:: Homepage ::

:: Home

:: Profile

:: Gallery

:: Webboard

:: Chat Room

:: University Link ::

:: Bangkok University

:: Assumption University

:: UTCC

:: Siam University

:: My School ::

:: ACC

:: ทำนายทายทัก ::

:: ดวงชะตาวันนี้

:: Radio Online :: 

:: 106.5 Green wave
:: 104.5 Fat Radio
:: 103.5 Modern love
:: 102.5 Radio
:: 93.5 Radio Vote
:: 91.5 Hotwave
:: 89.0 Bangkok Radio
:: 88.0 Radio noproblem

:: E-Mail :: 

:: Kunmail
:: Yahoo
:: Hotmail
:: Thaimail
:: Chaiyo
:: Maildozy

:: TV Channel :: 

:: ช่อง 3
:: ช่อง 5
:: ช่อง 7
:: ช่อง 9
:: ช่อง 11
:: ITV
:: UBC
:: IP-TV
:: TGN
Welcome to Threestrokesix Web for 3/6
 

::  พื้นฐานในการใช้กล้องถ่ายภาพ  ::

ในการใช้อุปการณ์เครื่องมือ มีสิ่งสำคัญที่ผู้ใช้ควรปฏิบัติคือ ศึกษาวิธีการใช้ให้ดีและถูกต้องเสียก่อน จึงนำเครื่องมือเหล่านั้นไปใช้ มิฉะนั้นอาจใช้เครื่องมือดังกล่าวไม่คุ้มค่าเงินที่เสียไป การใช้กล้องถ่ายภาพก็เช่นกัน ผู้ใช้จะต้องศึกษาวิธีการใช้ให้เข้าใจเสียก่อนว่า แต่ละส่วนของกล้องนั้นมีชื่อเรียกว่าอะไร และมีประโยชน์อย่างไรจะใช้งานต้องปฏิบัติอย่างไรบ้าง เป็นต้น สิ่งทั้งหมดที่กล่าวนี้สามารถจะศึกษาได้จากหนังสือคู่มือการใช้ (Instruction Book) หรือจากผู้ที่มีความรู้ความชำนาญในการใช้กล้อง สิ่งที่ผู้ใช้กล้องถ่ายภาพควรศึกษามีดังนี้

1. ศึกษารายละเอียด เมื่อซื้อกล้องถ่ายภาพมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกล้องแบบใดก็ตาม จะมีหนังสือคู่
มือการใช้แนบมาให้ด้วย ผู้ใช้จะต้องศึกษาจากหนังสือคู่มือนั้น พร้อมทั้งนำกล้องออกมาทดลองปฏิบัติดูตามคำแนะนำวิธีใช้ด้วย เช่น การเปิด-ปิดกล้อง การบรรจุฟิล์มเข้ากล้อง การตั้งความไวแสงของฟิล์ม การปรับหน้ากล้องรวมทั้งการปรับระยะชัดของภาพ โดยทดลองปฏิบัติจนเกิดความเข้าใจ ทั้งนี้ให้ทดลองปฏิบัติดูหลาย ๆ ครั้ง จนแน่ใจว่าสามารถนำไปใช้ได้คล่องแคล่ว

2. วิธีจับและตั้งกล้องถ่ายภาพ การจับกล้องเพื่อจะถ่ายภาพนั้นไม่ใช่สิ่งที่ยาก ข้อสำคัญคือผู้ถ่ายภาพต้องจับให้ถนัดและมั่นคงจริง ๆ ไม่ให้กล้องสั่นได้ในขณะที่ทำการถ่ายภาพ เพราะถ้าตัวกล้องสั่น ก็จะมีผลให้ภาพที่ถ่ายได้ไม่ชัดเจน ดังนั้น การจับกล้องถ่ายภาพให้จับด้วยมือทั้งสอง ด้านละมือให้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองอยู่ด้านหลังของตัวกล้อง ปลายนิ้วชี้ขวาวางบนปุ่มไกชัตเตอร์ นิ้วกลางมือซ้ายแตะที่ขอบเลนส์เพื่อปรับระยะชัด ตาขวามองตรงช่องมองภาพ (Viewfinder) ถ้าในกรณีที่ต้องใช้ความเร็วต่ำกว่า1/60 วินาทีลงมา ควรใช้ขาตั้งกล้อง (Tripod) ช่วยด้วย

วิธีจะทดสอบว่าจับกล้องได้นิ่งหรือไม่นั้น ให้ปฏิบัติดังนี้คือ ให้หากระจกเงาแผ่นเล็ก ๆ ประมาณ 1 ตาราเซ็นติเมตร มาติดไว้ที่ส่วนหน้าของตัวกล้อง แล้วใช้ไฟฉาย ฉายไปที่กระจกเงาที่ติดอยู่นี้ เมื่อลำแสงของไฟฉายถูกกับกระจกเงา ลำแสงนั้นก็จะสะท้อนกลับไปยังผนังห้อง ห้องที่ใช้ในการทดลองนี้จะต้องมืดจึงจะมองเห็นได้ชัด และในช่วงเวลาที่กดไกชัตเตอร์นี้ ให้สังเกตดูจุดสว่างที่สะท้อนมาจากกระจกเงาซึ่งติดไว้หน้ากล้องว่าจุดสว่างนี้อยู่นิ่งหรือไม่ ถ้าไม่นิ่งแสดงว่า ช่วงเวลาที่กดไกชัตเตอร์นั้น กล้องสั่น ซึ่งมีผลทำให้ภาพที่ถ่ายได้ไม่คมชัด (ภาพไหว) ให้พยายามทดลองทำใหม่ จนกว่าจะแน่ใจว่ากล้องนั้นนิ่งด้วยการสังเกตดูที่จุดสว่างดังกล่าวนี้

3. วิธีดำเนินการถ่ายภาพ การดำเนินการถ่ายภาพใด ๆ ก็ตาม ผู้ถ่ายภาพควรจะกำหนดเป็นขั้น ตอนไว้ดังนี้

3.1ให้ตรวจดูความเรียบร้อยของกล้องถ่ายภาพทุกครั้งก่อนที่จะนำกล้องออกใช้โดยผู้ถ่ายภาพต้องแน่ใจว่า กล้องนั้นอยู่ในสภาพที่พร้อมจะทำงานให้ได้ รวมทั้งอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ที่จะต้องนำออกใช้ด้วย เช่น ขาตั้งกล้อง ไฟแฟลช สายลั่นไกชัตเตอร์ (Cagle release)

3.2 การปรับหน้ากล้อง การปรับหน้ากล้อง หมายถึงการปรับทั้งขนาดช่องรับแสง และความเร็วชัตเตอร์
รวมกัน เพื่อให้ได้ปริมาณของแสงที่เพียงพอ กับการเข้าไปทำปฏิกริยากับฟิล์ม เพราะถ้าปริมาณของแสงเข้าไปทำปฏิกริยากับฟิล์มมากเกินไป ก็จะทำให้ฟิล์มมีสีเข้มหรือดำเกินไป ภายหลังจากที่ล้างฟิล์มนั้น แต่ถ้าปริมาณของแสงน้อย ฟิล์มก็จะมีสีจางหรือขาวเกินไป ดังนั้นการถ่ายภาพทุกครั้ง

ผู้ถ่ายจะต้องเข้าใจทั้งการปรับช่องรับแสงและความเร็วชัตเตอร์เป็นอย่างดี ปรับหน้ากล้องให้ได้ปริมาณของแสงที่พอดี กับการทำปฏิกริยากับฟิล์ม คือไม่มากหรือน้อยเกินไป ภาพที่ถ่ายได้จึงจะมีสีที่พอดี (Correct)

เทคนิคการปรับหน้ากล้องถ่ายภาพในสถานที่ ๆ มีแสงสว่างน้อย

การถ่ายภาพในสถานที่ ๆ มีแสงสว่างน้อย เช่น การถ่ายภาพในท้องที่มีแสงสลัว ๆในถ้ำหรือในเวลากลางคืน มีเทคนิคในการปรับหน้ากล้อง ดังนี้

1. ให้ปรับความเร็วชัตเตอร์ไว้ที่ 1 วินาที หรือช้ากว่านั้น เช่น 2 หรือ 4 วินาที ซึ่งกล้องถ่ายภาพบาง
กล้องสามารถปรับได้

2. ปรับขนาดช่องรับแสงให้กว้างที่สุดเท่าที่กล้องถ่ายภาพนั้นสามารถปรับได้

3. เปลี่ยนค่าความไวแสงของฟิล์ม (Emulsion speed) เสียใหม่ให้ไวมากขึ้น เช่น จาก 100, 150
เป็น 200, 400 , 800 หรือ 1,600 Iso

4. ให้ปรับขนาดช่องรับแสงอีกครั้ง ตามเครื่องวัดแสงที่วัดได้ จากนั้นจึงนำผลที่ได้ครั้งใหม่นี้มาคำนวณก็
จะสามารถทราบทันทีว่า หน้ากล้องใหม่ที่จะนำไปใช้ถ่ายภาพในสถานที่ดังกล่าวนั้น ควรจะปรับให้มีค่าเป็นเท่าไร


<< back to Photo main page

© Copyright 2003 Threestrokesix All right reserved :

Web Size : 15 MB