:: ท. เที่ยว ::

» ซำบายดี…ลาว
» ของฟรีที่ สมุย
» จดหมายเหตุกรุงศรี ฯ
:: บ. บันทึก
:: ล. ลิงค์
:: ก. เกสบุค
:: ม. เอวเมว
:: ฮ. โฮม
วันศุกร์ ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2546

มีอะไรเกิดขึ้นบ้างเมื่อคืนนี้? ผมอยากจะดื่มด่ำบรรยากาศเหลือเกินแต่ว่า ความเหน็ดเหนื่อยของเมื่อวานนี้ ทำให้ผมต้องปลีกตัว ปล่อยให้โนริโอะอยู่ลำพัง โนริโอะ ตื่นแต่เช้า...ด้วยสีหน้าที่สดใส เพราะเช้านี้ จะได้ไปเที่ยวน้ำตก กวางสี ตามที่เคยอ่านๆ มา น้ำตกนี้ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่แล้วเพราะว่า เกิดดินถล่ม ทำให้ทรรศนียภาพเดิมของน้ำตกนั้นเสียหายไปด้วย แต่โนริโอะก็อยากไป..... ส่วนผม เฉย ๆ เพราะคิดว่าหากเหมารถต้องแพง แน่ ๆ และอยู่ไกลด้วย "มีคนแนะนำมาว่า ควรจะไปดู" คนที่แนะนำก็คือ เด็กที่ทำงานอยู่ในเกส เฮ้าส์หลังนี้ล่ะ ชื่อ Xay (ไซ?) โนริโอะบอกว่าหลังจากที่ผมนอนแล้ว ก็มีน้องคนนี้นั่งคุยด้วย ที่โซฟา ด้านนอก คุยกันจนดึกดื่น และโนริโอะเกิดประทับใจ น้องคนนี้ขึ้นมา และก็นำมาเล่าให้ผมฟัง คำไซ หรือ ไซ อายุ 16 เรียนที่ รร.ในหลวงพระบาง เป็นเด็กจากที่อื่นมาเรียน และก็มาทำงานที่เกส เฮ้าส์นี้ ประมาณว่าหาเงินเรียนเอง บ้านอญุ่ที่ชนบท อันแสนไกล ( ผมไม่รู้ว่าชนบท ของลาวมันจะขนาดไหน ) ครอบครัวมีแม่แก่ ๆ ที่ ทำงานอยู่ที่บ้าน ...รายละเอียดอื่น ๆ หากต้องการรู้ให้ติดตอไปที่ เกสเฮ้าส์ดังกล่าว แล้ว....คำพูดนึง ของโนริโอะก็ทำให้ผมสะอึก.. ไซ พูดกับโนริโอะว่า ผมบอกกะไซว่าโนริโอะนั้นรวย แล้วเรื่องก็เกิดขึ้นเมื่อ โนริโอะแสดงท่าทีว่าไม่ชอบที่ผมพูดแบบนี้ แต่...ผมสิไม่ชอบเสียยิ่งกว่า ก็ผมไม่ได้พูดกับไซเลย เรื่องโนริโอะ เมื่อวานที่พูดก็แค่ 2-3 คำ.... น้องเขาไม่น่าพูดแบบนี้เลย โนริโอะ ดูไม่พอใจ ผมก็ไม่กล้าแย้ง ก็ไม่รู้จะแย้งทำไม แย้งไป บางทีอาจจะไม่ดีทั้ง 2 ฝ่ายเกิดถกเถียงกันขึ้นมา และอยากจะให้ โนริโอะเก็บความประทับใจเกี่ยวกับไซ นั้นไว้ " His story moved me ." โนริโอะพูดอยู่ 10 รอบ เรื่องราวดี ๆ ควรเก็บไว้... ความประทับใจใช่ว่าจะเกิดบ่อย ๆ ผมก็เลยปล่อยไป แต่ในใจลึก ๆ ก็คิดว่า น้องไม่น่าพูดเลย หลังจากเล่าเสร็จ ผมกลับซึมลงยังกะโดนยาเบื่อ.. เป็นการเริ่มต้นวันที่ไม่ดีเอาเสียเลย เช้านี้เราจะไป น้ำตก ก็เลยต้องรีบ ๆ หน่อย พอเราออกจากห้อง ก็เดินไปที่ตลาด เพื่อพาโนริโอะไปแลกเงินที่ธนาคาร ผมสังเกตเห็นอาการ ของโนริโอะหงุดหงิดเล้กน้อย ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเรื่องนั้นหรือเปล่า หากใช่ก็แสดงว่า ทั้ง 2 ต่างทุกข์ใจเรื่องเดียวกัน เดิน ๆ อยู่... โนริโอะก็เลี้ยวเข้าไปหาแม่หญิงลาว ขายผลไม้ และพยายามส่งภาษาสอบถามว่า ที่แลกเงินอยู่ไหน.... ผมแปลกใจมาก เพราะปกติโนริโอะ จะบอกให้ผมช่วยถาม แต่คราวนี้ลงมือเอง แสดงว่าต้องมีอะไรสักอย่าง ผมยื่นมือเข้าไปสอด ส่งภาษาลาว ถามคนขาย ได้ความว่า ไปแลกกับร้าคำ (ร้านทอง) บนตลาดได้... เราเดินขึ้นไปบนตลาด และแลกเงินที่ร้านคำ ดังกล่าว จากนั้นก็เดินลงมาซื้อ ผลไม้... วันนี้จะรับอะไรดี??? ผมรับแอปเปิล 1 ลูกราคา 2,000 กีบ แอปเปิลที่นี่เล็กกว่าที่ญี่ปุ่นมาก และไม่อร่อยเท่าที่ญี่ปุ่น..ความรู้นี้ได้มาจากโนริโอะ เมื่อวันก่อน ๆ นู่น เราเดินเข้าไปสอบถามราคารถ มินิปิอัพ รับจ้างไปที่ น้ำตกกวางสี ตอนแรกราคาอยู่ที่ 100,000 กีบแล้วลดลงมาที่ 90,000 และก้ไม่ยอมลดอีกเลย เราไปหาคันอื่น ๆ และก็เจอคันนึง 80,000 กีบ (320 บาท) ก็เลยตอบตกลง น้าคนขับ มีหน้าตาคล้ายกับน้าคนแรกที่เราโดยสารจาก ตม. เข้าเวียงจัทร์ หน้าตาแบบนี้ไว้ใจได้ ก็เลยตอบตกลงไป ...ตอนแรกเราคิด ๆ กันเอาไว้ว่าหาก ราคาแพงมากเราก็จะเช่าจักรยานปั่นไปแทน ( อ้ายคนจน....เลยต้องทนปั่นรถถีบ..) แต่พอถามคนแถว ๆ ตลาดดูเขาทำหน้าตาตกใจตื่น... และทำหน้าสงสัยว่าเราเป็นนักปั่นมืออาชีพ? เพราะหนทางมัน ไกลหลายแต้ ๆ นั่ง มินิปิกอัพ 1 ชั่วโมงเลยล่ะ พอรู้อย่างนั้นเราก็ยอม แต่ยังไม่ลดละหาทางอื่น แม้แต่รถมอเตอร์ไซด์พ่วง เราก็ยังถามเลย แต่เขาไม่ไปเพราะไกลมาก สุดท้ายก็ มินิปิกอัพ.. ถนนหนทาง พอออกจากเขตเมืองเท่านั้นล่ะ ฝุ่นตลบ เพราะมันป็นถนนลูกรัง ระยะทางนั้นไกลสมคำบอกเล่า ผ่านหมู่บ้านหลายหมู่บ้านมาก ข้างทางมีวิว ภูเขาให้ชมบ้าง มีสะพานไม้ สะพานเหล็ก ดูโบราณอย่างมาก ผมนั่งอยู่ด้านใน..ปล่อยให้โนริโอะ ห้อยโหนตามสบายที่ท้ายรถ โหนไปร้องเพลงไป....ผมก็นั่งรึมอมขี้ฟันตัวเองไป โนริโอะทำยังกะ ว่าไปคนเดียวอย่างนั้นล่ะ ปกติจะชวนคุยแล้วนะ แต่ไหงวันนี้เปลี่ยนไปเยอะเหลือเกิน น้ำตกกวางสี ไม่เท่าไหร่จริง ๆ ด้วย ไม่คุ้มกับค่าผ่านประตู 15,000 กีบ (60 บาท) ดินถล่มทำให้หมดความงามไปเลย แต่ทว่าก็ยังมน้ำสัฟ้า ๆ ไหลอยู่ตลอด ความสูงก็ สูงพอประมาณ น้ำก็ยังมีอยู่....คนที่ชื่นชอบซะเหลือเกินก็คือ โนริโอะ.. พอเดินไปถึงก็ ถอดกางเกง โยนให้ผม แล้ววิ่งเข้าใส่ ยังกะว่าไม่เคยเจอน้ำตกมาก่อน อยากจะให้ลองไปดู ทีลอซู ของไทยบ้าง กวางสีชิดซ้ายไปเลย นอกจากจะเป็นฝ่ายเก็บอุปกรณ์แล้ว ยังต้องเป็นฝ่ายฉาก มองหาทำเลเพื่อการ ถ่ายรูป แชะ ๆๆๆๆ.... ได้สัก 20 แชะได้มั้ง เมื่อพอใจเราก็เดินขึ้นชั้นบน ตามฝรั่ง 2 คนไป ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ เพราะยังเช้า ๆ อยู่ฝรั่งยังไม่ตื่น ถือโอกาสชมภาพมุมสูงบ้าง... ข้างบนลื่น ๆ น่ากลัวว่าจะตกลงไป แต่ยังดีที่มีลราวไม้ให้เกาะแต่ ดู ๆ ก็ไม่ค่อยจะไว้ใจได้เท่าไหร่ เมื่อเสพพอแล้วเราก็เดินกลับมาที่รถ ผมพึ่งสังเกตว่าที่นี่ มีเสือโคร่งอยู่ด้วย โดนขังอยู่ตามลำพัง....น่าสงสารจัง ต้องอยู่อย่างเดียวดาย รอบ ๆ น้ำตกจะมีเครื่องจักรสานขายด้วย เป็นฝีมือชาวบ้านที่นี่เองล่ะ แม้จะสวยเราก้ไม่ได้อุดหนุน ก็ไม่รู้จะซื้อไปทำไม เปลืองเปล่า ๆ สรุปแล้วเราอยู่ที่น้ำตกเกือบ 1 ชั่วโมง ......... พอมาถึงรถก็ออกเดินทางกลับ คนขับบอกผมว่าหากอยาก ถ่ายรูปตรงไหนระหว่างทางให้เคาะกระจกบอก...แต่ตลอดทาง โนริโอะไม่อยากถ่ายรูปอะไรเลย อาจจะเป็นเพราะถ่ายที่นำตกเยอะแล้วล่ะมั้ง เรากลับมาที่เดิม...จ่ายเงินค่ารถ แล้วก็กลับไปตั้งหลักที่ห้อง

กลับไปหน้า...รวมวัน

วันที่ 9 ซาโยนาระ