:: ท. เที่ยว ::

» ซำบายดี…ลาว
» ของฟรีที่ สมุย
» จดหมายเหตุกรุงศรี ฯ
:: บ. บันทึก
:: ล. ลิงค์
:: ก. เกสบุค
:: ม. เอวเมว
:: ฮ. โฮม
วันพุธ ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2546
อยากจะตื่นสายที่สุด..
เช้าวันนี้ ไม่มีอะไรมาบีบคั้นนอกจากกระเพาะน้อย ๆ ที่ร้องโอดโอย
ทำให้ผมต้องตื่นขึ้นมาเพื่อหาของกิน 3 โมงเช้าแล้ว...ได้เวลาออกไปตะลุย
เราไม่รีรอ รีบทำธุระส่วนตัวแล้ว ออกจากห้องไป วันนี้ผมรู้สึกเหม็นตัวเองขึ้นมา
ก็เพราะว่าเสื้อซักไม่สะอาด เอาครีมอาบน้ำวักนี่หว่า

    เสื้อ 3 ตัวหมุนเวียนกัน มีตัวนึงเอาไว้ใส่ตอนนอน อีก 2 ตัวออกงาน
คิดผิดจริง ๆ ที่เอามาน้อย ตกเย็นทีไรต้องซักและเอาพัดลมเป่าทั้งคืน
 บางทีก็ไม่แห่ง....นี่ล่ะคือปัญหา ของมือใหม่ คือกะเกณฑ์อะไรไม่ถูก

 เรากินส้มตำตามที่ โนริโอะต้องการ.. ส้มตำใส่เส้นเล็ก
รสชาดไม่เห็นอร่อยเลย แต่ก็ต้องกิน..นี่ข้าวเช้านะ และเราต้องออกแรงด้วย
โปรแกรมวันนี้คือการไปเที่ยวถ้ำปู่คำ มีทางเลือก 2 ทางคือ ปั่นกับนั่ง

  ราคารถนั่ง ราว 15,000 ส่วนรถปั่น 10,000 เราก็เลยเลือก
ที่จะปั่นจักรยาน อีกอย่างเป็นออกกำลังกายไปในตัว และอยากจอดไหนก็ได้
น้ำคือสิ่งที่ขาดไม่ได้ ราคา 1,000 กีบเองที่ร้าน เช่ารถ...

  เส้นทางก็ทางเดิมที่ไปเมื่อวานนี้ ปัญหาแรกที่เราเจอคือ
การจูงรถข้ามน้ำซอง...... ลำบากที่สุดเพราะน้ำจะคอยพัดคันรถ
ทำให้บังคับยาก ยิ่งหากเรายกรถมันก็จะเบาและน้ำก็จะพาเรากะรถไปด้วยกัน
ผมผ่านไปก่อนอย่างลำบาก ส่วนโนริโอะต้องถอดกางเกง 
เหลือกางเกง ในเดินผ่าน้ำมา...ตลกว่ะ !!! 

      ก็ไม่น่าอายหรอกเพราะกางเกงในของญี่ปุ่นเขามันเป็นกางเกง
ขาสั้นตัวเล็ก ๆ แต่ไม่รัด...ต่างจากไทยเรา วันก่อนเราถกกันเรื่องกางเกงในนี่ล่ะ
และมันจบลงด้วย ความต่างกันของวัฒนธรรม และความคิด
 ว่าไปแล้วกางเกงแบบนั้นก็สบายดี ใส่เดินในบ้านได้เฉย
ก็โนริโอะ ทำแบบนี้ตลอดเลย.........

    ท่าทางลำบากเหลือเกิน........ พอเกือบจะข้ามมาได้ผมเข้าไปช่วยจูง
พอดีฝรั่งสองสามี-ภรรยายืนดู ทำหน้าอเมสซิ่ง ผมก็เลยบอกไปว่า 
คุณควรจะลองนะ ไม่ลำบากเท่าไหร่หรอก สนุกดีด้วย... เฮอะ ๆๆ เสร็จ... :-)
เราปั่นกันไปตามถนน ที่เดินเมื่อวาน

   ปั่นไปเรื่อย ๆ จนเห็นป้ายเขียนบอกทางว่า ทางไป ถ้ำเสือดาว
เราตกลงกันว่าจะไปถ้ำนี้ก่อน เลี้ยวซ้ายเข้าไปตามทางเดินเล็ก ๆ ที่ขรุขระ
คิดว่าคงเคยใช้เป็นเส้นทางแข่งเสือภูเขามาก่อน   ลำบากเหลือเกิน
บางทีก็ต้องลงจูงเพราะเหนื่อยกะเนินเล็ก ๆ แม้จะเล้กแต่ก็ต้องจูงเพราะว่า
มันตะปุ่มตะป่ำเหลือเกิน  

      ปั่น 15 นาทีก็ทะลุมาทางทุ่งนา อ้าว.....
ต้องปั่นไปตามทุ่งอีกนิดนึงเพื่อไป จ่ายค่าเข้าชมก่อน 5,000 กีบ
เรานั่งคุยกะอ้าย ที่นั่งเฝ้าอยู่นั่น ดูท่าทางแล้วแก คงมานั่งเล่นเสียมากกว่า
ตอนเราไปแก นอนเล่นบนกระต๊อบผุ ๆ คงร้อนมากจนต้องถอดเสื้อ
ข้างล่างมีสมุถดจดบันทึกวางอยู่ เราจ่ายเงินแล้ว
ก็ ถ่ายรูปกัน ก่อนที่จะล็อครถแล้ว เดินไปยังภูเขา

   ไปถึงก็ต้องปีน ปีน ปีน..... สูงมาก
ทางยังกะไม่มีใครเคยมาเที่ยวยังงั้นเลย อันที่จริงเรียกได้ว่ายังไม่ได้
มีการพัฒนาเป็นที่ท่องเที่ยวจะดีกว่า ตลอดการปีน ที่สูงชัน
เราหยูดพักหายใจหายคอ กัน 4 ครั้ง หอบแล้วหอบอีก
 
  แต่ยิ่งปีนสูงขึ้นไปเท่าไหร่ วิวยิ่งสวย เพราะมองเห็นภูเขาอีกฟาก
แล้วความพยายามก็สำเร็จ ...นั่นไงถ้ำเสือดาว ..สงสัยจังว่า
เสือดาวมันจะปีนขึ้นมานอนสูงขนาดนี้เลยหรือไง 
  ปากถ้ำแคบมาก...มีลมที่แสนจะเย็นพัดออกมาจากภายใน 
เรานั่งรับลมอยู่ด้านนอก ลมเย็นดีเหลือเกิน.... แถมมีเสียงนกร้องอยู่ตลอด
ปากถ้ำมีไฟแบตเตอรี่ให้ด้วย เราเลือกกันคนล่ะอันแล้วเข้าไปสำรวจด้านใน

     มันมืด.....มืด...และมืด...
แถมอันตรายเสียด้วย ไม่มีอะไรให้พยุงเลย จะต้องระวังเอาเอง
ลื่นไถลลงไปไม่มีใครรู้ และไม่มีใครช่วยดึงออกมาจากซอกลึก ๆ เหล่านั้นด้วย
หวาดเสียวเหลือเกิน... หากเสือมาอยู่จริง ข้างในซอกคง
จะมีโครงกระดูกเสือหลายตัว ... ขนาดมีไฟยังมองไม่ค่อยเห็นเลย
ประสาอะไรกับมืด ๆ......  แล้วจู่ ๆ ไฟผมก็ดับ

 อ้าว....เอาล่ะว่า..ไม่ได้ลบลู่นะครับ
ไม่ได้ลบหลู่อะไรเลย ผมยืนนิ่ง ๆ แล้วบอกให้โนริโอะฉายไฟมาทางนี้หน่อย
ลูบ ๆ คลำ ๆ ไปเรื่อย ๆ แล้วก็บอกให้โนริโอะออกไปดีกว่าเพราะมันอันตราย
หากตกลงไปคงไม่มีใครรู้ .....?????

     เราออกมาข้างนอกอย่างปลอดภัย....ออกมาได้ให้รู้สึกโล่งอก
บัดนั้นก็ได้เข้าใจว่า ขุมทรัพย์ที่ถ้ำอะไรสักอย่างที่เป็นข่าวกันปีก่อนคงจะ
มีสภาพแบบนี้แน่ ๆ แล้วคนที่โดนถล่มตายในถ้ำ..คงจะตกอยู่ในสถานการณ์
มืด ๆ คลำอะไรไม่เจอ อย่างที่เราเจอแน่....

   ข้างนอกดีกว่าเยอะแม้ว่าจะไม่มีพื้นที่ สำหรับให้ยืนนั่ง เกิน 5 คนก็เหอะ
หากเกิน 5 มีหวังเบียดกันตกเขาตายแน่ ๆ ..เขาก็เป็นเขาหินอีกตะหาก
ตกลงไปโหม่งหินตายก่อนถึงพื้น นึกแล้วต้องหากิ่งไม้เกาะไว้แน่น ๆ
 เราอยู่กันต่ออีกเล็กน้อย ถ่ายรูปจากมุมสูง ผมขอให้โนริโอะถ่ายรูปให้
เพราะตัวเองไม่มีกล้อง แชะ...... พอแล้วล่ะ เกรงใจ อันที่จริง

    หากว่าเป็นกล้องตัวเอง แถว ๆ นี้คงหมดไปครึ่งม้วนแล้วล่ะ
แต่ทำไงได้คนมัน อัตคัต... คราวนี้เป็นการปีนลง  ปีนลงง่ายกว่า
ปีนขึ้นแต่ต้องระวัง เพราะว่าหากล้ม มีหวังหัวชนหินแตกแน่ ๆ ดีไม่ดี
หล่นลงข้างล่าง....

     โนริโอะดันเกิดปวดท้องขึ้นมา....ตายล่ะหว่า ไม่มีห้องน้ำด้วย
ผมก็เลยบอกว่า ยูจัดการเองแล้วกัน ตาม ๆ ระแวกป่านี้ล่ะ
แต่อย่าไปทำสวนเขาเลอะแล้วกัน ...จะรออยู่ที่เดิมนะ

   ครึ่งชั่วโมงผ่านไป โนริโอะเดินออกจากป่ามากระต๊อบ ท่าทางดีขึ้นเยอะ....
ระหว่างที่รอผมก็คุยกับอ้ายคนนั้นล่ะ แถว ๆ ภูเขาเป็นไร่ สวน มีคลองธรรมชาติเล็ก ๆ
มีน้ำเย็นไหล ตอนเย็น ๆ ลิงจากบนเขาจะลงมากินน้ำ....โหอยากเห็นว้อย

 ผมถามทางไปถ้ำ ปู่คำ กับอ้ายเพิ่นแล้วก็พาโนริโอะปั่นกลับทางเดิม

     

กลับไปหน้า...รวมวัน

วันที่ 7 พบเพื่อจาก