|
เป็นเทคนิคการฝึกเพาะกายแบบเข้มข้นสำหรับนักเพาะกายขั้นสูง ที่กำลังมาแรงในวงการลูกเหล็กปัจจุบัน |
บางท่านเรียกยุทธวิธีฝึกนี้ว่า DOWN-RACK บ้าง STEP-BOMBING บ้าง REVERSE PYRAMIDING บ้าง HEAVY LIGHT TRAINING บ้าง แต่ไม่ว่าใครจะเรียกอย่างไรก็แล้วแต่ ทว่าดิเซ้นดิง เซ็ต ดูเหมือนว่าจะเป็นชื่อเรียกขานที่ติดปาก และคุ้นหูมากกว่า เทคนิคนี้นับว่าเป็นวิธีฝึกที่ดุเดือดจริง ๆ เพราะว่าเป็นวิธีฝึกที่เข้มข้นกว่าเออเซ้นดิง เซ็ต ดังนั้น จึงเหมาะสำหรับนักเพาะกาย ที่ผ่านการเคี่ยวมาจนข้นแล้วเท่านั้น เพราะกล้ามเนื้อส่วนที่ฝึก ต้องออกแรงต้านอย่างเต็มศักยภาพทุกเซ็ต อีกทั้งช่วงพักระหว่างเซ็ตก็สั้นมาก |
เทคนิคนี้เริ่มแพร่หลายเมื่อแจ็ค เดลิงเจอร์ มิสเตอร์ ยูนิเวิร์สปี 1966 นำมาใช้ โดยเขาได้รับการถ่ายทอดมาจากจอห์น ไกรเม็ค บิดาแห่งวงการเพาะกาย อีกทอดหนึ่ง |
ผู้ที่ฝึกด้วยเทคนิคดิเซ้นดิง เซ็ต จะเป็นเจ้าของกล้ามเนื้อทั้งหนาตันและคมชัด ตัวอย่างนักเพาะกายที่เคยฝึกด้วยวิธีนี้ เช่น อาร์ โนลด์ ชวาร์เชนเนกเกอร์, บอยเออร์ โค,ริช แกสปารี และลี บาบราดา |
ผู้ฝึกสามารถเลือกฝึกดิเซ้นดิง เซ็ตได้สองวิธี |
1)CLASSIC DESCENDING SETS |
ผู้ฝึกใช้อุปกรณ์ฝึกที่มีน้ำหนักเบา อุ่นเครื่องเสียก่อน เพื่อให้กล้ามเนื้อปรับตัว เตรียมพร้อมรับการฝึกหนัก ที่กำลังจะมาเยือน หลังจากนี้เริ่มเซ็ตแรก ด้วยอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักมากที่สุด ที่ผู้ฝึกสามารถฝึกได้ ครบจำนวนครั้งที่กำหนดพอดี หลังจากนี้ พักเซ็ตประมาณ 10-20 วินาที ขณะพักเซ็ตผู้ฝึกต้องทอนน้ำหนักลง เท่าที่ทำให้ผู้ฝึก สามารถฝึกเซ็ตต่อไป ที่มีจำนวนครั้งเท่ากับเซ็ตแรกพอดี ทอนน้ำหนักลง แล้วฝึกซ้ำ ทำเช่นนี้ประมาณ 3-5 เซ็ต โดยคงจำนวนครั้งเท่ากันทุกเซ็ต ข้อสำคัญ ทุกเซ็ตที่ฝึก ผู้ฝึกต้องออกแรงต้าน อย่างเต็มกำลังจริง ๆ |
|
2)BREAK DOWNS |
อุ่นเครื่องเหมือนวิธีแรก แล้วเริ่มฝึกจริงเซ็ตแรก ใช้อุปกรณ์ที่มีน้ำหนักมากที่สุด ซึ่งผู้ฝึกสามารถออกแรงต้านได้สูงสุด 6 ครั้งพอดี พักเซ็ต 10-20 วินาที ลดน้ำหนักลง 20 เปอร์เซ็นต์ หรือกว่านี้ ฝึกเซ็ตที่สองอีก 12 ครั้ง ทอนน้ำหนักลงอีก พัก 10-20 วินาที แล้วฝึกเซ็ตที่สาม อีก 20 ครั้ง ทั้งหมดรวมเป็น หนึ่งชุดใหญ่ (3 เซ็ต) |
ผู้ฝึกบางท่าน สามารถฝึก 2 ชุดใหญ่ได้ หลังจากพักระหว่างชุด 1-2 นาที ดร.เฟร็ด แฮทฟิลด์ (Dr.Fred Hatfield) โค้ชเพาะกายคนหนึ่งของโลก กล่าวว่า ผู้ที่ใช้เทคนิคนี้ เยื่อใยของกล้ามเนื้อ จะได้รับการทำงานอย่างทั่วถึง อันเนื่องมาจาก จำนวนครั้งที่ต่างกันในแต่ละเซ็ต |