ค่าใช้จ่ายตอนนั้น
ไม่ว่าจะค่าเสื้อผ้า ค่าอุปกรณ์ประกอบฉาก
ค่าสวัสดิการทีมงาน ต้องใช้เงินจำนวนมากทีเดียว 
เมื่อไม่พอ ก็เพื่อนๆของฉันอีกนั่นแหละที่ให้หยิบยืม
เพราะทนต่อความรุกเร้าของฉันไม่ไหว
ที่สุด..............
เพื่อนที่มีความรู้เรื่องดนตรีก็อาสาทำเพลง
สอนให้ร้องเพลง 
ฉันโชคดีมีห้องให้ฝึกร้องส่วนตัวอีกต่างหาก
เราตั้งชื่อห้องนั้นว่า "  รถตู้  " 
เพราะตอนนั้นยังสัญจรอยู่ 
เดือนนั้นทั้งเดือนเพื่อนๆอยากจะนั่งรถไปเอง
ถ้าไม่ติดว่าเป็น ต้องไปแสดงที่บางแค รังสิต
หรือพุทธมณฑล
ที่คุยงาน.............
คือร้านส้มตำเพิงหมาแหงน 
เชิงสะพานถนนวิทยุ
เพราะเป็นจุดเติมพลังสุดท้าย
ก่อนกลับบ้านของทุกเย็นในวันทำงาน
แม้จะคุยกันอย่างไร
เมื่อเข้าโรงละครทุกคนต่างหยิบจับในส่วนที่ตนถนัด
ไม่รบกวนซึ่งกันและกัน
โดยเฉพาะฉัน แยกส่วนอย่างเห็นได้ชัด  
เพื่อนๆขอร้องว่าอยากจะดูการซ้อมก่อนเล่นสักครั้งได้มั้ย
เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงาน
เพื่อความมั่นใจของทีมงาน
พราะเบื่อฟัง
อยากเห็นด้วยตาตัวเองในโรงละครไม่ใช่รถตู้
เราต้องทำบัตรเชิญกันเอง  
อีกจิปาถะที่ต้องวุ่นวาย เช่น
การตกแต่ง และจัดนิทรรศการ
ออกแบบชุดโชว์
ฉันใช้อลูมิเนียมมาทำวิกผมแต่ในที่สุดก็ไม่ได้ใช้
เพราะมันหนักและเป็นอุปสรรคในการแสดงเหลือเกิน
มันสวยแต่ฉันเล่นดังใจนึกไม่ได้ทำให้กังวลเมื่ออยู่บนเวที 

เราลงทุนพิมพ์โปสเตอร์
ใบปลิวขนาดเล็ก
ซึ่งก็ต้องเช่ารถในการแปะตามสถานที่ต่างๆ 
ก็รถตู้พี่บรรจง ที่เราคุ้นเคยในโครงการละครสัญจรนั่นแหละ
เรากวนกาวแป้งเปียกกันตั้งแต่เที่ยงคืน
และเริ่มแปะกันจนถึงรุ่งเช้า
เพื่อนๆที่ทำละครด้วยกันมาช่วย
และยังอุตส่าห์ชวนเพื่อนใหม่มาอีก
คืออิ๊ม
เธอเปิดร้านเหล้าชื่อบาบาหลี 
ฉันไม่เคยลืมพวกเขาเหล่านี้
และเชื่อมั้ย................
ทุกวันนี้ พวกเขาเหล่านั้นก็ไม่เคยลืมฉัน
ก็ใครจะลืมฉันลงหล่ะ

ฉันมีเพื่อนจากการทำงาน
เพราะงานทำให้เราได้ร่วมฟาดฟันร่วมแก้ปัญหา
ร่วมสุข ซึ่งหาได้ยากมาก
เพราะเป็นงานแรกที่มีแต่ความตื่นเต้นระทึกใจ
แต่สุดท้ายก็คือรอยยิ้มที่พวกเรายิ้มให้แก่กัน
อันเนื่องมาจากการยิ้มให้คนดูนั่นเอง
ทุกคนอยากเห็นด้วยตาตัวเอง ในโรงละคร ไม่ใช่รถตู้
( และเพื่อนๆ ก็หมดโอกาส เพราะฉันอาย )

ณ โรงละคร ปุ๊ ช่างประดิดประดอย
มาถึงก็แอบทำไม่ให้ใครเห็น ไม่แพ้ฉัน
เธออาสาตกแต่งสถานที่
เลยไปจนถึงทำของชำร่วย ขายที่หน้าโรง
ซึ่งตอนนั้นคือ
.................ต้นกระบองเพร็ช............................
เพราะอยู่บนความคิดที่ว่า
แห้งแล้งอย่างไร ก็ขอมีชีวิตอยูา
แขก   อาสาทำอุปกรณ์ประกอบฉาก
ด้า   ส่องไฟโฟว์โลว์
ลาฟ   ประสานงานกับทุกๆฝ่าย
น้องอ้อย  รับแขก และดูแลกล่องเงิน ที่รับบริจาค
จั๊ก  อาสาทำดนตรีประกอบ
พี่ตี่  มาช่วยสอนร้องเพลง
ลัคกี๊  เจ้าหน้าที่ของสมาคมฝรั่งเศส ดูแลเรื่องคิวเพลง
2
4