สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ในจังหวัดลำปาง

สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์

วัดพระธาตุลำปางหลวง เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองลำปางมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ คือ เป็นสถานที่ที่พระยาสุลวลือไชยสงคราม(หนานทิพย์ช้าง)ได้ประกอบวีรกรรมกู้อิสรภาพจากท้าวมหายศ แม่ทัพลำพูน ที่ได้ยึดวัดนี้เป็นฐานทัพตั้งมั่น เป็นวัดที่มีตำนานยาวนานมีเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริก ธาตุของของพระพุทธเจ้าไว้ อีกทั้งยังเป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วดอนเต้า พระคู่บ้านคู่เมืองลำปาง วัดพระธาตุลำปางหลวงนี้อยู่ที่อำเภอเกาะคา ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 18 กม. บนถนนลำปาง-กรุงเทพฯ ตั้งอยู่บ้านลำปางหลวง หมู่ที่ 1-2 ตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง วัดพระธาตุลำปางหลวงมีสิ่งสำคัญมากมาย องค์พระเจดีย์ ฐานกว้างด้านละ 12 วา สูงตั้งแต่ฐานถึงยอด 22 วา 2 ศอก ก่อด้วยอิฐถือปูน ทาบด้วยแผ่นทองเหลือง ทองแดง ตลอดทั้งองค์พระบรมเกษาธาตุ พระพุทธองค์มอบให้ลั๊วะชื่อ กอน เมื่อ ครั้งพุทธกาล ครั้งนั้นพระสถูปเจดีย์ที่ลั๊วะกอนสร้างสูงเพียง 7 ศอก ต่อมาพระพุทธองค์ปรินิพพานแล้วนาน 218 ปี มีพระอรหันต์สององค์ชื่อกุมมาระกัสสปะนำเอาอัฐิธาตุพระนลาดข้างขวาและพระเมฆิยะเถระนำเอา อัฐิธาตุลำคอข้างหน้าข้างหลังมาประจุไว้อีก พระสถูปเจดีย์ซึ่งปรากฏในตำนานได้มีการสร้างหลายครั้งหลาย คราว ที่ปรากฏเห็นอยู่ทุกวันนี้ ได้สร้างเมื่อครั้งเจ้าเมืองหาญศรีธัตถะมหาสุรมนตรีซึ่งพระเจ้าดิดกปนัดดา กษัตริย์เจ้าเชียงใหม่ ได้ส่งมากินเมืองนี้เมื่อ พ.ศ. 2309

วัดพระแก้วดอนเต้า เป็นวัดที่สำคัญแห่งหนึ่งในจังหวัดลำปาง เป็นที่เคารพสักการะของ พุทธศาสนิกชน และนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ตั้งอยู่บนตัวเมืองลำปางบนฝั้งขวาของแม่นำวัง มีความ สำคัญในทางประวัติศาสตร์ของนครลำปางมาแต่อดีต สร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าอนันตยศ ราชโอรสของ พระนางจามเทวี ผู้สร้างเมืองเขลางค์นครรุ่นแรกซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ประดิษฐาน พระแก้วมรกตพระเจ้าสาม ฝั่งแกนเจ้าเมืองเชียงใหม่ได้อัญเชิญพระแก้วมรกตจากเชียงราย ไปยังเชียงใหม่แต่เมื่อขบวนแห่มาถึงทางแยก ลำปาง ช้างที่อัญเชิญพระแก้วมรกต ได้ตื่นวิ่งไปทางลำปางทำอย่างไรก็ไม่ยอมกลับไปเชียงใหม่ จนพระเจ้า สามแกนยอมประดิษฐานไว้ที่ลำปางนานถึง ๓๒ ปี ต่อมาในสมัยของพระเจ้าโลกติราชเป็นเจ้าเมืองเชียงใหม่ จึงได้อัญเชิญพระเจ้าแก้วมรกตกลับเชียงใหม่

วัดเจดีย์ซาว เป็นวัดเก่าแก่สร้างมาแต่โบราณแต่ไม่ปรากฎหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างขึ้นแต่ สมัยใด พ.ศ.เท่าใด ตามการสันนิษฐานประกอบกับการขุดพบพระเครื่องสมัยหริภุญชัย ที่ฐานองค์เจดีย์เข้าใจ กันว่าสร้างมานานกว่าพันปี บริเวณวัดเมื่อประมาณพ.ศ.๒๔๖๐ ยังเป็นที่รกร้าง เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย ปกคลุมบรรยากาศเงียบวังเวงน่ากลัว ชาวบ้านหากไม่มีกิจจำเป็นจะไม่ยอมผ่านไปมาเลย ภายในวัดไม่มี เสนาสนะ สิ่งก่อสร้างใดอยู่ในสภาพดี มีแต่กลุ่มซากเจดีย์อยู่ในกลุ่มแมกไม้อันรกทึบ ต่อมาได้มีพระภิกษุชาว พม่าซึ่งได้เล่าเรียนจบพระไตรปิฎกจากประเทศพม่า ท่านได้รับมอบหมายจากพระสงฆ์พม่าให้มาทำการสอน พระบาลีคัมภีร์พระไตรปิฎก ท่านได้คัดเอาตำนานวัดเจดีย์ซาวจากประเทศพม่า สาเหตุที่ตำนานวัดพระเจดีย์ ซาวตกไปอยู่ในพม่านั้นมีข้อสันนิษฐานว่า สมัยนั้นหัวเมืองฝ่ายเหนือภูกพม่ารุกรานทรัพย์สินต่างๆถูกรวบ รวมไปไว้ที่พม่าหมด เมื่อพระอู่ชะยันต่าเถระได้อ่านตำนานเจดีย์ซาวให้ชาวบ้านฟังต่างก็มีจิตศรัทธาเลื่อมใส และได้รวมตัวกันออกค้นหา ในที่สุดก็พบซากเจดีย์ดังกล่าว เมื่อข่าวเรื่องเจดีย์แพร่สะพัดไปทั่วเมืองลำปาง ถึงเจ้าผู้ครองนครลำปางท่านจึงชักชวนพุทธศาสนิกชนให้ช่วยกันบูรณะปฏิสังขรณ์พระเจดีย์ ระหว่างที่กำ ลังบูรณะได้ขุดพบพระพุทธรูปทองสำฤทธิ์ บรรจุในบาตรขนาดใหญ่ ๔ ใบ เรือเงินเรือทองอย่างละ ๑ ลำ เมื่อทำการบูรณะเสร็จแล้วก็นำไปบรรจุไว้ตามเดิม

ประวัติเมืองลำปาง | สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ | สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ
โรงแรมต่างๆ ในจังหวัดลำปาง | การเดินทางสู่จังหวัดลำปาง