เรื่องจิตนี้
การปฏิบัติเรื่องจิตนี้
ความจริงจิตไม่เป็นอะไร
มันเป็น
ประภัสสรของมันอยู่อย่างนั้น
มันสงบอยู่แล้ว
ที่จิตไม่สงบทุกวันนี้
เพราะจิตมันหลงอารมณ์
ตัวจิตแท้ๆนั้นไม่มีอะไร
เป็นธรรมชาติอยู่
เฉยๆเท่านั้น
ที่สงบ ที่ไม่สงบ
ก็เป็นเพราะอารมณ์มาหลอกลวง
จิตที่
ไม่ได้ฝึก
ก็ไม่มีความฉลาด
มันก็โง่ อารมณ์ก็มาหลอกลวงไป
ให้เป็น
สุข เป็นทุกข์
ดีใจ เสียใจ
จิตของคนตามธรรมชาตินั้น
ไม่มีความดีใจ
เสียใจ
ที่มีความดีใจเสียใจนั้น
ไม่ใช่จิต แต่เป็นอารมณ์ที่มาหลอก
ลวง จิตก็หลงไปตามอารมณ์โดยไม่รู้ตัว
แล้วก็เป็นสุข
เป็นทุกข์ ไป
ตามอารมณ์
เพราะยังไม่ได้ฝึก
ยังไม่ฉลาด
แล้วเราก็นึกว่าจิตเราเป็น
ทุกข์
นึกว่าจิตเราสบาย
ความจริงมันหลงอารมณ์
พูดถึงจิตของเราแล้ว
มันมีความสงบอยู่เฉยๆ
มีความสงบยิ่ง
เหมือนกับใบไม้ที่ไม่มีลมมาพัด
ก็อยู่เฉยๆ
ถ้ามีลมมาพัด
ก็กวัดแกว่ง
เป็นเพราะลมมาพัด
และก็เป็นเพราะอารมณ์
มันหลงอารมณ์
ถ้าจิต
ไม่หลงอารมณ์แล้ว
จิตก็ไม่กวัดแกว่ง
ถ้ารู้เท่าอารมณ์แล้ว
มันก็เฉย
เรียกว่าปกติของจิตเป็นอย่างนั้น
ที่เรามาปฏิบัติกันอยู่ทุกวันนี้
ก็เพื่อ
ให้เห็นจิตเดิม
เราคิดว่า
จิตเป็นสุข จิตเป็นทุกข์
แต่ความจริงจิตไม่ได้
สร้างสุข
สร้างทุกข์
อารมณ์มาหลอกลวงต่างหาก
มันจึงหลงอารมณ์
ฉะนั้น
เราจึงต้องมาฝึกจิตให้ฉลาดขึ้น
ให้รู้จักอารมณ์
ไม่ให้เป็นไป
ตามอารมณ์
จิตก็สงบ เรื่องแค่นี้เองที่เราต้องมาทำกรรมฐานกันยุ่ง
ยากทุกวันนี้
หมายเหตุจากผู้จัดทำ
เรื่องนี้ผมใช้หนังสือ
นอกเหตุเหนือผล
ซึ่งจัดพิมพ์โดย
สำนัก
พิมพ์
ธรรมสภา มาเป็นต้นฉบับ
พิมพ์เข้าเครื่องคอมพิวเตอร์
ผมได้ปรับปรุงตำแหน่งการเว้นวรรคและย่อหน้าให้เหมาะสม
แต่ยังคงเนื้อความไว้ตามเดิมทุกประการ