สมเด็จพระบรมฯรับสั่ง ทรงมีครอบครัวที่อบอุ่น

บทความพิเศษจากน.ส.พ The Thai Times USA News.
www.thaitimeusa.com

     นับแต่งานประกวดผ้าไหมศิลปาชีพ ที่พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ เมื่อปลายปีที่แล้ว เรื่อยมาจนถึงงานพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เมื่อ 23 ม.ค. 45 พสกนิกรชาวไทยต่างพากันแซ่ซ้องและชมชื่น เมื่อได้เห็นภาพข่าว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯออกปฏิบัติพระราชกิจ โดยมีหม่อมศรีรัศมิ์ มหิดล ณ อยุธยา คอยตามเสด็จฯอย่างเปิดเผย....

และในเย็นวันหนึ่งเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ต้องนับเป็นโอกาสดีของสื่อมวลชน ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ผู้สื่อข่าวจากหนังสือ พิมพ์รายวันทุกสำนัก และสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง เข้าเฝ้าฯรับทราบข้อมูลที่แท้จริง เพื่อจะได้รายงานข่าวที่ถูก ต้องเกี่ยวกับชีวิตครอบครัวของพระองค์ รวมทั้งทำความรู้จักหม่อมศรีรัศมิ์ มหิดล ณ อยุธยา ณ พระตำหนักส่วนพระองค์ ในวังศุโขทัย

ในเย็นวันนั้นทรง พระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ หม่อมศรีรัศมิ์ มหิดล ณ อยุธยา ซึ่งอยู่ในชุดลำลอง เสื้อสีชมพู กระโปรงสีเนื้อ ออกมาต้อนรับผู้สื่อข่าวอย่าง เป็นกันเอง ประหนึ่งเจ้าของบ้าน โดยมี "ฟูฟู" สุนัขทรง เลี้ยงอยู่ในอ้อมกอดด้วย ณ บริเวณสวนต้นไม้ข้างพระ ตำหนัก ซึ่งได้จัดโต๊ะของว่างพระราชทานเลี้ยงไว้ประมาณ 7 โต๊ะ ด้วยอัธยาศัยน่ารักและเป็นกันเองของหม่อมศรีรัศมิ์ สร้างความประทับใจ และช่วยให้ผู้สื่อข่าวคลายความตื่น เต้นจนหมด ทำให้การสนทนาเป็นไปอย่างออกรสสนุก สนาน และมีการแจกภาพวาดรูปหมูสัญลักษณ์ประจำตัวหม่อมฯ ซึ่งเกิดปีกุน พร้อมลายเซ็นแก่นักข่าวทุกคน

จากนั้นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จึงเสด็จฯออกให้ผู้สื่อข่าวเข้าเฝ้าฯ ณ ระเบียงข้างพระตำหนัก โดยหม่อมศรีรัศมิ์ก็ร่วมเข้าเฝ้าฯด้วย โดยนั่งอยู่ท่ามกลางนักข่าว สมเด็จพระบรมฯทรงมีรับสั่งเริ่มต้นว่า ขอบใจที่ทุกคนให้ความเมตตากับหม่อมฯ และที่ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ผู้สื่อข่าวเข้าเฝ้าฯ ในวันนี้ เพื่อจะได้รู้ความจริง จะได้ไม่ไปเจาะข่าวหรือค้นหากันเอาเอง พร้อมกับไม่ทรงมีพระประสงค์ให้การเข้าเฝ้าฯในวันนี้ ปรากฏเป็นข่าวครึกโครมอีกด้วย ทรงอยากให้ ค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า เพราะทรงเห็นว่า อะไรที่มากไปและไม่มีรากฐานที่ดี ก็จะไม่สวยงามในระยะยาว....

สมเด็จพระบรมฯรับสั่งว่า ขณะนี้พระองค์ทรงมีพระชนมายุครบ 50 พระชันษาแล้ว ทรงเห็นว่าพระองค์เป็นผู้ใหญ่แล้ว ควรจะเริ่มทรงงานปฏิบัติหน้าที่ต่างๆให้ สมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องครอบครัว ทรงเห็นว่า เมื่อจะเริ่มต้นมีครอบครัวที่สมบูรณ์ น่ารัก เหมาะสมกับสมัยและเวลา ควรเริ่มต้นที่ดีในสายตาประชาชน เมื่อรับสั่งถึงตรงนี้ ทรงบอกว่าไม่ใช่ว่าจะหาเสียง แต่เพื่อให้ ประชาชนมีความรู้สึกที่ดี และสบายใจ พระองค์จึงทรงคิดว่า ได้ทรงพยายามเริ่มในสิ่งที่ดี

สมเด็จพระบรมฯทรงเล่าพระราชทานว่า ทรงอยู่กับหม่อมฯมาตั้งแต่ปี 2536 ทรงดูใจและศึกษากันมานาน และเมื่อปีที่แล้วก็ทรงจดทะเบียนกันอย่างเงียบๆ และทรงเข้ารับพระราชทานน้ำสังข์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นการเริ่มต้นชีวิตครอบครัวที่ดี หลังจากนั้นหม่อมฯก็ได้เข้าเฝ้าฯ และตามเสด็จฯสมเด็จพระนางเจ้าฯอยู่เสมอ

การที่ทรงอภิเษก สมรสกับหม่อมศรีรัศมิ์แบบเรียบง่ายนั้น สมเด็จพระบรม โอรสาธิราชฯรับสั่งว่า ตามดวงของพระองค์ ถ้าตั้งใจทำอะไรเป็นเรื่องเป็นราวมากเกินไปก็จะเสีย ดังนั้น จึงทรงแก้เคล็ดด้วยการไม่ทำอะไรให้เอิกเกริก "วันที่จดทะเบียน เราใส่เสื้อยืด กางเกงวอร์ม รองเท้าแตะ และประทับกับพื้นในห้องนั่งเล่น อาคารเจ้าฟ้านนทบุรี ซึ่งดัดแปลงมาจากโรงรถวันนั้นก็ให้ราชเลขาฯเข้ามาถวายงานปกติ ถึงเวลาก็ไปบอกนายอำเภอ โดยให้เขาแต่งชุดธรรมดาเข้ามา ถึงเวลาก็เอากระดาษมาเซ็น เสร็จแล้วก็ลงไปออกกำลัง ส่วนวันที่รับพระราชทานน้ำสังข์ ผู้ใหญ่ท่านดูฤกษ์ให้ทุกอย่าง ถึงเวลาก็แต่งสากลเข้าไปรับพระราชทานน้ำสังข์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่บอกใครด้วยซํ้า องครักษ์ ยังนึกว่าไปบิน กลับมาก็แต่งตัวตามเสด็จฯสมเด็จพระ นางเจ้าฯไปเชียงใหม่"

สมเด็จพระบรมฯทรงตอบคำกราบบังคมทูลถามของนักข่าว ถึงความประทับใจในหม่อมศรีรัศมิ์ว่า "หม่อมเป็นคนมีความเมตตา มีความอ่อนโยน เป็นมิตรเข้ากับทุกคน และเข้ากับพระองค์ได้ หม่อมมาจากครอบครัวคนธรรมดาๆ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ความเป็นคนธรรมดาๆ นี่ก็ดี เพราะเขาเคยใช้ชีวิตมา พ่อแม่เขาก็ไม่ร่ำรวยอะไร ปัจจุบันนี้ก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร เขาไม่ชินกับพิธีรีตอง หรือ ระบบไฮโซทั้งหลาย เขามีความสงบเสงี่ยมเจียมตัว มีความอดทน ไม่เคยให้ร้ายใคร ใช้ชีวิตเรียบง่ายสบายๆ ที่สำคัญมีความอบอุ่นในครอบครัว ทำให้บ้านเป็นบ้าน และหน้าตาก็สวยดีด้วย"

สำหรับจุดเด่นในหม่อมศรีรัศมิ์นั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯรับสั่งว่า "เขาเป็นคนธรรมดา ไม่วางท่า ไม่ฟู่ฟ่า ไม่ใจร้าย อยู่ด้วยกันก็ทำสวนปลูกต้นไม้ หาอะไรทำที่สนุก สบายใจ และเขาไม่เคยเรียกร้องอะไร ชอบ ชนบท ชอบอะไรที่เป็นไทย ไม่บ้าฝรั่ง ไม่บ้าเมืองนอก ไม่บ้ายศถาบรรดาศักดิ์ เขาทำให้เราสบายใจในบ้านได้"

สุดท้ายนี้ ทรงมีรับสั่งถึงกาลข้างหน้าด้วยว่า เมื่อพระองค์ทรงมีครอบครัวที่สมบูรณ์ น่ารัก มีคนที่ดีคอยดูแลบ้าน ดูแลครอบครัวและลูก ก็จะทำให้พระองค์ทรงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ พร้อมกับทรงมีรับสั่งเป็นนัย ด้วยว่า อีกไม่นานข้างหน้านี้ก็จะทรงมีข่าวดี กับหม่อมศรีรัศมิ์ออกมาให้ประชาชนได้รับทราบกันต่อไป.