วางเคโมฆ่าว้าขนยาบ้าตาย 13 ศพ

ทหารม้ากองกำลังผาเมือง ปะทะกลุ่มว้าแดงลำเลียงยาบ้าเด็ดหัวตายคาที่ 13 ศพ ขณะที่ทหารพลีชีพ 1 นาย โดยเหตุการณ์ระทึกขวัญครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นภายหลัง พล.ต.นคร ศรีเพ็ชรพันธ์ ผบ.กองกำลังผาเมือง จ.เชียงราย สืบทราบว่า จะมีกองกำลังกลุ่มว้าแดงลำเลียงยาบ้าลอตใหญ่ จากโรงงานผลิตแนวชายแดนไทย-พม่า เข้ามาในประเทศ ผ่านหมู่บ้านชาวเขาเขต อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ จึงสั่งให้ พ.ต.วิชญกูน คงพูนศิลป์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการหมวดลาดตระเวนระยะไกล นำกำลังสกัดตามเส้นทางในป่าเขตติดต่อระหว่าง อ.เวียงแหง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ กับ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ตั้งแต่เที่ยงของวันที่ 22 มี.ค.

กระทั่งเย็นวันเดียวกัน ขณะที่ชุดลาดตระเวนเคลื่อนกำลังเดินเท้าเข้าป่าเขตหมู่บ้านดอยสามหมื่น บ้านลีซอน้ำบ่อใหม่ และบ้านถ้ำเต่า ต.เมืองแหง อ.เวียงแหง เขตติดต่อกับเขตอุทยานห้วยน้ำดัง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ พบชายฉกรรจ์ต้องสงสัย 3 คน ขี่รถจักรยานยนต์คนละคันวนไปมาหลายรอบเหมือนสำรวจเส้นทางและดูลาดเลา พ.ต.วิชญกูนจึงสั่งกระจายกำลังซุ่มติดตามความเคลื่อนไหว พร้อมวางแผนจับกุมโดยวางระเบิดเคโมเป็นกับดักไว้ริมถนน และใช้กล้องอินฟราเรดส่องดูอย่างใกล้ชิด

จนเวลาประมาณ 20.30 น. พบเห็นกองกำลังติดอาวุธประมาณ 50 คน เดินลัดเลาะตามแนวสันเขา โดยมีรถจักรยานยนต์ขี่นำหน้าใช้ไฟรถส่องทาง ท่ามกลางการลุ้นระทึกของกำลังทหารที่เตรียมเผชิญหน้าเต็มที่ พอได้จังหวะที่กองกำลังติดอาวุธเดินเข้าใกล้กับดัก พ.ต. วิชญกูนจึงให้สัญญาณกดระเบิดเคโมทำงานเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เป็นเหตุให้ฝ่ายตรงข้ามร่วงล้มตายเกลื่อน ส่วนที่รอดตายจำนวนหนึ่ง เปิดฉากยิงปืนเข้าใส่ เกิดการปะทะทั้งกระสุนปืนและระเบิดถล่มใส่กันเต็มที่ยิ่งกว่าหนังสงครามนานประมาณ 30 นาที เสียงปืนฝ่ายตรงข้ามจึงเงียบสงบลง

เบื้องต้นกำลังทหารไม่กล้าผลีผลามเข้าเคลียร์ พื้นที่ เพราะเป็นเวลากลางคืน และพื้นที่เป็นป่าเขาเกรงจะเกิดอันตราย จึงตรึงกำลังไว้ รอกระทั่งเช้าตรู่วันที่ 23 มี.ค. ได้เข้าตรวจสอบ พบศพกองกำลังฝ่ายตรงข้ามนอนตายคากองเลือดเกลื่อนถนน นับได้จำนวน 13 ศพ แต่ละศพร่างแหลกเละขาดสองสามท่อนอย่างน่าสยดสยอง ชิ้นส่วนอวัยวะและเลือดกระเซ็นติดตามต้นไม้ ส่งกลิ่นคาวคลุ้งไปทั่ว ตรวจสอบพบหลักฐานทราบชื่อ 1 ศพคือนายก่อถัง แซ่ลี่ อายุ 35 ปี มือขวาของนายโกกั้ง แก๊งจีนฮ่อค้ายาบ้ารายใหญ่รองจากนายเหว่ย เซียะ กัง มาเฟียยาเสพติดชื่อดัง

ส่วนทหารเสียชีวิตอย่างน่าเศร้าใจ 1 นายคือ พลทหารปัญญา ลีพุฒิ อายุ 23 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนอาก้าเข้าบริเวณหน้าอก 1 นัด จึงนำส่ง รพ.เวียงแหง ในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ของกองกำลังฝ่ายตรงข้าม 3 คัน อาวุธปืนอาก้า 2 กระบอก ถุงเป้ 16 ใบ ภายในบรรจุยาบ้ารวมทั้งสิ้น 1,600,000 เม็ด ระเบิดจีนแดง 1 ลูก โทรศัพท์มือถือดาวเทียม ยี่ห้ออีริคสัน 1 เครื่อง ยี่ห้อโมโตโรล่าอีก 1 เครื่อง จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และแจ้งให้ พ.ต.ต.สุพจน์ ขันคำ สารวัตรเวร สภ.อ. เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ท้องที่เกิดเหตุทราบ

ต่อมา พล.ท.อุดมชัย องคสิงห แม่ทัพภาค 3 เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ แล้วเดินทางไปยัง รพ.เวียงแหง เพื่อเคารพศพพลทหารปัญญา ผู้พลีชีพในหน้าที่ โดยศพคลุมธงชาติอย่างสมเกียรติ จากนั้น พล.ท. อุดมชัยกล่าวว่า แก๊งยาบ้ากลุ่มนี้ มีทั้งมูเซอ ลีซอ และไทยไหญ่ ถือเป็นขบวนการใหญ่ ลำเลียงยาบ้ามาจาก ดอยคำ ไปยังห้วยน้ำดัง ผ่านเข้า อ.แม่แตง และเมืองเชียงใหม่ ก่อนส่งต่อไป ซึ่งตนได้สั่งให้กำลังผาเมืองเข้มงวดเส้นทางดังกล่าว เพราะเป็นเส้นทางลำเลียงยาบ้าที่สำคัญ จนเกิดการปะทะกันดังกล่าว ส่วนทหารที่เสียชีวิตจะให้การช่วยเหลือเต็มที่