Shakespeare

.

จุลสารศิลปศาสตร์สำนึก

Liberal Thoughts

Volume 1, Number 6 * Cover Date: November, 2001



ขอบคุณพระเจ้า

โดย อุทัย ดุลยเกษม

อันที่จริงได้แจ้งกับคณะทำงาน “ศิลปศาสตร์สำนึก” ไปแล้วว่า ฉบับนี้จะไม่เขียนอะไร นอกจากคอลัมน์ “เปิดใจ” เพราะต้องการให้มีข้อเขียนของผู้อื่นได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ มากขึ้น แต่เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2544 ตอนประมาณ 4 โมงเย็น ได้รับ “บัตรอวยพร” จากผู้ที่ไม่ประสงค์จะบอกนาม ฉบับหนึ่ง ผมไม่ได้เปิดจดหมายที่บรรจุ “บัตรอวยพร” ฉบับ นั้นเองดอกครับ เจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการของสำนักวิชาศิลปศาสตร์ เป็นผู้เปิดซอง (ตามปกติเธอก็ช่วยเปิดซองจดหมายถึงผม เป็นประจำอยู่แล้ว) ปรากฏว่าเธอตกใจพอสมควร เพราะใน ซองจดหมายนั้น นอกจาก “บัตรอวยพร” แล้วยังบรรจุผงสีขาว เหมือนแป้งโรยสะดือเด็กอยู่ด้วย เธอบอกกับผมว่า “อาจารย์คะ เหมือนกับที่เคยอ่านเจอในข่าวหนังสือพิมพ์เลย สงสัยจะ เป็นเชื้อแอนแทร็กซ์” เธอจึงใช้ไม้บรรทัดเขี่ยๆ ดูเพื่อให้ เห็นข้อความใน “บัตรอวยพร” พอเธอแย้มๆ ดู เป็นกระดาษ ขนาด A4 เขียนด้วยปากกาลูกลื่น และฝนให้เป็นเส้นทึบ เขียนตัวโตเชียว โย้เย้บ้าง ลายมือไม่สวยเท่าไร แต่ข้อความที่ เขียนเริ่มด้วย ตัว ค.ควาย ตัวโตๆ เจ้าหน้าที่ผู้นั้นบอกผมว่า “เขาด่าอาจารย์ด้วยคำหยาบคาย” ผมไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก เข้าใจว่าคงเขียนว่าไอ้ควาย (เป็นภาษาอีสานกระมัง?) ผม บอกให้เจ้าหน้าที่ผู้นั้นโยน “บัตรอวยพร” ทิ้งขยะไป เพราะ ผมเห็นว่าเป็นเรื่องของคนขี้ขลาดตาขาว ที่ไม่กล้าสู้ความจริง ไม่รู้ว่าเป็นเพศผู้หรือเพศเมีย ถ้าเป็นเพศผู้ ก็คงเป็น “ขันที” กระมัง จึงแสดงความขี้ขลาดปานนั้น

ผมกลับมานึกอีกที ก็คิดว่าน่าจะเป็นโชคดีของผม ก็ได้ที่ได้รับ “บัตรอวยพร” เนื่องในโอกาสอะไรก็ไม่แน่ชัด หรือว่าอาจจะเป็นบัตรอวยพรจากคนที่คุ้นเคยกับวัฒนธรรม ฝรั่งมานาน เลยส่ง “บัตรอวยพร” มาให้ผมในวัน “ขอบคุณ พระเจ้า” (Thanks-giving Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 22 พฤศจิกายน นี้ก็เป็นได้ เพราะโอกาอื่นๆ เช่นคริสต์มาสก็ยังไม่ถึง ปีใหม่ ก็ยังไม่ถึง วันแห่งความรัก (Valentine’s Day) ก็อีกนาน สงสัยคงเป็นวันขอบคุณพระเจ้าแน่เลยเชียว

การทิ้งทางไปรษณีย์ก็น่าสนใจ “บัตรอวยพร” บรรจุ มาในซองจดหมายขนาดยาวธรรมดา เป็นซองของบริษัทอะไร สักแห่งหนึ่ง เป็นซองสีขาว จ่าหน้าซองด้วยลายมือเรียบร้อย ตราไปรษณีย์อ่านได้ว่า ทิ้งจดหมายหรือบัตรอวยพรนี้ที่ ไปรษณีย์อ่อนนุช เขตพระโขนง กทม. แหม ทำไมไปทิ้ง หรือวานให้คนอื่นไปทิ้งไกลยังงั้น ไปรษณีย์ที่อำเภอท่าศาลา หรือที่บริเวณมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ก็มี คราวหน้าคราวหลัง ไม่ต้องลำบากไหว้วานให้คนอื่นไปทิ้งไกลถึงขนาดนั้นก็ได้ จริงไหม

ผมนึกว่ามีเพียงผมเท่านั้นที่ได้รับ “บัตรอวยพร” ในโอกาสนี้ ที่ไหนได้? เดินออกมาจากห้องทำงานเจอกับ รศ.ศศิธร เธอก็เล่าให้ฟังว่า เธอก็ได้รับ “บัตรอวยพร” เช่นกัน เมื่อเธอเอาซองมาให้ดู ก็ประหลาดใจพอควร เพราะซอง และลายมือที่จ่าบนหน้าซองเหมือนกันเปี๊ยบ ต่างกันแค่ ข้อความใน “บัตรอวยพร” เท่านั้น ข้อความใน “บัตรอวยพร” ที่ส่งถึง รศ.ศศิธร เพราะพริ้งกว่าที่ส่งถึงผม เพราะเขียนว่า “อีสัตว์นรก” แหม! อาจารย์ศศิธรทำไมโชคดีอย่างนี้ เมื่อนำ มาอ่านกันแล้ว ทั้งสองคนก็หัวเราะเบิกบานกันเป็นยิ่งนัก

พวกเราไม่รู้จะหาทางขอบคุณผู้ที่ส่ง “บัตรอวยพร” หรือผู้ที่วานให้ช่วยส่ง “บัตรอวยพร” ดังกล่าวอย่างไร เพราะ เขาไม่กล้าบอกชื่อและนามสกุลอันยิ่งใหญ่ของเขา และ แถมยังไม่บอกแห่งหนตำบลที่อยู่เสียด้วย จึงต้องขอความ อนุเคราะห์จากผู้จัดทำ “ศิลปศาสตร์สำนึก” ขอฝากข้อความ นี้ถึงผู้ที่ส่ง “บัตรอวยพร” ให้ผ่านทาง “ศิลปศาสตร์สำนึก” แทน เผื่อว่ามีใครที่ได้อ่าน “ศิลปศาสตร์สำนึก” ฉบับนี้แล้ว บังเอิญ มีเบาะแสว่าใครเป็นผู้ส่ง “บัตรอวยพร” ให้ผมกับ รศ.ศศิธร ก็จะได้ช่วยให้เขาได้อ่านด้วย จะได้รู้ว่าพวกเราทั้งสองคน รู้สึกขอบคุณอย่างที่สุดที่ได้รับ “บัตรอวยพร” เนื่องในวัน ขอบคุณพระเจ้า

แต่ถ้าจะให้ดี คราวหน้าคราวหลัง ถ้าคิดจะส่ง “บัตรอวยพร” หรือจดหมายรักมาถึงผมอีก ก็อย่าลำบากต้อง ไปส่งไกลๆก็ได้ และไม่ต้องยุ่งยากไปหาแป้งโรยสะดือใส่ซอง มาก็ได้ ขอแค่ให้มีความกล้าหาญ อย่าทำตัวเป็นพวก “ขันที” เขียนชื่อจริง นามสกุลจริง มาลงพิมพ์ใน “ศิลปศาสตร์สำนึก” ได้เลย ผมเชื่อว่าคณะผู้จัดทำเขามีความกล้าหาญพอที่จะลง ตีพิมพ์ให้ และหากมีอะไรที่ผมทำมิดีมิร้ายไว้ ทั้งที่มหาวิทยาลัย วลัยลักษณ์และที่อื่นๆ ก็เขียนมา “เปิดโปง” ได้เลย แหม! ทำไมนะ ความกล้าหาญเพียงเล็กๆน้อยๆจึงไม่มี คนอย่างนี้ จะทำตัวเป็น “ผู้ทรงภูมิ” อย่างไรได้ จริงไหม ท่านสารวัตร? เอ้ย! ท่านสมภาร


Home