------------------------ ไข輰 2 ใบ -----------------------

ผัวเมิยคู่หนึ่งอยู่กินกับมานานหลายปี สามียังไม่เคยเห็นของเมียเลย
พอมีโอกาสก็อ้อนเมีย เพื่อขอดูของเมีย เมียทนการเซ้าซี้ไม่ไหว
จึงยอมให้สามีดู พอสามีเห็นของเมียก็ตกใจ (ทั้งเขียวทั้งดำ)

"หย่า...แบบนี้ต้องเลิกกัน"

ฝ่ายเมียก็พยามยามอธิบายให้ฟัง สามีก็ไม่ฟัง จะขอหย่าลูกเดียว
สุดท้ายก็ฟ้องหย่าเมีย เรื่องถึงโรงถึงศาลจนได้

วันขึ้นศาลเมียเอาไข่ต้มไปด้วย 1 ฟอง พอศาลถาม

"เอ้า !..จำเลยมีอะไรจะพูดก็ว่ามา"

ฝ่ายเมียพอศาลถามดังนั้น ก้อล้วงไข่ที่เตรียมมาขว้างใส่ลูกตาศาลทันที
ทำให้ศาลตาเขียวข้างหนึ่ง ศาลโมโหมากจึงถามจำเลยว่า

"จำเลยเอาไข่มาขว้างศาลทำไม"

ฝ่ายเมียที่เป็นจำเลยตอบศาลว่า

"อิฉันแสดงให้ศาลดูค่ะ ขนาดท่านโดนไข่แค่ใบเดียว ครั้งเดียว
ยังเขียวคล้ำขนาดนี้ อิฉันล่ะค่ะโดนไข่ตั้ง 2 ใบ มาเป็นสิบ ๆ ปี
จะไม่ให้มันเขียวมันดำได้ยังไงค่ะศาลเจ้าค้า!"

เป็นอันว่าคดีนี้ยกฟ้องเนื่องจากเหตุจำเลยฟังขึ้น
(สงสารแต่ศาลโดนไข่เต็ม ๆ )

 

----------------------- เม跳่อเจออากาศเย็น ---------------------

นักสำรวจแดนผู้ดี บุกป่าฝ่าดง เข้าไปในใจกลางกาฬทวีป
ที่ซึ่งไม่เคยมีฝรั่งคนไหน เคยเหยียบย่างมาก่อน

เช้าวันหนึ่ง นักผจญภัยรายนี้ พร้อมด้วยล่ามพื้นเมือง
เดินไปถึงทะเลสาบแห่งหนึ่ง เจอคนป่าผิวหมึก
วัยฉกรรจ์กำลังเปลือยกาย เล่นน้ำอยู่กับสาว ๆ เผ่าเดียวกัน

นักสำรวจสังเกตเห็นว่า เจ้าหนุ่มคนป่ามี “อาวุธ” ด้ามยาว
ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา นักสำรวจรู้สึกทึ่งมาก
จึงถามล่ามว่า หมอนี่เป็นใคร

“คนผู้นี้เป็นลูกชายของหัวหน้าเผ่าที่อาศัยอยู่ทางอีกฟากของ ทะเลสาบนี้ครับผม” ล่ามบอก

“ไปถามเขาหน่อย” นักสำรวจสั่งล่าม “ทำไมถึงมีอาวุธขนาด เท่านี้”

ล่ามรีบวิ่งไปตั้งปุจฉากับหนุ่มคนป่า หมอดูท่าไม่ค่อยสบอารมณ์นัก
แล้วล่ามก็กลับมารายงาน

“ได้ความว่าไงมั่ง” นักสำรวจชิงถาม

“เขาบอกว่า..” ล่ามตอบ

"มันก็เป็นของมันยังงี้เอง เวลาเจอน้ำเย็น ๆ
อาวุธของพวกคนขาวไม่รู้จักหดมั่งรึไง!?! "

ปล. O_o หดแล้วนะนั่น
 

------------------------- ผม荰คยทำขาด ----------------------------

ผู้จัดการบริษัท เห็นว่าหนุ่มกริชนั้นเป็นคนที่ขยันมากจนน่ารำคาญ
จึงเรียกมาพูดในห้องผู้จัดการ

ผู้จัดการ : นี่คุณ รู้สึกว่าคุณจะขยันมากจนน่ารำคาญแล้วนะ
นี่ถ้าคุณทำอะไรขาดไปบ้างผมจะยินดีมากเลย

หนุ่มกริช : อ๋อ งั้นท่านควรจะดีใจได้แล้วครับ

ผู้จัดการ : แล้วคุณทำอะไรขาดไปล่ะ

หนุ่มกริช : ประจำเดือนลูกสาวท่านครับ

ผู้จัดการ : ?!?
 

---------------------------- ซั;กผ้า -----------------------------

สามีภรรยาคู่หนึ่งแต่งงานกันมาหลายปีและมีลูก 1 คน
กำลังอยากรู้อยากเห็น สองสามีภรรยาจึงตกลงกันว่า
ถ้าวันไหนที่จะมีกิจกรรมเข้าจังหวะให้พูดว่า "ซักผ้า"

อยู่มาวันหนึ่งสามีก็เอ่ยกับภรรยาว่า

สามี : ที่รักจ๋าวันนี้เราซักผ้ากันเถอะ

ภรรยา : ไม่ได้หรอกค่ะ วันนี้เครื่องซักผ้าเสีย (วันเบา ๆ)

======> สองวันต่อมา สามีก็เอ่ยกับภรรยาอีกว่า

สามี : ที่รักจ๋าวันนี้เราซักผ้ากันได้แล้วหรือยังจ๊ะ

ภรรยา : ยังไม่ได้หรอกค่ะ เครื่องซักผ้ายังซ่อมไม่เสร็จจ๊ะ

=======> สามวันถัดมา

ภรรยา : ที่รักจ๋าวันนี้เครื่องซักผ้าใช้ได้แล้วค่ะ

สามี : อ๋อ ! ไม่ต้องแล้วหล่ะ เพราะเมื่อวานพี่ใช้มือซักไปเรียบร้อยแล้ว

ภรรยา : !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

 

------------------- Halloween Party -------------------------

สามีภรรยา คู่หนึ่งกำลังจะไปงาน Halloween Party
ซึ่งเป็นงานแฟนซี สวมหน้ากาก แต่ภรรยาเกิดปวดหัวกระทันหัน
เลยขออยู่บ้าน และ ให้สามีไปคนเดียว

ตอนแรก ๆ สามีก็ไม่ยอมไป แต่ภรรยาก็ไม่อยากให้อาการปวดหัวของตัวเอง
ทำให้สามีไม่สนุก ก็เลยบอกไปว่า

"ที่รัก ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก เดี๋ยวฉันกินยาแก้ปวดแล้วนอนสักพักก็หายแล้ว"

สามีก็เลยไปงานแฟนซีคนเดียว ฝ่ายภรรยา เมื่อกินยาไปได้สักพัก
ก็นอนหลับ เมื่อตื่นขึ้นมา อาการหายปวด ก็หายเป็นปลิดทิ้ง
และเนื่องจากว่า งานแฟนซีก็เพิ่งเริ่มไปได้ไม่เท่าไหร่
เจ้าหล่อนก็เลยคิดจะแอบไป โดยไม่ให้สามีรู้
และเพื่อเป็นการสังเกตุพฤติกรรมของสามีด้วย
อีกอย่างหนึ่ง ก็คือว่าสามีเองก็ไม่เคยเห็นชุดแฟนซีของภรรยามาก่อน เลย
ทำให้ง่ายมากต่อการสังเกตุ พฤติกรรมของสามีตัวเอง

เมื่อไปถึงที่งาน เจ้าหล่อนก็เห็นสามีตนเองในชุดแฟนซีที่ใส่ก่อนออกจากบ้าน
กำลังเต้นรำกับสาวสวย อย่างสนุกสนาน และสาวแต่ละคน
ที่ขอเต้นรำด้วยก็สวย ๆ ทั้งนั้น เจ้าหล่อนก็แสดงละคร
โดยแกล้งเดินไปหา และให้ท่าสามีตัวเองอย่างยั่วยวนที่สุด
ฝ่ายชายเห็นดังนั้น ก็ทิ้งคู่ที่ตัวเองกำลังเต้นด้วยอยู่
เดินเข้ามาหาผู้มาใหม่ทันที ทั้งคู่เต้นรำกันไปได้สักพัก
ฝ่ายชายก็กระซิบที่ข้างหู ชวนให้สาวเจ้าไปมีอะไรกุ๊กกิ๊กกัน
ฝ่ายหญิงก็ OK แล้วก็เดินเข้าไปในรถคันหนึ่ง แล้วก็….เรียบร้อย

เสร็จสรรพ ทั้งคู่ โดยที่ต่างฝ่ายยังใส่หน้ากากกันอยู่
เมื่อจะถึงเวลาถอดหน้ากากหลังเที่ยงคืนตามกฎของงานแฟนซี
สวมหน้ากาก ฝ่ายภรรยา ก็แอบแวบออกไปก่อน พอกลับถึงบ้าน
แล้วก็เปลี่ยนชุดนอนอย่างเก่า แกล้งทำเป็นอ่านหนังสืออยู่ที่เตียงนอน
ซึ่งเจ้าหล่อนก็อยากจะรู้จริง ๆ สามีของหล่อนจะอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไง

เมื่อสามีกลับไปถึงบ้าน ภรรยาก็ถามขึ้นมาทันที

"งานแฟนซี วันนี้ เป็นอย่างไรบ้างคะ ที่รัก"

สามีตอบ

"ก็เหมือนอย่างเดิมนั้นแหละ ผมไม่ค่อยสนุกนักเมื่อคุณไม่ได้อยู่ด้วย"

ภรรยา : แล้วคุณเต้นเยอะไหมคะ

สามี : โอ ไม่เลยจ๊ะ ผมไม่ได้เต้นสักกะเพลงเดี่ยว ตลอดทั้งงาน
ผมพบเพื่อน ๆ ของผม แล้วก็ชวนกันเข้าไปเล่นไพ่
อยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง แต่ผมบอกได้อย่างเดียวว่า
เจ้าหนุ่มที่ขอยืมชุดแฟนซีของผมไป สนุกสุดเหวี่ยงแน่นอน

ภรรยา : ….……..
 

 

----------------------- พ่超พันธุ์ชั้นเยี่ยม ------------------------

ทิดอ่ำเลี้ยงหมูตัวเมีย ภายหลังจากที่ทางราชการ
ได้เข้าไปแนะนำวิธีการเพื่อให้ชาวบ้าน
ได้รู้จักการการเลี้ยงสัตว์ต่าง ๆ เช่น ไก่ เป็ด หมู เป็นต้น

ทิดอ่ำ ผู้ซึ่งพึ่งจะสึกจากพระมาหมาด ๆ แล้วก็ได้แต่งงานมีเมีย
มาได้ ประมาณ 1 เดือนมานี้เอง ก็เกิดความคิด อยากจะลองเลี้ยงหมู
กับเขาดูบ้าง และด้วยความคิดที่ก้าวหน้า เข้าจึงไปเลือกซื้อ
เฉพาะลูกหมู ตัวเมียมาเลี้ยง จำนวน 40 ตัว เพราะว่าเมื่อมันโตขึ้น
เป็นแม่หมู เขาจะได้ขายลูกหมู ต่อไปในอนาคต

เวลาผ่านไป หมูที่เลี้ยงอยู่ โตเป็นหมูสาวแล้ว เขาก็ยังไม่ได้ลูกหมู
เลยสักตัว ทิดอ่ำก็เลยไปสอบถาม กับทิดส่ง ผู้ซึ่งเป็นที่ปรึกษา
ทางด้านการเลี้ยงสัตว์ประจำหมู่บ้าน ซึ่งทิดส่งก็ได้อธิบายให้ทราบว่า

"จะต้องมีการผสมพันธุ์ให้กับหมูสาว เสียก่อน หมูจึงจะตั้งท้องมีลูกได้ "

พร้อมกันนั้น ก็ได้บอกถึงวิธีการดูว่าเมื่อหมูสาว พร้อมที่จะผสมพันธุ์

"มันจะมีอาการชอบวิ่ง และกระโดดไปมา แต่เมื่อผสมติดแล้ว มันจะชอบเดินและชอบนอน"

เมื่อทิดอ่ำกลับมาถึงบ้าน เขาก็เข้าไปสังเกตุดูหมูที่เขาเลี้ยง
ซึ่งทุกตัว มีอาการชอบวิ่ง และกระโดดไปมา
แต่เนื่องจากทิดส่งผู้ที่เป็นที่ปรึกษา ไม่ได้บอกถึง
วิธีการผสมพันธุ์หมูไว้ให้ เขาก็จึงคิดหาวิธีที่จะผสมพันธุ์
ให้กับหมูสาวของเขา จึงได้ความคิดว่า เขาเองก็น่าจะทำหน้าที่
เป็นพ่อพันธุ์ ให้กับหมูสาวของเขาได้

เช้าวันรุ่งขึ้น ทิดอ่ำพยายามต้อนหมูสาวทุกตัว เพื่อให้ขึ้นไปอยู่บนรถ อีแต๋น
ซึ่งกว่าจะต้อนให้ขึ้นไปจนครบทุกตัว ก็ทุลักทุเลพอสมควร
จากนั้น ก็ขับรถอีแต๋น ไปยังป่าละเมาะท้ายหมู่บ้าน
ซึ่งดูลับตาผู้คนหน่อย จากนั้น เขาก็เริ่มทำหน้าที่พ่อพันธุ์
ให้กับหมูสาวจนครบทั้ง 40 ตัว แล้วจึง นำกลับมาที่บ้าน

เช้าวันต่อมา ทิดอ่ำก็ยังสังเกตุเห็นหมูสาวของตัวเอง
มีอาการชอบวิ่ง และกระโดดไปมา อยู่เช่นเดิม
เขาคิดว่าคงจะยังผสมไม่ติดเป็นแน่ ดังนั้น จึงต้อนหมูสาว
ให้ขึ้นไปบนรถอีแต๋น ซึ่งคราวนี้ หมูทุกตัวพากันเดินขึ้นไปบนรถ
อย่างมีระเบียบ จากนั้นเขาก็ขับรถไปยังที่เดิม และก็ทำเหมือนเดิม

เช้าต่อมาอีกวันหนึ่ง ทิดอ่ำยังนอนไม่ตื่น อันเนื่องมาจาก
ความอ่อนเพลีย เสียแรง เป็นอย่างมาก
จากการที่เขาทำหน้าที่มา 2 วันก่อนนั่นเอง ได้ยินเสียงภรรยา มาเรียกปลุกให้ลุกขึ้น

"พี่ พี่ หมูมันพากันขึ้นไป อยู่บนท้ายรถอีแต๋นกันหมดแล้ว
และก็มีตัวหนึ่ง มันกำลังกดแตรรถอยู่ด้วย"

 

----------------------------- ต 貤 --------------------------------

มีชายแก่คนหนึ่งเป็นอัมพาตส่วนล่าง ไปไหนก็ต้องใช้รถเข็นตลอด
แล้วก็ต้องมีพยาบาลคอยดูแล วันหนี่งชายแก่อยากออกไปสูดอากาศข้างนอก
ก็บอกพยาบาลว่า

"พยาบาล พาออกไปข้างนอกหน่อย "

พยาบาลก็พาไป ซักพักชายแก่ก็นั่งเอียงซ้าย พยาบาลเห็นก็จับนั่งตัวตรง
พอเอียงขวาก็จับนั่งตรงอีก ชายแก่โมโห เลยบอกออกไปว่า

"พยาบาล ผมจะตดมั่งไม่ได้เลยรึไง..ห๊า"

 

----------------------- รู贏นี้ ต้องขยาย ------------------------

ในคืนแต่งงานคืนแรก

เจ้าบ่าว : ที่รัก..ผมอยากเห็นรูปร่างของคุณใจจะขาด รีบ ๆ ถอดเร็ว ๆ เถอะ

เจ้าสาว รีบถอดเสิ้อผ้าออก

เจ้าบ่าว : โอ ช่างสวยเหลือเกิน

แล้วเจ้าบ่าวก็รีบไปเอากล้องถ่ายรูปมาถ่ายรูปภรรยาไว้

เจ้าสาว : คุณจะถ่ายรูปฉันทำไม คะ

เจ้าบ่าว : ผมจะเก็บไว้ดูเพราะคุณสวยเหลือเกิน

เจ้าสาว : คราวนี้ฉันอยากเห็นรูปร่างของคุณบ้าง

สิ้นเสียง เจ้าบ่าวก็รีบจัดการกับเสื้อผ้าตัวเอง

เจ้าสาว : โอ !! พระเจ้า

แล้วหยิบกล้องมาบึนทึกรูปเปลือยสามีไว้

เจ้าบ่าว : คุณถ่ายรูปผมทำไม ?

เจ้าสาว : อ๋อ ฉันจะเอารูปส่วนนี้ไปขยายค่ะ

 

 

---------------------------- ถ่;านหมด -------------------------------

มีกระเทยอนงค์นางหนึ่ง วิ่งแจ้นไปพบหมอ
ที่คลินิกแห่งหนึ่งด้วยความรีบร้อน และตกใจ
พร้อมกับ vibrator ที่เสียบคาอยู่ในก้น

กระเทย : หมอค่ะ....ช่วยหนูด้วยคะ (พร้อมกับยื่นก้นให้หมอดู)

หมอ : ไปเล่นอีท่าไหนเข้าหละถึงติดอยู่ข้างในอย่างนี้......
เอ้า ขึ้น เตียง เดี๋ยวหมอเอาออกให้

กระเทย : เออ.....คือหนูแค่มาให้หมอช่วยเปลี่ยนถ่านให้หน่อยอะคะ พอดีถ่านหมด

 

------------------------------- ป輝๊ด ๆ ---------------------------------

วันหนึ่ง ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง มีคนไข้ชื่อนายสมชายมาปรึกษาหมอ

"คุณหมอครับ ทำไงดี ผมมีปัญหาอย่างว่าครับ คือว่า
มันไม่สู้น่ะครับคุณหมอ เมียผมก็บ่น บ้น บ่น"

หมอทำท่าคิด แล้วตอบว่า

"เอางี้นะ ผมมียาชนิดหนึ่งที่จะแก้ปัญหาให้คุณได้
แต่มันยังอยู่ในขั้นทดลองนะ ผลที่ได้อาจจะมีผิดพลาดบ้าง
คุณอยากได้มั้ยหล่ะ"

สมชายพยักหน้าหงึก ๆ ตอบตกลงโดยไม่ลังเล
คุณหมอจึงให้ยามา 3 เม็ด และเพื่อเป็นการสาธิต
ก็ได้ให้ยาอีกเม็ด เป็นเม็ดทดลอง (รวมกันเป็น 4 เม็ด)
สมชายก็กินยาเข้าไป แล้วคุณหมอก็อธิบายวิธีใช้ยา
ให้สมชายฟัง

"คุณฟังหมอให้ดี ๆ นะ ยานี้ต้องมีสัญญาณพิเศษกำกับด้วย กินเฉย ๆ ไม่ได้ผล"

"ครับ ๆ" สมชายตอบแล้วฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ

"สัญญาณก็คือว่า หลังจากกินยาเข้าไปแล้ว
เมื่อคุณต้องการให้จ้อนของคุณสู้ คุณก็ให้สัญญาณว่า 'ปิ๊ด' นะ"

พอขาดคำ นกเขาของสมชายก็ลุกขึ้นสู้ทันที สมชายตื่นเต้นมาก

"โอ้โห ยาคุณหมอได้ผลดีจริง ๆ ด้วยครับ"

"เดี๋ยวครับ อย่าเพิ่งเอะอะไป" คุณหมอเบรค "ยังมีอีกสัญญาณนึง
เป็นสัญญาณทำให้กลับเป็นเหมือนปกติ คือ 'ปิ๊ด ปิ๊ด' นะครับ"

คุณหมอพูดจบ นกเขาของสมชายก็กลับคืนสู่สภาพเดิม สมชายตื่นเต้นอีกที

"โอ้โห อะไรจะสั่งได้ตามใจชอบอย่างงี้" คุณหมอพยักหน้า

"ครับ สั่งได้ตามใจชอบ แต่ยานี้ใช้ได้เม็ดละครั้งนะครับ คุณต้องระวังให้ดี ๆ"

"ครับ ๆ ๆ ๆ ๆ" สมชายรับคำ แล้วก็ลาคุณหมอกลับบ้าน

ระหว่างที่กำลังเดิน ๆ จะกลับไปที่รถ สมชายก็เกิดสงสัยขึ้นมา
ว่าหมออาจจะมีเล่ห์เหลี่ยม ใช้อุปกรณ์อย่างอื่นแอบแฝงในการทดลอง
อย่ากระนั้นเลย เราต้องรีบทดลองอีกรอบด้วยตัวเอง
ถ้าไม่ได้ผลจะได้วิ่งกลับไปโวยหมอได้ คิดได้ดังนั้น
ก็แวะเข้าห้องน้ำโรงพยาบาล และลองกินยาดู เป็นการทดสอบ

"ปิ๊ด!" ......

"เออ...ได้ผลเว้ย ดี ดี ดี"

"ปิ๊ด ปิ๊ด!" ......

"ฮืม...ใช้ได้ ใช้ได้"

เมื่อผลการทดลองเป็นที่พอใจ สมชายก็ขับรถกลับบ้าน
พอถึงปากซอย สมชายก็กินยาอีกเม็ดหนึ่ง
พร้อมกับกระหยิ่มยิ้มย่อง

"หึหึ ทีนี้หละ เราจะบรรเลงเพลงกับเมียให้ถึงเช้าเลย"

แต่อนิจจา ยังไม่ทันเข้าบ้านดี ก็มีรถบีบแตรไล่

"ปี๊น!"

"เฮ้ย !!! ชิปเป๋ง....ยาตู โธ่เฟ้ย ยังไม่ได้ให้สัญญาณซักหน่อย"

สมชายนึกโมโห ที่ถูกบีบแตรใส่ทำให้ยาแสดงผลออกมาก่อนเข้าบ้าน
จึงเผลอด่า พร้อมบีบแตรออกไป

"ปี๊น! ปี๊น! บีบแตรหาพ่อมึงเหรอวะ"

"อ้าวเฮ้ย.....ชิ๊บหายหละตู อ่อนไปเลย"

โชคยังดีที่เหลือยาอีก 1 เม็ด สมชายจึงรีบบึ่งเข้าบ้าน
แล้วรายงานเมีย

"ที่รักจ๊ะ พี่ไปหาหมอมา คุณหมอให้ยามาดี๊ดีหละ
วันนี้เรามาป่ามป๊ามกันนะ นะจ๊ะ..."

เมียดีใจมาก หอมแก้มสมชายฟอดใหญ่

"ต๊าย ตาย ดีสิคะคุณพี่ ไปอาบน้ำรอก่อนนะคะ
เดี๋ยวน้องจะเตรียมของว่างให้"

สมชายอาบน้ำเสร็จก็นึกในใจ

'อืม ยาเม็ดสุดท้ายแล้ว ต้องกินก่อนขึ้นเตียง'

ศรีภรรยาเอาของว่างมาเสิร์ฟ แล้วไปอาบน้ำบ้าง
สมชายกินของว่างรอเมีย แล้วก็นั่งคิด

'เออ...จริงสิ ตะกี้นี้รู้สึกว่า ยิ่งดังเท่าไหร่ก็ยิ่งสู้มาก
คราวนี้เราลองร้องดัง ๆ ดูซิ มันคงจะดี'

พอดีสมชายได้ยินเสียงเมียปิดน้ำฝักบัว ก็นึกดีใจ

'หึหึหึ ได้เวลาโชว์ออฟแล้ว'

ว่าแล้วก็รีบกินยาแล้วส่งสัญญาณทันที "ปี๊ดดดดดดด!!!"

จริงดังคาด คราวนี้นกเขาของเขาสู้มากกว่าตอนทดลอง
สมชายรีบเรียกเมีย

"ที่รักจ๊ะ มาเร็ว ๆ สิ มาดูนี่ พี่มีอะไรจะอวด"

"ค่ะ ค่ะ มาแล้วค่ะพี่" ว่าพลาง เมียก็เดินออกมาจากห้องน้ำ

"ว่าแต่ ตะกี้ใครทำอะไรเสียงดัง 'ปี๊ด ๆ' พี่ได้ยินรึเปล่าคะ?"