คำนี้มีที่มา
คงรู้นะครับ
ว่าภาษาเป็นสิ่งที่ไม่ตาย(ยกเว้นภาษาที่ตายแล้วอย่างภาษาลาติน) จะมีการเปลี่ยนแปลงตามการใช้อยู่ตลอดเวลา
คำศัพท์บางคำก็เลยมีเรื่องราว หรือความเป็นมาของมันเอง โฮมเพจในส่วนนี้จะพูดถึงความเป็นมาของคำศัพท์แต่ละคำที่มีที่มาที่น่าสนใจ
ซึ่งหลักๆก็คงมีที่มาอยู่สองสามแบบ(เท่าที่ผมนึกออก) ตามนี้เลยคับ
1. มาจากสภาพ, ลักษณะการใช้งาน คือคนเราใช้ภาษาในสถานการณ์และสถานที่ต่างกัน
บางครั้งเราเจอลักษณะที่ไม่รู้จะใช้คำพูด ไหนมาอธิบาย ก็เลยต้องมีการสร้างคำเฉพาะขึ้นมาใช้
หรือบางทีคำศัพท์คำนึงหลังจากใช้งานไปนานๆเข้า ความหมายของมันก็ค่อยๆเปลี่ยนไป
จากเดิมเรื่อยๆจนที่สุดก็กลายเป็นอีกความหมายนึง ตัวอย่างง่ายๆเช่น
2. เอาคำภาษาอื่นมาใช้ แต่ออกเสียงเพี้ยนหรือย่อเสียงจนจำภาษาเดิมไม่ได้
เช่นคำว่า Mayday (ที่นักบินใช้หมายถึง"ฉุกเฉินขอลงจอดด่วน") ถ้าเราเห็นคำว่า
Mayday แล้วให้เดาที่มา เราต้องนึกว่ามันต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับวันในเดือนพ.ค.แน่ๆ
แต่ที่จริงคำนี้มาจากภาษาฝรั่งเศสว่า m'aider ที่แปลว่า "ช่วยฉันด้วย"
ตะหาก แต่คนเอามาใช้คงอ่านตามสำเนียงของตัวเองจนเพี้ยนกลายมาเป็น May-dey (Mayday)
3. มาจากตำนานเทพ ส่วนใหญ่ก็เป็นตำนานทางกรีก-โรมันแหละครับ ตำนานพวกนี้มีหลายๆเรื่องที่เรา(ฝรั่ง)
เอาชื่อเทพองค์ต่างๆมาใช้เป็นคำศัพท์ทั่วไป โดยจะเชื่อมโยงกับเนื้อหาของเทพนั้นๆตามที่ตำนานได้พูดถึง
ยกตัวอย่างสักอันดีไม๊ อืม... เอาคำว่า Atlas ที่เราใช้หมายถึงสมุดแผนที่ละกัน
อันนี้มาจากตำนานกรีกตอนที่พวกไตตันซึ่งเกิดแข็งข้อกับจอมเทพซีอุส แล้วแพ้ต่อซีอุสทำให้ถูกลงโทษให้ไปแบกท้องฟ้าไว้บนบ่า(เพื่อรักษาให้ท้องฟ้ากับแผ่นดินแยกส่วนกัน)
คิดว่าคงจะเคยเห็นรูปปั้นผู้ชายที่แบกลูกโลกไว้บนบ่านะครับ นั่นล่ะครับไตตันที่ถูกลงโทษอยู่
จากตำนานตรงนี้เองGerhadus Mercator (ช่วงค.ศ.1512-1594) ได้จัดพิมพ์สมุดแผนที่เล่มนึงขึ้นมา
แล้วเอารูปไตตันแบกลูกโลกพิมพ์หราบนหน้าปก คนก็เลยเรียกสมุดแผนที่นั่นว่า Atlas
ต่อๆมาจนถึงปัจจุบัน
4. มาจากการย่อคำให้สั้นลง คำบางคำเราก็นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าที่จริงมันเป็นคำที่ย่อมาแล้ว
อย่างคำว่า Radar (เรดาร์) ที่ดูเหมือนเป็นคำศัพท์เดี่ยวๆ แต่จริงๆมันย่อมาจาก
RAdio Detecting And Ranging
ก็คร่าวๆว่าผมนึกออกเท่านี้ครับ สำหรับที่มาของคำศัพท์ลักษณะนี้
ยังไงก็ลองอ่านดูคำอื่นๆในส่วนนี้แล้วส่งความคิดเห็นมาบ้างนะครับ
.