มองโลกในแง่ร้าย
จาก หนึ่งสมอง สองมือ
รวมบทสนทนา "ชีวิตธุรกิจ" พ.ศ. 2530
โดย ประสาร มฤคพิทักษ์
เพื่อนนักธุรกิจคนหนึ่ง ประสบแต่เคราะห์กรรมมาตลอดในระยะ 2 ปี ี่ผ่านมานี้ นอกจากถูกลูกค้าจ่ายเช็คคืนเป็นประจำแล้ว ลูกของเขายังประสบอุบัติเหตุ หนำซ้ำสำนักงานถูกไฟไหม้ และการประกันไฟก็เพิ่งหมดอายุไปเพียงเดือนเดียว
เจอหน่ากันก็บ่นว่า "เคราะห์ร้าย" "ดวงไม่ดี" เห็นแล้วก็น่าเห็นใจครับ พักนี้เลยกลายเป็นคนใจไม่เป็นสุข เพราะได้แต่กล่าวโทษตนเองอยู่เรื่อยๆ กลายเป็นคนค่อนข้างไปมองโลกในแง่ร้าย
จิตใจที่มองโลกในแง่ร้าย จะคึงดูดโชคร้ายเข้ามาหาตนเอง
คนที่มองโลกในแง่ร้าย มักจะเสียสูญในการวินิจฉัยตัดสินใจ
รู้ว่า ลูกค้าเป็นคนฐานะเศรษฐกิจไม่ดีหรือไม่ค่อยน่าไว้วางใจเท่าไร ก็ต้องไม่ปล่อยเครดิต หรือถ้าปล่อยก็จำกัดวงเงินให้น้อยลง จะได้ไม่สูญเสียมาก
เมื่อสัญญาประกันไฟหมดอายุแล้ว ก็ควรต้องรีบต่ออายุสัญญาเสีย จะได้มีการคุ้มครองภัยไฟไหม้ต่อไป
ให้ลูกเดินทางโดยรถยนต์ ก็ควรต้องสำรวจตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย ไม่ใช่ปล่อยให้เบรคชำรุดแล้วไม่ยอมซ่อม
สำรวจดูความเคราะห์ร้ายที่เกิดกับเพื่อนแล้ว ก็เพราะยังไม่ได้ทำสิ่งต่างๆให้ดีที่สุด เนื่องจากจิตใจไปพะวงแต่การมองโลกในแง่ร้าย
การมองโลกในแง่ร้าย ทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อและประสาทเฉื่อยชาลง ประสาทรับรู้ไม่ว่องไวเท่าที่ควร มักจะวินิจฉัย หรือตัดสินใจเหตุการณ์ต่างๆผิดพลาด มองไม่เห็นโอกาสดีที่มาถึง เหมือนมีอะไรบังตาไว้ ที่สำคัญยังทำให้กลายเป็นคนไม่มีเสน่ห์ ไม่น่าเข้าใกล้ เท่ากับเป็นการดึงดูดเอาความโชคร้ายเข้ามาหาตนเองตลอดเวลา เปลี่ยนท่าทีปเนด้านตรงข้าม คือ มองโลกในแง่ดีได้เมื่อไร โลคดีก็จะมาแทนที่ครับ.
- อ่านต่อเรื่อง - อากัปกิริยาบอกความจริง
- อ่านต่อเรื่อง - ทำงานด้วยอารมณ์ขัน
- อ่านต่อเรื่อง - ประหยัดเวลาในการประชุม
- อ่านต่อเรื่อง - คาดการณ์ล่วงหน้าได้
- อ่านต่อเรื่อง - จำเป็นก็ต้องผ่าตัด