1. ผู้ป่วยรู้สึกตัวหรือไม่ ให้เขย่าตัวหรือเรียกเสียงดังๆถ้าไม่สนองตอบต่อสิ่งกระตุ้น
2. ให้ติดต่อขอความช่วยเหลือ
3. หายใจได้เองหรือไม่ ถ้าไม่หายใจ ให้ช่วยหายใจด้วยวิธีเป่าปาก
3.1 จัดให้ผู้ป่วยนอนราบ
3.2 ปลดเสื้อผ้าผู้ป่วยให้คลายออก
3.3 คุกเข่าด้านข้างผู้ป่วย
3.4 เปิดทางเดินหายใจ โดยดันหน้าผากเชยคางขึ้น
3.5 ประเมินว่าผู้ป่วยหายใจหรือไม่ เอียงหน้าให้หูอยู่ใกล้ปากและจมูกของผู้ป่วยตามองไปที่หน้าอก ดูการเคลื่อนไหวของทรวงอกว่าขยับขึ้นลง ตามการหายใจหรือไม่ หูฟังเสียงลมหายใจ แก้มสัมผัสลมหายใจออก
3.6 ถ้าผู้ป่วยไม่หายใจ ให้ช่วยหายใจ โดยใช้มือบีบจมูกผู้ป่วย
3.7 สังเกตว่าลมที่เป่า เข้าสู่ปอดผู้ป่วยหรือไม่ โดยการดูจาการเคลื่อนไหวของทรวงอก ถ้าลมเป่าไม่เข้าตัวผู้ป่วย ให้เป่าปากซำอีกครั้งหนึ่งถ้ายังไม่มีลมที่เป่าเข้าตัวผู้ป่วยอีก อาจมีสิ่งแปลกปลอมอุดกั้นทางเดินหายใจให้ล้วงเอาเสหะ เศษอาหาร ฟันปลอม(ถ้ามี) ออกก่อนแล้วค่อยช่วยหายใจต่อ
3.8 ถ้าผู้ป่วยหายใจได้เองให้หยุดช่วยหายใจและคอยสังเกตการหายใจต่อไป
4. ตรวจสอบชีพจรที่คอ(CAROTID) ถ้ามีชีพจรไม่ต้องกดหน้าอก
5. ถ้าไม่มีชีพจรให้ทำการกดหน้าอก (CHEST COMPRESSION)
5.1 วางส้นมือตรงกึ่งกลางระหว่างหน้าอกผู้ป่วยเหนือลิ้นปี่ 2 นิ้วมือ
5.2 วางมืออีกข้างทับด้านบน
5.3 กดนำหนักลงไปยังส้นมือ 2 ข้าง ลึก 1.5-2 นิ้ว
5.4 กดหน้าอก 15 ครั้ง โดยนับเป็นจังหวะ 1 และ 2 และ 3 และ 4....จนถึง 15
5.5 บีบจมูกและดันหน้าผากเชยคาง ช่วยหายใจด้วยวิธีเป่าปาก 2 ครั้ง สลับการกดหน้าอก
6. ทำซำขั้นตอนที่ 5 (4 รอบ)
7. ประเมินการหายใจและชีพจร ถ้าผู้ป่วยยังไม่หายใจและชีพจร ถ้าผู้ป่วยยังไม่หายใจและชีพจรยังไม่เต้นให้ช่วยจนกว่าผู้ป่วยจะหายใจได้เอง หรือหน่วยกู้ชีพไปถึง