จากคำประพันธ์ข้างต้นเล่นคำว่า แก้ว คำว่าแก้วในคำแรกหมายถึงนกแก้ว แก้วในคำที่สองเป็นชื่อต้นไม่ และแก้วในคำสุดท้ายหมายถึงนางอันเป็นที่รักดังดวงตา
4.1.4 การเลียนเสียงธรรมชาติ
คำประพันธ์ต่อไปนี้เป็นการเลียนเสียงการบินของผึ้ง ในคำว่า หึ่ง หึ่ง
เป็นเสียงที่มีลักษณะทอดซ้ำ วนเวียนอยู่เหมือนการบินของผึ้ง ช่วยเสริมจินตนาการให้แก่ผู้อ่านให้คิดถึงการเคลื่อนไหวของผึ้ง
เกือบรุ่งฟุ้งกลิ่นเกลี้ยง เพียงสุคนธ์
(โคลงนิราศเมืองสุพรรณ : สุนทรภู่)
นอกจากนี้ กวียังนำประโยชน์ของเสียงวรรณยุกต์มาใช้ล้อไล่กันทำให้เกิดความไพเราะและสนุกสนานยิ่งขึ้น ตัวอย่างจากกดนตรีประดับบทหนึ่งว่า
อมรแมนแม่นแม้น เจ้างงามโฉม
(จารึกวัดพระเชตุพน)
4.2 ลีลาและจังหวะ เป็นคุณสมบัติอีกอย่าหนึ่งที่ทำให้ร้อยกรองมีความไพเราะ ทั้งช่วยสร้างภาพในจิต สร้างอารมณ์ และความรู้สึกแก่ผู้อ่าน ผู้แต่งบทกวีจะเลือกใช้คำให้เหมาะกับเหตุการณ์หรือบรรยากาศ เช่น ในช่วงเศร้าโศกก็ใช้ลีลาของถ้อยคำที่ดูราบเรียบเชื่องช้า แต่ถ้าเป็นบทรื่นเริงก็จะใช้ลีลาของถ้อยคำที่สนุกสนาน เช่น
4.2.1 ลีลาเศร้าสร้อย
พระโหยหวนครวญเพลงวังเวงจิต
ให้คนคิดถึงถิ่นถวิลหวัง
อยู่ข้างหลังก็จะแลชะแง้คอย
ถึงยามค่ำย่ำฆ้องจะร้องไห้
ร่ำพิไรรัญจวนหวนละห้อย
โอ้ยามดึกดาวเคลื่อนเดือนก็คล้อย
น้ำค้างย้อยเย็นฉ่ำทิฆัมพร