของที่เคยให้ไปไม่ต้องห่อมาคืนให้วุ่นวาย
ไม่อยากได้ก็ทิ้งขยะไป
แล้วก็ไม่ว่าบนเกาะเจนจะคุยกับใคร
จะมีหนุ่มที่ไหนมาจีบ
ขอให้ย้ำให้พี่บอยเข้าใจด้วยน่ะค่ะว่า
พี่บอยไม่มีสิทธิจะมาหึงเจน
ไม่มีสิทธืจะมาห้าม
แล้วอีกเรื่อง เจนยอมรับน่ะค่ะว่าพี่เจมพูดเก่ง เข้าใจผู้หญิง
แต่ก็มีในหลายๆสิ่งล่ะค่ะ
ที่ถ้าเจ้าตัวไม่มาพูดยังไงมันก็ไม่มีค่า มันไม่มีน้ำหนัก
.........................................................
...........................................
แล้วเจนก็หวังน่ะค่ะว่าพี่บอยจะเข้าใจคำพูดของเจนแล้วกรุณา ไสหัวไปให้พ้นๆ
แล้วก่อนที่ผมจะทำอะไรได้อีก
เรือก็เทียบท่าเสียแล้ว
เจนเห็นทีต้องขอตัวก่อนนะค่ะ เธอพูดตัดบทแล้วเดินจากไป
ไม่รู้เพราะอะไรน่ะครับ
แต่ตอนนี้ผมรู้สึกรักมินขึ้นอีกจมเลย
ผมชักจะกลัวๆผู้หญิงแล้วสิ...
ผมเดินไปสะพายกระเป๋าเพื่อจะลงเรือ
รถสองแถวสีแดงจอดคอยลูกค้าเรียบร้อย
เหมือนเป็นบริการที่ทำจนเป็นกิจวัตรกันแล้ว
เห้ยนายเจม นายบอยเรียกผมวิ่งรีบร้อนมาหา
คุยให้กรูยัง มันถาม
เออคุยแล้วว่ะ ชักลำบากใจที่จะบอกความจริงมันแล้วสิ
เออ ดีๆแล้วสรุปน้องเขาฝากบอกอะไรกรูมั่งวะ เขาไม่โกรธแล้วใช่ป่ะ
เออเขาไม่โกรธมรึงแล้ว
เห็นป่ะนายเจมเชื่อยัง น้องเจนเขารักกรูเว้ยไม่ว่ากรูเป็นยังไงเขาก็ทนได้
กรูไม่อยากจะพูด กรณีอย่างน้องเจนมีมาแล้วเป็น 10 ว่ะ หึงเพราะรักกรูเจอจนชินทำไงได้คนมันเกิดมาหน้าตาดี
ดีน่ะที่น้องเจนเข้าใจอะไรง่ายๆ ไม่งั้นกรูจะทิ้งแล้วเนี่ย อะไหล่มีเป็นร้อยวะ นายบอยโม้น้ำลายแตกฟอง
เอองั้นก็ดีว่ะ กรูกำลังกลุ้มใจอยู่เลยว่าจะบอกมรึงยังไงดี
หือ อะไรว่ะบอกอะไรว่ะ มันถามด้วยสีหน้างง
ถ้าใครไม่เคยเห็นควายทำหน้างงแล้วล่ะก็ มาดูนายบอยตอนนี้ได้เลยครับ
ประมาณว่าใช่เลยล่ะ
อ่าวอยากฟังเหรอ แน่ใจอะ
เห้ยสราดอย่าเล่นตัว พูดมาดิ
น้องเจนเขาบอกว่า ช่วยให้มรึงไสหัวไปให้พ้นๆ เขาขอเลิกกับมรึงแม้แต่เพื่อนก็ไม่อยากเป็นว่ะ
นายบอยนิ่งไป 10 วิ
เห้ยมรึงโม้ใช่ป่ะมาอำกรูงี้......
ป่าว ถ้าไม่เชื่อก็ไปถามน้องเจนเองเลยป่ะเดินมานั่นแล้ว
น้องเจนเดินมาทางพวกผมเพื่อจะไปขึ้นรถ
นายบอยหันไป
เจนเดี้ยว..................
แต่เหมือนนายบอยไม่มีตัวตน
น้องเจนเดินผ่านนายบอยไปเลยครับ
เข้าใจยังว่ากรูไม่ได้โม้ เอิ้กๆ ผมบอกนายบอย
นายบอยตีหน้าเศร้า
แบบจ๋อยไปเลยครับ
เห้ยจะเศร้าทำไมว่ะ ผมตบไหล่มัน
อะไหล่มีเป็นร้อยไม่ใช่เหรอ ได้ทีขี่หมูป่าไล่ครับ อิอิ
....................................................
เจนคร้าบพี่บอยผิดไปแล้ว
นายบอยง้อแทบกราบ
แต่เจนสิครับงอนไม่เลิก
ไม่รู้เรียกงอนได้หรือเปล่า
คือเคยเห็นกันไหมครับ สายตาแบบเย็นชา ไม่มีความรู้สึกรักเหลืออยู่เลย
แต่บอยก็ยังไม่ยอมแพ้ครับ เพราะมันเชื่อเหลือเกินว่าน้องเจนยังรักมัน น้องเจนไม่มีวันเลิกกับมันจริงๆได้หรอก
เจนขนมครับนายบอยยื่นซองขนมสารพัดสีที่หุ่นอย่างเจนไม่น่าจะกินหมดให้
เจนเงียบมองนายบอยแล้วพูดเพียวสั้นๆ
ไม่เอา ไม่อยากกิน ไปไกลๆ
โอ้...............ผมว่าเอาไม้มาตีหัวนายบอยยังเจ็บน้อยกว่าเล้ย
เจนโกรธอะไรนักหน้าก็รู้นี่ว่าบอยล้อเล่น
บอยรักใครเจนก็รู้ใช่เหรอ บอยพูดทิ้งขนมลงพื้น
นายโอ้ตเปรี้ยวครับ
วิ่งไปหยิบมาเปิดซองนึงเคี้ยวกร้วบๆ
แถมยื่นมาให้ผม
เอาสักหน่อยเว้ย ดูแกล้มหนังสด
เวงกรรม มันยังมีอารมณ์จะกิน ผมสิกลัวโปรแกรมล่มจะตาย...
.เจมเข้าไปห้ามเร็วสิ มินกับวาวาโยนแพะ
เหอ มินเจมยังรักชิวิตน่ะ ส่งไปตายชัดๆ
ใช่เจนเคยรู้ว่าบอยรักใคร
เจนแค่เคย แต่ตอนนี้ไม่รู้แล้วล่ะ
ก็เพราะบอยเป็นหยั่งงี้น่ะสิเจนเลยไม่อยากคุยด้วย อย่ามายุ่งได้ไหม
เจนพูดผลักไหล่นายบอยเดินหนีไป
ไม่รู้ด้วยอารมณ์ไหนครับ
นายบอยหยิบถุงขนมขึ้นมาจากพื้นปาใส่หัวเจน
เห้ย ผมตกใจนายบอยเล่นมุขนี้เลยเหรอเนี่ย
...............................
......................
น้องเจนหันมา สำเร็จครับสำเร็จนายบอยทำให้เจนสนใจได้แล้ว
เธอหันมามองตาเขียวปั้ด...............
นายบอย..................เจนตะโกน
เหวี่ยงกระเป๋าเดินทางใบเบ่อเริ่มใส่นายบอย(เอาแรงมาจากไหน-_-“)
นายบอยหลบเกือบพ้นครับ
เจอเข้าเต็มๆท้องลงไปนอนจุก
ผู้ชายอะไรว่ะ มองผิดไปจริงๆเลย เจนด่าหอบหายใจดูเธอโกรธมาก
เธอหันมาทางพวกผม
เล่นเอายูมิตกใจกลัวมาหลบหลังผมเฉยเลย
พี่เจม...............เจนเรียกผม
--_--“ผมไม่เกี่ยวน้า.................
ครับ..................ไม่กล้าต่อปากต่อคำกับเจนตอนนี้ได้แต่ก้มหน้ารับกรรม
สั่งสอนเพื่อนมั่งสิพี่ ถ้ามันดุมากก็อย่าปล่อยให้เพ่นพ่านแบบนี้
ผมมองนายบอยที่นอนจุกกับพื้น
ไม่รู้ว่าอะไรดลใจผม
เป็นพี่.............พี่ก็จะทำแบบบอย.............
................................
.....................
อะไรน่ะพี่เจม............พี่เจมหมายความว่าเจนผิดแต่บอยถูกเหรอ
แล้วนายที่เอาของปาหัวคนนี่ เด็กอนุบาลมันยังรู้เลยว่ามันไม่สมควร......
หรือพี่เจมไม่มีความคิด หนูหลงคิดว่าเป็นผู้ใหญ่อยู่ตั้งนาน
....................................
.................
จะพูดหยั่งงั้นก็ได้เจน พี่ไม่อยากจะฝืนใจ
แต่เจนคิดว่าดีแล้วเหรอกะเรื่องแค่นี้ 
เจนจะเลิกกับบอยโดยที่ไม่ให้โอกาศ
โดยไม่แคร์เลยเหรอว่าบอยยังรักเจนอยู่น่ะ
..........................
เหมือนจี้ใจดำเจนนิ่งไปแป็บนึง
อย่างพี่บอยนี่น่ะรักเจน มองผู้หญิงอื่น
ปาของใส่ ไม่ใส่ใจ
นี่เหรอที่พี่เจมเรียกว่ารัก
พี่เจมบ้าหรือเปล่า..................
บ้านหนูเขาเรียกว่าไม่แคร์ ไม่สนใจ
ในเมื่อบอยไม่รักหนู..................
..................
.............
......
หนูก็จะไม่รักบอยเหมือนกัน.......
มันเป็นเรื่องธรรมชาติใครๆก็รู้.
...................
เจน พี่ถามจริงเหอะ บอยบอกสักคำหรือยังว่าไม่รักเจน
พี่บอกตรงๆพี่เป็นผู้ชายพี่ยังว่าอ้บอยมันบ้าหม้อ
โง่ ขี้หลี เอาใจผู้หญิงไม่เก่ง
ขนาดพี่ไม่ค่อยดูอะไรมันมากมายพี่ยังรู้เลย
แต่เจนก็ต้องเข้าใจหน่อยสิว่ามันเป็นธรรมชาติ
พี่รู้ว่ามันไม่เหมาะสมหลงผิด
เจนดูสิดูหน้ามัน
พี่ยังต้องมานั่งวิดเคาระห์เลยว่ามันหล่อตรงไหน
ไม่แน่อาจต้องจ้องนานๆแหมือนภาพสามมิติ
เอาตรงๆสำหรับพี่ไอ้บอยมันไม่หล่อเลย
(ตอนนี้ไอ้บอยจ้องหน้าผม สายตามันเหมือนจะบอกว่าคราวนี้ถ้ากล่อมไม่สำเร็จ มรึงตาย-_-||||)
.......................
...........
ใช่แล้วพี่เจมคิดว่าเจนคบกับบอยไปทำไม
หน้าอย่างเจนนะพี่ หล่อกว่าบอยจีบเยอะแยะ
สู้เจนหาใหม่ดีกว่า
หล่อๆ รวยๆ หรู มีรถขับเยอะแยะไป
.............
.......................
แล้วเจนคบกับบอยแค่ตรงนั้นเหรอ
ตั้งแต่ต้นเจนคบกับบอยเพราะอะไร..............พี่ถามหน่อยเถอะ ผมยิงคำถามสำคัญ
...............................
.......................
..............
เพราะ...........เพราะ.........น้องเจนอ้ำอึ้ง
เพราะเจนคิดว่าพี่บอยนิสัยดีน่ารักนะสิพี่แต่.................
บอยเปลี่ยนไปนี่พี่
.........................................
เจนก็เปลี่ยนไปน่ะ อยู่ๆบอยก็พูดขึ้นมา(เสรือก)
แต่ก่อนเจนเข้าใจอะไรง่ายๆ
พูดค่ะทุกคำ......เห็นพี่เป้นพี่ชายคนนึง
ทุกคนต้องเปลี่ยนไปน่ะเจน
ไม่มีใครเหมือนเดิมตลอดหรอก ทั้งพี่แล้วก็เจน
ทุกวันเราโตขึ้นสนิทกันมากขึ้น
เจนจะหาคนใหม่เสมอเหรอถ้าแค่เขาเปลี่ยนไป ทำไมเจนไม่ลองปรับดูล่ะครับ
............................................
ไม่มีเสียงตอบ................
หรือเจนยังจะไม่คุยกับบอยกันเนี่ย

เจนพี่จะบอกอะไรเจนอยู่อย่างน่ะ
ตั้งแต่วันแรกที่พี่รู้จักเจน
จนถึงทุกวันนี้ความรู้สึกทุกอย่างของพี่ก็ยังคงเหมือนเดิม
พี่ก็ยังคงรักเจนเสมอ...........
พี่อาจจะหม้อไปบ้างบางหน
พี่ขอโทษ
ถึงมันจะเป็นธรรมชาติของผู้ชายยังไงพี่ก็จะฝืนจะเลิก เพื่อเจนตกลงไหม
พี่รักเจนน่ะ
................................
..............
เจนล่ะ รักพี่ ยกโทษให้พี่ได้ไหม.................
..............
...........................
ถ้าพูดหยี่งงี้มาตั่งแต่แรก ก็คงไม่โกรธหรอก
ก็เข้าใจน่ะว่าหวานไม่เป็นแต่หัดๆไว้มั่งก็ดีน่ะพี่บอย “คะ”
ไอ้บอยยิ้มแก้มแถบปริ
คำว่าค่ะที่ไม่ได้ยินมานานแสนนานจากปากน้องเจน
โห ไม่ต้องยิ้มเลย เจนจะพยายามพูดเหมือนเดิมน่ะเพื่อพี่
มีอะไรไม่ชอบก็ต้องบอกนะคะพี่บอย
เจนทำเพื่อบอยแล้วนะ.............. เธอยิ้มหวานให้
.........................
..................
พี่บอยก็จะทำเพื่อเจนครับพี่สัญญา

ก็จบไปอกเรื่อง ผมล่ะอดแอบยิ้มไม่ได้
ความรักบางทีก้ต้องเข้าใจในหลายๆอย่าง
บางทีถ้าเรามัวแต่มองข้อดีของอีกฝ่าย 
พอเห็นข้อเสียอาจจะรับไม่ได้ก็ได้
ต้องเข้าใจว่าอีกฝ่ายนึงก้เป็นคน
ถ้าเราเข้าใจและยอมรับในตัวเขา เขาก็จะรักเราเหมือนกัน
................
........................ 

นึกอะไรอยู่เหรอเจม มินถามผม
เปล่าเห็นคู้ของนายบอยแล้วซึ้งน่ะ ผมตอบ
อ้อ...............เจมอยากทะเลาะบ้างใช่ไหม
-_-“อ่าวไหงงั้นุ่ะมิน
คิก ทำหน้าลำบากใจเลย ล้อเล่นค่ะ ไหนเราไม่จับมือกันนานแล้วน่ะ มินบอกผผม
ใช่นานแล้ว แล้วเราก้จับมือกัน
ยังคงอบอุ่นเหมือนเดิม..........
มองดูทะเลหาดขาวน้ำใส
กลับรีสรอทืเปลี่ยนชุดดีกว่า อยากเล่นน้ำเต็มแก่แล้ว
นี่เจม...............มินกระซิบถามผม
เจมรักมินไหม..........
ผมเอียงหน้าไปกระซิบตอบเพียงเบาๆ
รักสิจ้ะ ที่รักของผม.........................
วิ่งลงน้ำครับวิ่งลงน้ำ
แดดร้อนก็ช่าง มาถึงทะเลทั้งทีถ้ากลัวดำก็คงไม่สนุก
นุ่งบ็อกเซอร์ตัวเดียวโชวท้องน้อยๆ-_-"
วิ่งลงน้ำว่ายในน้ำใสๆกับหาดทรายขาวๆ
น้ำเย็นเจี้ยบเลยครับ ขอบอกว่าสุดยอด
ของขนเข้ารีสรอท์แล้วครับ
ตอนนี้เลยปล่อยตัวสบายๆทำตัวเบาๆลอยบนน้ำ มีความสุขจริงๆ
เฮๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
พวกเพื่อนเปรต กระโดดเข้าใส่
ทำลายความเงียบในช่วงวินาที
โว้ยๆๆๆ มันโว้ยเย็นชิบเลยว่ะ นายโจตะโกนลั่น
ทำท่าเต้นบรรเร่ลใต้น้ำ
ส่วนผมแอบนึกในใจให้มันจมน้ำ
เล่นโถมตัวใส่ทำเอาสำลักน้ำไปหลายอึก......
นายบอยอาการหนักครับ วิ่งเอาห่วงยางสีดำอันเบอเร่อ(เอามาจากไหน)
โถมตัวลงน้ำอย่างร่าเริง
คุ่มค่าว่ะ คุ้มค่าที่มา.....
นายบอยตีห่วงยางป๋อมแป๋มเข้ามาใกล้ด้วยท่าทางที่น่ารัก(ไปฆ่า)เหลือเกิน....
แล้วอยู่ๆมันก็ร้องลั่น
เห้ยอย่า ไรว่ะ นายบอยอุทาน
-_-พร้อมกับนายโุ้ตที่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ยิ้มร่ามีเรศนัย
กางเกงในครายหว่า อิอิ มันควงกางเกงในว่ายน้ำสีดำ
กางเกงในใคร.........ยิ่งพูดนายโอ้ตยิ่งคึกควงไปปมา
เห้ยเกงกรูนายโอ้ตเล่นบ้าอะไรว่ะ....นายบอยพยายามว่ายมาหยิบกางเกงในคืน
แต่คิดดูสิครับคิดดู มือนึงกุมเป้าเพราะน้ำมันใส้ ใส
ถ้าไม่ปิดเดี้ยวจะเห็นหมด
ไม่ต้องปิดก็ได้เว้ยยังไงก็ เล็กเหนียงสั้นอยู่แล้ว นายโอ้ตแซว ว่ายหนีอย่างสนุกสนาน
นายเจี้ย กรูต่อยมรึงจริงๆอะจะคืนไหมว่ะ นายบอยเริ่มทำสีหน้าไม่เล่นด้วย
เออ เออ คืนก็ได้ใจเย็นเว้ย
นายโอ้ตต้องยอมจำนนเพราะกลัวปากจะมีแผล
กำลังจะยื่นกางเกงในคืน
แต่เหมือนนายบอยจะมีกรรมครับ
บอยน้ำเย็นไหมค่ะเจนมาแล้ว..........................
ม่ะ.....ม่ะ...เย็นเลยเจน
นายบอยเกิดอาการติดอ่างกะทันหัน......
หันมาทางนายโอ้ต
สราด.........เอากางเกงกรู.............คืนมาเร็ว.....มันทำปากพะงาบพะงาบ
เหมือนปลาขาดอากาศ
นายโอ้ตพยักหน้ายื่นกางเกงในคืนให้นายบอย...
โดยมีผมยืนบังใต้น้ำ
แต่ด้วยเจ้ากรรมนายเวรของนายบอยจะเอามันให้ได้ล่ะมั้ง
นายบอยคว้ากางเกงในพลาด
แล้วสายน้ำก็พัดพาเอากางเกงในตัวดี
ลอยไปตามกระแสคลื่นและแน่นอนครับลอยไปหาน้องเจนนั่นเอง.........
อยากร้องแต่ร้องไม่ออก
กางเกงในตัวเก่งลอยคว้างอยู่หน้าน้องเจน......
น้องเขามองด้วยสายตางุนงง
มันคืออะไรจรอส์
โอ้มันคืออะไรก็ไม่รู้แมรี่.........หยิบมันขึ้นมาดูซี่
น้องเจนมองไปที่วัตถุสีดำประหลาด
ทามกลางสายน้ำใสแจ๋ว
แต่ไม่รู้ว่าด้วยลางสังหรณ์หรือประสบการณ์
น้องเจนปล่อยให้มันไหลไปกับสายน้ำตามที่มันควรจะเป้น
หุ่นน้องเจนแจ๋วมากครับเล่นเอาผมมองเพลิน......
ชุดว่ายน้ำสีขาวแนบเนื้อ เผยให้เห็นร่องอกขาวๆ
แต่ที่เด็ดที่สุด
หน้าของน้องที่ทำหน้างงเล่นเอาผมหัวใจหลุดลอย
น่ารักสรัดอ่ะ.....ผมกับโอ้ตพูดออกมาเป้นเสียงเดียวกัน
น้องเจนเอานิ้วจิ้มดูครับ.....
ตรงนั้นพอดีด้วย...........และแล้วกลุ่มนางฟ้าสำหรับผมก็มา
เจมเป้นไงมั่งมินเดินมาปลดผ้าขนหนูออก....
T_Tถึงตายก็มิเสียดายชิวิต
หุ่นน้องเจนแจ่วแล้วมินแจ๋วกว่า..............
เธอแอบยิ้มที่มุมปากเป็นเชิงรู้น่ะว่าคิดอะไรอยู่
แต่นายโจโอ้ตนี่สิครับสายตาไม่ได้มองมิน
(สงสัยมองไม่ได้ไร)กลับมองยูมิตาเขม็ง
สุดยอดและยอดที่สุด....นายโอ้ตถึงกลับเพ้อ
มินกับยูมิวิ่งลงน้ำสงสัยอายมั้งครับ
แต่ก็ค่าเท่ากัน............
น้ำใสจนมองเห้นไปถึงไหนต่อไหนถ้าไม่ติดว่าต้องบังนายบอยน่ะครับ
จะรีบว่ายไปหามินแล้ว.......
แล้วก็ถึงคิวของนางร้ายที่ไม่ร้ายอย่างที่ใครๆคิด
วาวาเดินมาแล้วครับ
ใส่แว่นตาสีชมพูอันเล็กๆ
กับชุดว่ายน้ำเปิดไหล่คอขาวๆ
มีสร้อยเส้นน้อยอยู่ที่คอ
เธอเดินลงน้ำราวราชินี.....
ยิ้มหวานมาทางพวกผม...
ว่าไงใครสวยสุด..........................
เธอถาม ยากจะโหวตครับยากจะโหวต ผมโอ้ตโจยิ้มกันแก้มแทบปริ
มีแต่นายบอยนี่สิครับที่ยิ่งหน้าซีด
กางเกงในมันที่ถูกน้องเจนเมิน
กับตูดขาวๆที่ไร้สิ่งปกปิด.......
ขาวพอๆกะหน้านายบอย ที่ค่อยๆขาวขึ้นเมื่อ4สาวเริ่มว่ายเข้ามาใกล้
กรูตาย...............นายบอยบ่นกับตัวเองเบาๆ
น้องเจนช่างสังเกตซ่ะจริงๆ
ปล่าวไม่มีอะไรครับเจน.....บอยตอบยิ้มแห้งๆให้
อะไรบอยยังโกรธเจนอยุ่เหรอ ไม่เอาไม่ทะเลากันน่ะ
มาหาเจนสิค่ะ ไปว่ายน้ำด้วยกันดีกว่า....น้องเจนพยายามอ้อน....
นายบอยทำตัวลำบากครับ
เพิ่งจะโกรธกันแท้ๆถ้าทะเลาะกันตอนนี้ได้จบกันจริงๆแน่
แต่ถ้าเดินออกไปตอนนี้ ชิวิตมันก็คงจบเหมือนกัน....
แล้วที่ซวยขนาดหนักคือทุกคนพุ่งจุดสนใจมาทางมัน....
ผู้ชายก็รู้อยู่แล้วล่ะครับว่าทำไมนายบอยไม่ยอมออกไป
แต่พวกผู้หญิงนี่สิ.....
บอยไม่เอาน่า ไม่มาหาเจนเจนก็จะไปหาแล้วน่ะ เจนเธอว่ายน้ำเข้าไปใกล้...
อย่าเจนอย่า นายบอยพยายามขยับตัวหนี...
แต่นายบอยหรือจะว่ายหนีน้องเจนทัน
มือนึงพุ้ยน้ำส่วนอีกมือนึงปิดตรงนั้น....
เหมือนเอารถเต่ามาแข่งกะbm
น้องเจนว่ายจนประชิดตัวนายบอยอย่างรวดเร็วเลยล่ะครับ
เธอว่ายไปหยุดตรงหน้านายบอย
ดีตรงที่เธอปิดตาดำน้ำไปเธอเลยยังไม่เห้นสิ่งที่ไม่ควรเห็น
ผมกับนายโอ้ตลุ้นใจแทบขาด
ภาวนาอย่าให้น้องเจนเห็นต่อไป......
พวกสาวๆคนอื่นๆก็ว่ายเข้ามาใกล้พวกผม
ชิวิตนายบอยขึงอยู่บนขอบกางเกงในแล้ว...
น้องเจนมองบอยยิ้มให้
นางฟ้าตัวน้อยๆเล่นเอานายบอยหน้าแดงชา...
ไม่กล้าพอแม้แต่จะหันหลัง....
บอยมองตาเจน.............เหมือนจะถามว่า
จะรับบอยได้ไหมถ้าบอยไม่ใส่กางเกงในตอนนี้......
น้องเจนมองตานายบอยซึ้งตอบ
โรแมนติกมากเลยครับ
ไม่ได้อายสายตาประชาชีที่มองอยุ่รอบๆเล้ย....
บอย.......... เจนพูดช้าๆ....
มีอะไรปิดเจนหรือเปล่าเจนถาม....อายหน้าแดงก้มหน้าลงต่ำ.
.......................................
.........................
...............กรี้ด.................................เจนร้องลั่น
จะไม่ร้องได้ไงในเมื่อสายตาเธอมองต่ำจนมองเห็นอะไรบางสิ่งจนได้.....
เมื่อมีคนมองอะไรสักอย่าง
คนอื่นก้มักจะมองตามเป็นแถว..........
ปลาไหลลอกคราบ................เจนร้องลั่น.....
หนอนดิน.............มินเสริม
เบนโตะรสปูอัด........ยูมิพูดยกมือขึ้นมาปิดตา
วาวายืนนิ่งเงียบ..................
อัน....นิด....เดียว......เอง.....
เธอพูดสั้นๆแต่บาดใจกว่าทุกคน
น้องเจนที่เพิ่งส่งสายตาหวานซึ้ง
กลับว่ายน้ำหนี เร็วกว่าตอนที่เธอมาซ่ะอีก.....
นายบอยยืนนิ่งน้ำตารินไหล............
เงยหน้าเหมือนคนสติแตก
วันนั้นมันเกือบว่ายน้ำลงทะเลสามรอบ พวกผมช่วยกันฉุดแทบตายกว่าจะดึงมันขึ้นบกได้...
พอมันขึ้นมาเหมือนซวยซ้ำซ้อน
รถบัสของคณะทัวรมาจอดส่งผู้โดยสารพอดี
น้องหนูคนดีของนายบอยเลยได้หวัดดีคนอีกกว่า30คน......
ยังดีน่ะครับที่ไม่มีนักข่าวไม่งั้น..........มรึงดัง ผมบอกนายบอย(ปลอบใจมันน่ะนี่-_-|||)
กว่าน้องเจนจะยอมนั่งข้างนายบอยก็เล่นเสียเวลาอธิบายหลายชั่วโมง 
นายบอยมันไม่ได้อธิบายเองหรอกครับ 
ผมกับนายโจแล้วก้นายโอ้ตนี่สิต้องมาอธิบาย.... 
น้องเจนหนีไปอยู่หลังบ้าน 
นายบอยหนีเข้าไปในห้อง 
เชื่อไหมครับผมต้องวิ่งไปเอาผ้าเช็ดตัวจากโรงแรมมาให้มันนุ่ง 
มันร้องไห้ยังกับผู้หญิงโดนข่มขืน 
มันกลัวน้องเจนจะไม่คบมันอีกแล้ว.... 
แต่ผมนี่สิรับบทหนัก 
ตอนเข้าโรงแรมมันร้องไห้ใหญ่ 
คนก้มองสิครับคนก็มอง 
แล้วผมเดินคู่มากับมันคนเขาจะคิดว่าไงเนี่ย-“- 
แถมยังเข้าห้องเดียวกับมันอีก 
จะมีใครคิดว่าผมเป้นเกย์ไหมเนี่ย..... 
พอเข้าห้องมันวิ่งเข้าห้องไปเลย.... 
ให้ตายชักผมยังอยู่นอกห้องน่ะไม่ได้เข้าไปกับมัน 
เห้ยนายบอย เป็นไรว่ะเห้ยใจเย็น 
ผมนายโอ้ตนายโจพยายามเรียกมัน 
จะไม่เรียกได้ไงอ่ะครับ 
ก็พวกผมนุ่งผ้าคนหนูกันผืนเดียว 
แล้วคนก็เดินผ่านไปผ่านมาเพราะห้องผมอยู่ตรงสระว่ายน้ำจืด 
อาจไม่แปลกมากมายแต่มันหนาวนี่ครับมันหนาว..... 
ฝรั่งที่ออกเกย์ริมสระก้เริ่มมองพวกผมแล้ว.... 
ผมยิ่งเคาะประตูคนยิ่งมอง 
นายบอยเอากรูแล้วผมคิด-_-+ 
เห้ยเอาไงดีว่ะ....นายโอ้ตถามนายโจ..... 
เออเอาไงว่ะนายเจม นายโจถามผม 
เวงกรรมแล้วผมจะถามใครล่ะเนี่ย 
เออกรูว่าไปขออยู่ห้องพวกผู้หญิงก่อนดีป่ะ ผมออกความเห้น 
นายโจชำเลืองตาขึ้นมามองผม(ทำไม) 
เออเห้นด้วยว่ะ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว.... 
นายโจยิ้มพากันเดินไปเลยครับ.... 
เดินไปถึงประตูห้องมินเคาะประตูครับ 
ก๊อก ก๊อก...... 
มินเปิดประตูหน่อยครับได้ไหม.....เจมเองครับ.... 
มินเปิดประตูแบบแง้มๆจ้องหน้าผมอย่าระแวงแล้วปิดประตูไปเลย 
เห้ยไรเนี่ย มินเป้นไร.... 
อย่าเข้ามาน่ะทุเรศคิดจ่ะทำอะไรน่ะ มินบอก 
อ่าวกรรมทำไมเป้นงี้อ่ะมิน เจมไม่ได้คิดไรเลยน่ะ 
ไม่ต้องเลยเจมนี่เย็นแล้วน่ะ แล้วใส่กางเกงในมาตัวเดียวเจมคิดจ่ะทำอะไรเนี่ย 
กรรม-_-................ 
จะบอกมินยังไงดีเนี่ย..... 
มินโถ่นายบอยมันล็อคห้องเนี่ยเข้าไม่ได้มันช็อคที่เจนเห้นมันตะกี้ 
เนี่ยดูสิเราพานายบอยกับนายโจมาด้วย 
มันสองตัวเพิ่งโผล่หน้ามา 
เหมือนผมคิดผิดคราวนี้มีเสียงล้อคประตูดังกริ้กตามมาเลย 
มินยังคงดูอยู่ที่รูกุญแจมั้งผมคิด 
โถ่มิน มินก็รู้จักเจมดีว่าเจมไม่ใช่คนอย่างนั้นใช่ไหม... 
ก็เจมน่ะเป้นคนหยั่งงั้น.......มินตะโกนตอบ 
-_-“ 
มินมินไม่รักเจมแล้วเหรอ ไม่เชื่อใจเจมเหรอ 
ไม่เชื่อ.............เธอตอบแทบจะในทันที 
แล้วเรื่องก็เอวังด้วยประกาลฉะนี้ 
เมื่อผู้หญิงคิดว่าผู้ชายกำลัง “หื่น” 
เธอก็จะปกป้องตัวเอง 
มินโคตรรักมรึงเลยว่ะ นายโจบอกผม 
-_-เวงกรรมดูมันุระชดผมสิครับ...... 
ผมเลยตกลงกันว่าจะไปขอกุญแจสำรองจากห้องประชาสัมพัธ์ 
ไม่งั้นพวกผมได้เป้นหวัดตายแน่ 
แล้วประตูห้องก็เปิด 
วาวานั่นเองครับ เธอเดินออกมามองพวกผม...... 
เข้ามาก่อนสิเจมเธอบอกผม..... 
อืมขอบคุณน่ะผมกับพวกนายโอ้ตเดินตามเข้าห้องไป 
ดีใจเหมือนควายได้หญ้าอ่อน 
ตูไม่หนาวตายแย้ว ผมคิดในใจ 
พอเข้าไปก็น้องเจนมีพวกสาวๆล้อมรอบ 
แต่น้องเจนนี่สิครับดูเธอซึมๆไปเลย 
เป็นอะไรเนี่ย แค่นี้เองถึงกับต้องช็อคด้วย...... 
พวกผมนั่งลงบนเตียงฝั่งตรงข้าม 
เหมือนมีพรมแดนมาแยกระหว่างฝั่งผู้ชายกับผู้หญิงเลย..... 
มินนั่งห่างผมมากทำเอาผมไม่สบายใจ 
วาวาเดินเอาเสื้อมาโยนให้ผมตัวนึงแล้วเอาผ้าเช็ดตัวให้พวกนายโอ้ตกับโจ 
ใส่ซ่ะก่อนเดียวจะเป้นหวัดเธอบอก 
ผมหยิบเสื้อยืดมาใส่ครับ 
ถึงตัวจะเล็กไปหน่อยก็อุ่นใช้ได้เลยสำหรับคนที่ตากอากาศทะเลยามเย็นมาตั้งนาน 
แล้วอยู่ๆน้องเจนก็ถามคำถามที่เล่นเอาผมตกใจเลยครับ 
........................ 
.............. 
พี่เจมพี่บอยเป้นอะไรกันแน่ค่ะ 
ผมเกือบจะไม่ทันตอบเลยครับ 
ก็กลิ่นหอมอ่อนๆจากเสื้อของวาวาเล่นทำเอาผมใจลอยไปไกลเลย 
(ยิ่งกว่าเทวพลัส)ซ่ะอีก 
อะไรน่ะเจน ผมถามซ้ำ....... 
หนูถามว่าพี่บอยเป้นอะไรค่ะ ตั้งแต่มาทะเลเที่ยวนี้วุ่นวาย 
ลามกคิดสกปรกแทบยังบ้าบอ............เจนจะทนไม่ไหวแล้วน่ะ 
นายบอยเหรอ...........นายบอยก็เป้นแฟนเจนไม่ใช่เหรอ... 
อาจจะไม่ใช่ก็ได้ถ้าพี่เจมไม่ตอบมาตรงๆ พี่บอยเป้นบ้าอะไรค่ะ.... 
ผมก็เลยเล่าครับ 
เล่าความจริงให้น้องเจนฟัง...... 
เธอก็พยักหน้าแต่ไม่รู้ว่าจะเข้าใจหรือเปล่า 
ผมเล่าตั้งแต่นายโอ้ตดึงกางเกง 
พานายบอยเข้าโรงแรม 
เรื่องที่มันช็อค 
แล้วก้เล่าด้วยว่าทำไมถึงต้องมาอยุ่ในห้องนี้...... 
แล้วที่สำคัญก็คือเรื่องที่นายบอยเศร้า........ 
ผมว่าทุกคนก็น่าจะเข้าใจมากขึ้นนะครับ 
ดูจากสายตาของพวกผู้หญิงที่ดูเป็นมิตรขึ้น......(นิดนึง) 
โถ่ตอนแรกพวกหนูกลัวแทบตายก็พี่ยูมิบอกว่าพวกพี่น่ะเล่นยากัน 
พี่เขาบอกที่ญี่ปุ่นเวลาคนเขาเมายาจะหม้อมาก 
ไล่จับผู้หญิงไม่เลือกพวกหนูกลัวกันแทบตาย 
-“-โอ้มายก็อด......................... 
หน้าอย่างผมนี่น่ะเล่นยา 
ถ้าเป้นยาคู้ลหรือเป้นยาหยีอย่างมินค่อยน่าเล่นหน่อย 
อันหลังม่ายช่าย ม่ายช่ายน่ะ อิอิ 
ได้ไงล่ะพี่พวกหนูผู้หญิงหมด 
ไม่กล้าเปิดประตู 
ก็ดูสภาพพวกพี่แต่ล่ะคนเหมือนเตรียมพร้อมเลยอ่ะน้องเจนบอก 
แล้วสรุป..... 
พี่บอยไม่ตั้งใจใช่ไหมค่ะ 
โถ่ก็ใช่น่ะสิน้อง หน้าอย่างนายบอยเด็กป.4ยังรู้มากกว่ามันเลยพี่รับรองได้.... 
งั้นพวกพี่ปล่อยพี่บอยไว้คนเดียวจะดีเหรอค่ะ 
เดี้ยวพี่เขาคิดมากฆ่าตัวตายไปล่ะแย่เลย อิอิ น้องเจนเริ่มพูดเล่น 
แต่พวกผมนี่สิครับหันไปมองหน้ากันแทบไม่ทัน 
ซวยแล้วมรึง................. 
เห้ยนายโจกรูสังหรณ์ไม่ดีเลยว่ะ ผมบอกมัน.... 
เห้ยอย่าคิดมากนายเจม ถึงนายบอยจะโง่ งี่เง่า ปัญญาอ่อนยังไงมันก็คงไม่ถึงกับฆ่าตัวตายหรอกว่ะ 
ไอ่โจได้ทีด่าใหญ่ 
เล่นเอาผมไม่เข้าใจเลยว่ามันชมนายบอย 
หรือด่าประชดกันแน่(แต่ผมว่าน่าจะเป็นอันหลัง) 
แต่กรูว่ามันตายแน่..........นายโอ้ตพูดขึ้นมาด้วยเสียงเรียบๆ 
ถึงมันไม่ตายเพราะตัวมันเองมันก็ต้องตายเพราะกรู นายเจี้ยปล่อยกรูหนาวอยู่ด้านนอกตั้งนาน.... 
อ่าว อ่าว ไหงจุดมุ่งหมายของนายโอ้ตถึงหันเหได้ขนาดนี้ 
เห้ยไปดูนายบอยกันเถอะ ผมชวนทุกคน.... 
เออไปสิว่ะ กรูอยากห็นว่าเวลาหมูมันตายมันจะนอนยังไง นายโอ้ตถึงท้าย 
ดูท่ามันจะอาฆาตไม่เลิก 
พวกผมเลยยกคณะกับไปที่ห้อง 
นายโอ้ตตั้งชื่อคณะเรียบร้อยเลยครับ 
“กลุ่มสามัคคีรวมพลังดูหมูขึ้นอืด แห่งประเทศไทย” 
โดยมีน้องเจนเป้นประธาน 
ตอนนี้ผมงอนมินเล็กๆครับ เลยเดินห่างกันหน่อย 
ไม่ได้งอนแบบอะไรน่ะครับ 
คือผมรู้สึกน้อยใจ.............. 
มีที่ไหนครับกลัวแฟนตัวเอง 
ไม่เคยคิดจะห่วงผมเลย.... 
ขนาดวาวาไม่ใช่แฟนผมเธอยังกล้า เธอยังดูแลมากกว่ามินเสียอีก 
ขนาดตอนนี้ผมไม่สบายใจเธอก็รู้ 
เธอยังไม่คิดจะถามอะไรเลยสักคำ........... 
ไปถึงหน้าห้อง 
ผมเคาะประตูเรียกมันใหญ่เลยครับ 
ที่ไม่ให้น้องเจนเคาะเลยเพราะกลัวมันรู้ตัว เดี้ยว “หมูจะตื่น” 
กะจะให้มันดีใจที่น้องเจนมาหา 
แต่ไม่มีเสียงตอบ 
จากพวกผมกำลังยิ้มๆกันอยู่ก็ใจเสียกันเป็นแถว 
เห้ยหรือมันจะตายจริงๆว่ะ นายโจพล่าม 
ยังไม่ทันที่ผมจะด่าเล้ย มือ(หรือตรีน)น้องเจนนี่แหละก็ตบเข้าให้ที่หัวนายโจแล้ว 
มีปากเหมือนมีตรูดหยั่งงี้ ก็หุบไปเลยน่ะพี่โจ 
เล่นเอานายโจเง็ง 
ผมว่านายโจก็ฉุนล่ะครับมันไม่ชอบให้ใครเล่นหัวมัน 
แต่พอมันเห้นหน้าน้องเจนก็เลยยกให้(ล่ะมั้ง) 
ผมเห็นนายโอ้ตเอามือปิดปาก 
ผมว่ามันก็กะจะด่าแหละ แต่หุบเอาไว้ทัน 
น้องเจนไม่รอพวกผมเรียกให้แล้ว 
คราวนี้เธอทุบประตูเองเลย 
พี่บอยค่ะ พี่บอย นี่เจนเองน่ะ เปิดหน่อยค่ะ..........น้องเจนพยายามเรียก 
................................... 
..................... 
........... 
เหมือนเดิมครับที่ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ 
พี่บอยไม่เอาน่ะ เล่นงี้เจนโกรธจริงๆด้วย 
เปิดหน่อยค่ะแล้วเจนสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรพี่บอยเลย พี่บอย 
.................................. 
....................เจนเป็นห่วงน่ะค่ะ 
เหตุการณ์เริ่มไม่เข้าท่า 
ถ้านายบอยตาย.............ผมจะบอกแม่มันยังไง-_-“ 
แล้วพวกผมจะด่าใครล่ะทีนี้.... 
พังห้องเลยป่าวเจม นายโจถาม 
เห้ยไม่ได้ ไปขอกุญแจมาเร็วดิ............ 
เออไปขอมาเร็วดิ นายโจทวนคำมองซ้ายมองขวา 
อ่าว หมายถึงกรูเหรอที่ต้องไปเอา นายโจที่ตัวมัน 
เออเซ่ะ.............. 
เวงทั้งๆที่นุ่งผ้าเช็ดตัวนี่น่ะ ไม่เอาเว้ย.....นายโจโวยใหญ่ 
มรึงไม่ไปแล้วใครจะไปว่ะ เร้วดิเดี้ยวนายบอยตายจริงๆจะซวยโดยถ่วนหน้า 
เออก็ได้ว่ะกรูไปเอง...........แล้วนายโจก็วิ่งไป 
แล้วผมก็ได้ยินเสียงคนร้องไห้ 
เวงยังไม่ทันข้ามวันเ!้ยนแล้วเหรอว่ะผมคิด 
หันไปมองต้นเสียง 
อ่าว น้องเจนน่ะสิครับเธอร้องไห้แล้ว 
ทั้งยูมิ มิน เจน วาวา รวมถึงนายโอ้ตช่วยกันปลอบใหญ่ 
ไม่เอาน่ะพี่บอยจะตายไม่ได้น่ะ พี่บอย.............ไม่เอา 
................................... 
.................... 
น้องเจนฟูมฟายใหญ่ 
เล่นเอาเศร้าไปเลยครับ 
แต่มันก็ได้บทสรุปน่ะครับว่า 
น้องเจนน่ะ รักนายบอยจริงๆ 
..................... 
ผมว่านายบอยไม่น่าจะคิดสั้นด้วยเรื่องแค่นี้ 
ถ้ามันตายจริงๆแล้วตำรวจหรือนักข่าวถาม 
ผมจะให้ปากคำยังไงเนี่ย 
จะบอกเขาว่า 
นายบอยเจอแฟนเห้นของลับ แล้วต่อมาเจอคณะทัวร์ทั้งกลุ่มเห็น แล้วตัดสินใจฆ่าตัวตาย 
ตำรวจจะเชื่อไหมเนี่ย 
ผมกลัวจริงๆว่าเขาจะพาดหัวข่าวหน้าหนึ่ง 
-เด้กมหาลัยชื่อดัง ฆ่าตัวตายสยองเนื่องจากของสั้น- 
คงตกเป้นข่าวดังทั่วประเทศ 
................................. 
เหงื่อเริ่มแตก ไม่รู้เป้นเพราะร้อนหรือกังวลเกี่ยวกับเรื่องนายบอยกันแน่ 
นายโอ้ตเริ่มเครียดแล้วครับ 
เห็นมันหยั่งงี้เหมือนมันไม่ถูกกะนายบอยแต่จริงๆแล้วมันกับนายบอยก็คบกันมานานมาก 
รวมถึงผมด้วย จะบอกว่าไม่เป็นห่วงก้คงไม่ได้หรอกครับ 
ในที่สุดนายโจก็วิ่งมาพร้อมยาม(เอามาทำไม) 
พร้อมกุญแจในมือ 
กะหืดกระหอบมาไขกุญแจประตู 
น้องเจนวิ่งไปจ่อหน้าประตูต้าแต่ประตูยังไม่ทันเปิด...... 
แล้วภาพที่เห้นก็ทำเอาพวกผมเกือบหยุดหายใจ................ 
ห้องทั้งห้องไม่มีคนอยู่ 
ไม่มีแม้แต่แมงวันสักกะตัว..... 
............................ 
แต่หน้าต่างของห้องเปิดทิ้งไว้ 
หรือว่าหรือว่านายบอยจะกระโดดลงไปแล้ว 
ใจผมสั่น................วิ่งไปดู 
พยายามมองหานายบอย 
แต่เอนี่มันชั้น1 ถึงมันกระโดดจริงก็คงไม่ถึงกับตายหรอก 
หมายความว่าไงนายบอยไม่อยู่ทั้งๆที่ห้องก็ล็อค นายโอ้ตถามผม 
หรือว่า.............นายโอ้ตพูดหน้าซีด.... 
เห้ยอย่าพูดบ้าๆไม่มีทางหรอก ผมไม่พยายามเอ่ยถึงสิ่งที่มันคิด 
พวกผมต่างพากันเงียบ 
แล้วกลิ่นบางกลิ่นก็เตะจมูก 
กลิ่นเหมือนอะไรบางอย่างเน่า 
มันมาจากไหน? 
เมือ่กี้มันยังไม่มีเลย............. 
หนังหลายๆเรื่องแวบเข้ามาในหัวผม 
ขนลุกซู่ รู้สึกว่าในห้องเย็นขึ้นอย่างประหลาด..... 
มองไปข้างนอกตอนนี้ก็มืดแล้ว.... 
ลมพัดผ้าม่านปลิวไสว 
กลิ่นเหม็นรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ 
รู้สึกได้ถึงว่าต้นเหตุต้องอยู่ในห้องนี้แน่นอน 
กลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก 
คำว่ากลัวพุดขึ้นมาในหัวผม........... 
ดูเหมือนทุกคนจะรู้ตัวว่ามีบางสิ่งไม่ปรกติ 
ผู้หญิงเริ่มเขยิบเข้ามาใกล้....... 
ในห้องเงียบ............แล้วจู่ๆไฟก็ดับ!!!!!!!!!! 
.............................. 
......................... 
.................. 
ความมืดปรกคลุม ทุกคนอยู่ในความกลัว ตาผมยังไม่ชินกับแสงด้วยซ้ำ 
มันเงียบจนได้ยินเสียงหายใจ 
มินเกาะแขนผมแน่น 
แน่นจนผมเจ็บ 
แล้วเธอก็ชี้อะไรบางอย่าง 
ประตูค่อยๆเปิดออก เงาสีดำค่อยๆคืบคลานเข้ามาช้าๆที่พวกผม..... 
................ 
....................... 
........................... 
ขาแข็งอยากจะอุ้มมินวิ่งหนีแต่ทำไม่ได้....... 
เงาสีดำรูปร่างเป้นคนชัดเจนครับ ผมมันใจว่ามันต้องเป็นคนแน่ๆ 
มันมาใกล้จนเกือบเอื้อมมือมาถึงพวกผม 
ทุกคนเห้นอย่างที่คนเห้น 
และที่แน่ๆทุกคนกลัวแน่นอน 
ไม่...................อย่าเข้ามาน่ะมรึง เสียงนายโจตะโกนอยู่ในความมืด 
นายโจกำหมัดกระหน่าไปที่สิ่งนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า 
ผมกับนายโอ้ตถึงเวลากล้าก็ต้องกล้า 
ช่วยรุมเตะมันทันที 
ขอเตะผีสักครั้งล่ะว่ะ ผมคิดในใจ.... 
............................. 
หน้ากลัวจริงๆครับ สิ่งนั้นร้องโหยหวนหน้ากลัวมาก 
ยิ่งทำให้ผมกระหน่ำแรงลงไปอีก 
เตะกันซ้ำแล้วซ่ำเล่า.. 
............................ 
พวกผมรุมจนสิ่งนั้นแน่นิ่งไป 
พวกผมปลอดภัยแล้ว................................^^ 
ตอนรุมนั้นพวกผู้หญิงก็ช่วยกันเชียรดังชัดเจนเลยครับ... 
เหมือนเล่นตลกในที่สุดไฟก็ติด 
ก็ดีครับจะได้รู้สักทีว่าจริงๆแล้ว ผี รูปร่างมันเป้นยังไง......... 
ด้วยไฟที่พึ่งสว่างจ้า 
เลยใช้เวลาสักพักปรับสายตา........ 
แล้วผมก็เห้นสิ่งที่กองอยุ่ตรงหน้า 
..................................... 
...................... 
เล่นเอาผมหน้าซีดกันเป้นแถว............ 
นายบอยนอนแผ่หลาอยู่ที่พื้นเลือดกบปากร้องโอดโอย 
ไม่น่ะนายผีร้าย มันทำร้ายนายบอยเพื่อนผมถึงขนาดนี้เชียวเหรอนี่ 
........................................................ 
อูย นายบอยร้องออดๆแอดๆ 
เบาเจนเบาเช็ดเบาๆ นายบอยบ่ายหน้าหนีสำลีชุบแองกอฮอลด์อันแสนแสบ 
ไม่เช็ดก็ไม่หายน่ะสิค่ะบอย...........เจนก็พยายามประเคนสำลีใส่แผลที่มุมปาก 
นายบอยร้องลั่น เจนเบา เจนเบา..... 
หยังกะเด็กเลยบอยเนี่ย.... 
เจมขำคิกคัก..... 
ไหนตะกี้ใครต่อยกรู นายสราด นายบอยหันมาทางพวกผม 
ผมส่ายหน้าไม่รู้ไม่ชี้ทั้งๆที่จริงๆผมก็ซัดมันไปไม่กี่หมัด(จริงๆน่ะ) 
นายโอ้ตยืนยันมันไม่ได้ต่อยนายบอยเลยครับแม้แต่หมัดเดียว(ถีบล้วนๆ) 
แล้วสายตาอาฆาตก็ไปหยุดที่นายโจ 
กรูไม่ได้ตั้งใจน่ะเว้ยบอย นายโจพยายามอธิบาย.... 
เพราะมันรู้ว่ามันคงแก้ตัวไม่ขึ้น 
ก็มันเล่นร้องลั่นซ่ะขนาดนั้น 
ถ้านายบอยไม่รู้ก็โง่เต็มที..... 
............................. 
.................... 
เอ่อไม่ได้ตั้งใจแต่เต้มๆหน้ากรูเลยเนี่ย....มรึงเป้นไรว่ะ ตกมันเหรอ? 
นายบอยขอเหน็บสักนิดก็ยังดี 
โถ่ก็กรูกลัวนี่หว่า.....มรึงมาเงียบๆยังกะผีตายซาก... 
เลยเผลอไปหน่อย แหะ แหะ 
แถมมีกลิ่นแปลกๆด้วย 
ก็กรูขี้อะสราด รู้จักไหมขี้พูดมากจับยัดปากเลยนายบอยฉุนจัด 
เล่นเอาน้องเจนทำหน้าเบ้ทิ้งระยะห่าง 
โถ่เจนแค่นี้เขยิบหนี 
รังเกียจพี่เหรอครับ นายบอยถาม 
“ค่ะ”น้องเจนตอบ ง่ายๆสั้นแต่หน้าจะเข้าใจ 
โถ่เจนถ้าเป้นพี่น่ะ ต่อให้เป้นอะไรของเจนพี่บอยรับได้หมดเลยน่ะครับ 
นายบอยพยายามขอความเห้นใจ 
“ค่ะ แต่เจนไม่ใช่พี่บอยนี่ค่ะ เจมมีสมอง” 
-_-“ <<<<นายบอยเลยทำหน้าแบบเด็กมีปัญหาเลยครับ 
แล้วเคาะประตูตั้งนานทำไมไม่เปิดล่ะวะ นายโจถาม 
มันยังไม่สุดนี่หว่า......... 
จะลุกยังไงว่ะ อุตสาห์ตะโกนตอบจากในห้องน้ำแล้วน่ะ..... 
พวกมรึงมันไม่ได้ยินเองนี่หว่า 
แล้วทำไมถึงเดินโซเซเล่า นายโจสงสัยไปเสียทุกเรื่อง 
สรัดก็มันมืดมองอะไรไม่เห็น 
ตูเลยเดินออกมาคลำทางจะเอามือถือมาทำเป้นแสงส่องไง 
เนี่ยตรงโต้ะนั้น........... 
มีอะไรจะถามอีกไหมหา............. 
เออขออีกคำถามเดียวว่ะ นายโจบอกกะนายบอย 
อะไรอีกว่ะ  
นายบอยทำหน้างงๆ 
มรึงล้างตูดยังเนี่ย กรูว่ากรูได้กลิ่นแปลกๆน่ะ 
เห้ยสราดไม่ใช่เด็กแล้วนะเว้ย 
ล้างก่อนออกมาแล้ว 
เหรอแล้วกลิ่นมันมาจากไหนว่ะ นายโจถาม 
เอาแล้วคำตำนานหลอนรอบสอง 
ไม่มีใครกล้าดมหากลิ่นต้นเหตุ 
แต่นับถือนายโจจริงๆ จมูกมันไวต่อกลิ่นยังกะหมาจริงๆ 
แต่ก็หลอนกันถ้วนหน้าเลยครับ 
.................................... 
........................... 
ทุกคนเงียบ......... 
เงียบจนได้ยินเสียงหัวใจเต้นตึกตัก 
นายบอยเหงื่อแตก ราวกับมันนึกอะไรบางอย่างออก 
มันลุกเดินเข้าไปคนเดียวในห้องน้ำช้าๆ 
โอ้นายบอยโคตรกล้าหาญเลยครับ 
พวกผมทำอะไรไม่ได้นอกจากเอาใจช่วย......... 
แล้วเสียงกดน้ำดังครืนก็ดังขึ้น 
สักพักกลิ่นประหลาดก็หายไป 
เกิดอะไรขึ้นในห้องนั้นกันแน่.............. 
บอยเดินออกมาหน้าตาเงียบขรึม 
.................................... 
.......................... 
.................... 
ก้มหน้าต่ำหันมาบอกพวกผมช้าๆ 
กรู..........ลืม.........กด.........ชักโครกว่ะ 
-_-“””””””” 
ทายสิครับว่าพวกผมจะทำยังไงกับมัน นายเวงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง 
เห้ยนายเจมตื่นเว้ยตื่น ใครสักคนพยายามปลุกผม 
แต่ไม่มีวันซะหรอกครับเหนื่อยมาทั้งวันต่อให้มินมาปลุกเองผมก็ไม่มีวันจะลุกเด็ดขาด 
เห้ยนายเจม ลืมตาแป้บสิว่ะ 
นายเวงนี่ไม่เลิกพยายามมั่นตัวผมแรงขึ้น.... 
แล้วกลิ่นเหม็นอันรุนแรง(อีกแล้ว)ก็เตะจมูกผม 
มันเหม็นจนผมนอนต่อไปไม่ได้ 
ดึงตัวเองจากที่นอนด้วยสภาพตาเปิดข้างผิดข้าง 
กะว่าถ้าไม่มีอะไรสำคัญล่ะก็คนปลุกผมมันต้องตาย(เป็นแน่แท้) 
เวงจริงๆครับเปิดตามาก็เห็นหน้าโง่ๆของนายบอยยิ้มให้ 
จะว่าไปปรกติมันก็หล่อแหละครับ 
แต่ตอนนี้ผมเห้นมันยิ่งกว่ามารร้ายเสียอีก 
ด้านหลังมันบรรดาสาวกอันโชคร้าย 
ที่ถูกนายบอยปลุกเหมือนกันทำท่างัวเงียไม่ห่าง 
นายโจนายโอ้ตทำสัญญานเอามือปาดคอแล้วชี้ไปที่นายบอย 
ราวกับจะถามว่า 
“เชือดมันเลยป่าวว่ะ” 
ผมส่ายหน้า ยังไม่อยากเชือดมันครับเอาตรงๆสงสาร 
ระยะนี้นายบอยโดนบ่อยเกินไปแล้ว.... 
เออมีไรปลุกกรูอยู่นั่นแหละ 
เห้ยมรึงไม่คิดเหรอว่ะนายเจมว่ามันน่าเสียดาย นายบอยเริ่มพร่าม 
“หน้าเสียดาย?” 
เสียดายอะไรว่ะ...........ผมสังสัย 
ก็มรึงคิดเอาเองน่ะที่นี่ที่ไหนว่ะ 
ก็ห้องนอนสิว่ะ 
ไม่ใช่กรูหมายถึงตอนนี้เราอยู่ไหนกัน 
ก็สมุยไง แล้วไงว่ะอย่าบอกนะว่าจะชวนกรูไปดูทะเลตอนตีสอง 
เห้ยไม่ใช่........... นายบอยปฎิเสธ 
ก็มรึงลองคิดดูเองน่ะเว้ย ตอนนี้เราอยู่ทะเล 
ที่ที่ไม่มีพ่อแม่หรือผู้ใหญ่คนไหนจะห้ามเราได้ เราอยากทำอะไรก็ทำ 
แล้วไงว่ะ พวกผมถามพวกนายโจนายโอ้ตเริ่มสนใจ 
แล้วถัดไปจากห้องเรานิดนึงตอนนี้ก็มีสาวๆนอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่หลายชิวิต 
ไม่คิดเหรอว่ะว่าถ้าไม่ลุกมันจะโง่เกินไป...... 
...................................... 
.................... 
เห้ยมรึงหมายความว่า............ 
หมายความว่าอย่างที่มรึงคิดไง..... 
บุกปล้ำเลยชาย4หญิง4ไม่มีทางขัดขืนได้หรอก นายบอยเผยแผนการ.... 
=_=”มันคิดได้ไงเนี่ยพวกนายเวง 
เห้ยจะบ้าเหรอนั่นทั้งเพื่อนมรึงทั้งแฟนมรึงเลยนะเว้ย........ 
มรึงเมาปล่าวเนี่ย..... 
โถ่มรึงอะโง่ ก็เพราะเป้นแฟนเป็นเพื่อนนี่สิง่าย 
พอเสร้จนะเว้ยพรุ่งนี้มรึงก็แก้ตัว เพราะเมาก็แค่นั้น เขาคงไม่ใจร้ายไปแจ้งความหรอก 
.......................................... 
....................... 
เห้ยโจโอ้ตช่วยกันห้ามมันหน่อยดินายบอยมันบ้าไปแล้ว 
แต่พวกมันนี่สิเริ่มเอนเอียง 
-_-“”””””””” 
------มีสาระว่ะ------ุันพูดง่ายๆสั้นๆ 
อ่าวพวกนายเวรเริ่มวางแผนชั่วกันแล้วครับ 
มรึงพูดหยั่งงี้แปลว่ามรึงก็มีแผนสิว่ะใช่ไหมนายบอย 
เอ่อสิว่ะ ไปตรงๆมันกรี้ดสักคนก็ซวยแล้ว.....นายบอยเริ่มแสดงความฉลาด 
แล้วแผนว่าไงนายโจถาม 
แต่นายบอยยังไม่เล่าหันมาทางผม 
แถมมองด้วยหางตา 
เอาไงว่ะนายเจมมรึงจะเอาด้วยไหม 
-“-เอ้า จะให้ผมุำยังไงล่ะครับ 
ถ้าตอบว่าไม่ก้กลัวมันจะฆ่าปิดปาก 
เอาเป้นว่าผมเป้นแนวร่วมไปก่อนเดี้ยวค่อยไปหาทางหยุดทีหลัง 
แล้วถ้าหยุดไม่ได้จริงๆ 
ขอแค่ปกป้องมินไว้ได้ก่อนก็ยังดี 
ขอไว้สักคนล่ะครับ^^ 
นายบอยเลวจัดครับ มันบอกอยากลองของนอกคอยดูผมจะฟ้องยูมิ-_-+ 
สรุปพวกมรึงจะเอากับกรูใช่ป่ะนายบอยถามย้ำคะแนนเสียง 
นายโจนายโอ้ตพยักหน้ากันหงิกหงัก 
หยั่งงี้มันต้องร่วมสาบานกันก่อนว่ะ นายบอยพูดเดินเข้าไปในครัว 
สาบาน? 
แบบไหน? 
ยังไงล่ะ? 
ผมสงสัยซะแล้วสิครับ 
ผมนายโจนายโอ้ตมองตากันเลิกลั่ก 
แล้วนายบอยก็เดินออกมาพร้อมกับอะไรบางอย่างในมือ 
โค้กครับโค้ก 
มันบอกเอามาดื่มด้วยกันเพื่อให้ชิวิตมีรสชาติ 
ดื่มเลือดสาบานมันเชยไปแล้วครับ 
(แต่ผมว่าจริงๆนายบอยมันปอด) 
เวงกรรมตอนแรกผมนึกว่ามันจะไปหยิบมีดซ่ะอีก 
นายบอยเปิดกระป๋องโค้กดื่มอึกๆ 
เพื่อน้องวาวา มันบอก 
แล้วส่งต่อให้โอ้ต.......... 
เพื่อใครดีว่ะมันทำท่านึก... 
เพื่อยูมิก็แล้วกัน....ยกขึ้นดื่มแล้วส่งต่อให้โจ 
เพื่อน้องมิน นายโจพูดพลางหันมาสบตาผม 
ผมมองแบบว่าเดี้ยอวัยวะช่วงล่างจะลอย 
นายโจเลยเกาหัวทำท่า แหะ แหะ 
อ่าวไม่ได้เหรอ เปลี่ยนเป้นน้องเจนแล้วกันนายโจตอบเลิกลั่ก 
แต่นายบอยเอาตีนเขี่ย 
กรูขอสักคนล่ะกัน นายบอยพูด 
เวงกรรมแล้วจะให้กรูเอาใครเล่าเนี่ย มันบ่น 
เออ เออ เพื่อประตูห้องก็ได้ว่ะนายโจดื่มทำท่าเศร้าๆ 
เวงบุกห้องทั้งทีได้แค่ประตูห้องล่ะครับ 
แล้วนายโจก้ส่งกระป๋องมาให้ผม 
เพื่อมิน ผมพูดสั้นๆแล้วดื่ม 
เขาเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามไว้ก่อนล่ะครับ 
แล้วสรุปแผนว่าไงว่ะนายบอยผมถาม(ก็ที่นายเออ ออ มาด้วยตั้งนานก็เพื่อฟังแผนมันนี่แหละ) 
นายบอยหัวเราะในลำคอเบาๆ 
หึหึ............พวกมรึงมาดูตรงนี้สิว่ะ นายบอยพาพวกผมเดินไปที่ระเบียงห้องนอน 
มันเลื่อนประตูช้าๆแล้วชี้ไปที่ระเบียง 
มรึงดูตรงนี้สิว่ะ 
ระเบียงแต่ล่ะอันมันปีนถึงกันได้.... 
เออแล้วไงเล่า นายโจเร่งถาม 
ใจเย้นเว้ยใจเย้น เออพอมันติดกันได้ใช่ป่ะ 
อืม............ 
กรูก็ปีนได้ใช่ปะ 
อืม........... 
งี้ก้เสร็จกรูใช่ปะ 
อื้ม...............ใช่ๆ 
แล้วจะเอาไงว่ะปียระเบียงกันหมดเหรอ 
โถ่นายควายใช่ซ่ะทีไหน 
กรูนี่แหละจะปีนไปคนเดียว พวกมรึงไปรอหน้าห้องเดี้ยวกรูเปิดประตูให้แล้วเราก็จะ 
อ่ะจึ้ยกัน 
เวงกรรม-“- มีเรื่องชั่วๆพี่บอยผมล่ะเชี่ยวนัก...... 
กรูไปแล้วนะเว้ยดูต้นทางให้ด้วย มันบอกพวกผม 
นายโจนายโอ้ตพยักหน้า 
แล้วล่ะครลิงก็เริ่มแล้วครับ................ 
มันเอาเท้าเหยียบรั้วตรงที่เป้นเหล็ก 
ดึงตัวเองโหนขึ้นไป......... 
รวดเร็วจริงๆครับ 
ข้อสันนิฐานผมไม่ผิดจริงๆครับ ชาติที่แล้วนายบอยต้องเป้นลิงแน่นอน 
มันปล่อยมือตรงนู้นจับตรงนี้จนมันโหนตัวไปถึงห้องของพวกสาวๆสำเร็จ 
เย้ด....................บอยทำได้ 
พวกนายโอ้ตนายโจแทบเฮ......... 
นายบอยก้มหัวมาชูมือเป้นรูปตัววีให้พวกผมเห้น..... 
มันค่อยๆเอามือเลื่อนกระจกห้องสาวๆช้าๆ 
เลื่อนได้............... 
มันทำท่าส่งสัญญานokมาทางพวกผม 
นายโจนายโอ้ตวิ่งออกนอกห้อง 
ตรงไปทางประตูห้องสาวๆทันที 
ไม่น่ะคืนนี้จะเกิดอะไรเกินเลยเหรอนี่ 
................................ 
..................... 
ไปหยุดที่ชั้นสอง........... 
ทางเดินยาวปูด้วยหินอ่อน 
แต่ล่ะก้าวที่กระทบพื้น..ได้ยินชัดเจน..... 
จินตนาการผมล่องลอยเผลอคิดไปถึงมินที่กำลังนอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่ในห้อง 
ถ้าผมห้ามพวกนายโอ้ต มันจะเคืองผมไหม 
มันจะเลิกคบผมกันหรือเปล่า 
............................. 
แต่จะให้ผมทำยังไง 
มองพวกมันทำสิ่งที่เพื่อนไม่น่าจะทำกับเพื่อนได้เหรอ 
ผมคิดมากเหงื่อตก 
เพื่อนหรือแฟนผมต้องเลือกแล้ว 
.............................. 
แล้วยูมิล่ะ 
เธอเป้นแค่คนต่างชาติคนนึง 
เพื่อนของผม? 
เธอจะคิดยังไงถ้านายบอยทำอะไรไม่ดีไป 
ผม.......ผมจะห้ามมันยังไงดี 
................................ 
เห้ยนายเจมไม่ต้องคิดมาก มือนายโอ้ตแตะไหล่ผม 
ผมหันไปมองมัน นายโจก้หันมาทางพวกผมเหมือนกัน 
กรูรู้ว่าต้องทำอะไร แล้วก้ทำยังไง นายโอ้ตบอกผม 
-“- มันไม่ได้ชุ่ยทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นเลยให้ตายสิ 
มรึงคิดดีแล้วเหรอว่ะผมถาม......... 
เออคิดดีแล้วมันตอบแทบจะในทันที........ 
พวกผมหยุดรอหน้าห้อง 
.............................. 
ประตูเปิดแทบจะในทันที 
นายบอยมันรออยุ่นานแล้ว 
แอร์เย็นๆโชยออกมาจากประตู 
นายบอยยกนิ้วขึ้นมาให้ทำเสียงเบาๆ 
แล้วพวกผมก็เดินเข้าไปในห้องเรียบร้อยแล้ว 
เสร็จกรู นายบอยพูดเบาๆ
แต่ด้วยบรรยากาศในห้องที่เงียบกริบ 
ผมก้ได้ยินคำนี้กังงวาลในหัวหลายครั้ง 
..................................... 
นายบอยแลบลิ้นเบาๆตรงไปที่เตียงที่ใกล้ที่สุด 
ใคร มิน? วาวา? หรือยูมิ 
ไม่น่ะ >_< ผมไม่อยากคิดเลย 
แล้วไฟก็เปิดพรึบพร้อมกับนายบอยที่ดึงผ้าห่มออก 
ในผ้าห่มที่น่าจะสาวน่ารักน่ารักนั้น 
กับมีเพียงหมอนวางทับๆกันเท่านั้น 
สาวๆหายไปไหน? 
ผมแปลกใจ 
แต่ก็คงไม่เท่านายบอยนายโจนายโอ้ตที่ยืนอ้าปากข้างมองมาที่ข้างๆพวกผม 
พวกผู้หญิงยืนแอบอยู่ที่มุมห้อง 
ตอนเข้ามามืดมากเลยไม่ได้สังเกต 
ผิดเต็มๆ คราวนี้ผมตายแน่ 
หน้าสาวๆแต่ล่ะคนบ่งบอกถึงความเอาเรื่อง 
นายบอย........................เสียง(แม่)เจนตะโกนเรียกชื่อ 
ทำเอานายบอยสะดุ้งโหยง
หันไปมองเจนปากสั่น 
มะ....มัน....ไม่ใช่อยากที่เจนคิดน่ะจ้า........นายบอยพยายามให้เหตุผล 
แต่มือที่คว้าผ้าห่มยังค้างอยู่เลยครับ 
................................... 
กรณีนี้เหมือนฆ่าคนแล้วตำรวจมาเจอ 
ทั้งๆที่มือยังถือมีดแต่บอกว่าไม่ได้ทำ.......... 
กรณีแบบนี้90เปอรเซนโดนวิสามัญครับ 
เวงแล้ว-“- 
ถ้าไม่ใช่อย่างที่เราคิดแล้วเข้ามาทำไม...... 
รู้ไหมว่านี่มันห้องผู้หญิง เข้ามากลางคืนคิดจะทำอะไรก็รู้อยู่ 
บอย.........เจนรักบอยนะ 
อย่าทำให้ผิดหวังนักได้ไหม 
ทำแบบนี้เรารู้สึกแย่ๆ มีอะไรดีบ้าง? 
น้องเจนดูท่าน้อยใจมากกว่าโกรธซะอีก 
หันไปอีกทาง 
แม้แต่หน้าก็ไม่อยากจะมอง 
ผมละอยากจะฮาให้ลั่น 
สมน้ำหน้าคราวนี้นายบอยตายแน่ครับ 
ผมล่ะแอบขำในใจ 
................. 
......................... 
เจมไม่ต้องยิ้ม เสร็จจากบอยแล้วเจมโดนแน่ มินพูดเรียบๆ 
เอาแล้วเวงผมแล้ว T_T 
มันไม่ใช่อย่างที่คิดนะมิน(แถวบ้านผมเรียกกรรมสนอง) 
เจน...................บอยแค่ล้อเล่น...นายบอยบอก 
แต่ถ้าสมมุติว่ายูมิไม่รู้ตัวแล้วปลุกทุกคนก่อนก็จะเอาจริงใช่ปะ น้องเจนซักไซ้ 
ไม่ใช่นะเจน...............บอยบริสุทธิใจจริงๆ 
หรือเจนไม่เชื่อใจบอย......... 
ก็ไม่ผิดหรอกที่เจนจะโกรธ.....แต่บอยรักเจนนะเจนก้รู้ใช่ไหม 
.............................................. 
น้องเจนเดินหนี 
ไม่ ไม่ พี่บอยโกหกมามากพอแล้วเจนจะไม่ทนแล้ว 
น้องเจนทำท่าจะเดินออกนอกห้อง 
.................................. 
.......................... 
เร็วกว่าที่ใจคิด นายบอยคว้ามือน้องเจน........ 
ดึงเจนเข้ามาใกล้....กอดเจนไว้แน่นตรงนั้น 
น้องเจนทำท่าตกใจที่อยู่ๆโดนดึงเข้าไปกอด 
พยายามสะบัดตัวออก 
พี่บอยอย่า ไม่เอา คนเยอะอย่าพี่บอย...... 
แต่แรงน้องเจนหรือจะสู้นายบอยได้ 
นายบอยกอด จนน้องเจนไม่มีแรงแม้แต่จะดิ้น..... 
ทุกคนในห้องตกใจ 
แต่ก็ได้แต่ยืนดู......... 
เรื่องของใครคนนั้นก็ต้องเครียลเอง 
น้องเจนพยายามดึงตัวออกจากอ้อมแขนนายบอย 
พยายามอยู่สักพักจนนิ่งไป 
........................ 
...............................แล้วนายบอยก็เริ่มพูดอะไรกับน้องเจน.... 
พี่ไม่รู้จะบอกยังไงให้เจนเชื่อพี่ 
แต่พี่ก็เป้นคนแบบนี้ หวานไม่เป็นเจน 
พี่ก็อยากจะขออีกสักครั้ง 
ถ้าเจนรักพี่ 
เชื่อพี่น่ะได้ไหม 
เชื่อพี่สิว่าพี่ไม่เคยคิดไม่ดีกับเจน ไม่แม้แต่วินาทีเดียว 
.......................................... 
............................. 
น้องเจนยืนเงียบ 
เธอไม่พูดอะไร ได้แต่กวาดสายตามองไปรอบห้อง 
จ้องดูพวกผมทีล่ะคน 
สายตาที่เธอมองไม่ใช่สายตาที่โกรธหรือเกลียด 
แต่เป้นสายตาที่ส่งมาเหมือนจะถามว่า 
ที่พี่บอยพูดจริงหรือเปล่า? 
พี่บอยรักเจนจริงๆใช่ไหม? 
แล้วน้องเจนก้มาหยุดสายตาที่ผม 
นี่ผมต้องเอาเครดิตตัวเองไปค้ำให้นายบอยเหรอนี่ 
................................................... 
.............................. 
เพื่อนายบอยครับ(แล้วตัวผมเองด้วย) 
ถึงจะรู้อยู่เต็มอกว่ามันตอแหล 
แต่ผมก็ได้แต่พยักหน้ายืนยันให้เจนเห้นเท่านั้น 
................................. 
.................. 
เมื่อผมยืนยันว่านายบอยบริสุทธิ(บาปครั้งใหญ่เลยนะนี่) 
น้องเจนก็ทำท่าว่าจะเชื่อ 
จริงเหรอพี่บอย แค่ล้อเล่นจริงเหรอค่ะ เสียงน้องเจนเปลี่ยนไป 
ดูนิ่มขึ้นกว่าตอนแรกเยอะเลยครับ 
จริงสิเจน....................... 
เจนก้รู้ว่าพี่ไม่ใช่คนแบบนั้น 
พี่มั่นคงเสมอน่ะ 
เป้นห่วงเจนมากที่สุดด้วย พี่คอยได้เจน 
พี่จะคอยจนถึงวันที่เจนพร้อม 
วันที่เจนคิดว่าพี่เหมาะสมจริงๆ 
...................นายบอยพล่ามบทซึ้งไปเรื่อยๆ 
พวกผู้หญิงก็หลงคารมมันเป็นแถว 
แต่พวกผมนี่สิครับแทบอ้วก 
อยากตะโกนให้โลกรู้ถึงความตอแหลของนายบอยจริงๆ 
แต่นึกไปนึกว่า “ตูก็ตอแหลนี่หว่า” 
ก็เลยหุบปากไว้ครับ 
นายโอ้ตนายโจและก็ผมเหมือนของเหลวครับ 
ไหลไปได้เรื่อยๆ อะไรดีก็ตามไว้ก่อนครับ 
รอดตายแน่....... 
............................... 
แล้วน้องเจนก้อยุ่ในอารมณ์ซึ้ง 
พี่บอย น้องเจนยกมือขึ้นโอบเอวนายบอยที่โอบอยู่ 
นายบอยยิ้มเลยครับ 
นายเวงไมมันได้กำไรคนเดียวว่ะเนี่ย-_-+ 
ผมนึกด่ามันในใจ............ 
เรื่องน่าจะจบอย่างhappy 
แต่ตอนที่น้องเจนกอดนายบอยนี่สิครับ 
เหมือนนายบอยต้องซวยเสียให้ได้ 
มือน้องเจนไปสะดุดกับอะไรบางอย่างเป็นสี้เหลี่ยมกลมๆที่กระเป๋ากางเกงนายบอย 
ด้วยความสงสัยเธอจึงเอามือล้วงกระเป๋าหยิบสิ่งนั้นออกมาดู 
มันเกิดขึ้นรวดเร็วจนนายบอยคว้ามือน้องเจนไม่ทัน..... 
....................ถุงยางครับ................... 
นายบอยตายแน่!!!!! 
ผมก็ตายแน่!!!!!! (หมดกันเครดิตผม) 
นายโจ นายโอ้ตหนีไปแล้วครับ 
T_T.................................. 
ตายแน่ผม 
ได้แต่ทำใจ............ยืนปลงอยู่อย่างนั้น 
นายบอยก็เหมือนกันครับ 
สีหน้าเหมือนนักโทษประหารเลย 
คำที่มันโม้ออกไปทั้งหลายแทบหมดความหมายทันที 
น้องเจนชูถุงยางที่อยู่ในซองสีดำสวยขึ้นมา 
สายตาเธอเหมือนจะเยาะเย้ย 
เธอถามเพียงสั้นๆ 
“นี่อะไรค่ะพี่บอย” 
................................... 
....................... 
พี่ก็แค่พกไว้เผื่อได้ใช้น่ะน้องเจน..........นายบอยพยายามอธิบาย 
ใช้กะใคร? น้องเจนสวน 
อย่าบอกน่ะว่าใช้กะเจน 
ทำไมพี่บอยเป้นคนอย่างนี้ 
วันๆคิดแต่เรื่องแบบนี้ใช่ไหมค่ะ............ 
ทำไมพี่บอยไม่เคยพอ เจนไม่เข้าใจผู้ชายนะ 
แล้วเจนก็ไม่อยากเข้าใจด้วย.................. 
เดี้ยวเจน................ ผมพูดขึ้นขัด 
นายบอยมันก็แค่พก.............. 
ทำไมเจนใจแคบล่ะ มันก็ดีกว่าไม่มีไม่ใช่เหรอ 
พี่เจม...........เงียบไปเลยนะ 
หนูให้เครดิตพี่น่ะ แต่พี่ทำลายไปหมดแล้ว 
พวกพี่บอยนี่รู้กันนี่ ไม่ต้องแก้ตัวแทนเลยน่ะพี่เจม หรือพี่เจมก็อยาก 
........................................... 
มิน่าถึงตามมาถึงห้องนี้ 
กะคนไหนไว้ล่ะพี่? 
พี่มิน 
พี่วาวา 
ยูมิ 
หรือหนู? 
น้องเจนถามทำหน้ากวนๆ ผู้หญิงคนอื่นก็มองผมแปลกๆ 
นี่มันอะไรกันเนี่ย? 
เจนอย่าเกินไปน่ะ 
ผมพูดเสียงดังเกือบจะตะโกน 
เจนก็รู้นิสัยพี่นี่ พี่ไม่สนหรอก(พูดไปงั้นแหละ) 
แล้วขอร้องเหอะอย่ามองพวกพี่เลวร้ายขนาดนั้น(พวกพี่น่ะชั่วร้ายเลย) 
จะบอกให้เจนรู้ไว้น่ะ 
ว่าถ้านายบอยหรือพี่หรือคนไหนกะจะทำจริงล่ะก็ 
น้องเจนคงไม่รอดมาถึงวันนี้หรอก 
โอกาศมันมีเป้น10ครั้งเสร็จโจรไปนานแล้วล่ะ 
ถ้าน้องเจนหรือมินหรือคนไหนอยากจะงอแงงอนมากๆล่ะก็ 
ตามใจ 
พี่นายบอย หรือพวกผู้ชายคนอื่นก็จะไม่สนใจแล้ว 
ไม่อยากพูดไม่อยากคุยก็ตามใจ 
พี่เหนื่อยที่จะง้อ 
เหนื่อยที่จะเอาใจแล้ว 
น้องเจนดูตกใจ.................. 
มินมองมาที่ผม เธอก็คงแปลกใจมากแน่ๆ 
ตั้งแต่คบกันมาผมพึ่งฟิวขาดเป็นครั้งแรก 
ผู้หญิงเอาแต่ใจน่ารักน่ะครับ 
แต่ถ้าเกินไปแบบนี้ ผมสุดที่จะทน 
ผมง้อจนพวกเธอติดเป็นนิสัยแล้ว..... 
ผมฉุนไม่สนใจใครทั้งนั้น 
ทั้งมิน วาวา น้องเจน นายบอย 
ถึงมินจะไม่พูดอะไรแต่สายตาที่เธอมองผมระยะนี้มันเปลี่ยนไปมาก 
ถ้ามินงี่เง่ามากๆผมก็ไม่รู้จะทนไปทำไม 
ผมเดินออกมานอกห้องปิดประตูเสียงดัง 
ไม่สนว่าใครจะคิดยังไง.................. 
ทิ้งทุกคนไว้ข้างหลัง 
อยากอยู่คนเดียว 
ขี้เกียจที่จะกลับห้อง 
ผมเย็นๆจากทะเลพัดมาโดนหน้า 
มันไม่พอหรอกที่จะดับความโกรธของผม 
แต่มันก็ดีกว่าที่จะมายืนอยู่แบบนี้ 
ผมเดินไปที่ทะเลคนเดียว 
................................. 
........................ 
คลื่นสูงกว่าตอนกลางวันเยอะ 
แต่ก็ซัดไม่แรง ยังคงพอเหลือชายหาดให้ผมได้นั่งบ้าง 
นั่งมองทะเลสีดำ................. 
เสียงครื่นเหมือนจะคอยปลอบใจผม 
เหมือนมันจะเข้าใจทุกอย่าง 
ผมอาจจะดูงี่เง่าที่ออกมาแต่ผมทนไม่ได้ 
ทำไม...............ทุกคนชอบโยนปัญหามาให้ผมแก้เสมอๆ 
ทำไม...............ต้องมาหวังอะไรจากผม 
อยากให้ผมทำอะไรให้ 
บางทีก็มาปรึกษา 
คอยแต่เอาปัญหามาให้ผมช่วยแก้ 
กรณีอย่างนายบอย 
ผมทำอะไรผมผมอยากถามจริงๆ 
มันเพื่อนผมน่ะเพื่อนผม ผมไม่ใช่พ่อมันจะได้ห้ามมันได้ 
พอมันทำอะไรผิดทำไมต้องโทษผมด้วย 
ทุกคนเห็นผมเป็นอะไรเนี่ย 
เอนหลังลงช้าๆกับพื้นทราย 
เงยหน้ามองดูดาว 
ผมจะเลิกคิดถึงจิตใจคนอื่นสักวัน 
ผมจะเป้นผมจะทำในสิ่งที่ผมอยากทำ 
ผมเหนื่อย 
ผมไม่แคร์แล้ว 
เรื่องต่างๆให้มันไปแก้กันเองล่ะกัน 
อากาศดีมากผมถอนหายใจช้าๆ 
อยู่คนเดียวสักพักก็ช่วยอะไรได้เยอะน่ะนี่............. 
แต่ก็เหมือนเดิมนายนิสัยของผมที่แก้ไม่หาย 
เป็นห่วงคนอื่นมากเกินไป 
เริ่มนึกถึงสีหน้าที่ตกใจของแต่ล่ะคนเมื่อตะกี้ 
แล้วนายบอยตอนนี้จะโดนอะไรบ้างน่ะ 
แล้วมินจะสบายใจหรือเปล่า 
ยูมิล่ะจะอึดอัดไหม 
เพราะตั้งแต่เธอมากับพวกผม พวกผมก็ทะเลาะกันตลอด 
ไม่เอาไม่เอา ไม่คิดแล้ว ผมบอกตัวเอง 
ปิดตาลืมทุกสิ่ง 
แล้วทุกอย่างก็มืดไปพร้อมกับตาของผมที่ปิดลง................ 
.......................... 
................. 
ไม่รู้ว่าผมนอนตรงนั้นอยู่นานเท่าไรห่ 
ตอนนี้ผมแค่รู้สึกว่าหนาว 
ตัวเย็นไปหมด 
รู้นะครับรู้แต่ลืมตาไม่ขึ้นแขนขาหนักไปหมด 
เกิดอะไรขึ้นผมถามตัวเอง 
ความรู้สึกเหมือนมีคนกดทับ.....อึดอัดหายใจลำบากขึ้นทุกที 
หนาวมากขึ้นเย็นจนตัวสั่น 
ฟันเริ่มกระทบกันเบาๆ 
หายใจไม่เป็นจังหวะ 
เสียงที่หลุดออกมาจากปากก็คือหนาวเท่านั้น.............. 
เกิดอะไร?.............เกิดอะไร? 
กันแน่............ 
ผมดิ้นๆอยู่ในความรู้สึกตัวเอง 
ตามันไม่ยอมเปิดอึดอัด............... 
พยายามสุดแรงที่จะขยับตัว 
มือหนักราวกับหิน 
หนาวแต่เหงื่อออกตามคอตามมือ 
เหงื่อไหลลงมาจากหน้าผาก 
ประสาทสัมผัสทุกส่วนชัดเจน...... 
แต่เหมือนกับควบคุมตัวเองไม่ได้ 
................................. 
..................... 
ความรู้สึกเหมือนดิ่งลงไปในน้ำลึก 
ทั้งหนาวอึดอัด 
หรือผมจะตาย 
........................ 
.................................. 
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่...................... 
แล้วอยู่ๆผมก็ง่วงอย่างหนัก 
ถ้าหลับไปเลยคงจะสบายกว่านี้.......... 
.............................................. 
...................... 
........... 
....... 
..... 
... 
.. 
. 
เจม เสียงของมินดังขึ้น ใกล้ราวกับเธออยู่ข้างๆผมนี่เอง.... 
แล้วก็เหมือนโดนฉุด 
เสียงคนโวยวาย เสียงกรีดร้องตะโกน 
รู้ตัวว่ากำลังถูกอุ้ม กระเทือนไปหมดทั้งตัว 
แม้แต่หายใจยังลำบาก 
อยากนอน อยากนอนเหลือเกินตอนนี้ 
เจม เจมได้ยินเราไหมตอบสิ 
ทั้งๆที่ได้ยินเสียง แต่ก็ตอบไม่ได้ลิ้นชาแข็ง 
แยกไม่ออกว่าเสียงใคร 
เหมือนมีคนมารุมพูดอยุ่รอบตัว 
สักพักตัวก็สั่น....... 
ตอนนี้ยิ่งรู้สึกหนาวกว่าเดิมอีกหลายต่อหลายเท่า 
แล้วก็มีคนมาสั่นตัวผมแรง แรงมาก..... 
ใครกันมาเขย่าตัวคนจะหลับจะนอนไม่มีมารยาทเลย 
เห้ยนายเจม ทนไว้เห้ย ตอบกรูหน่อย 
แม้แต่ในฝันนายบอยยังตามมากวนอีกเหรอนี่ 
ขอเวลาส่วนตัวสักพักได้ไหมว่ะ 
ตอนนี้อยากอยู่คนเดียว 
ทั้งเหนื่อย ทั้งหนาว 
ล้าไปหมด ปวดตามตัวนิดๆ รู้สึกไม่อยากทำอะไร 
.................................... 
.................................... 
ไม่อยากแม้แต่หายใจ 
................................... 
...................... 
แปลกนะครับ เวลานี้ผมได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้น ตุบๆเป็นจังหวะ 
ตาผมปิด มืดไปหมด 
เหมือนอยู่คนเดียว 
เสียงหัวใจยังเต้นสม่ำเสมอแต่ก็ช้าลง ช้าลง 
เหมือนมันจะหยุดเต้น 
ไม่รู้สึกทรมานหรืออึดอัด 
เหมือนลมหายใจมันจะขาดช่วงก็แค่นั้น..... 
นี่ผมเป้นอะไรกันแน่ผมถามตัวเอง 
ตัวเบาลอย..........หูอื้อ 
แต่ก่อนสติผมจะดับไปนั้น 
ผมก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่ปลายมือ 
อาจจะไม่อุ่นมากนัก 
แต่เวลานี้........... 
สำหรับผม........... 
มันเหมือนกองไฟกองใหญ่.... 
ความรู้สึกอุ่นนั้นเหมือนจะดึงรั้งไว้ไม่ให้ผมหมดสติ 
ผมเริ่มรู้สึกได้ว่าผมกำมือกับใครสักคน 
น่าแปลกที่มือนั้นกำไว้แน่นราวกับจะไม่ให้ผมไปไหน........ 
ความรู้สึกชาที่มือดีขึ้นครับ 
แต่ความปวดกลับเข้ามาแทนที่ 
กล้ามเนื้อหดเกร็ง ตึง 
เจ็บจนร้องออกมาเบาๆ 
ขมวดคิ้วแน่น..................... 
เอานี่ไปห่มก่อน...........เสียงนายโจนายโอ้ตตะโกนบอก 
มีผ้ามาพันตัวผม 
รู้สึกว่าตัวเองลอยขึ้น มีคนอุ้มผมขึ้นรถผิดประตู 
ตอนนี้ผมนอนหนาวอยู่ในอ้อมแขนใครสักคน 
ไม่รู้ว่าคนคนนั้นคือใคร 
เพราะเธอคนนั้นไม่พูด 
ได้แต่กอดผมไว้เท่านั้น 
รู้สึกถึงความห่วงใยที่ส่งมาถึงผม 
เท้าผมยังเย็นเฉียบ ผ้าห่มพันตัวแท้ๆแต่ผ้ากลับห่มไม่มิด 
ความเจ็บปวดหายไป 
รู้สึกได้ถึงรถที่แล่นไปเรื่อยๆ 
เสียงรถกระทบกับพื้นถนนได้ยินชัดเจน 
ชัดจนถึงขนาดได้ยินเสียงเม็ดกรวดกระทกใต้ท้องรถ 
ผมหาวนอนเบาๆสีหน้าดีขึ้น 
รู้สึกว่าตัวอุ่นขึ้นทุกที 
เริ่มเปิดตาช้าๆ 
น้ำตาไหลออกมาจากตา เจ็บเล็กน้อย..........อยากจะเกาเสียจริง 
เหลือตามองไปรอบๆ 
เห็นนายบอยนั่งหน้าขับรถ นายโอ้ตนั่งข้างๆ 
เบาะหลังมีวาวานั่งทำหน้าจริงจัง ตามองถนนอยู่ 
ส่วนคนที่กอดผมจะใครซ่ะอีกล่ะครับถ้าไม่ใช่มิน 
แล้วเธอก็สบตากับผมจนได้ 
จากสายตาหมองหม่นตะกี้ 
อยุ่ๆก็พองโตขึ้น 
เธอยิ้ม............................... 
ยิ้มอย่างที่ผมไม่ได้เห้นมานาน 
น้ำตาหยดนึงอุ่นๆตกกระทบใบหน้า 
เธอกอดผมจนสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของร่างกายมิน 
ฟื้นแล้วเหรอ รู้ไหมเป้นห่วงขนาดไหนกัน...........มินพูด 
แต่ผม................. 
ทำได้เพียงสบตา 
ยิ้ม ทั้งๆที่ริมฝีปากแห้ง แตกจนได้รสเลือดอ่อนๆ 
อยากจะคุยอะไรสักคำ 
แต่เสียงมันไม่ออกมาจากลำคอเลย 
ทุกคนหันมามองผม 
พากันดีใจที่ผมตื่นขึ้นสักที................. 
ทุกคนหันมาสนใจผม รวมถึงนายบอยที่ขับรถด้วย 
จนรถเกือบลงข้างทาง 
..................... 
................ 
วาวา กับยูมิช่วยกันจับมือให้ความอบอุ่นกับผม 
พวกเธอยิ้มให้กำลังใจ 
ไม่มีใครสักคนที่จะทำท่าโกรธผมเลยสักคนเดียว 
ทั้งๆที่ผมเอาแต่ใจ ทั้งๆที่ผมไม่น่าให้อภัยเลย 
นายบอยโบกมือสงสัญญานถึงคันหลังที่ตามมา 
แล้วมันก็เทียบรถเข้าข้างทาง 
เปิดสัญญานไฟฉุกเฉิน 
นายโจกับน้องเจนก็เปิดประตูลงมาจากรถคันหลังที่มาจอดต่อพวกผม 
มีคนใส่ชุดขาวคนนึงดูแก่ๆเดินลงตามมาด้วย 
เห้ยนายเจมเป็นไร นายเจมเป้นไรว่ะ นายโจถามไม่เป็นจังหวะ 
ผู้ชายที่ลงจากรถคนนั้นเดินมาจับตามตัวผม..... 
จับทำไมว่ะเป็นเกย์เหรอผมคิด 
แต่ไม่มีแรงขัดขืน 
แล้วเขาก็หยิบไฟฉายเล็กๆที่เหน็บไว้ข้างเอวขึ้นมา 
มาส่องที่ตากับคอของผม 
อาการดีขึ้นถ้าจะช็อคไปไม่นานเท่าไหร่ 
เขาพูดดังจนได้ยินกันทั่ว 
แต่ก็ยังไม่วายอุ้มผมที่กำลังนอนงงไปที่โรงพยาบาลของเกาะอีก 
จะไม่ไปได้ไงล่ะครับ 
ก้คนคนนนั้นเล่นพูดเสียหน้ากลัว 
“ไปเช็คอาการดูว่ามีอะไร ผิดปรกติทางสมองหน่อยก็ดีนะครับ 
เราไม่รู้ว่าเขาขาดอ็อกซิเจนไปนานเท่าไรห่กัน” 
ใจคอจะไม่ถามผมหน่อยเหรอว่าอยากไปไม่ไป 
นายบอยตั้งหน้าตั้งตาเหยียบคันเร่งอย่างเดียวเลย 
นี่มันอะไรกันเนี่ย............................... 
แสงสีส้มอ่อนๆกระทบตาสายตา 
เล่นเอาผมที่กำลังหลับสบายถึงกับสะดุ้งตื่น.... 
เอนตัวขึ้นช้าบิดคอไปมา 
ให้หายเมื่อย..... 
สายตาก็เริ่มสำรวจตามที่ต่างๆในห้อง..... 
ไม่บอกก็พอเดาออกล่ะครับว่าที่นี่คือโรงพยาบาล 
สายน้ำเกลือยังโยงอยู่ที่แขนอยู่เลย 
สายลมเบาๆพัดม่านสีขาวจนปลิวไสว........ 
ในห้องไม่มีใคร 
ทั้งๆที่ผมกะว่าอย่างน้อยก็ต้องมีมินมานั่งเฝ้าผมแท้ๆ 
นึกย้อนถามตัวเองเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่.... 
ใช่ผมทะเลาะกับนาย บอย กับมิน 
ผมทะเลาะกับทุกคน 
แล้วผมก็เดินไปชายหาด 
มองดูดาว ง่วงแล้วก็หลับไป 
แต่ต่อจากนั้นผมนึกอะไรไม่ออกเลย 
แอ็ด.................. 
เสียงประตูเปิดเบาๆ มีพยาบาล(สุดสวย)ในชุดสีขาว 
ก็ยังดีที่ไม่ใช่ยมบาล-_-+ 
เดินเข้ามาพร้อมถาดใส่ยาในมือ 
เธอยิ้มให้กับผม 
ตื่นแล้วเหรอค่ะนานหรือยัง น้ำเสียงของเธอดูอบอุ่นและก็ใจดีจัง 
เธอพูดทั้งๆที่ไม่ได้มองตาผม 
เธอเดินไปขยับรวบม่านที่ปลิวให้เข้ารูป 
เอารีโมตทีวีมาวางใกล้ๆมือผม 
ขยับผ้าห่มเช็คน้ำเกลือสารพัด 
แต่ผมก็ยังไม่ได้ตอบคำถามของเธอเลย...... 
หิวหรือยังค่ะ จะกินอะไรเลยไหม เธอถามผมซ้ำอีก 
ผมอยากจะตอบนะ แต่ผมรู้สึกสับสน 
อยากจะรู้ว่าเมื่อคืน ผมเป็นอะไรกันแน่ 
ผมเหลือบตาไปที่พี่พยาบาล 
เธอยิ้มตอบ 
แปลก............เธอไม่ยักโกรธที่ผมไม่ตอบคำถาม 
เอ่อ.......พี่...... 
เมื่อคืนผมเป็นอะไร ทำไมผมถึงมาอยู่ที่โรงพยาบาลได้ล่ะครับ.... 
..................................................ผมถามพี่เขาบ้าง 
แต่เหมือนพี่เขาจะแก้แค้น พี่เขาก็ไม่ตอบเหมือนกัน 
พี่เขาก้เช็คนู่นเช็คนี่ ดูแม้แต่ในกระทั่งตู้เย็นว่ามีน้ำไหม 
พอเหมือนทุกอย่างจะเรียบร้อย 
พี่เขาก็มานั่งข้างๆผม 
ผมหันสายตาไปมองพี่เขา 
รอคำตอบที่ยังไม่ยอมบอกผมสักที-“- 
น้องน่ะเกือบจะไมได้มานั่งตรงนี้แล้วรู้ไหม 
อ่าวปากเหรอพี่..............ทำไมล่ะครับ 
แหน่ะ......พอเริ่มพูดปากก็เริ่มเสียเลยนะจะฟังไหมเนี่ย....พี่เขาพูดเสียงโกรธๆ 
-“-พยาบาลที่นี่ดุจังเลยนะครับ(อันนี่คิดในใจ) 
คิดยังไงไปนอนที่ริมชายหาด 
ไม่รักชิวิตแล้วเหรอค่ะ พี่เขาบอกผม 
....................... 
................. 
นอนชายหาดนี่น่ะพี่อันตรายถึงชิวิต ถามจริงพี่ละเมอปล่าวเนี่ย 
โถ่น้องไม่รู้แล้วอย่าพูด ไม่งั้นน้องจะมาที่นี่ได้ไง 
เมื่อคืนนะทำเอาพวกพีวุ่นวาย 
ไหนจะดูน้องที่หนาวแล้วก็มีอาการสั่น ชัก 
ไหนจะคอยกันพวกเพื่อนๆของน้องให้ออกหางจากห้องตรวจ 
ไหนจะต้องมาคอยปลอบน้องผู้หญิงอีก 
รู้ไหมพวกเธอเล่นเอาพี่แทบไม่ได้นอน 
พี่เขายกข้อมือขึ้นมาดูนาฟิกา 
เนี่ยเดี้ยวอีก15นาทีพี่เลิกงานแล้ว 
เอาเป็นว่าพี่จะเล่าให้ฟังล่ะกันว่าทำไมถึงอันตราย 
อยากฟังไหม พี่เขาถามมองมาที่ผม 
ผมพยักหน้าอยากรู้ อยากรู้มากกว่าเบอร์โทรพี่เขาซ่ะอีก 
ก็น้องนะสินอนอยู่ริมทะเล 
แถมหลับยาวด้วย............พี่เขาเริ่มพูดให้ฟัง 
แล้วทำไมล่ะพี่ ผมถามงงๆ 
คือหยังงี้นะค่ะน้อง 
เวลาน้ำมันขึ้นเนี่ย 
มันจะค่อยๆขึ้นจากเท้าก่อนใช่ไหม พี่เขาทำมือประกอบให้ดู 
แล้วน้ำทะเลที่นี่ก็เย็นมากๆ ลมทะเลก็พัดมาพอดี 
แล้วรู้ไหมว่าจะเป็นยังไง 
พี่เขาถามย้ำ 
(โถ่พี่ถ้าผมรู้-“-ผมจะมานั่งรอฟังทำแป้ะอะไรเล่า) 
ผมก็ได้แต่ส่ายหน้าอยากจะบอกตรงๆไปเลยนะนี่ว่าผมนะไม่เข้าใจหรอก 
เท้าน้องก็เริ่มเย็นนะสิ 
แล้วเท้าก็เป้นศูนย์รวมประสาทของร่างกาย 
สมมุตินะ พี่เขาเดินไปหยิบน้ำกระป๋องมาจากตู้เย็น 
แล้วเดินมาจับแขนผม 
เอากระป๋องแตะเล่นเอาผมสะดุ้ง 
ก็มันเย็นนี่ครับ พี่เล่นไรเนี่ย 
ผมทำหน้าแบบว่าเก็กซิม-“- 
เห็นไหมร่างกายจะมีปฎิกิริยา เพราะความรู้สึกมันส่งตรงจากร่างกายไปยังสมอง 
แต่น้องดูนี่น่ะค่ะ พี่เขาเอามือลูบน้ำข้างกระป๋องมาแปะที่แขนผม 
ความเย็นอ่อนๆเท่านั้นที่ผมสัมผัสได้ 
คราวนี้พี่เขาก้ค่อยๆเอากระป๋องตะกี้แตะไปที่เดิม 
แปลก0_o 
คราวนี้มันกับไม่ค่อยจะเย้นเลยครับ 
เขาเรียกว่าการปรับสภาพร่างกาย พี่เขาอธิบายต่อ 
อย่างตอนจะฉีดยาหมอเขาก็จะนวดบริเวณที่จะฉีดก่อน ก็จะทำให้เจ็บน้อยลงไงค่ะ 
แล้วเวลาคนเราหลับนะจะยิ่งกว่านี้อีก 
ความรู้สึกเราจะไม่ไวเท่ากับตอนตื่นหรอกค่ะ.... 
พอเท้าเย็น ความรู้สึกเราก็ช้าลง 
ถ้าอากาศร้อนน้องคงสะดุ้งตื่นไปแล้ว 
คราวนี้จากเท้าน้ำก็ค่อยๆขึ้นมาถึงบริเวณหน้าอก 
ก็เหมือนเอาซาลาเปาที่พึ่งนึ่งเสร็จไปแช่เย็นไงค่ะ.... 
ถึงด้านในจะยังอุ่นแต่ด้านนอกก็แข็งไปแล้ว 
ร่างกายคนเราเปราะบางมาก....... 
แค่อุณหภูมิผิดปรกติไปสัก4-5องศาก็เกิดผลข้างเคียงแล้ว 
น้องเล่นแช่ในน้ำทะเลเป็นชั่วโมงเลยนะค่ะ 
ก็เลยเกิดอาการสั่นตัวเย็น เกร็งของกล้ามเนื้อ..... 
อุณหภูมิของร่างกายลงต่ำกว่าที่มันควรจะเป็น.... 
อย่างเวลาเราหนาวมากๆเราจะรู้สึกง่วงแล้วหลับไปเลย.... 
น้องก็ประมาณนั้นแหละค่ะ 
ดีน่ะที่มีคนเห้นก่อนที่น้ำจะขึ้นจนไปถึงหัว 
เพราะถ้าตอนนั้นถึงจะรู้ตัว 
ร่างกายที่แช่อยู่ในน้ำนานๆ 
ก็เหมือนคนเป้นตะคริวล่ะค่ะ 
น้ำลึกแค่เข่าก็ตายได้แล้ว.................. 
พี่เขาเล่นพูดขู่ทำหน้าจริงจัง............... 
แต่ผมนี่สิครับตะลึงเลย..... 
วิชาพยาบาลเขาสอนล้ำลึกขนาดนี่เลยหรือนี่ 
หรือพี่เขาจะดูหนังมากไปแล้วมาโม้ให้ผมฟังหว่า-“- 
ผมทำท่างง ................ 
มีอะไรจะถามอีกไหมค่ะ พี่เขาถามย้ำ(อีกแล้ว) 
เอ่อพี่ครับแล้วเพื่อนๆผมไปไหนเหรอครับ ผมถามพี่เขา 
เพื่อนหนูเหรอ? 
พี่ไม่แน่ใจนะ เมื่อคืนตอนที่พวกเพื่อนน้องพาน้องมาส่ง 
คือแบบว่าเอะอะวุ่นวายมาก 
โดยเฉพาะคนที่อุ้มน้องมาที่อ้วนๆหน่อย 
พี่เลยตะเพิด(ใช้คำว่าตะเพิดเลยนะครับ)กลับไปหมดแล้วเนี่ย..... 
เวงกรรม 
ไม่ต้องบอกก็คงจะรู้นะครับว่าคนที่โวยวายนะก็นายบอยนั่นแหละ 
เอ่อพี่ขอตัวก่อนนะค่ะ พี่เขาหันมาบอกผมแล้วเดินออกน้องห้องไป 
มาไวไปไวจริงๆพยาบาลที่นี่ 
พอพี่เขาออกไปในห้องก็เงียบ 
..................................... 
.............................. 
........................... 
เอนหลังกะจะนอนต่อแต่ตาก็ไม่ยักหลับ 
ผมเลยคิดนู่นคิดนี่ไปเรื่อยๆ 
เวลาอยู่คนเดียวนี่มันเหงามากเลยน่ะครับ 
อย่างน้อยก็น่าจะมีสักคนนะที่อยู่เป้นเพื่อนผม 
แต่ก็นั่นแหละผมมันไม่ดีเอง 
ไปตะคอกใส่พวกมัน 
ไม่แน่ตอนนี้มันอาจจะพากันโกรธ อาจจะไม่สนใจผมแล้ว 
ที่พวกเพื่อนๆพาผมมาโรงพยาบาลก็คงแค่หน้าที่ล่ะมั้ง..... 
ถ้านายเจมมันตายคงบอกพ่อมันไม่ถูก 
ทุกคนคงคิดแบบนั้น 
พรุ่งนี้พวกผมก็จะกลับแล้ว 
เพราะยูมิเขาจะอยู่ไทยอีกแค่สามวันเท่านั้นเองครับ 
นึกไปนึกมายูมิมาไทยเที่ยวนี้ผมแทบจะไม่ได้พาเธอเที่ยวเลย 
เหมือนพาเธอมาเจอแต่ปัญหา 
แต่อย่างว่าแหละครับ 
แม้แต่มินที่เป้นแฟนผมแท้ๆผมยังไม่รู้เลยว่าจริงๆเธอคิดอะไร 
ทุกคนยังเห้นผมเป้นคนสำคัญหรือเปล่า 
ผมเอาแต่ใจไปใช่ไหม 
นึกถึงเพื่อนๆทุกคน 
ถึงนายบอยจะบ้าบอ ลามกขนาดไหน 
มันก็คบกับผมมานาน นานจริงๆ 
แต่ผมก็ยังนึกรำคาญมันหลายๆครั้ง 
ผมก็พึ่งรู้นะครับว่ามันก็สำคัญกับผมไม่น้อย อย่างน้อยมันก็รักเพื่อน 
มันจริงใจกับผมเสมอ 
นายโอ้ตก็เหมือนกันถึงจะพูดน้อยแต่มันก้คอยดูแลเพื่อนๆ 
อย่างตอนจะสอบหรือเพื่อนมีเรื่องมันจะออกหน้าให้ก่อนเสมอ 
นายโจ นายนพ นายทอมแล้วก็อีกหลายๆคนที่ไม่ได้มาด้วย 
เพื่อนมันสำคัญขนาดนี้เชียว 
ผมพึ่งรู้สึกตอนผมไม่มีใครนี่แหละ 
อาจเพราะผมไม่เคยอยู่คนเดียวล่ะมั้ง 
ผมเลยมานั่งวิจารญ์เพื่อน นั่งตินู่นตินี่ 
ทั้งที่จริงๆผมไม่น่าจะไปพูดถึงให้มันเสียน้ำใจ 
ไม่ว่าใครจะเป้นยังไง นิสัยแบบไหน 
ยังไงก็เป้นเพื่อนผม 
ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเมื่อก่อนเลยว่าจะมัวคิดมาก คิดแบ่งแยกไปทำไม 
อยากย้อนเวลากลับจะได้ไม่ต้องมานอนเหงาคนเดียวแบบนี้ 
มิน............ 
วาวา......... 
ยูมิ............. 
เพื่อนผู้หญิงที่ผ่านมาในชิวิตผม 
โดยเฉพาะมิน 
ผมอาจจะเรียกร้องจากเธอมากไปล่ะมั้ง 
ผมต้องการให้มินรักผมมากๆ 
เป้นห่วงผม คิดถึงผม 
แต่ผมกลับไม่เคยนึกถึงมินเลย................. 
ผมก็คงจะหวาน กับคนที่ไม่หวานกับผมไม่ได้เหมือนกัน 
ช่วงนี้ผมไม่ค่อยมีเวลาให้ 
ขนาดจะออกไปกินข้าวกับมินสักมื้อสองต่อสอง 
ยังนับครั้งได้เลย 
ผมมัวแต่ทำงานแล้วก็เรียน 
ก็ไม่แปลกหรอกถ้ามินจะทิ้งผม 
หรือเธอจะมีใครคนใหม่สักคน............ 
ผู้หญิงต้องการใครสักคนดูแล............ผมยังจำคำที่วาวาเคยพูดกับผมได้อยู่เลย 
ยังดีที่มินยังไม่ทิ้งผม...............หรือแค่เธอรอเวลากัน? 
ผมพึ่งรู้ตัวกับความห่างของผมกับมิน.......... 
คนที่งี่เง่าไม่ใช่มินหรอก 
ผมนี่แหละทั้งงี่เง่า...............โง่............และบ้าที่สุด..... 
วาวาก็เหมือนกัน 
ผมมัวแต่จับคู่เธอให่คนนู้นคนนี้ 
ทำตัวห่างเหิน.......... 
ผมก็รู้ตัวว่าผมทำตัวไม่เหมือนเมื่อก่อน.... 
ไม่ว่าผมจะพยายามแค่ไหน....... 
วาวาอาจจะไม่ได้ชอบผมแล้วก็ได้ 
เธออาจมองผมแบบเพื่อน...........เพื่อนสนิท 
แต่ผมกับไม่ค่อยเปิดใจรับเธอเลย 
โดยเฉพาะตอนอยู่ต่อหน้ามิน 
ผมเย็นชาโดยชัดเจนเลย................. 
เธอถามคำ ผมก็ตอบคำ 
ใช่มันอาจจะดีสำหรับความรู้สึกของมิน 
แต่สำหรับวาวาล่ะ?เธอจะรู้สึกยังไง 
ยูมิอีกคน............ 
เธออุตสาหมาไกลถึงญี่ปุ่น 
เหตุผลก็เพื่อมาเยี่ยมผม............... 
ผมที่สัญญาไว้อย่างดิบดี แต่กลับดูแลเธอให้ดีไม่ได้ 
มาเที่ยวแบบนี้สู้เธอเดิน ชินจุกุที่นู่นจะไม่ดีกว่าเหรอ 
ผมปล่อยเอไว้คนเดียวนานเกินไป........ 
ก็เพราะผมเอาแต่ใจ 
อยากให้คนนู้นเป้นอย่างนู้นอย่างนี้.... 
มานึกๆดูคนที่เลวที่สุดแล้วเอาแต่ใจที่สุดก็ผมนี่แหละ.......... 
ปิดตาไม่อยากนึกถึงมัน 
สมแล้วที่ต้องนอนเหงาคนเดียว 
สมแล้วที่จะไม่มีคนสนใจ 
เหงาแบบนี้แหละดี 
จะได้รู้คุณค่า 
คุณค่าของสิ่งที่เสียไป................. 
แล้วก็รู้สึกถึงมือที่มาแตะหน้าผาก 
สะดุ้งเปิดตาแทบจะในทันที 
ภาพที่อยู่ตรงหน้าผม 
มินกำลังเอามือแตะหน้าผากสายตาเธอดูเป้นห่วงผมเหลือเกิน 
เจมเป็นอะไรค่ะมีไข้เหรอ 
ผมมองไปรอบๆยูมิกำลังแกะห่อข้าวต้ม 
ส่วนวาวาเธอก็ยิ้มให้ผม............. 
นายบอยนายโอ้ตนายโจยืนอยู่ข้างเตียง 
ผมหันไปมองเพิ่งเห็นหน้านายบอยเอ๋อขนาดนี้เป็นครั้งแรก 
มันทำยังกับจะวิ่งออกไปตามหมอได้ตลอดเวลา....... 
ผมอายจนหน้าแดง.............. 
นี่ตูเพ้อขนาดนี้เลยเหรอนี่(คิดในใจ) 
แต่ในใจนี่สิผมปลื้ม 
ปลื้มจนแทบทะลักออกมาข้างนอก 
น้ำตามันไหลออกมาเองจากข้างตา...... 
ผมกำมือมินไว้ไม่ยอมปล่อย....... 
พวกเพื่อนๆเหมือนรู้ใจครับ 
เห้ยออกไปกินข้าวเช้ากันนะมินดูแลนายเจมไปก่อนล่ะ นายโอ้ตเป็นหัวขบวน 
พาเพื่อนๆออกนอกห้องไปหมด 
ตอนนี้เลยเหลือแค่ผมกับมินเท่านั้น........... 
มินยังยืนมองผมอยู่สายตาเธอดูเขินๆ 
เขินเหมือนตอนที่ผมจับมือเธอครั้งแรก..... 
ผมรอจนคนสุดท้ายออกจากห้อง 
ก็นายบอยนั่นแหละครับนายบอย(นายเวงนี่จะรอดู) 
พอประตูปิด 
น้ำตาที่อั้นไว้ก็ไหลลงทั้งสองแก้ม 
ผมพยายามกลั้นน้ำตา 
พยายามที่จะควบคุมตัวเอง....... 
แต่ยิ่งห้ามมันก็ยิ่งไหลเพิ่มขึ้น 
เจมร้องไห้ทำไมค่ะ มินถามเธอนั่งลงข้างๆผมตรงมานั่งตัวเดิมนั่นแหละ 
ไม่รู้สิ..............ผมตอบ 
ตอนนี้อารมณ์ผมมันสับสน 
ดีใจที่พวกเพื่อนๆยังไม่เปลี่ยนไป ไม่มีใครโกรธคนงี่เง่าเอาแต่ใจแบบผม 
โล่งใจ ที่ทุกอย่างไม่เป้นอย่างที่ผมคิด...... 
มาคิดๆดูชิวิตที่ไม่มีมินผมคงอยู่ไม่ได้ 
แต่ผมกับทำให้มินเสียใจเสมอๆ 
ผมกำมือมินแน่น............ 
มินเราขอโทษนะโกรธเราหรือเปล่า ผมถาม............... 
................................................ 
..................................... 
......................... 
โกรธทำไมค่ะเรื่องอะไร...เธอถาม 
ก็เรื่องที่เราด่าทุกคน เรื่องที่เราเอาแต่ใจ เรื่องที่เราไร้เหตุผลหนีออกมา 
ผมมองหน้ามิน.......... 
เธอก้มลงต่ำ ไม่หรอกเจมไม่มีใครโกรธเจมหรอก 
พวกมินตั้งหากที่ต้องขอโทษ 
วันนั้นพอเจมไปทุกอย่างก็แทบจะจบทันที 
น้องเจนหายโกรธบอยแทบจะในทันที 
แต่มินนี่สิช็อคเลย 
มินไม่เคยเห็นเจมโกรธอะไรขนาดนี้...... 
มินเลยมาลองทบทวนดู 
มินก็เพิ่งรู้นะว่ามินไม่ค่อยได้สนใจเจมเลย..... 
มินห่างเจมเกินไป 
มินยังไม่เปลี่ยนหรอกน่ะมินขอโทษ...... 
......................... 
.................. 
เจมก็ขอโทษ ผมบอกมิน 
................... 
......................... 
คำสั้นๆของผมกับมิน มันทำให้พวกผมยิ้มได้อีกครั้ง..... 
แต่ตลกสีหน้าทุกคนมากเลยเจม 
ตอนที่บอยวิ่งๆไปบอกพวกผู้ชายว่าเจมโกรธ 
เล่นเอาวิ่งตามหากันยกใหญ่.... 
แต่ที่แปลกก็คือหาเจมไม่เจอเลย 
ตอนแรกคิดว่าเจมคงอยุ่ที่ไหนสักที่ในรีสรอท์นี่แหละ 
ทุกคนวิ่งตามหาให้ว่อน 
โดนด่าก็เยอะ เพราะว่ามันดึกแล้ว 
แต่ไม่มีใครสนใจหรอก 
อยากเจอเจม อยากจะขอโทษเจมแค่นั้น 
มินรู้สึกอย่างนั้นจริงๆนะ 
แล้วมินก็เชื่อว่าทุกคนก็คิดไม่ต่างกันกับมินหรอก 
มินเอาแต่ใจเกินไปมินก็รู้น่ะ มินพูด 
ผมส่ายหัวช้าๆมินไม่ได้เอาแต่ใจหรอก........ 
เรื่องปรกติ 
ผู้หญิงก็เป็นหยั่งงี้เกือบทุกคน.......... 
เจมไม่เคยโกรธเพราะเจมก็รักมินที่เป้นแบบนี้แหละ 
ผมพูดจนมินเพลอยิ้ม 
แล้วเธอก็เล่าต่อ..........เล่าเรื่องที่ผมไม่รู้.......... 
เรื่องที่ผมสมควรจะรู้ไว้.... 
หลังจากพยายามกันแล้ว 
ก็หาเจมไม่เจอเลย พยายามถามพวกพี่ยามเขาก็ไม่เห้นเลย.... 
ตอนนั้นแหละที่ความรู้สึกเป้นห่วงมันวูบขึ้นมาจากข้างใน.... 
เจมเป้นอะไร เจมไปไหนมินโวยวายนะถามทุกคน 
มินด่าไปทั่วเลยล่ะเหมือนคนบ้าเลย 
มินเป้นห่วงเจม เป้นห่วงแทบบ้า 
มินด่าทุกคนพาลไปทั่ว 
มินด่า ด่า ด่า จนพอใจ 
แต่เล่นเอาทุกคนเงียบไปเลย 
โดนเฉพาะบอย พอมินด่าจบ 
เขาทำท่าเหมือนจะร้องไห้ 
บอยคงรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนผิด 
เขาวิ่ง วิ่งหาเจมแทบจะในทันที 
พวกเราตะโกนเรียกแบบไม่เกรงใจใครเลย....... 
แต่ก็ไม่มีเสียงตอบ................. 
บอยวิ่งหาจนเหงือ่ท่วม 
แล้วไม่รู้มินคิดไปเองหรือเปล่า 
มินเห็นนะว่าเหงื่อมันไหลออกมาจากตาของบอยด้วย 
จนคิดว่าทั้งรีสรอท์ไม่เจอเจมจริงๆแล้ว 
ก็เริ่มมานั่งคิดกันว่าเจมน่าจะไปไหนได้ 
รถที่ขับมาก็ยังอยู่........... 
ไม่น่าจะออกไปไกล...... 
จนโจโพลงออกมานั่นแหละ ทะเล คำเดียวสั้นๆ 
ทุกคนก็รีบไปทันที........ 
สายลมตอนกลางคืนริมชายฝั่งพัดจนขนแขนลุก 
แต่พวกเราก็ไม่สนหรอก 
พยายามมองไปรอบๆ 
น้ำทะเลสีดำ...........เท้าย่ำไปบนหาดทรายสีขาว 
มินกลัวนะ กลัวว่าภายในทะเลอันมืดมิดนี่ 
จะมีเจมอยู่................... 
มินไม่คิดว่าเจมจะทำอะไรบ้าๆ 
แต่ถ้ามีล่ะ................... 
มินเล่าถึงตอนนี้เธอก็เริ่มสะอื้น.......... 
ตาแดงเสียงแตกพร่าเหมือนจะเล่าลำบาก 
ผมดึงมินเข้ามากอด........ 
ไม่ตอ้งเล่าต่อก็ได้น่ะผมบอก.... 
ไม่เป็นไรเจม ขอมินเล่าให้จบเถอะ เจมจะได้รู้ว่าเจมสำคัญนะ สำคัญจริงๆ 
เธอสะอื้นเบาๆในอ้อมอกผม 
มินร้อนใจมาก 
คงไม่ต่างจากทุกคน 
ไม่มีคนพูด ................... 
สมาธิทั้งหมดทุ่มเพื่อหาเจม................. 
มินรู้สึกตอนนั้นนะ ว่าถ้าเจมเป้นอะไรไปมินคงเสียใจตลอดชิวิต... 
มินเป้นคนรักที่ใช้ไม่ได้เลยใช่ไหมเจม 
เธอยิ้มเล็กๆ เป้นยิ้มที่เศร้าเหลือเกิน 
ผมส่ายหน้า ไม่เคยคิดกับมินว่าไม่ดีเลย 
ไม่ว่าวันนี้หรือไม่ว่าวันไหนก็ตาม 
และก็คงไม่มีวันคิดแบบนั่นด้วย 
ไม่มีวัน...................... 
คนที่เจอเจมคนแรกก็คือโจ 
เขาเจอเจมที่โผล่พ้นน้ำทะเลมาแค่หัว 
เห้ยเจมส์ มันตะโกน 
ทุกคนวิ่งมารวบแทบจะในทันที 
บอยเป้นคนอุ้มเจมเลยนะ 
อุ้มโดยไม่ถามอะไรสักคำ ไม่ห่วงว่าชุดจะเปียก.... 
ไม่สนจะให้ใครช่วย ทั้งๆที่พื้นเป็นพื้นทราย 
เดินธรรมดายังลำบากเลย 
บอยอุ้มเจมไปที่ห้อง ทุกคนก็เดิมตามกันไป 
ช่วยกันคนละไม้คนล่ะมือ 
เจมสั่น สั่นมาก 
ริมฝีปากม่วง.............. 
หน้าเจมซีดมากเลยตอนที่แสงนีออนกระทบ 
หน้าขาวซีดเหมือไม่มีเลือดเลย 
มินกลัว กลัวมากเลยนะตอนนั้น................. 
เอาผ้ามาห่มแต่เจมก็ยังไม่หยุดสั่น 
นายบอยกอดเจมไว้แน่นเลย 
พยายามทำให้เจมอบอุ่น 
แต่เหมือนไร้ผล...................... 
เจมก็ยังสั่นไม่หยุดเหมือนเดิม 
เจมรู้ตัวไหวว่าเจมพูดออกมาสั้นๆคำเดียวเท่านั้น 
“หนาว” 
เอาไงดี นายบอยถามทุกคน 
พามันไปโรงบาลเหอะ นายโอ้ตเสนอความคิด....... 
แล้วก็พากันอุ้มเจมขึ้นรถ 
ขับออกนอกรีสรอท์ยามค่ำคืน 
เหลือบดูนาฟิกา แต่ละวินาทีดูจะผ่านไปช้าเหลือเกิน 
ทุกคนเงียบไม่พูด 
รถขับกันตามมาสองคัน........... 
มินมองไปที่เข็ม 160!!!!!! 
ถึงมันจะดึกแต่เราก็ขับกันเร็วมากจริงๆ 
ปรกติมินคงห้ามโอ้ตขับแล้วล่ะว่าให้ลดความเร็วลง 
แต่ตอนนั้นนะเจม 
ตอนนั้นมินกลับรู้สึกว่า มันเร็วไม่พอ................ 
กว่าจะถึงโรงพยาบาล 
เวลาที่ผ่านไปแต่ละนาที แต่ละวินาที 
มันทรมานมากเลย........ 
ถ้าจะให้เลือกนะ มินอยากเป้นคนที่เจ็บแทนเจมมากกว่า..... 
อาจจะฟังดูเวอร์นะ... 
แต่มินรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ 
พวกบอยโอ้ต ทุกคนพากันคอยถามหมอ 
ทั้งๆที่รู้ว่ามันจะเป้นการรบกวนคนไข้ 
เป้นการกวนทำงานของหมอ 
แต่ความรู้สึกที่มีเจม 
มันเป้นห่วง 
มันอยากรู้ อย่างน้อยก็ยังดีที่จะได้ยินจากปากของหมอว่า 
“คนไข้ปลอดภัยแล้วครับ” 
แต่ก็ไม่มีใครตอบคำถามพวกเราสักคน 
ยิ่งถามก็เหมือนตัวเองเป้นส่วนเกิน 
ยิ่งรู้สึกว่าพยาบาลจะคอยมาบอกเหลือเกินว่าให้กลับไป 
แต่ก็ไม่มีใครกลับเลยสักคน 
ไม่มีใครบังคับใครนะ 
ทุกคนอยากจะอยู่........... 
จนในที่สุดพยาบาลก็ออกมาบอกคำสุดท้าย 
กรุณากลับไปเถอะค่ะคุณหมอจะได้ทำงานได้เต็มที่.... 
ถึงจะใช้คำว่ากรุณาก็เถอะ 
ตีความหมายมันก็ไล่กันดีๆนี่เอง 
บทสรุปคือต้องจำใจกลับ.................... 
ก็คิดอยู่เหมือนกันว่าถ้าเจมตื่นขึ้นมาแล้วเจมไม่เจอใคร 
ตัวเจมจะรู้สึกยังไง 
จะเหงาหรือเปล่า......... 
ได้แต่หวังว่าเจมจะเหงา............. 
เพราะมินกลัวนะเจม..............กลัวเจมจะไม่ตื่นขึ้นมามากกว่า............ 
เหมือนคำพูดมินจะติดขัด 
เธอขอตัวไปช่วยแกะข้าวต้มให้พวกเพื่อนๆทาน......... 
หลบตาผม........... 
ผมยังนอนนิ่งได้ฟังก็ยิ่งเข้าใจ.......... 
ต่างคนต่างโทษตัวเองว่าผิด 
แต่ไม่รู้สิ ทำไมผมกับรู้สึกนะ 
รู้สึกเหมือนว่าไม่มีใครผิดหรือสมควรจะเอ่ยคำขอโทษสักคน.......... 
ก็เหมือนความคิด 
เราอาจจะคิดว่าการเล่นหัวใครสักคนเป้นสิ่งไม่ควร 
แต่ในความรู้สึกของอีกหลายๆคน 
มันกับกลายเป้นเรื่องปรกติ............ 
เป้นการแสดงความสนิทสนมด้วยซ้ำ.... 
เราอาจจะแค่มองต่างมุม 
แค่ความคิดไม่ตรงกันก็เท่านั้น............... 
ผมมันคิดว่าทุกคนไม่ห่วงผม 
แต่ที่จริง................. 
ผมนั่นแหละที่ไม่ค่อยห่วงทุกคน 
ผมอยากให้ทุกคนเป้นอย่างที่ผมคิด......... 
อาจฟังแต่ผมกับรู้สึกว่าคนผิดจริงๆแล้วเป็นผม 
นายบอยเดินมาเกาะข้างเตียงถามสั้นๆ 
หายหรือยัง มันถาม 
อือหายแล้ว...............ผมตอบ 
มันก้มหน้า ตายยากวะ.................เล่นเอากรูเป็นห่วงไปหมด 
เออขอโทษวะที่ไม่ตาย ผมตอบ-_-“มันยังกวนไม่เลิก 
เออไม่ตายล่ะดีแล้ว ถ้ามรึงตาย....... 
ใครจะคอยช่วยกรู ใครจะคอยดูแลกรู ใครจะทะเลาะกะกรูวะ....... 
นายเจม.................. 
ห้ามหัวเราะนะมรึง มันบอกผมสีหน้ามันจริงจังมาก 
ผมตกใจ(มันจะเล่นไรว่ะผมคิด-“-) 
ได้แต่พยักหน้าตอบส่วนเท้าเตรียมกระดิกใส่มันเต้มที่ 
กะจะเตะเท่าที่แรงมีก็ยังดี 
กรูขอโทษ............ขอโทษจริงๆ.......มรึงอย่าโกรธกรูนะ 
นายบอยบอกผม...........เล่นเอาผมตะลึง 
พูดไม่ออกได้แต่ยิ้มให้มัน 
เห้ยยิ้มไมว่ะมรึงเป้นเกย์เหรออยู่ๆมายิ้มให้กรูเนี่ย 
เอากะมันสิครับ กวนอวัยวะช่วงถัดจากข้อเท้าได้ตลอดเวลาจริงๆ 
(รอหายก่อนมันต้องโดน) 
แล้วทุกคนก็เข้ามาล้อมๆผม 
ต่างพากันขอโทษผม 
ผมค่อยๆสบายใจกับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น.......... 
ความจริงแล้วในหมู่เพื่อนมันไม่มีศักดิ์ศรี 
ไม่มีใครใหญ่หรือใครดีกว่าใคร.... 
เพราะกว่าจะมาเป็นเพื่อนกัน................. 
กว่าจะรู้ใจกัน 
กว่าจะมีกันและกันแบบนี้ 
ต้องอาศัยเวลา 
ความเข้าใจ และอะไรต่อมิอะไรอีกหลายอย่าง................ 
พูดไปอาจเหมือนน้ำเน่า............... 
แต่คำว่าเพื่อนมันเกิดขึ้นโดยความรู้สึก และจบด้วยความรู้สึกเหมือนกัน........ 
อย่ามาจับผิดว่าเพื่อนเป็นยังไง 
เพราะไม่ว่ามันจะเป็นยังไง 
จะดี........ 
หรือจะเลวขนาดไหน............ 
เพื่อนก็ยังเป้นเพื่อนอยู่ดี 
ผมก็ขอโทษทุกคนตอบ 
ขอโทษจากใจ บอกความรู้สึกที่ผมมีให้ฟัง 
พูดไปพูดมาพวกผู้หญิงก็ทำท่าเหมือนจะร้องไห้.......... 
เราเลยหยุดพูดเรื่องนี้ไป......... 
แต่ถึงจะหยุดพูดผมว่ามันก็ได้ผลนะ 
ทุกคนเข้าใจกันมากขึ้น.............. 
ไม่โกรธกับเรื่องเล็กน้อยไม่ทะเลาะกันอีก 
แล้วไม่รู้ผมคิดไปเองหรือเปล่า ผมว่านายบอยบ้าน้อยลงเยอะเลย 
วันสุดท้ายที่อยู่ที่สมุย 
เราร่วมกันจัดปารตี้ริมชายหาดเล็กๆ 
เสียงเพลงเบาๆจากวิทยุ กับสายลมอ่อนๆของทะเล 
เสียงไฟจากเตาย่างกุ้งย่างปลา 
ดังเปี้ย เปี้ย พร้อมกับกลิ่นของปลาย่างที่ฟุ้งกระจาย 
เรานั่งกันเป็นคู่ๆ 
ร้องรำทำเพลงกันสนุกสนาน............ 
กองน้ำอัดลมสารพัดสีวางกองรวมกันไว้ 
ยังไม่รวมเหล้ากับไสปด์ แล้วก็บาคาดี้ เหล้าสีฟ้าอ่อนๆอีกหลายขวดที่นายบอยสรรหามา 
ให้(มอม)ผู้หญิงโดยเฉพาะ............... 
พูดคุยเล่าเรื่องรอบกองไฟจนเวลาเริมดึก........ 
ผมก็เพิ่งรู้ตัวนะว่าคนมันหายไปกันหมด 
นายบอยแยกไปกับน้องเจน.............. 
วาวาแยกไปโทรศัพท์หานัท 
สองหนุ่มโอ้ตโจพายูมิขับมอไซด์ที่ยืมมาตะเวรทั่วเกาะ 
บอกจะให้เธอซาบซึ้งกับบรรยากาศเมืองไทย 
ตรงนี้เลยเหลือผมกับมินนั่งกันเงียบๆสองคน 
ดูเหมือนมินก็รู้ตัว......... 
ดูเหมือนทุกคนจะทิ้งเราไปหมดแล้วนะเจม มินพูดยิ้มเล็กๆให้ผม 
อือ.........ผมตอบ 
ถ้าจะไม่กลับมาจนเช้าล่ะมั้งนายพวกนี้.............-_- 
งั้นก็หมายความว่า............ 
คืนนี้เจมจะอยู่กับมินใช่ไหม มินพูดพร้อมกับหน้าที่เจือแดงๆเพราะฤทธิเหล้าในมือ 
(ไหนบอกจะไม่กินไง) 
อือ.........ก็คงหยั่งงั้น............. 
โถ่เจมอย่าเอาแต่อือสิค่ะ มินลุกขึ้นย้ายมานั่งข้างๆผม......... 
เธอจ้องผมแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ 
เล่นเอาผมสับสน อะไรติดหน้าผมอะป่าวเนี่ย-“- 
แต่มินก็ยิ่งหน้ารัก เธอเบียดผมนิดๆ 
คงเพราะลมเย็นของชายทะเลที่พัดมาล่ะมั้ง........... 
เจม..........รู้ไหมผู้หญิงต้องการอะไร มินถาม 
เล่นเอาผมตกใจ(กึ่งดีใจ) 
เล่นเอาผมตอบไม่ถูก 
อะไรล่ะมิน.......... 
ผู้ชายหล่อๆเหรอ ผมตอบ 
มินส่ายหน้าว่าไม่ใช่............ 
งั้น.........รถดีๆบ้านหลังใหญ่ๆล่ะ 
ผมตอบอีกพยายามเฉไปเรื่องอื่นเอาให้มันสูงกว่าระดับเข็มขัด 
มินก็ยังส่ายหน้า จ้องหน้าผมเหมือนจะถามว่ายังไม่เข้าใจอีกเหรอ 
ผมกลืนน้ำลาย กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ 
โชยออกมาจากตัวของมิน 
นี่ก็จะนอนแล้ว เธอใส่น้ำหอมทำไมกันน่ะ............... 
ตบหน้าตัวเองสองทีเรียกสติกลับ........ 
อะไรล่ะผมถามสั้นๆ............ 
ผู้หญิงจริงๆแล้วน่ะ 
............................. 
...................... 
“ต้องการแค่ใครสักคนที่จะรักเขา และเขาสามารถรักได้จริงๆเท่านั้นเอง” 
เจมอาจจะไม่เข้าใจน่ะว่ามินจะสื่อถึงอะไร 
แต่มินก็ดีใจน่ะที่ได้รู้จักเจม........ 
ได้อยู่ใกล้ๆเจมแบบนี้.... 
เจมไม่เคยเรียกร้องอะไร 
อยู่ใกล้ๆมิน ดูแลมินเสมอๆ 
มินก็เคยคิดเล่นๆน่ะ ว่าถ้ามินไม่สวยไม่น่ารัก 
เจมจะยังเป้นหยัง่งี้หรือเปล่า 
หรือจะเกลียดมินไปเลย............. 
ไม่เกลียดหรอก ผมลูบหัวมิน........... 
เจมชอบมินที่มินเป้นมินนี่แหละ 
มินไม่ต้องเปลี่ยนตัวเองน่ะ............ 
มินจะเป้นยังไง จะน่ารักหรือไม่น่ารัก 
เจมก็จะยังชอบมิน 
เจมจำได้น่าว่าเคยสัญญาไว้..... 
นี่เจมยังจำได้อยู่อีกเหรอมินถามผม ทำท่าประหลาดใจ 
อืม จำได้สิจำได้แม่นด้วย 
ไม่งั้นจะเรียกว่าสัญญาเหรอ...... 
เจม............. 
มินขออะไรอย่างสิ........เจมจะทำให้มินได้ไหม 
ผมยักไหล่.......... 
เอาสิถ้าทำได้ก้จะทำให้ 
แน่น่ะ มินถามย้ำ 
จ้า......แน่สิ.........(ชักเสียวๆ) 
งั้นบอกว่ารักมินสักคำได้ไหมมินอยากได้ยิน 
อ่าวมินอารมณ์ไหนเนี่ย 
อย่าทำหน้าอย่างงั้นสิสัญญากับเราแล้วนะ..... 
อืม................ 
เรารักมินน่ะ................ 
เอาเป็นว่าผมกลับกรุงเทพแล้ว(ไวมะ) 
ที่ผมไม่เล่าตอนกลับเพราะมันออกจะธรรมดาไม่มีอะไร(ความจริงคนเขียนมันขี้เกียจ) 
ก็นายบอยหายซ่า 
มินก็กลับมาอ้อน 
นายโอ้ตนายโจก็ปรกติอยู่แล้ว(ถ้าไม่มีนายบอยเป็นแกนนำ) 
ทุกคนก็เข้าใจกัน 
ผมก็น่าจะดีใจน่ะครับ......... 
ที่อะไรๆมันเป็นได้อย่างใจผมคิด 
แต่ไม่รู้สิครับผมกับเหงาๆยังไงก็ไม่รู้ 
พอนั่งเรือถึงฝั่งก็ขึ้นรถคันเดิมที่จอดทิ้งไว้ 
(นานมาก) 
จนฝุ่นจับมีคนเอาอะไรต่อมิอะไรไม่รู้เยอะแยะมาสุมไว้เยอะแยะไปหมด..... 
ทั้งกองขยะ 
เศษฟางหนังสือพิมพเก่าๆ..ถุงพลาสติก 
มีแม้กระทั้งรองเท้านันยางเก่าๆที่วางอยู่หน้ารถพอดิบพอดี 
1ข้าง 
สงสัยคงมีคนหมั่นใส้พวกผมตอนลงรถแน่ๆ 
(อาจมีแรงจูงใจมาจากนายบอย ^_^”) 
เพราะรถคันอื่นดูจะปลอดภัยดี 
ถึงรถผมจะจอดห่างจากรถพวกนั้นก็เหอะ..... 
หรืออาจจะมีคนมาเริ่มทิ้งก่อนซะคน 
แล้วคนอื่นก็เลยตามน้ำ............... 
เห้ยรถกรู....................นายโอ้ตสะอื้น 
เดินเข้าไปปัดอะไรต่อมิอะไรสารพัดออกจากรถ 
ปัดไม่ปัดเปล่าครับ 
มันบ่นอะไรงึมงัมๆก็ไม่รู้ 
แต่ดูจากสีหน้าแล้ว 
ถ้าไม่สาปแช่งก็ด่าพ่อใครบางคนอยู่แน่ๆละครับ 
ลำบากพวกผมอีกแล้วที่ต้องไปช่วยกันเอาเศษขยะออกจากรถ 
เหม็นจื้บหายเลย...........นายบอยบ่น 
แต่คราวนี้ไม่มีคนแขวะมันเลยครับ..... 
ก็มันเหม็นจริงๆ 
หลังรถกะบะมีกองแอปเปิ้ลเน่าๆน้ำเยิ้มไปหมด 
ตอนที่จับตระกร้ายกขึ้นมาเล่นเอาผมปิดจมูกแทบไม่ทัน 
ผมขอไม่บรรยายนะครับ 
เกรงใจคนอ่านหลายคนที่กำลังจะไปกินข้าวหรือกินอยู่แน่ๆ 
(คือถ้าผมบรรยายก็ชอบเอาแบบให้เห็นภาพชัดเจนไปเลยนิสัยไม่ค่อยดี อิ...อิ.... 
ก็ยังดีน่ะครับก็ยังดี 
ที่มันยังไม่มีหนอนมาช่วยเติมสีสันมากกว่านี้...... 
ไม่งั้นคงมีอ้วกปิดซิงรถนายโอ้ตแน่ๆเลยอะครับ....... 
(แค่นี้หนูก็แย่แย้ว>_< 
พวกผู้หญิงทำน่าเบ้กันใหญ่ 
ยิ่งมินด้วยแล้ว 
เธอถอยหลังพรวด 
ยังกะท่า 
มูนวอคเกอร์ ของไมเคิล แจ็คสัน 
ใจจริงผมก็อยากจะถอยด้วย^^” 
แต่เห็นน่านายโอ้ตแล้วทำมะลงครับ....... 
สงสารมันชิบ................. 
นายโจเดินไปตบหลัง.... 
เห้ยอย่าคิดมากคิดในแง่ดีสิว่ะ.......มันบอก 
เล่นเอาผมเงี่ยหูฟัง 
มือก็พลางช่วยโยนขยะลงข้างๆรถ...... 
ก็นึกสนใจสิครับว่ามันถึงขนาดนี้แล้วจะคิดในแง่ดีได้ยังไง (สามารถจริงๆ) 
นายโอ้ตมองหน้านายโจ 
แง่ดี? นายโอ้ตทวนคำพูด 
สภาพงี้นะจะมีแง่ดี มรึงใช้สายตาข้างในของมรึงมองวะ.... 
เอาแล้วครับเอาแล้วนายโอ้ตไม่รับมุข 
อย่างน้อยมันก็ไม่ได้ขูดรถมรึง นายโจเริ่มชี้แจง... 
ไม่ได้ปล่อยลมยาง 
กระจกข้างไม่แตก........ 
ก็แค่เลอะล้างก็หายแล้วว่ะ 
เนี่ยตรงนู้นมีปั้ม เดี้ยวมรึงก็เลี้ยวเข้าไป 
ให้เขาล้างให้ ทิปเขาเยอะๆหน่อย(ย้ำว่าเยอะๆ) 
แล้วก็นั่งกินข้าวกัน 
พอดีเสร็จจะได้ขับรถกลับกรุงเทพ 
ได้ผลครับได้ผล....นายโอ้ตเริ่มยิ้มออก 
เออ ออ ไปกับนายโจ(ซะงั้น) 
นี่ล่ะครับที่เขาเรียกว่าการปลอบอย่างมีปัญญา 
กลบจุดเสียด้วยการยกจุดที่เสียกว่ามาประกอบทำให้ดูดีขึ้น 
กฎนี้ใช้ได้จริงๆน่ะครับ 
ถ้ายกตัวอย่างง่ายๆ 
ถ้าผู้หญิงคนนึงไม่สวยเลยหน้าตาก็งั้นๆเอาเป็นว่าแค่พอดูได้.... 
แต่พอเธอเดินอยู่กับกลุ่มเพื่อนๆที่ดูเลวร้ายกว่า 
เธอจะดูสวยขึ้นมาทันตาโดยไม่ต้องแต่งเติมเลยครับ...........(Amazing) 
คงจะเคยเจอใช่ไหมครับที่ผู้หญิงเดินมาเป็นกลุ่มแล้วเห็นสวยเด่นอยู่คนเดียว 
หลงจีบแทบตาย 
พอนัดเจออีกรอบถึงขนาดต้องย้อนถามตัวเอง 
“ว่าตูหลงจีบไปได้ไงกันฟะ” 
............................................... 
............................ 
....................... 
น่ากลัวนะครับกรณีนี้....................... 
หลงผิดนะครับหลงผิด 
ขยะชิ้นสุดท้ายได้ถูกโยนลงจากรถ 
รู้ไหมครับว่าอะไร? 
กางเกงในครับกางเกงใน-“- 
ห้วย.................. 
เจริญจริงๆครับคนเรา กางเกงในมันยังอุตสาหหอบมาทิ้ง 
ผมทายว่าสีเดิมของมันน่าจะเป็นสีขาว 
ส่วนสภาพมันตอนนี้ไม่สามารถระบุได้แน่ชัดครับ 
มันมีสารพัดสีดูสวยงาม 
ส่วนก้นมีสีเหลือๆคล้ายๆกาแฟ 
ขอบข้างกางเกงที่หลุดเป้นเส้นฟอยเล็กๆ 
ตัวข้างประกอบด้วยสีดำผสมกับสีเทาอ่อนๆ 
จากการสันนิฐานเบื้องต้นน่าจะเป็นรา...... 
ที่เป้ากุงเกงมีพืชจำพวกมอสขึ้นสีเขียวอ่อนๆ 
อาจเพราะมีสารอาหารที่จำเป็นบางชนิดที่สนับสนุนให้พืชพวกนี้เติบโตเป็นอย่างดี 
................................................... 
........................................ 
ส่วนกลิ่นผมยืนยัน นอนยันได้เลยครับว่าเลวร้ายมากๆ 
ขนาดแอปเปิ้ลเน่ายังไม่แย่ขนาดนี้เลย...... 
ถ้าสูดดมเข้าไปในระยะประชิดสัก3วินาทีละก็ 
อาจจะได้กลายเป้นอดีตให้คนแถวสมุยกล่าวขานกันก็ได้....... 
ว่านายนี่ตายเพราะกางเกงใน0_o 
............................................ 
......................................................... 
กะจะแจ้งตำรวจแล้วครับว่ามีการพบอาวุธชิวะภาพมาวางทิ้งไว้ 
นายโจที่เป้นคนเอาไม้มายกมันไปทิ้ง 
ขนาดมันกลั้นหายใจ+ทำใจก่อนแล้ว 
ยังอ้วกยังกะคนแพ้ท้อง 
น่าจะเห็นภาพมันตอนวิ่งกลับมา 
ยังกะทหารแพ้สงครามยังไงหยั่งงั้น....... 
หลังจากเอาวัตถุอันตราย(กางเกงใน)ไปวางไว้ในระยะปลอดภัยแล้ว(ประมาณ5ช่วงรถ) 
มันก็ฝอยให้พวกผมฟังว่า... 
นายนั่นนะไม่ใช่กางเกงในหรอก 
มันคืออาวุธเชื้อโรคตัวล่าสุดที่ซัดดัมคิดค้นขึ้นเพื่อจะทำลายประเทศมหาอำนาจคู่แค้น(สงวนชื่อ) 
โดยทำการทดลองกับไทยก่อน(ว่าไปนั่น)-_-“ 
......................................................... 
........................................... 
ปั้มน้ำมันอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ 
แค่ประมาณ4ต้นเสาไฟฟ้าย่อยๆ 
เป้นเหตุให้ทุกคนขอเดินไปจะดีกว่า 
เพราะตอนนี้ขึ้นไปได้เน่าแน่ๆครับ.......นายบอยก็ไม่ว่าอะไร 
ยิ้มอย่างเข้าใจ 
ผมว่ามันก็อยากเดินไปกับพวกผมด้วยแหละ 
แต่ทำไงได้ครับ 
ก็รถมัน มันก็ต้องขับไปเอง.................. 
ไม่ใช่ว่าผมทิ้งเพื่อนน่ะครับ 
แต่ขนาดผมแค่ช่วยเอาขยะออกจากรถมัน.......... 
กลิ่นน้ำหอมที่ผมบรรจงฉีดก่อนออกจากเกาะ 
ตอนนี้กลับกลายเป้นกลิ่นอะไรสักอย่างที่รันจวนมากๆT_T(ชวนอ้วก) 
กะว่าเดี้ยวล้างรถเสร็จแล้วคงต้องหาที่ล้างคนอีกที 
ไม่งั้นคงกลับไม่ถึงกรุงเทพแน่ๆ...... 
นายโอ้ตค่อยๆคีบ(ย้ำว่าคีบ)ประตูรถออก 
กระโดดพรวดเข้าไป 
เพราะดูว่าสะอาดกว่าภายนอกเยอะ................. 
สตราท์รถโดยมีพวกผมยืนลุ้นอยู่ข้างๆ 
เหมือนว่าปัญหามันจะจบ...... 
แต่มันไม่จบสิครับ 
เสียงบางอย่างดังจากรถนายโอ้ตดังแกร้ง 
............................................. 
เล่นเอาพวกผมตกใจ 
นายโอ้ตดับเครื่องแทบไม่ทัน............... 
แล้วทุกคนก็วิ่งไปดูที่มาของเสียง............. 
รวมถึงนายโอ้ตที่สีหน้าราวกับจะถามว่า 
เป็นเจี้ยอะไรอีกว่ะ.................-_-+ 
ลงมาดูที่ต้นเสียงซึ่งมาจากล้อหน้าฝั่งตรงข้ามคนขับ.... 
วัตถุสีเหลืองเป็นเหล็กซึ่งตอนแรกไม่มีใครสังเกตเห็น 
เพราะมัวแต่ไปสนใจในอาวุธชิวะกันหมด(ก.ก.น. 
ถ้าเป็นงูคงโดนกัดตายกันถ้วนหน้า 
จะอะไรซะอีกล่ะครับ 
ล็อคล้อไงครับล็อคล้อ 
ตำรวจสมุยสร้างประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือนให้พวกผมอีกเรื่องแล้วT_T 
เพิ่งสังเกตได้ว่ามีป้ายห้ามจอดที่โดนต้นไม้บังจนเกือบมิด.... 
ถ้าจะเรียกว่ามิดเลยคงจะดูชัดเจนกว่าเพราะมันแทบจะไม่โผล่ออกมาให้เห้นเลย 
“เฉพาะวันคี่ 4.00-8.00 17.00-22.00” 
ป้ายเขียนไว้ชัดเจน........ 
มิน่าล่ะครับ 
รถคันอื่นเลยไม่มีใครมาจอดใกล้ๆเลย 
-“- 
ก็เพิ่งรู้แหละครับว่าเวลารถขนปลามันขนของตอนเช้ามืดอะ 
เขาใช้ถนนตรงนี้กัน 
ก็คิดง่ายๆครับ 
พอมีรถมาขวางก็หมั่นใส้ 
ก็เหมือนเราเวลาทำงานถ้าใครมาคอยขวางก็อยากจะแกล้งมันใช้ไหมละครับ 
นี่เลยครับกรณีเดียวกัน 
ก็กรูไม่ใช่เด็กถิ่นนี่หว่ากรูจะรู้ไหมวะ นายโอ้ตครวญเสียงอ่อน 
ก็เหมือนกันแหละ 
เขาก็ไม่รู้ว่ามรึงไม่ใช่เด็กถิ่น นายโจสวนจนนายโอ้ตพูดไม่ออก 
วันหลังมรึงก็ติดรูปไว้ดิ........นายโจแซว 
เอาไงว่ะมันถามผม............(แล้วกรูจาถามคราย-“-) 
จะเอาไงเล่า ก็ต้องไปโรงพักอะเดะ ไปจ่ายค่าปรับ 
สรุปกรูเสียตัง.......... นายโอ้ตฉุน 
ก็เออเดะรถมรึง หรือมรึงจะออกคันใหม่แล้วอุทิศคันเก่าให้เป้นถังขยะการกุศลวะ 
เวง...................... 
ประสาท.................. 
รถนะเว้ยไม่ใช่กล้วยแขกจะได้ให้กันได้ฟรีๆ 
(ทำไมต้องกล้วยแขก?)อันนี้คิดในใจ^^” 
พากันเดินไปโรงพักที่เห็นอยู่ไม่ไกลนักจากชายหาด 
ความจริงอยากขึ้นสองแถวแต่สองแถวไม่ให้ขึ้น-_-“ 
พอถึงโรงพักเหงื่อแตกท่วม 
ไม่ใช่เพราะไกลนะครับ 
แต่เพราะร้อน>_< 
เหงื่อ+กลิ่น การเป็นคุณสองความรันจวน......... 
กลิ่นที่โชยอ่อนๆไปทั่วห้องแอร์ 
ทำให้นายตำรวจหลงเสนห์ 
แทบไม่สอบปากคำอะไรเลยครับ 
แถมตื่นเต้นจนหายใจไม่เป็นจังหวะ 
ทุกคนเกือบทั้งโรงพักหันมามองพวกผมเป็นจุดเดียว 
โอ้ยกลุ้มใจครับ 
ทำไงได้ครับเกิดมาหล่อก็มีกรรมแบบนี้แหละ 
อย่าอิจฉานะครับอย่าอิจฉา 
ถามๆไม่กี่คำเสียค่าปรับนิดเดียวก็รีบไปหยิบกุญแจจะไปปลดล็อคล้อให้แล้ว 
ขาไปสบายหน่อย 
นั่งหลังกะบะตำรวจไป 
พอไปถึงคุณพี่จ่าเห็นสภาพรถก็ทำหน้าแบบ >>>> -“- 
พอเดินเข้าไปปลดกุญแจทำหน้าแบบนี้>>> T_T 
พอปลดเสร็จก็ทำหน้าแบบนี้ครับ >>>>+_+ 
เห็นแล้วเศร้าแทน 
แถมยังต้องแบกที่ล็อคที่โดนลูกหลงของขยะกลับไปอีก 
คงไม่ต้องบอกนะครับว่าพอกลับไปโรงพักก็คงต้องล้างอีก 
(สมเสรือกมาล็อคล้อกรูให้มันรู้ซะมั่ง........นายโอ้ตแอบมากระซิบเบาๆให้ผมฟัง) 
ผมแอบเห็นด้วยเล็กๆ (เล็กๆเองครับเล็กๆถ้าจะจับก็จับนายโอ้ตคนเดียวนะครับ) 
ไม่มีโอกาศได้ขอบคุณพี่เขาเล้ย..... 
ก็พี่เขานะสิรีบขึ้นรถหนีกลับไปเลยครับ 
ปล่อยพวกผมยืนตะลึง 
........................................... 
................................ 
..................... 
........... 
คุณตำรวจเปลี่ยนไป้ 
สนามบินกับการลาจาก................ 
ผม มิน ยูมิ ยืนอยู่ด้วยกัน 
เหมือนเดิมกับความรู้สึกเก่าๆที่แสนเกลียด 
ทำไมคนเราต้องทรมานด้วยเวลาต้องจากกัน ผมลองถามตัวเอง 
ทำไมถึงรู้สึกว่าไม่อยากให้เขาไป อยากให้เขาอยู่ 
ทั้งๆที่บางทีตอนเขาหรือเธอคนนั้นอยู่เราก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมายซักหน่อย.... 
แต่พอต้องจากกัน ยิ่งเศร้าหนัก 
ยิ่งคนที่เรารักเราห่วง..........มากเท่าไหร่ 
เวลาที่เขาจากไปยิ่งเศร้าเท่านั้น 
ยูมิกอดกับมินกลม...... 
จริงๆผมก็อยากเข้าไปกอดด้วยนะครับ ^_^” 
แต่ผมยังอยากมีชิวิตอยู่........ 
................................................. 
...................................... 
เธอสองคนนั่งที่ม้านั่งสนามบินเงียบๆ 
ดูนาฟิกาที่ค่อยๆเดินไปตามหน้าที่ของมัน........ 
จะช้า............. 
จะเร็ว............ 
ก็ต้องจากกันอยู่ดี........... 
แต่ครั้งนี้ก็ดีหน่อยที่คนมาส่งไม่ใช่มีแค่พวกผมสามคน.... 
ทุกคนเลยครับทุกคนพากันมาส่ง.......... 
ถึงจะเหนื่อยจากการเดินทางอันแสนไกล........ 
แต่เมื่อเพื่อนคนนึงกำลังจะจากไปถ้าไม่มาก็คงจะใจดำไปใช่ไหมครับ... 
กระทันหันจริงๆ 
จนหลายคนรับไม่ได้ ยังงงอยู่เลยว่าทำไมต้องกลับเร็วขนาดนี้ 
............................... 
วาวาจดชื่อที่อยู่อีเมลของยูมิลงในโทรศัพท์ 
ยูมิก็ยิ้มหยิบสมุดโน้ตขึ้นมาจดที่อยุ่ของวาวาเหมือนกัน 
วาวาเอาสมุดมาเขียนชื่อ เบอรโทร และคำพูดเล็กๆไว้ข้างๆ 
พอเธอจดเสร็จก็ส่งต่อ 
ทุกคนเริ่มทำตามหยิบสมุดเล่มนั้นพากันเวียนไปทีละคนทีละคน.... 
ช้าๆราวกับมีเรื่องราวให้เขียนมากเหลือเกิน 
จนมันเวียนมาถึงผม 
เอื้อมมือไปหยิบสมุด เริ่มนึกว่าจะคิดอะไร 
จะเริ่มต้นยังไงดี.......................... 
มองดูในกระดาษโน้ตสีขาวไม่มีเส้น 
มีแต่ลายมือยุ่งเหยิงของแต่ละคนที่อยุ่กระจายทั่วแผ่น.... 
ผมแอบอ่านทีละคนทีละคน ไม่เยอะมากแต่บรรยายไม่ถูก 
............................... 
ยูมิ...........เราเพิ่งรู้จักกันนะ 
แต่เราว่าเธอเป้นคนดีมากถึงจะไม่ค่อยพูด 
นี่ไม่ได้ว่านะแต่เราพูดจริงๆ เรายังนึกอิจฉาเลยที่เงียบได้ขนาดนั้น.. 
เงียบแต่ยังไงก็น่ารัก ถ้าไม่รังเกียจคราวหน้ามาไทยเราจะพาเที่ยวนะ 
อ้อแล้วก็............. 
ตอนแรกวาวาพูดไม่ดีก็ขอโทษนะ วาวาก็คิดมาก คิดในสิ่งที่ไม่ควรคิด 
ยังไงก็ห่วง+รัก ยูมิเสมอนะ อย่าลืมโทรมาละ ถ้าว่างจะไปเยี่ยมจ้า 
วาวา..... 

ยูมิแต่งงานกันเถอะ........ 
เรารักยูมินะถึงยูมิจะเงียบยังไง แต่บอยก็รักของบอยนะ 
................................. 
อ่า...............ไม่ได้เหรอว้า อดเลย 
งั้นขอโทษเอาเป้นว่าเราไม่เขียนอะไรลงไปล่ะกัน......^^ 
ยังไงก็ขอให้ยูมิโชคดี ลำบากยังไงก็คิดถึงบอยได้นะบอยอนุญาต 
บอยก็จะฝันถึงยูมิทุกคืนเลยเอ้าเจงๆนะ 
ติดต่อมานะฮับ........p.s อย่าเอาข้อความนี้ให้เจนดูนะขอร้อง น้องแกโหดอ่า.....T_T 

เราจะไม่ร้องไห้ ไม่เสียใจเหมือนคนอื่นหรอก 
ไม่ใช่ว่าเราไม่สนใจไม่ใส่ใจเธอ 
แต่เพราะเราเชื่อ เชื่อนะว่าเราต้องเจอกันอีก...... 
เพื่อน....................................ไม่ได้หมายถึงระยะทางนะ 
โอ้ต.... 

ขอโทษที่วันนั้นปีนเข้าห้องนอน 
ขอสารภาพว่าตอนนั้นนายบอยชักจูงทางจิตใจจริงๆน่ะ 
อย่าคิดว่าเราเป้นคนไม่ดีละ(ถ้าจะคิดก็ให้ไปโทษนายบอยนู่น) 
คุยกับยูมิไม่บ่อยนับครั้งได้เลย........ 
แต่ก็อยากจะให้มันบ่อยๆนะ ^_^ 
เพ้อแล้วเริ่มเพ้อ..........ยังไงก็ขอให้ยูมิโชคดีเจอคนดีๆแบบเราเยอะๆ 
แล้วถ้าต้องการขนถือกระเป๋าให้ก็เรียกนะครับ เดี้ยวไปส่งถึงญี่ปุ่นเลย 

โจครับโจ สุดหล่อหล่อที่สุด 
(ออกค่าเครื่องบินให้ด้วยนะฮับ^^) 
อากาศเปลี่ยนแปลงรักษาสุขภาพด้วย 
นพ -_-“......... 

จารีบกลับไปไหนครับ ทอมยังไม่ค่อยได้คุยอะไรมากเลย 
ไม่เป้นไรครับไม่เป็นไร ยูมิเคยได้ยินคำนี้ไหมครับ 
“ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มต้นจากเพื่อนเสมอ” 
ทอมเชื่อนะครับ งั้นทอมกับยูมิน่าจะเริ่มจากการเป้นเพื่อนกันก่อนนะฮับ เหอ เหอ 
ไม่กวนแล้วครับ ก็ขอให้ยูมิน่ารักขึ้น 
คิดถึงทอมมากๆ เพราะทอมก็จะคิดถึงยูมิเหมือนกาน 
ทอมฮ้าบ................. 

และก็คงถึงตาของผมที่ต้องเขียนอะไรบางอย่างให้เธอ........... 
นึกไม่ออกบรรยายไม่ถูกว่าจะเขียนอะไรดี 
ไม่ใช่เพราะไม่อยากเขียน แต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน 
ความทรงจำ ความรู้สึก และหลายๆเรื่องที่อยากให้ยูมิเข้าใจ.... 
หน้ากระดาษแค่นี้คงเขียนไม่พอหรอก... 
ปากกาค่อยๆจรดลงกระดาษ 
เขียนอักษรตัวแรก.............. 
หลังจากผมเขียนเสร็จ ก็ยื่นสมุดส่งต่อให้มิน........ 
เธอรับไปแต่เธอกลับไม่เขียน 
เอาสมุดมาวางบนตักนั่งเงียบ 
เธอหันมามองผม 
มองยูมิ แล้วเธอก็เปิดหนังสือช้าๆทีละหน้าทีละหน้า... 

อยากให้ช่วงเวลานี้อยู่ไปนานๆ........ 
เวลาที่สวยงาม เวลาที่แสนดี เวลาที่เรามีกันและกัน 
เราเข้าใจนะยูมิว่าการจากลานั้นมันแสนเจ็บปวด....... 
คนที่เราเคยมี เขาจะจากเราไป 
ไกลแสนไกล จนแม้แต่จะไปหายังยาก......... 
ที่มินเสียใจตอนนี้ 
เพราะเพื่อนที่แสนดีคนนึงของมิน กำลังจะจากมินไป 
และไม่รู้ว่ามินจะได้เจอเขาอีกไหม........ 
เวลาที่เราได้อยู่ด้วยกัน 
มีความสุขจริงๆนะ 
แต่เวลาก็ไม่เคยรอเราเลย 
มันก็ยังหมุนไปตามหน้าที่ของมัน......... 
เป็นสิ่งที่เราต้องเจอใช่ไหม? 
การจากลา 
มินเริ่มร้องไห้ น้ำตามันไหลออกมาเอง...... 
ธรรมชาติของผู้หญิงคิดมาก 
มือที่ถือปากกากดแน่น 
น้ำใสๆร่วงลงบนหน้ากระดาษหน้านั่น.......... 
......เสียใจก็ต้องร้องไห้..... 
มินบอก 
ผมกำลังจะหยิบผ้าเช็ดหน้าส่งให้มิน 
แต่ยูมิเธอเดินเข้าไปเสียก่อน 
เธอนั่งลงข้างๆมินช้าๆดึงเธอมากอดที่อก 
มือลูบผมของมินหลับตาลง 
มินยังสะอื้น เธอรู้ว่าไม่ควรร้องไห้ 
รู้ดีด้วยซ้ำว่าถ้าร้อง มันจะเจ็บปวดทั้งกับคนที่มาส่งและคนที่กำลังจะไป.... 
แต่ทำไงได้ก็มันร้องไปแล้ว 
ยูมิกอดมิน เธอพูดไทยได้แต่ก็ไม่เก่ง 
เธอคงพยายามคิดว่าจะปลอบมินยังไง 
แต่ก็คงจะยากเหลือเกินสำหรับยูมิตอนนี้ 
มินเป็นเพื่อนเรานะ เป็นคนสำคัญ 
ไม่แพ้ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ ยูมิจะไม่ลืมมิน 
จะไม่ลืมทุกคนจริงๆ 
สัญญา....................................................... 
เสียงยูมิก็พลอยแตกพร่าไปอีกคน.... 
คนปลอบกับกลั้นน้ำตาตัวเองไม่ไหว..... 
ยูมิอย่าไปเลย อยู่ที่นี่กับมินเถอะได้ไหม.......... 
ยูมิไม่พูด ดึงมินมามองหน้ายิ้มให้ 
ยิ้มทั้งๆน้ำตาก็ไหลออกจากตาของเธอเหมือนกัน 
เหมือนเธอจะพยายามบอกให้มินรู้ 
ว่าเธอก็เจ็บปวดที่ต้องลาจาก 
เจ็บปวดที่ไม่ได้อยู่กับเพื่อนๆ 
..................................... 
หมดคำถาม ไม่มีใครพูดอะไรออก 
แม้แต่ผมเองก็พลอย ตื้นตันไปด้วย............ 
ผมก็เหมือนกันแหละครับ 
ไม่อยากให้เธอไปเลย................. 

เสียงประกาศรอบสุดท้ายดังขึ้น 
ทุกคนนั่งรวมกัน 
แต่เงียบ เงียบราวกับเรื่องตะกี้ ที่ยูมิกับมินร้องไห้เป้นเพียงความฝัน 
มินเขียนอะไรบางสิ่งลงในสมุด 
เธอย้ำว่าอย่าพึ่งเปิดดู 
ให้เปิดเวลาที่ยูมิอยู่คนเดียว.............เวลาที่ยูมิอยู่ที่ญี่ปุ่นแล้ว.... 
มินยื่นสมุดให้ยูมิ 
เธอรับยิ้มขอบคุณ 
พวกผมพากันเดินไปส่ง 
ที่ระหว่างประตูทางเข้า 
ยูมิเดินผ่านไป 
พี่แอร์โฮสเตสเอาเชือกสีแดงมากั้น 
เสียงตะโกนล่ำลาดังไปหมด 
ยูมิหันมาเธอยิ้มตาหยี 
ความรู้สึกของผมรู้สึกตื้อในอกไปหมด 
เธอมองผม มองมิน มองทุกๆคน 
....................................... 
........................... 
เธอโค้งตัวลงช้า 
“อาริกาโตโอซาเอมัส” 
พวกผมพนมมือก้มลงไหว้ตอบ 
“ขอบคุณนะ” 
แล้วเธอก็ดินหันหลังไป 
อย่าลืมเรานะ 
คิดถึงเราบ้าง....... 
ว่างก็มาไทยนะ 
เราจะไม่ลืมเธอเลย 
มีอะไรโทรมานะ 
อย่าลืมเมลหาเรา............................ 
.......................................... 
...............เพื่อนกันตลอดไปนะ.................. 

พวกผมตะโกนคำเหล่านี้ซ้ำไปซ้ำมาให้ยูมิได้ยิน 
เธอหันมายิ้มโค้งแล้วโค้งอีก 
ตลอดทางจนลับตาไป.............. 
..................................... 
........................... 
มองดูเครื่องบินผ่านกระจกรถ 
นายบอยยังมองตาม ทุกคนบนรถหันไปดูพร้อมกันหมด....... 
ยูมิ อยู่บนเครื่องบินลำนั้นใช่ไหม ผมถาม 
อือ ใช่..................... 
เขาจะลืมเราไหมว่ะ 
ไม่หรอกว่ะ ก็เหมือนเราที่จะไม่ลืมเขาตลอดไปเหมือนกัน............ 
รถเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ สู่ตัวเมือง 
กลับบ้านสักที 
โชคดีนะเพื่อนคนสำคัญ ขอแค่เธอมีความสุข..............ก็ พอ แล้ว....... 
บนเครื่องบินยูมิเดินช้าๆ 
น้ำตาไหลไม่ยอมหยุด 
พี่แอร์คนนี้ก็แสนดี คอยปลอบ คอยดูแลพาไปนั่งที่ 
เข้าใจเหมือนเป้นตัวยูมิเอง 
เหงาจัง.......................เฮ้อ 
นี่เราต้องอยู่คนเดียวต้องจากทุกคนอีกแล้วเหรอนี่ ยูมิคิด 
บางทีเธอก็อยากเกิดเป็นคนไทยให้รู้แล้วรู้รอด 
จะได้อยู่กับเพื่อนๆที่ไทยซะเลย 
แต่เธอก็ทำไม่ได้ 
ยังไงซ่ะก็ต้องกลับไปที่ประเทศ 
มีงานต้องเครียลเยอะแยะ 
หนีมาเสียนานคงถูกเจ้านายเล่นงานหนักแน่เลย 
ไม่เอา ไม่เอา ไม่คิด 
เห้อมาไทยครั้งนี้ถึงจะไม่ค่อยได้เที่ยวแต่ก็คุ้มค่าจริงๆ.......... 
ได้เพื่อนใหม่ ได้เห็นอะไรใหม่ๆอีกเยอะ........... 
คนไทยนี่จริงใจดีจริงๆ 
ดื่มนี่ซะหน่อยนะค่ะ พี่แอร์ส่งน้ำมะนาวอุ่นมาให้.... 
ขอบคุณค่ะ ได้แต่ยิ้มตอบ 
พวกเจมจะลืมเราหรือเปล่าน้า................. 
ยูมิหยิบสมุดขึ้นมาดู 
ค่อยๆอ่านของแต่ละคนแต่ละคน นึกขำในใจไม่หาย 
ยิ่งนึกถึงตอนเปิ่นๆของบอยก็นึกขำยิ้มน้อยยิ้มใหญ่คนเดียว......... 
เอ้ะเจมเขียนซะยาวเลยนี่ ตะกี้ไม่ยอมให้อ่านเขียนว่าอะไรบ้างนะ 

ไม่ได้ตามติด แต่คิดถึงเสมอ 
ไม่ได้เพ้อเจ้อ แต่ว่าเธอน่าหลงใหล 
ไม่เคยคิดจะลืม ถึงเธออยู่ห่างไกล 
ไม่ได้เปลี่ยนไป แม้อะไรจะเกิดก็ตาม........... 

ยูมิ นี่คือกลอนของประเทศเรา 
มาไทยเที่ยวนี้ไม่ค่อยได้พาเที่ยวขอโทษน่ะ 
แต่เจมรู้ยังไงยูมิก็ต้องมาหาเจมอีก ถึงไม่มาก็ไม่เป็นไรนะ เจมกับเพื่อนๆถ้าว่างจะไปหาเองเลย..... 
แปลกเจมไม่ค่อยเศร้า............ 
คงเพราะเจมรู้สึกว่าเราคงจะต้องเจอกันอีกละมั้ง 
จะคิดถึงเสมอๆเลย 
โชคดีครับ..................เจม....... 

เพื่อนจะไม่ลืมเพื่อน จะมีกันและกัน 
จะหวงจะห่วง จะคอยดูแล แม้ว่าจะใกล้จะไกล 
ขอแค่ใจเข้าใจกัน ผิดก็ย่อมให้อภัยกัน 
สัญญาว่าจะจำทุกอย่าง จะไม่ลืมไม่ว่านานแค่ไหน 
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น 
มินเพื่อนผู้หญิงน้อยนะยูมิ 
เพราะมินให้ความสำคัญกับเพื่อนจริงๆ 
มินรักเพื่อนนะ ไม่อยากเสียใครไป 
เพราะเพื่อนคือคนสำคัญ............... 
ยูมิก็คือหนึ่งในนั้น............. 
โทรมานะ 
มินจะคอยรับ 
จะคิดถึงเสมอๆ 
คิดถึงเราบ้าง 
ดูแลตัวเองนะ 
มิน........................ 

อ่านจบซักที ยูมิคิด 
แปลกนะคนเราแค่ตัวอักษรธรรมดาไม่กี่ตัวก็ทำให้ความรู้สึกหวั่นไหวขนาดนี้เชียว.... 
ได้แต่ปิดสมุดเล่มนั้นลงช้าๆ 
กลับบ้านจะเก็บเข้ากรอบให้ดี........... 
ว่าเธอได้สิ่งสำคัญอีกอย่างเข้ามาในชิวิต 
ขอบคุณเพื่อนๆชาวไทย เราก็สัญญาว่าจะไม่ลืมใครเลย............. 
เธอพูดช้าๆพร้อมกับพร่อยหลับไป........................... 

....
...
..
.

จบภาค9ละโล่งใจกันเลยช่ายมะอิอิ

    Source: geocities.com/thegto_2001