ประวัติพระธรรมมุนี (หลวงพ่อแพ เขมงฺกโร ป.ธ.๔) |
- หลวงพ่อแพ (พระธรรมมุนี) p; มีนามเดิมว่า
"แพ"
- มีบิดาชื่อว่า "เทียน" มารดา ชื่อว่า
"หน่าย" นามสกุล
"ใจมั่นคง"
- เกิดวันจันทร์ ขึ้น ๗&nnbsp; ค่ำ เดือนยี่
ปีมะโรง (ตามหลักสากลใหม่ถือเป็นปีมะเส็ง) ตรงกับวันที่ ๑
มกราคม พ.ศ.๒๔๔๘ ณ บ้านสวยกล้วย หมู่ที่ ๘
ตำบลถอนสมอง อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี
(ต่อมาได้รวมตำบลถอนสมอ ตำบลโพประจักษ์ และตำบลวิหารขาว
จัดยกเป็นอำเภอท่าช้าง
ในปัจจุบันนี้)
-
หลวงพ่อแพมีพี่น้องร่วมมารดาเดียวกัน จำนวน ๔ คน
ท่านเป็นบุตรคนสุดท้อง
- อายุ ๑๑ ปี
ได่เข้าศึกษาภาษาไทยในสำนักพระอาจารย์พัน
ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดพิกุลทองในสมัยนั้น ได้ศึกษาอยู่ประมาณ ๓
เดือน แล้วย้ายไปเรียนยังสำนักพระอาจารย์ป้อม จนฺทสุวณฺโณ
ได้เรียนมูลบทบรรพกิจ คือ เรียนอักษรสู่ง ต่ำ กลาง
ทั้งสระและพยัญชนะ ตัวสะกดและการันต์
อีกทั้งยังได้มีโอกาสอ่านคัมภีร์พระธรรม พระสูตร และพระมาลัย
ตลอดจนหนังสือเทศนาที่ถูกจารึกเป็นภาษาขอมจนมีความแตกฉานในด้านภาษา
อนึ่งยังถือว่าเป็นการเรียนจบหลักสูตรการศึกษาในสมัยนั้นด้วย
- อายุย่าง ๑๔ ปี นนายบุญ ขำวิบูลย์
ซึ่งมีศักดิ์เป็นอาและบิดาบุญธรรม
ได้นำตัวไปฝากเป็นลูกศิษย์กับท่านพระอาจารย์สน
ซึ่งท่านเป็นพระภิกษุชาวเขมร อยู่ที่คณะ ๑๕ วัดชนะสงคราม ฯ
ตำบลชนะสงคราม อำเภอพระนคร จังหวัดกรุงเทพ ฯ
ได้ศึกษาเล่าเรียนเกี่ยวกับสูตรสนธิก่อน เป็นเวลา ๑ ปี
และได้ไปเรียนบาลีไวยากรณ์ ณ
สำนักวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพฯ
โดยเป็นลูกศิษย์ท่านเจ้าประคุณสมเด็จ พระวันรัต (เฮง
เขมจารีมหาเถร)
- อายุ ๑๖ ปี ได้กลลับมายังบ้านเกิด
แล้วได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ ๑๕ เมษายน
พ.ศ.๒๔๖๓ ตรงกับวันพฤหัสบดี แรม ๑๒ ค่ำ เดือน
๕ ปีวอก จ.ศ.๑๒๘๒ ณ วัดใหม่พิกุลทอง
(ซึ่งต่อมาได้ขอเปลี่ยนนามใหม่เป็น "วัดพิกุลทอง" เมื่อพ.ศ.๒๔๘๓)
โดยมีพระอาจารย์พัน เป็นเจ้าอาวาสและเป็นพระอุปัชฌาย์
ภายหลังบรรพชาเป็นสามเณรแล้ว
ก็ได้กลับไปศึกษาเล่าเรียนบาลีไวยากรณ์ต่อที่วัดมหาธาตุ
ฯ โดยยังพำนักอยู่ที่วัดชนะสงคราม ฯ
ตามเดิม
- ต่อมาได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุุทธศาสนา เมื่อวันที่
๒๑ เมษายน พ.ศ.๒๔๖๙ ตรงกับวันพุธ ขึ้น ๑๐
ค่ำ เดือน ๖ ปีขาล จ.ศ.๑๒๘๘ ณ
วัดใหม่พิกุลทอง โดยมีท่านเจ้าคุณพระมงคลทิพยมุนี
เจ้าอาวาสวัดจักรวรรดิราชาวาส ตำบลจักรวรรดิ อำเภอสัมพันธวงศ์
จังหวัดกรุงเทพมหานคร เป็นพระอุปัชฌาย์, มีพระครูสิทธิเดช
วัดชนะสงคราม ฯ เป็นพระกรรมวาจาจารย์, พระอธิการอ่อน
เจ้าอาวาสวัดแม่ทอง (วัดจำปาทอง) เป็นพระอนุสาวนาจารย์
พร้อมกันนี้ท่านก็ได้รับฉายาทางสมณเพศว่า "เขมงฺกโร"
(เขมังกะโร)
-
เมื่ออุปสมบทแล้ว
ก็ได้กลับไปศึกษาต่อยังสำนักวัดชนะสงครามดังเดิม
- พ.ศ.๒๔๗๔ วัดใหม่พิกุลทองได้วว่างเจ้าอาวาสลง
ชาวบ้านจึงได้กราบอาราธนาท่านกลับมาเป็นเจ้าอาวาสตั้งแต่บัดนั้นมา
พร้อมกันนี้ก็ได้ไปศึกษาวิทยาการด้านจิตศาสตร์และวิทยาคมกับเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก
(แพ ติสฺสเทโว) วัดสุทัศน์เทพวนาราม กรุงเทพมหานคร
โดยได้รับคำแนะนำจากพระอาจารย์ใบฎีกาเกลี้ยง
ซึ่งเป็นผู้ใกล้ชิดศิษย์ก้นกุฎิของท่านเจ้าประคุณสมเด็จ ฯ
ต่อมาได้ทราบว่า "หลวงพ่อสี"
เป็นพระอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตศาสตร์และวิทยาคมเป็นที่เลื่องลือนับถือของศิษยานูศิษย์ประชาชนจำนวนมาก
และประชาชนได้ขนานนามว่า "เป็นผู้มีวาจาศักดิ์สิทธิ์"
หลวงพ่อแพจึงได้ไปกราบถวายตัวเป็นศิษย์ ร่ำเรียนวิชาจากท่าน
จนสำเร็จและกลายเป็นที่รักโปรดปรานของหลวงพ่อสีอย่างมาก อนึ่ง
หลวงพ่อแพได้มีบุญบารมีอันสั่งสมมาเป็นอย่างดียิ่งเช่นนี้
ท่านจึงได้ประสพกับพระอาจารย์ที่ทรงคุณค่ามากมาย
และตลอดชีวิตของหลวงพ่อได้นับถือหลวงพ่อสีเป็นอาจารย์สืบมา
ได้ปฎิบัติตัวตามอาจารย์ เป็นพระสุปฏิปันโน คือปฏิบัติดี
ปฎิบัติชอบ ในพระธรรมวินัยขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
รู้กตัญญู
และทั้งชีวิตท่านได้บำเพ็ญประโยชน์ทั้งต่อตนเองและสังคมเป็นจำนวนมากโดยเห็นตัวอย่างจากการที่ท่านได้เป็นเสาหลักและส่งเสริมอนุเคราะห์ด้านสังคมต่าง
ๆ มากมาย
ดังนี้
-
ตั้งทุนการศึกษาให้กับพระภิกษุสามเณรวัดพิกุลทอง
- เป็นองค์อุปถัมภ์และจัดตั้งมูลนิธิใให้กับโรงเรียนท่าช้างวิทยาคาร
จังหวัดสิงห์บุรี
- มอบทุนเป็นมูลนิธิการศึกษาให้กับวัดดแจ้งพรหมนคร
จังหวัดสิงห์บุรี
- มอบทุนเป็นมูลนิธิการศึกษาให้กับวัดดชนะสงคราม ฯ กรุงเทพ
ฯ
- มอบทุนเป็นมูลนิธิการศึกษาให้กับวัดดใกล้เคียง และในเขตปกครอง
จังหวัดสิงห์บุรี
- มอบทุน
ส่งเสริมการศึกษาพระปริยัติธรรมทั้งแผนกบาลีและนักธรรมภายในวัดทุกปี
- เป็นผู้อุปถัมภ์ในโครงการอบรมบาลีก่่อนสอบคณะสงฆ์ภาค ๓
เป็นประจำทุกปี
- สร้างพระใหญ่ประทานพร (พระพุททธสุวรรณมงคลมหามุนี) ณ
วัดพิกุลทอง
-
สร้างตึกสงฆ์อาพาธให้กับโรงพยาบาลสิงห์บุรี
- สร้างปูชนียสถาน และอื่น ๆ&nbbsp;
ภายในวัดพิกุลทอง
- ส่งเสริมและสนับสนุน สงเคราะหห์เกี่ยวกับเภทภัยต่าง
ๆ
ฯลฯ
เรียบเรียงใหม่จาก หนังสือประวัติหลวงพ่อแพ, พระครูศรีวิสุทธิโสภณ
(เที่ยง อคฺคธมฺโม ป.ธ.๙) วัดระฆังโฆสิตาราม
กรุงเทพฯ และ หนังสือประวัติหลวงพ่อแพ, พระมหาธีรพล
ธีรพโล (จายะภูมิ ป.ธ.๔) วัดพิกุลทอง
จังหวัดสิงห์บุรี