ประสูติกาล

   

 

 

          สมเด็จพระสังฆราช ไก่เถื่อน ทรงมีพระนามเดิมว่า สุก ประสูติเมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๒ ปีฉลู จุลศักราช ๑๐๙๕ นับวันเดือนปีตามคัมภีร์จันทรคติ ประสูติเวลาไก่ขัน(ช่วง ไก่กำลังอ้าปาก) การนับเวลาในสมัยกรุงศรีอยุธยา ตรงกับวันศุกร์ที่ ๔ มกราคม พ.ศ. ๒๒๗๖ นับวันเดือนปีตามคัมภีร์สุริยะยาตร์ ภายนอกกำแพงนอกคูเมือง ด้านเหนือของกรุงศรีอยุธยา ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ณ. ตำบล บ้านข่อย

              เนื่องจาก พระองค์ท่านทรงมีพระวรรณะขาวผ่องใส ไปข้างพระบิดา ซึ่งเป็นชาวจีน มารดา-บิดาจึงขนานพระนามให้พระองค์ท่านว่า สุก มีความหมายว่า ขาว หรือ ใส

             เวลาที่พระองค์ท่านประสูตินั้น ตรงกับยามที่เก้า เรียกว่ายาม ไก่ขัน เป็นการนับยามกลางคืน สมัยกรุงศรีอยุธยาซึ่งกะเวลาประมาณได้ ๐๕.๔๘ นาที (เวลาตีห้า สี่สิบแปดนาที) ซึ่งเวลานั้นเป็นเวลาที่พระภิกษุสงฆ์ วัดใกล้เคียงบ้านท่าข่อย เช่น วัดท่าข่อย(ท่าหอย) วัดพุทไธศวรรย์ วัดโรงช้าง กำลังทำวัตรสวดมนต์ตอนเช้ามืดอยู่ เสียงสวดมนต์นั้นลอยลมมาถึงบ้านถ้าข่อย ซึ่งเงียบสงัด กล่าวกันว่า เวลาที่พระอาจารย์สุก ประสูตินั้น พระภิกษุกำลังสวดถึงบท ชะยะปริตตัง ตรงคำว่า ชะยันโต โพธิยา มูเล พอดี พร้อมกันนั้น ไก่ป่า ไก่วัด ไก่บ้าน ก็ร้องขันขาน รับกันเซงแซ่

                กล่าวอีกว่า ขณะที่พระองค์ท่านประสูตินั้น ไก่ป่า ไก่บ้าน ไก่วัด พอถึงเวลาใกล้ยามไก่ขัน(ประมาณ ๐๕.๑๐) ได้โบยบินมาในต้นไม้ใหญ่ที่ใกล้บ้านมารดา-บิดา ของพระอาจารย์ พอถึงเวลายามไก่ขัน ไก่ป่า ไก่วัด ไก่บ้านทั้งสิ้น ได้พากันร้องขันขาน กันเซ่งแซ่ กลบเสียงพระสงฆ์สวดมนต์เวลาเช้ามืด แต่วันนี้ ไก่ทั้งสิ้น พากันร้อง ขานขัน กันนานกว่าทุกวัน ที่เคยได้ยินมาแต่ก่อน นับเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก

             พระญาติ ข้างฝ่ายพระบิดาของพระองค์ท่าน เป็นชนชาวจีน พำนักอยู่ในกรุงศรีอยุธยามาสามชั่วอายุคนแล้ว คุณทวด เป็นพนักงานเรือสำเภาหลวง ตำแหน่งนายสำเภา เรียกเป็นภาษาจีนว่า จุ้นจู๋ มียศเป็น ขุน เป็นข้าราชการพลเรือนสังกัดอยู่ในกรมพระคลังสินค้า คุณทวด ของพระองค์ท่าน รับราชการใน รัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

                สมัยกรุงศรีอยุธยาครั้งนั้น ทางราชสำนัก จ้างชาวต่างประเทศมาเป็นพนักงานเดินเรือสำเภา ค้าขายระหว่างประเทศ มีชนชาวจีน เป็นต้น มาถึงรุ่น คุณปู่ ของพระองค์ท่าน ก็เข้ารับราชการในกรมพระคลังสินค้าเหมือนกัน มียศเป็นขุน ตำแหน่ง นายอากรปากเรือ ซึ่งเป็นอากรสินค้าขาเข้า อากรสินค้าขาออก ถือศักดินา ๒๐๐ ไร่ คุณปู่ของพระองค์ท่านรับราชการอยู่ใน รัชสมัยสมเด็จพระเจ้าเสือ

               พระบิดาของพระองค์ท่านมีพระนามว่า เส็ง เป็นเชื้อสายจีน สืบสายสกุลมาจากคุณปู่ และคุณทวดของพระองค์ท่าน พระบิดารับราชการในกรมพระคลังสินค้า มียศเป็น ขุน ตำแหน่ง นายอากรนา อากรสวน ตรงกับรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ พระมารดามีพระนามว่า จีบ เชื้อสายไทย ญาติทางฝ่ายพระมารดาของพระองค์ท่าน คือคุณตา รับราชการ มียศเป็น ขุน เป็นข้าราชการฝ่ายพลเรือน ตำแหน่ง นายอากรสวน นายพลากร เก็บค่าสวนผลไม้ ถือศักดินา ๒๐๐ ไร่

               บ้านของพระองค์ท่าน นอกจากรับราชการแล้ว พระมารดายังมีอาชีพทำสวน ทำนา ค้าขายข้าว ส่งให้กับกรมพระคลังสินค้า ส่งขายต่างประเทศ

            ข้าวนั้นถือเป็นสินค้าต้องห้าม ของทางราชสำนัก ห้ามมิให้ราษฎรค้าขายข้าว กับชาวต่างประเทศโดยตรง นอกจากนั้นทางบ้านของพระองค์ท่าน ยังขายผลไม้ในสวน ขายเครื่องถ้วยชามที่นำมาจากเมืองจีน และจากที่ทำการปั้น เผาขึ้นเอง มีข้าทาสบริวาร คนงานประมาณ ๑๐-๒๐ กว่าคน มีที่สวน และที่นา ประมาณ ๒๐๐–๔๐๐ กว่าไร่ นับว่าที่บ้านท่านมีความเป็นอยู่ อย่างสุขสบาย และเนื่องจากท่านมีผิวพรรณขาวสดใส ไปทางข้างพระบิดา, มารดาบิดาจึงขนานพระนามให้ท่านว่า สุก ซึ่งหมายความว่า ขาว หรือ ใส ตามที่กล่าวแล้วข้างต้น