Home ยา ผู้หญิง เด็ก เครื่องสำอาง ปฐมพยาบาล โรคทั่วไป อื่นๆน่าสนใจ สอบถามปัญหา
This Page
Related Topics
Interesting Links
เชิญสอบถาม เสนอแนะครับ

ชื่อ
email
ข้อความ    

ขอบคุณครับ 

วิตามิน : สิ่งที่ควรทราบ

จากประสบการณ์ของผม ผมเจอบ่อยมากกับความเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับวิตามิน โดยมากมักมองว่าวิตามินเป็นสารอาหารที่มีคุณค่ามาก ถูกมองว่าเป็นยาวิเศษที่จะช่วยให้สุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ท่านทราบหรือไม่ว่า ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับวิตามิน และอาหารเสริมต่างๆสร้างความร่ำรวยให้กับผู้เกี่ยวข้องมากมาย ประเมินว่า ขนาดของธุรกิจนี้ที่อเมริกาเมื่อปี 1997 มีมูลค่าประมาณ 6 ล้านล้านดอลล่าร์

วิตามินคืออะไร ?

เป็นเวลานานมากทีเดียวที่พบว่าลูกเรือที่ออกเรือนานๆ มักมีโรคหนึ่งที่เกิดขึ้นประจำ คือ กระดูกเปราะ เลือดออกตามไรฟัน และรุนแรงถึงตายได้ด้วย โรคนี้ถูกเรียกว่า Scurvy

  • เชื่อว่า น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับการที่ลูกเรือไม่ได้ทานอาหารสด
  • จนกระทั่งในปี 1747 จึงพบว่า มะนาว และส้ม สามารถป้องกันโรคนี้ได้
  • ปี 1928 วิทยาศาสตร์เริ่มเจริญ จึงพบว่าในมะนาว ส้มนั้นมีสารอย่างหนึ่ง และตั้งชื่อว่า Vitamin C

การค้นพบวิตามินอื่นๆก็เกิดขึ้นในทำนองเดียวกัน

วิตามิน และเกลือแร่

  • เป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการปริมาณเล็กน้อย ( เมื่อเทียบกับสารอาหารกลุ่มอื่น เช่น คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน ) ซึ่งจะช่วยให้เกิดปฏิกิริยาทางชีวเคมีที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ด้วยความที่ร่างกายต้องการน้อยมาก จึงอาจเรียกว่า Micronutrients
  • การไม่ได้รับวิตามิน และเกลือแร่ติดต่อกันนานๆจะทำให้เกิดความผิดปกติ หรือโรค ซึ่งมักจะกลับมาเป็นปกติได้เมื่อได้รับอีกครั้ง ยกเว้นบางโรค
  • ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ สร้างขึ้นเองได้ จำเป็นต้องได้รับจากการรับประทานอาหาร หรือเสริมในกรณีที่ทานอาหารไม่ครบ

ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับวิตามิน

วิตามินมีทั้งหมด 13 ชนิด แบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ

  • A, D, E, K ละลายในไขมัน ( Fat-Soluble Vitamins ) สะสมในร่างกายได้
  • B-1, B-2, B-6, B-12, C, Niacin, Pantothenic acid, Biotin, Folic acid ละลายในน้ำ ถูกขับถ่ายออกได้ไว ไม่สะสมในร่างกาย

การได้รับวิตามินในปริมาณที่เหมาะสม มีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโต, การย่อยอาหาร, สมอง, ความต้านทานโรค, ทำให้เกิดการเผาผลาญอาหารที่สมบูรณ์ โดยทำหน้าที่เป็น Catalyst

วิตามิน ไม่ให้พลังงาน ไม่ทำให้อ้วน ( สารอาหารที่ให้พลังงานคือ คาร์โบไฮเดรต, โปรตีน, ไขมัน ร่างกายจึงต้องการในปริมาณมากกว่า )

วิตามิน A และ D สะสมในร่างกายได้ถ้าได้รับมากเกินความจำเป็น และทำให้เกิดพิษได้ด้วย

นอกจากวิตามิน ร่างกายยังต้องการเกลือแร่ ( Minerals ) อีก 15 ชนิด ซึ่งมีส่วนสำคัญในการทำหน้าที่ของเซลล์ และเป็นส่วนประกอบในโครงสร้างของเซลล์

  • เกลือแร่ที่ต้องการมาก คือ แคลเซี่ยม, ฟอสฟอรัส, แมกนีเซียม
  • ที่เหลือต้องการน้อยมาก คือ โครเมี่ยม, ทองแดง, ฟลูออไรด์, ไอโอดีน, เหล็ก, แมงกานีส, โมลิปดีนัม, ซีลีเนียม, สังกะสี, คลอไรด์, โปตัสเซียม, โซเดียม

คุณจำเป็นต้องทานวิตามินเสริมหรือไม่ ?

บริษัทต่างๆที่ขายวิตามิน มักจะโฆษณาชวนเชื่อให้เห็นความสำคัญของวิตามินเกินกว่าเหตุ อันที่จริง วิตามินก็มีความสำคัญ แต่ไม่มากเท่าที่มีการอวดอ้างในโฆษณา หัวใจหลักของการมีสุขภาพดี อยู่ที่อาหารการกิน และลักษณะการใช้ชีวิตที่ถูกต้องมากกว่า อาหารถือเป็นแหล่งอาหารที่ให้วิตามินได้เพียงพออยู่แล้วถ้ารู้จักเลือก

อาหารนอกจากเป็นแหล่งสำคัญของวิตามิน และสารอาหารอื่นๆแล้ว ยังเป็นแหล่งที่สำคัญของ กลุ่มสารที่เรียกว่า Phytochemicals ซึ่งเป็นสารประกอบที่พบในธรรมชาติ และอาจมีผลดีต่อสุขภาพ ปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาที่ชัดเจนพอ

อย่างไรก็ตาม ถ้าจะเลือกทานวิตามินเสริม สิ่งที่ท่านจะต้องดูในการเลือกใช้ คือ ค่า %RDA ( ซึ่งเป็นค่าที่เทียบเป็นเปอร์เซนต์ของวิตามินที่ต้องการในแต่ละวัน ) กล่าวคือ ไม่ควรทานเสริมเกิน 100% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน

วิตามินที่ทำให้เกิดโทษ ถ้าทานมากเกินไป ได้แก่

  • วิตามิน A ทำให้เกิดการเสียหายต่อตับ
  • วิตามิน D ทำให้เกิดการเสียหายของไต
  • เหล็ก, สังกะสี, โครเมียม, ซีลีเนียม ทำให้เกิดโทษถ้าได้รับมากกว่า 5 เท่าของปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน

เมื่อไรจึงถึงเวลาที่ต้องทานวิตามินเสริม

  • ผู้สูงอายุ ในวัยนี้มีปัญหาเรื่องความไม่อยากอาหาร การรับรสไม่ดี รับกลิ่นไม่ดี ปัญหาเรื่องฟัน เรื่องอารมณ์ อื่นๆ มีผลให้ทานอาหารน้อยลง ได้รับสารอาหารไม่ครบ
  • ผู้ที่อยู่ในช่วงควบคุมน้ำหนักตัว ทำให้ต้องทานอาหารน้อยลง
  • ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร ได้แก่ ตับ, ถุงน้ำดี, ลำไส้เล็ก, ตับอ่อน หรือเข้ารับการผ่าตัดในช่องท้อง เหล่านี้จะมีผลต่อการย่อย และดูดซึมสารอาหาร
  • ผู้ที่สูบบุหรี่ ซึ่งมีความต้องการวิตามิน C เพิ่มขึ้น
  • ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
  • หญิงตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
  • ผู้ที่ทานมังสวิรัติอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ทานอาหารที่ได้จากสัตว์เลย มักจะพบว่าขาดวิตามิน B-12

อย่างไรก็ตาม ขอให้ระลึกเสมอว่า การที่จะสุขภาพดีได้ วิตามินไม่ใช่คำตอบสำเร็จรูปที่จะบรรดาลมหัศจรรย์ให้เกิดสุขภาพที่ดีได้ แต่ความสำคัญอยู่ที่การได้รับอาหารที่ถูกต้องและในสัดส่วนที่ดี ส่วนวิตามินนั้นเป็นเพียงมาตรการเสริมเท่านั้น นอกจากอาหารแล้ว ก็ยังมีเรื่องอื่นอีก ได้แก่

  • การออกกำลังกาย
  • อยู่ในที่อากาศถ่ายเทดี
  • การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • จิตใจร่าเริง ไม่เครียด

09/12/43

Post a Message in My Message Board!

ถ้าท่านชอบ web  นี้ 
ท่านที่ต้องการสอบถาม เสนอแนะ เชิญครับ mailto:vichiena@yahoo.com
ขอขอบคุณ Geocities.com ที่ให้พื้นที่ฟรีสำหรับการจัดทำ Web Site นี้
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลที่สำคัญ discoveryhealth | mediconsult | mayohealth | medscape.com | healthylives | สมาคมแพทย์โรคผิวหนัง USA | fda.gov | my.yahoo.com