ศึกบถึงและมึงก็ยังมิเห็น
อวดฉลาดและคาดแถลงเพราะใจ
ขยาดขยั้นมิทันอะไร ก็หมิ่นกู
บห่อนจะเห็นธวัชริปู สิล่าถอย
(สามัคคีเภทคำฉันท์ : ชิต บุรทัต)
4.3 กวีโวหาร คือ ศิลปะแห่งการใช้ถ้อยคำเพื่อให้เกิดภาพพจน์และภาพใจจิต บทร้อยกรองใดสามารถเสนอภาพให้ผู้อ่านเกิดมโนภาพได้อย่างเด่นชัด บทร้อยกรองนั้นจัดว่างทรงคุณค่าทางวรรณศิลป์ กวีโวหารเกิดจากการเลือกใช้คำอย่างมีศิลปะโดยการเปรียบเทียบในลักษณะต่าง ๆ ได้แก่
4.3.1 อุปมา คือ การเปรียบเทียบความเหมือนกันของสองสิ่งโดยใช้คำที่มีความหมายว่า เหมือน คำใดคำหนึ่ง เช่นกล เฉกดุจ ดัง ราว ราวกับ ปานประหนึ่ง เพียง เพี้ยง พ่าง เสมอ เสมือน เหมือน เป็นต้น การเปรียบเทียบลักษณะนี้จะมีข้อความ 2 ส่วน ส่วนหนึ่งกล่าวก่อนเรียก อุปไมย ส่วนที่กล่าวเปรียบเทียบและอยู่หลังคำเชื่อมเรียกว่า อุปมา เช่น
พระองค์โอภาสเพี้ยง ศศิธร
เสด็จดุจเดือนเขจร แจ่มฟ้า
ดวงดาวดาษอัมพร เรียงเรียบ
ดูดุจพลเจ้าหล้า รอบล้อมเสด็จโดย
(ลิลิตพระลอ)
คำประพันธ์ข้างต้นมีความเปรียบชมความงามของพระลอแบบอุปมา 3 แห่ง ได้แก่ การเปรียบความงามของผิวเนื้อของพระลองามเหมือนแสงนวลของแสงจันทร์ ใช้คำเชื่อมว่า เพี้ยง ประการที่สองเปรียบการเดินของพระลอว่าเหมือนการเดินทางของพระจันนทร์ที่ช่วยทำให้ท้องผ้าแจ่มใส โดยใช้คำเชื่อม ดุจ และเปรียบดวงดาวที่ล้อมรอยพระจันทร์อยู่เหมือนกับไพร่พลของพระลอที่ล้อมรอบพระองค์โดยใช้คำเชื่อมว่า ดุจ
พระโหยหวนครวญเพลงวังเวงจิต
ให้คนคิดถึงถิ่นถวิลหวัง'
Page 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20