เพลงยาวหมากรุก (1) |
|||
บทร้อยกรองที่เป็นเพลงยาวเกี่ยวกับหมากรุก มีผู้เขียนไว้หลายสำนวน แต่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เป็นของหลวงธรรมาภิพัฒน์ ( ถึก จิตถึก ) และได้ถูกรวบรวมเข้าไว้ใน ตำราหมากรุกฉบับหอพระสมุด วชิรญาณ อันเป็นตำราหมากรุกเล่มแรกของไทย ที่ได้มีการพิมพ์เผยแพร่เมื่อปลายปี พ.ศ. 2465 ในตอนต้นของเพลงยาว เป็นการไหว้ครูและกล่าวถึงประวัติของหมากรุกไทย ส่วนที่เป็น เนื้อความว่าด้วยบัญญัติการนับศักดิ์หมากและกระบวนการไล่แบบต่างๆ อันเป็นการนับศักดิ์กระดานซึ่งนักหมากรุกรุ่นต่อมาได้ใช้เป็นหลักฐานสำคัญสำหรับเกณฑ์การนับศักดิ์ในการไล่ | |||
เพลงยาวหมากรุก | |||
สำนวนหลวงธรรมาภิพัฒน์ ( ถึก จิตรถึก ) | |||
จาก เพลงยาวหมากรุก ว่าด้วยกลเดินหมากรุก (เล่มที่ 160) | |||
มาโนชน้อมพร้อมกายวจีสรรพ์ |
|||
อีกชื่อมีชี้ชัดถนัดแน่
เรียกกลหอกข้างแคร่สำเนาสนอง มีเบี้ยเดียวเลี้ยวลดบทละบอง ยกย้ายย่องแอบขุนจุนประจัน พวกหมากไล่ได้ท่าก็ฝ่าแฝง โคนทะแยงเยื้องย่างสามขุมขำ ผูกกระชับกับเบี้ยคลอเคลียคลำ รวมรุมรำรุกรบตลบไป ไล่ไม่จนพ้นพิกัดบัญญัติยก เกินเกณฑ์หกสิบสี่สิ้นสงสัย ทั้งสองข้างต่างแต้มไม่ต่ำไกล ก็ยอมให้สมเสมอเสมือนกัน |
|||
อีกจับม้าอุประกาประกอบชอบ แบบระบอบหมากหนีท่วงทีขัน มีม้าวิ่งหลบไม่รบรัน ข้างหนึ่งนั้นสองเบี้ยแซกเซียซุน กับโคนหนึ่งขึงท่าโถมสมทบ ม้าเลี้ยวหลบหลีบแฉลบเข้าแอบขุน ต่างคุมท่าหาทางจะรุกรน เมียงมุ่งมุ่นมองขะมักเขม้นตา มีเกณฑ์อย่างอย่างกำหนดหกสิบสี่ แม้หมากหนีไม่พ้นก็จนท่า ตามพิกัดจัดไว้ในตำรา พึงวิจารณาให้เจนใจ |
|||
อีกกลลูกติดแม่แน่กำหนด |
|||
หณุมานอาสาท่านว่าไว้ ข้างหมากไล่เรือกับม้าอย่าฉงน อีกเบี้ยหงายรายคุมโคนระคน ม้าผจญจอมบุกเข้ารุกรัน ข้างหมากหนีมีเรือคอยรารับ โคนกำกับเคียงข้างไม่ห่างหัน ต่างประชิดติดต่อไม่รอกัน กำหนดนั้นหกสิบสี่มีอัตรา |
|||
ควายสู้เสือเหลือลำบากพวกมากหนี คือโคนมีอยู่กับเบี้ยไม่เสียท่า คอยป้องปิดติดแย้งทะแยงตา เข้ารับน่ากันรุกทุกกระบวน ข้างหมากไล่ได้เรือไว้กับเม็ด คอยลอดเล็ดล้อมเลี้ยงตลบหวล มีเกณฑ์กฎบทบังคับนับจำนวน ไม่จนถ้วนหกสิบสี่เสมอกัน |
|||
อีกอู่ทองหนีห่าน่าสลด กำหนดบทบทหมากไล่ไม่ผิดผัน มีโคนหนึ่งเบี้ยสามพองามกัน เข้าโรมรันโอบอ้อมเที่ยวล้อมราย ข้างหมากหนีมีเรือลำเดียวเดี่ยว เข้าเกี้ยวเกี่ยวรกกระชั้นเหมาะมั่นหมาย ไม่จนแต้มจบตาตามธิบาย กำหนดหมายหกสิบสี่เสมอกัน |
|||
พรานไล่เนื้อหมากไล่เม็ดเข็ดขาม
มีเบี้ยสามม้าเดี่ยวขับเขี้ยวขั้ว ข้างหมากหนีเรือหนึ่งจำเพาะตัว พวกไล่พัวพันสะกดสกัดทาง ไล่ไม่จนครบหกสิบสี่ท่า ก็ต่างรากันเองทั้งสองข้าง จงจำจดบทระยะจังหวะวาง อย่าหลงทางลืมทิ้งทำเลกล |
|||
นกกระจาบทำรังข้างหมากหนี
นั้นมีเบี้ยอยู่กับม้าท่าสับสน ข้างหมากไล่ได้เรือเจือระคน เข้าปะปนเบี้ยหงายรายระดม เรือกับม้าท่าทีก็พอสู้ ตำราครูกล่าวไว้ให้เห็นสม หกสิบสี่หนีได้โดยนิยม เข้าเกลือกลมแอบเบี้ยไม่เสียที ถ้าเบี้ยผูกถูกกันท่านให้ต่อ เอาเบี้ยล่อรอรับขับให้หนี ข้างหมากไล่ก็จะเหลิงในเชิงที ถึงแต้มมีก็คงหมดกำลัง |
|||
อีกกลหนนึ่งนามคลื่นกระทบฝั่ง นิยมหวังอย่าแหนงระแวงหลง ข้างหมากหนีโคนหนึ่งพึงจำนง ทะแยงยงเยื้องท่าคอยรารับ หมากไล่มีม้าหนึ่งกับเบี้ยสอง เข้าล้อมป้องหลังโคนโผนขยัน ม้าก็รุกคลุกเคล้าเข้าสำทับ โคนแอบลับแอบขุนคอยคุมที ทั้งสองข้างต่างแต้มไม่ตกต่ำ จบเกณฑ์กำหนดนับหกสิบสี่ เป็นเขตขั้นสัญญาอย่างพอดี ก็ต่างมีส่วนสมเสมอกัน |
|||
หมูหลบหอกกลอกกลิ้งสิ่งสังเกต ฝ่ายประเภทหมากหนีวิธีสรร โคนกับเรือเผื่อแผงช่วยแรงกัน หมากไล่นั้นเรือคู่จู่ประจำ ขนานเรียงเคียงควบขนาบล้อม เข้าโอบอ้อมแอบรุกบุกกระหน่ำ ข้างหมากหนีลี้ซุ่มเข้ามุมทำ ในที่ขำโคนเคียงเรียงประนัง ถึงจะรุกคลุกขลุมตลุมไล่ เรือกันไว้มิได้หวั่นถวิลหลัง เรือกับโคนสู้กันขันประดัง ตามบทบังคับไว้ในตำรา แม้ครบยกหกสิบสี่ไม่จนแต้ม ในกลแกมเกณฑ์นับตำหรับว่า ทั้งสองข้างต่างเสมอเหมือนสัญญา ก็เลิกลาละลดงดกันไป |
|||
ยังอีกหนึ่งพึงพิศพินิศนึก ตริตรองตรึกดูให้สิ้นที่สงสัย มีรูปหมากตั้งให้เห็นเช่นกลนัย ได้วางไว้หลายอย่างต่างต่างกัน กำหนดมีทีไล่ให้จนแต้ม ประกอบแกมกลกระบวนอย่าหวลหัน โดยวิธีมีเกณฑ์เป็นสำคัญ เช่นแบบบัญญัตินามตามจำนง สำหรับลองปัญญามาประดิษฐ์ ให้ผู้คิดคิดเดินโดยประสงค์ ยังอีกมากพ้นรำพรรณจะสรรลง เชิญท่านจงดูตามแผนนั้นเถิดเอย |
|||
|
|||
"หมากรุกไทย มีกลเม็ดการเดินการเล่นที่สลับซับซ้อน จนกระทั่งมีตำรากลหมากรุกของหอพระสมุด หลวงธรรมาภิมณฑ์ (ถึก จิตรถึก) ก็ได้แต่งกลอนเพลงยาวว่าด้วยกระบวนไล่หมากรุกขึ้นไว้" | |||
สารานุกรมไทย
อุทัย สินธุสาร ๑ มกราคม ๒๕๒๒ |