Priority Training Principle


              เป็นเทคนิคเรียงลำดับก่อนหลังการบริหารกล้ามเนื้อ ว่าชิ้นใด บริหารก่อนชิ้นใด แต่ผู้ที่จะใช้เทคนิคนี้ได้ จะต้องมีความรู้ค่อนข้างลึกซึ้งพอสมควร เนื่องจากใช้หลายทฤษฎีประกอบกัน บางท่านบอกว่า ต้องบริหารไบเซบไว้ตั้งแต่เย็นเมื่อวาน แล้วมาบริหารหน้าอกในเช้าวันนี้ เหตุผลก็เพื่อให้กล้ามแขนล้า เวลาบริหารท่า Benchpress จะได้ใช้แรงจากหน้าอกมากๆ (เพราะไบเซบล้า จึงออกแรงน้อยลง) แต่บางท่านบอกว่า ต้องบริหารกล้ามเนื้อชิ้นเล็ก คือไบเซบ หลังจากการบริหารกล้ามเนื้อชิ้นใหญ่ คือหน้าอก เท่านั้น จึงเห็นได้ว่า หากท่านผู้ปฏิบัติไม่มีความรู้ตรงนี้มากพอ ก็จะสับสน ซึ่งความจริงความแตกต่างของสองทฤษฎีนี้คือ จุดประสงค์ในการบริหาร ว่าเพื่ออะไร ถ้าเพื่อประกวดเพาะกาย ก็ใช้ลูกน้ำหนักมาก ทำให้ไม่สามารถบริหารไบเซบต่อจากหน้าอกได้ อีกประการหนึ่งคือ เรื่องของคาบการบริหาร หากเล่นไบเซบ แยกขาดจากหน้าอกแล้ว การบริหารไบเซบก่อนหน้าอกก็ทำได้ แต่หากเป็นการรวมบริหารในคาบเดียวกัน การบริหารไบเซบก่อนหน้าอกเป็นเรื่องไม่ควรทำ (แต่ก็อีกนั่นแหละ มีข้อยกเว้นในย่อหน้าข้างล่างนี้อีก)
              ข้อยกเว้นคือ เมื่อเอาทฤษฎี Priority นี้ไปพูดถึงความสดชื่นของกล้ามเนื้อ บางทีการเปลี่ยนเอาไบเซบ ไปอยู่ก่อนหน้าอกในบางอาทิตย์ ก็จะได้ผลดีกว่า เพราะโดยปกติ เมื่อกล้ามเนื้อสดชื่น ย่อมจะออกแรงได้มาก และเมื่อเราบริหารหน้าอกก่อนไบเซบ ซึ่งเป็นเวลาที่กล้ามเนื้อสดชื่น หน้าอกก็จะบริหารได้ผลดีไปตลอด จึงมีการออกแบบให้หมุนกล้ามเนื้ออื่น ขึ้นมาได้รับการบริหารตอนที่สดชื่นบ้าง เช่นเอาไบเซบ มาบริหารก่อนหน้าอก เพื่อให้ไบเซบได้รับการบริหารตอนสดชื่นนั่นเอง
              ตารางบริหารของนักเพาะกายหลายคน จะเป็นแบบตายตัวเช่น วันจันทร์บริหารต้นขา หน้าอก ฯลฯ วันอังคารบริหารปีก หลังแขน ฯลฯ หยุดวันพุธ แล้วเริ่มวันพฤหัส ด้วยตารางเดียวกับวันจันทร์ ซึ่งจะเห็นได้ว่า กล้ามต้นขาจะถูกบริหารตอนที่สดชื่นทุกครั้ง นั่นคือ เป็นกล้ามเนื้อชิ้นแรก ที่ได้รับการบริหารหลังจากการพักผ่อนวันพุธ และวันเสาร์อาทิตย์   ดังนั้น จึงมีนักเพาะกายอีกหลายคน เสนอว่าควรใช้เทคนิค Priority เพื่อสลับเอากล้ามเนื้ออื่นมาบริหารก่อนกล้ามต้นขาบ้าง เพื่อจะได้รับความสดชื่น ของการได้รับการบริหารเป็นชิ้นแรก ถ้วนหน้ากัน




</font> </p> </body> </html>