และล่าสุดเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2543 ภูเขาไฟ Semeru ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่สูงที่สุดบนเกาะชวาได้ระเบิด หินและลาวาร้อนได้ฆ่านักวิทยาศาสตร์ชาวอินโดนีเซีย 2 คนที่ได้เดินเข้าไปศึกษาปากปล่องภูเขาไฟอย่างใกล้ชิด การตายของคนทั้งสองได้ทำให้จำนวนนักวิทยาศาสตรืที่เสียชีวิตจากการศึกษาภูเขาไฟอย่างใกล้ชิดเกินไป ในช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา มีมากถึง 12 คน ทั้งๆ ที่สมาคมนักวิทยาศาสตร์ดานภูเขาไฟวิทยาได้ออกแถลงการณ์ว่า นักวิทยาศาสตร์คนใดที่ต้องการศึกษาภูเขาไฟที่ระยะใกล้ เขาจะต้องสวมหมวกนิรภัยและสวมเครื่องแต่งตัวที่สามารถป้องกันตัวให้ปลอดจากการถูกลาวาภูเขาไฟเผาทั้งเป็นแล้วก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ทั้ง 2 ก็หาได้สวมหมวกนิรภัยใดๆ
เมื่อภัยภูเขาไฟมีจริงเช่นนี้ จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่นักวิทยาศาสตร์ปัจจุบันมีความรู้สูงถึงระดับที่ช่วยให้เราสามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่า ภูเขาไฟจะระเบิดเมื่อใดแล้ว เพราะเวลาภูเขาไฟจะระเบิด พื้นดินใต้ภูเขาไฟจะมีการเคลื่อนไหวอย่างโกลาหลอลหม่าน ดังนั้น ตัวเรามีอุปกรณ์ตรวจจับ ดักฟังคลื่นใต้แผ่นดินและคลื่นเสียงเหนือแผ่นดิน เราก็จะสามารถรู้เวลาที่ภูเขาไฟจะระเบิดล่วงหน้าได้แม่นยำพอสมควร เช่น นักภูเขาไฟวิทยาได้พบว่า เวลาหินเหลวไหลขึ้นมาจากใต้ดิน พื้นดินในบริเวณนั้นจะขยายตัวและในขณะเดียวกันนั้น ก็จะมีก๊าซใต้ดินถูกขับออกมาด้วย ทำให้ความเข้มของสนามแม่เหล็กโลกและสนามโน้มถ่วงในบริเวณนั้นเปลี่ยนแปลง โดยอาศัยตัวเลขที่แสดงความแปรปรวนนี้เอง นักวิทยาศาสตร์ก็พอจะรู้โดยประมาณว่า หินเหลวหรือลาวาจะพุ่งออกมาจากปล่องภูเขาไฟเมื่อใด

 

 

??????????????????