เดโมคริตุส : ทุกสิ่งทุกอย่างประกอบด้วยอะตอมที่มีขนาดเล็กมาก

                                   เดโมคริตุส   (Democritus  ๔๗๐?  -  ๓๗๐ ปีก่อนคริสต์ศักราช )   เสนอว่าจักวาลประกอบด้วยปรมาญูนับจำนวนไม่ถ้วน  มีสัณฐานไม่คงที่  จักวาลไม่มีศูนย์กลางไม่มีขอบเขต และมีความกว้างใหญ่ไพศาลไม่มีที่สิ้นสุด  ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกและจักรวาลประกอบด้วย  อะตอม (Atom=A+Temno) อะตอมมีขนาดเล็กมากไม่สามารถแบ่งแยกต่อไปได้อีก  อะตอมเหล่านี้มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา น้ำ ประกอบด้วยอะตอมที่มีลักษณะเรียบและกลมเกลี้ยงจึงไหลได้ง่ายและมีรูปร่างไม่คงตัว   อะตอมของไฟคล้ายๆกับหนามแหลม อะตอมของดินหยาบและขรุขระเหมือนตะขอยึดเหนี่ยวกันไว้      

เรื่องของอะตอมในสมัยนั้นไม่มีผู้เชื่อถือมากนักเพราะพิสูจน์ให้เห็นจริงเหมือนในปัจจุบันนี้ไม่ได้
(แม้ปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ก็พากันงงอยู่พอๆกับถูกเมียด่าเมื่อพูดถึงอะตอม ^_^..)

ปัจจุบัน อะตอมไม่ใช่อย่างที่เขาว่าเอาไว้..แต่ก็ถือว่าเขาเป็นผู้นำในการก่อม็อบ....เอ้ย..ไม่ใช่ ในการเสนอรูปแบบของอะตอม

 

  ฮิปโปคราเตส : บิดาแห่งการแพทย์

                                    ฮิปโปคราเตส (Hippocrates  ๔๖๐  -  ๓๗๗?  ปีก่อนคริตศักราช ) ได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่งการแพทย์  เขาเชื่อว่าโรคทุกโรคเกิดจากธรรมชาติ ไม่ใช่เกิดจากเทพเจ้าเป็นผู้บันดาล ซึ่งนับว่าเป็นความเชื่อที่แปลกและใหม่มากเมื่อเทียบกับความเชื่อในยุคโบราณ เขาเป็นคนแรกที่ทำลายความเชื่อที่ว่า ภูติผีปีศาจทำให้เกิดโรค โรคในสมัยโราณที่เรียกว่า โรคที่ศักดิ์สิทธิ์ (โรคลมบ้าหมู )  ก็มีสาเหตุทางธรรมชาติที่เหมือนกับโรคอื่นๆ  การค้นพบวิธีการสำคัญหลายอย่างทำให้แพทย์เปลี่ยนจากความเชื่อที่งมงายมาเป็นความเชื่อที่มีเหตุผล

                    ฮิปโปคราเตส และบรรดาศิษย์ทั้งหลายสังเกตอาการแล้ววินิจฉัยโรค เขาให้ข้อแนะนำว่าการที่จะเข้าใจสมมติฐานการเกิดโรคต่างๆนั้น  จะต้องศึกษาธรรมชาติของมนุษย์โดยทั่วไปคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลอาการของโรค ยิ่งรู้สึกต่างๆมากขึ้นเท่าใดก็ยิ่งทำให้การวินิจฉัยโรคถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้นมากเท่านั้น อากาศและลักษณะพิเศษในท้องถิ่นก็นำมาพิจารณษด้วย นอกจากนั้นจะต้องศึกษา อุปนิสัยของคนไข้ อาชีพการงาน อายุ ลักษณะการพูด อารมณ์ การนอน ลักษณะท่าทางต่างๆ และจดบันทึกรายละเอียดอย่างถี่ถ้วน เมื่อวินิจฉัยโรคและให้ยารับประทานแล้วต้องติดตามผลด้วยว่าอาการเป็นอย่างไรต่อไปนี้เป็นตัวอย่างบันทึกอากาศไข้

บันทึกอาการไข้

                     ชื่อคนชื่อ ฟิลิสคัส  ที่อยู่  ใกล้กับกำแพงเมือง  

วันแรกเขามีอากรไข้สูงขึ้น และเหงื่อออก เข้านอน รู้สึกทรมานตลอดคืน  

วันที่สอง     อาการเลวลงแต่เมื่อได้สวนทวารก็หลับได้บ้าง (น่าจะหลับไม่ลงนะ..^_^..)

วันที่สาม  เขาดูเหมือนว่าจะไม่มีไข้ในตอนเช้าแต่ในตอนบ่ายกลับมีไข้อีก ไข้สูงกว่าเดิมเหงื่อออก กระหาย ลิ้นแห้ง ปัสสาวะมีสีดำ ทรมานตลอดทั้งคืน  

วันที่ห้า มีเลือดออกทางจมูกเล็กน้อย ปัสสาวะเป็นเม็ด มีความเคลื่อนไหวของกระเพาะนิดหน่อยหลังจากใช้ยาถ่าย คืนนั้นอาการแย่มาก เพ้อ ตัวเย็นเฉียบ ตอนใกล้รุ่งเขาหลับไปได้หน่อย  จากนั้นก็พูดไม่ได้ เหงื่อออกมาก  เนื้อตัวเปลี่ยนเป็นสีเทาๆ วันที่หก  ตายตอนเที่ยง  หลังจากที่หายใจอย่างช้าๆ และเจ็บปวดอยู่พักหนึ่ง ม้ามของเขาบวมออกมา  โรคชนิดนี้มีเหงื่อเย็นๆออกมา เขามีอาการ ทรุดลงทุกวันก่อนตาย

                        ตำราแพทย์สมัยนั้นที่ชื่อว่า Hippocratic  collection ซึ่งมีทั้งหมด  ๘๗  เล่ม เขียนโดยนักปราชญ์หลายท่าน เราไม่อาจยืนยันได้ว่าเป็นข้อเขียนของฮิปโปคราเตส ทั้งหมดแต่ข้อความและแนวความคิดในหนังสือเหล่านั้น ก็สอดคล้องกับความคิดเห็นของฮิปโปคราเตสทุกอย่าง คำปฏิญาณอันมีชื่อเสียง  เพื่อธำรงไว้ซึ่งจรรยาบรรณของแพทย์ก็ยังเป็นที่ยอมรับและใช้ในการปฏิญาณตน ของผู้ที่เป็นแพทย์ มาจนทุกวันนี้

                        คำสาบานตนของฮิปโปคราเตส ( The Hippocratic  0ath )

                        ข้าขอสาบานด้วยเทพเจ้าอพอลโล  และเทพเจ้าแห่งการรักษาอื่นๆว่า ข้าฯ จะถือว่า  ผู้ที่สั่งสอนศิลปการแพทย์ให้แก่ข้าฯ นั้น เป็นที่รักประดุจบิดามารดาของข้าฯ และข้าฯจะไม่ทำสิ่งใดให้เป็นอันตรายแก่ท่านเลย ข้าฯ จะไม่จ่ายยาที่เป็นอันตรายถึงแม้ข้าฯ จะถูกขอร้องก็ตาม นอกจากนั้นข้าฯ ก็จะไม่แนะนำสิ่งนั้นให้แก่ใคร ข้าฯ จะไม่ทำแท้ง ข้าฯ จะประกอบโรคศิลป์ด้วยความบริสุทธิ์และความศักดิ์สิทธิ์ สิ่งใดก็ตามที่ข้าฯ เห็นหรือได้ยินมาที่ไม่ควรเปิดเผย ข้าฯจะเก็บไว้เป็นความลับ ตราบใดที่ข้าฯ มีความสุขในชีวิตและประกอบอาชีพของข้าฯ สืบไปโดยได้รับความเคารพจากคนทุกๆคน ทุกเวลา

                                                                                                ช่วยพิมพ์โดย

                                                                                                ด.ญ.  กรกมล    โอ้นุช

                                                                                                                                     ( เก้ )

                                                                                                           ม. 2 / 13
                                                                       โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย