...........ป่าไม้บนเกาะในอุทยานแห่งชาตตะรุเตายังคงมีความอุดม
สมบูรณ์อยู่มากกว่า 90 เปอร์เซนต์ของเนื้อที่เกาะรวมกันสภาพ
ป่าบนเกาะตะรุเตาและเกาะอาดัง เกาะราวีส่วนใหญ่เป็นป่าดิบชื้น
ส่วนที่เกาะหลีเป๊ะจะเป็นป่าดิบชื้นผสมกับป่าแคระบริเวณตอน
กลางของเกาะ ความสำคัญของป่าไม้เห็นได้ชัดเพราะเป็นแหล่ง
ต้นน้ำลำธารให้น้ำดื่มน้ำใช้ อย่างไรก็ตามอุทยานฯ ก็ยังมีปัญหา
จากการที่ชาวบ้านมักมาลักลอบตัดไม้จากป่าชายเลน โดยเฉพาะ
บริเวณคลองพันเตมะละกา เพื่อนำไปใช้ในการหุงต้ม รวมทั้งการ
ตัดหวายเพื่อนำไปทำกระชังเลี้ยงปลา
....สภาพป่าโดยรวมของอุทยานฯ
สามารถจำแนกออกได้เป็น
1. ป่าดงดิบ เช่น หงอกค่าง ยางปาย หลุมพอ หมายกอาดัง
.....เคี่ยมคะนองกระแตไต่ไม้ ไพลดำ
2. ป่าผสมผลัดใบหรือป่าเขาหินปูน เช่น รักขาว รังตะแบกนา
.....สลัดไดป่า บุกหิน กูดหางม้า รองเท้านารีดอกขาว
3. ป่าชายหาด เช่น เสม็ดชุน เสม็ดขาว จิกเล กระทิง สนทะเล ...
.. .ปอทะเล ลำเจียก
4. ป่าพรุ เช่น จิกนา ตีนเป็ดเล็ก กระจูด หญ้าสามคม
5. ป่าชายเลน เช่น ฝาดดอกแดง ตะบูนขาว โปรงแดง
6. ไม้แคระ หรือไม้พุ่ม เช่น ปรงเขา ส้านใหญ่ เด็นอ้าน้อย ..
7. ป่ารุ่นสอง เช่น กระทุ่ม หว้าเขา เพกา พลับพลา
....หญ้ายายเภา .สาบเสือ
............
พรรณไม้น่าสนใจที่มักพบตาม
ผาหินปูนคือต้นสลัดได ไม้อวบน้ำมีหนาม
กล่าวกันว่าต้นที่ตายเพราะถูกทำลายโดย
เชื้อราบางชนิดนั้นจะให้สารที่มีกลิ่นหอม
ใช่เข้าเครื่องยาเรียกว่ากะลำพัก ตามหลืบ
หินจะพบเฟริ์นใบองุ่นในสกุล Doryopteris
ลักษณะใบเล็กสวยงาม
............. ป่าดงดิบบนเกาะตะรุเตายังพบ
หวายแปลก ๆ รวมทั้งต้นปาล์มหลากชนิด
เช่น หมากพน ปาล์มหายากชนิดหนึ่ง ลูก
ของมันมีพิษ ป่าชายเลนซึ่งมีพื้นที่ 4 %
์ของพื้นที่ป่าบนเกาะตะรุเตา..... มีพรรณ
ไม้เด่นอย่างต้นโกงกางใบใหญ่ ซึ่งมีราก
หายใจปักอยู่บนพื้นเลน ต้นพังกา โปรง
และรังกะแท้ ต้นตะบูน ตามป่าชายหาด
มักพบต้นรักทะเล ไม้พุ่มเตี้ย ๆ ที่มีใบสี
เขียวอ่อนมันวาว มีดอกเล็ก ๆ สีขาวรวม
ทั้งกล้วยไม้อย่างเอื้องกุหลาบกระเป๋าปิด
นอกจากนี้ยังพบเถาพุงปลาหรือจุกโรหินี
เกล็ดนาคราชหรือเกล็ดลิ่น ไม้เถาเลื้อย
อิงอาศัยสกุลเดียวกับต้นเดป
