:: Homepage ::

:: Home

:: Profile

:: Gallery

:: Webboard

:: Chat Room

:: University Link ::

:: Bangkok University

:: Assumption University

:: UTCC

:: Siam University

:: My School ::

:: ACC

:: ทำนายทายทัก ::

:: ดวงชะตาวันนี้

:: Radio Online :: 

:: 106.5 Green wave
:: 104.5 Fat Radio
:: 103.5 Modern love
:: 102.5 Radio
:: 93.5 Radio Vote
:: 91.5 Hotwave
:: 89.0 Bangkok Radio
:: 88.0 Radio noproblem

:: E-Mail :: 

:: Kunmail
:: Yahoo
:: Hotmail
:: Thaimail
:: Chaiyo
:: Maildozy

:: TV Channel :: 

:: ช่อง 3
:: ช่อง 5
:: ช่อง 7
:: ช่อง 9
:: ช่อง 11
:: ITV
:: UBC
:: IP-TV
:: TGN
Welcome to Threestrokesix Web for 3/6

::  ถ่ายภาพน้ำตก  ::

 

ความงดงามของน้ำตกขนาดใหญ่นั้น คงเป็นที่ยากจะลืมเลือนแก่ผู้ที่พบเห็น สายน้ำที่นุ่มนวน ไหลลงมากระทบกับโขดหินเป็นสีขาว มีละอองน้ำที่สาดกระเซ็น สร้างความชุ่มชื้นให้แก่สรรพสิ่งที่อยู่ล้อมรอบ ไม่เว้นแม้แต่ตัวผู้มาเยือน นักเดินทางและช่างภาพส่วนมาก จึงไม่พลาดที่จะบันทึกภาพอันสวยงามเหล่านี้เอาไว้ หากในการเดินทางครั้งนั้นของเขา มีน้ำตกที่สวยงามเหล่านั้นอยู่ในโปรแกรมการเดินทางด้วย

หลักการในการถ่ายภาพน้ำตกนั้น มีสูตรที่ตายตัวอยู่ไม่กี่สูตร แล้วแต่ใครจะเอาไปประยุกต์ใช้ตามสถานการณ์
สูตรตายตัวในการถ่ายภาพน้ำตกนั้น ได้แก่ น้ำตกสีขาวบริสุทธิ์ ตัดกับสีดำของก้อนหินที่น้ำตกไหลลงมากระทบ สลับกับบรรยากาศสีเขียวรอบข้างของตะใคร่น้ำ และต้นไม้ที่ขึ้นอยู่รายรอบ แสดงถึงความสวยงามของธรรมชาติ ละอองน้ำที่สาดกระเซ็นหล่อเลี้ยงให้ผืนป่าอุดมสมบูรณ์ แค่นึกภาพก็รู้สึกเย็นสบายแล้วใข่มั้ยละ?

ฤดูกาลที่เหมาะแก่การบันทึกภาพน้ำตกที่สุด คงหนีไม่พ้น ฤดูฝน เพราะช่วงนี้น้ำตกจะไหลแรง และป่าไม้โดยรอบจะมีความอุดมสมบูรณ์ที่สุด แต่ถ้าเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ ที่มีน้ำไหลแรงตลอดปีแล้วละก็ เราจะสามารถถ่ายภาพน้ำตกได้ตลอดปีเลยทีเดียว

อุปกรณ์มาตรฐานที่ขาดไม่ได้เลยในการถ่ายภาพน้ำตกก็คือ ขาตั้งกล้อง สายลั่นชัตเตอร์ และฟิลเตอร์ PL (อีกแล้วครับ)

การถ่ายภาพน้ำตกนั้น จำเป็นที่จะต้องถ่ายด้วยความเร็วชัตเตอร์ที่ต่ำๆ เพื่อจะให้ได้น้ำตกที่มีความนุ่มนวนสวยงาม ขาตั้งกล้องและสายลั่นชัตเตอร์จึงมีความจำเป็นเป็นอย่างมาก เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดที่สุด เรียกได้ว่าพระเอกของงานเลยละ ส่วนเจ้าฟิลเตอร์ PL นั้นมีความสำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือเจ้าฟิลเตอร์ตัวนี้นั้น จะช่วยตัดแสงสะท้อนที่ผิวของก้อนหินที่โดนน้ำตกกระทบ ทำได้ได้สีที่เข้ม สมจริงมากขึ้น และมันยังมีผลช่วยลดค่าแสงลงอีก 1-2 Stop (แล้วแต่เบอร์ และยี่ห้อ) ทำให้สามารถถ่ายภาพได้ในความเร็วชัตเตอร์ที่ต่ำกว่าเดิม 1- 2 Stop ตามไปด้วย จะมีผลให้น้ำตกดูสวยงามมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์อีกชิ้นที่ชวยให้สามารถถ่ายภาพน้ำตกได้สะดวกมากขึ้น แต่ก็ไม่ค่อยจะจำเป็นเท่าไรนัก (เป็นได้แค่พระรอง ว่างั้นเถอะ) นั่นก็คือ ฟิลเตอร์ ND ประโยชน์ของฟิลเตอร์ตัวนี้คือ ช่วยลดค่าแสงลง 2-4 Stop (แล้วแต่เบอร์) ช่วยให้สามารถถ่ายภาพน้ำตกได้ แม้ในบางครั้งที่แสงจ้ามากๆ ถึงจะบีบรูรับแสงแคบสุดแล้ว ความเร็วชัตเตอร์ก็ยังสูงไปอยู่ดี (ความเร็วชัตเตอร์ในการถ่ายภาพน้ำตกให้ออกมาดูสวยงาม ไม่ควรจะสูงกว่า 1/15 วินาที)

การวัดแสงในการถ่ายภาพน้ำตกนั้น ไม่ยาก โดยปกติ นักถ่ายภาพที่มีความชำนาญ จะใช้วิธีการวัดแสงเอาที่ส่วนที่เป็นสีขาวของตัวน้ำตก แล้วก็ชดเชยแสงให้ Over สัก 1-2 Stop (ถ้าใช้กล้องที่มีระบบวัดแสงเฉพาะจุด จะสะดวกมาก) ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า ระบบวัดแสงของกล้อง SLR ทุกตัวนั้น เป็นแบบวัดแสงสะท้อน ที่ยึดค่าสีเทากลาง 18% เป็นหลัก ถ้าวัดแสงพอดี น้ำตกที่เป็นสีขาวจะโดนปรับให้เป็นสีเทา ดูแล้ว ไม่สดใส การวัดแสงให้ Over จะช่วยให้ได้ค่าแสงที่ถูกต้อง และช่วยให้น้ำตกมีความสวยงามมากขึ้น

ข้อควรระวังในการถ่ายภาพน้ำตกก็คือ ละอองน้ำจะมาจับหน้าเลนส์นั่นเอง ดังนั้น เวลาถ่ายภาพ ก็ควรระวังเรื่องตรงนี้ด้วย และถ้าเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ละก็ ละอองน้ำอาจจะกระเซ็นไปไกลได้กลาย 10 เมตรเลยทีเดียว ระวังกันหน่อยนะ ถ้าไม้อยากให้กล้องตัวเก่งต้องกลับบ้านเก่าก่อนเวลาอันควร


<< back to Photo main page

© Copyright 2003 Threestrokesix All right reserved :

Web Size : 15 MB