มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
http://www.oocities.org/Tokyo/Harbor/2093/
จำสั้นๆ i.am/thaidoc



ใส่ฟันเสียทีดีไหมหนอ


ทำไมต้องใส่ฟันปลอม แลจะใส่ฟันปลอมแบบไหนดี ?

คำถามดังกล่าวเป็นคำถามที่ทันตแพทย์ต้องตอบเสมอเมื่อผู้ป่วยต้องใส่ฟันปลอม เนื่องจากจำเป็นต้องถอนฟันแท้ออกไป ไม่ว่าจะเนื่องจากฟันผุหรือจากโรคเหงือกอักเสบ และฟันซี่นั้นไม่สามารถรักษาเอาไว้ได้ หรือเสียฟันไป เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุ ฟันหลุดหรือแตกเสียหายมาก

แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้ไม่ใส่ฟันปลอม ก็จะทำให้เราจะเคี้ยวอาหารได้ไม่ดี เสียความสวยงาม หรืออาจทำให้พูดไม่ชัด โดยเฉพาะถ้าเป็นฟันหน้า การออกเสียงตัว ฟ ฟัน ฝ ฝา และส เสือ จะไม่ชัดเจน ตัวอย่างเช่น การออกเสียงคำว่า ฟัน ฟ้า ฝี ฝ้า เสื้อ เสื้อ เป็นต้น ซึ่งทำให้เสียบุคลิกมาก ผลเสียที่เกิดขึ้นอีกประการหนึ่งที่สำคัญมากจากการถอนฟันแล้วไม่ใส่ฟันปลอมเข้าไปแทนที่ ซึ่งในระยะแรกอาจจะไม่เห็นแต่จะเห็นได้ชัดเจนในระยะยาวก็คือ ฟันแท้ที่อยู่ข้างเคียงฟันที่ถูกถอนจะล้มเอียงเข้ามาในระหว่างช่องว่างนั้น ฟันซี่ที่อยู่ตรงข้ามก็จะงอกเข้าไปในบริเวณที่ถอนฟัน การสบฟันจะผิดปกติ ฟันจะห่างกัน เศษอาหารจะติดง่ายเสี่ยงต่อโรคฟันผุและโรคเหงือกอักเสบ นอกจากนี้จากการที่มีฟันไม่ครบเรา การเคี้ยวอาหารไม่สะดวกเราก็จะพยายามเคี้ยวอาหารด้วยฟันที่เหลืออยู่ ทำให้เกิดนิสัยเคี้ยวอาหารข้างเดียว หรือเคี้ยวด้วยฟันหน้าในกรณีที่ถอนฟันหลังไปหมด การสบฟันก็จะยิ่งรวน และผิดปกติมากขึ้น เป็นสาเหตุให้ต้องเสียฟันที่เหลือในเวลาต่อมา ฉะนั้นการใส่ฟันปลอมจึงเป็นสิ่งจำเป็นเมื่อต้องถอนฟันไป จะยกเว้นก็คือ เมื่อถอนฟันคุด ซึ่งเป็นฟันที่อยู่ด้านในสุดของขากรรไกรเท่านั้น

เราควรใส่ฟันปลอมหลังจากถอนฟันไปสัก 2 เดือน เพื่อให้แผลถอนฟันหายดีเสียก่อน อันที่จริงเราสังเกตดูแผลถอนฟันจะเห็นว่าภายใน 2 สัปดาห์ แผลก็จะหายดีแล้ว แต่ที่ต้องรอไปอีกประมาณ 6 สัปดาห์ก็เพื่อว่ากระดูกบริเวณที่ถอนฟันนั้น จะปรับเปลี่ยนรูปร่างใหม่ให้เหมาะสมตามธรรมชาติ สันเหงือกบริเวณนั้นจะหดตัวลงหรือแคบเข้า ถ้าเราทำฟันปลอมเร็วเกินไปก็จะได้ฟันปลอมที่หลวม ไม่พอดี เพราะตอนที่เราพิมพ์ปาก เพื่อหล่อแบบทำฟันปลอมนั้นสันเหงือกยังไม่หดตัวเต็มที่ จึงต้องรอเวลาสักหน่อย

แต่อย่างไรก็ตามในบางกรณีเราก็จำเป็นต้องทำฟันปลอมเร็วขึ้น เช่นในกรณีใส่ฟันหน้า เพราะถ้าปล่อยให้เห็นฟันหลอก็คงจะไม่ดี เราอาจจะใส่ทันทีหลังจากถอนฟันก็ได้ แต่ฟันปลอมนี้มักจะต้องทำใหม่เพราะจะหลวมเร็วมากและจะต้องเสียค่าใช้จ่ายสองครั้ง

ถ้าเราทิ้งให้ฟันหลอนานเกินไป ก็จะเกิดผลเสียอย่างที่ได้กล่าวมาแล้ว และหลายครั้งที่ปล่อยนานเกินไปจนไม่สามารถจะใส่ฟันปลอมชนิดใดๆ ที่เหมาะสมได้อย่างเช่น มีฟันล้มมาก หรือช่องว่างที่จะใส่ฟันเหลือน้อยเกินไป

การใส่ฟันปลอม มี 2 ชนิด ได้แก่ฟันปลอมชนิดถอดได้และฟันปลอมชนิดติดแน่น

ฟันปลอมชนิดถอดได้

เหมาะกับการใส่ฟันหลายๆซี่ หรือทั้งปาก หรือใส่ทันทีหลังถอนฟันตามที่ได้กล่าวมาแล้ว ฟันปลอมชนิดถอดได้นี้ราคาถูกกว่าฟันปลอมชนิดติดแน่น แต่มีข้อเสียคือ จะต้องมีเหงือกหรือส่วนของเพดานปลอม ซึ่งทำความรำคาญให้กับผู้ใส่เป็นอย่างมาก คนที่ช่างรำคาญจะมีปัญหามาก บางทีฟันปลอมนั้นก็จะต้องมีตะขอที่จะช่วยยึดฟันปลอม ทำให้มองเห็นตะขอ คนอื่นทราบว่าใส่ฟันปลอมก็ทำให้ขาดความมั่นใจ และเสียบุคลิกในการเข้าสังคม นอกจากนี้ ประสิทธิภาพการเคี้ยวอาหารก็ไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากฟันปลอมจะมีการขยับได้บ้างระหว่างการใช้งาน

ส่วนของเหงือกหรือเพดานของฟันปลอมชนิดถอดได้จะทำด้วยพลาสติกชนิดที่เรียกว่า เมททิลเมธาไครเลท หรือโลหะไวตาเลียม ซึ่งวัสดุเหล่านี้มีความปลอดภัยสามารถใช้ในปากได้ และยังมีความทนทานต่อการกร่อนจากการใช้งานหรือจากสภาพความเป็นกรดเป็นด่าง ในช่องปากได้ดีอีกด้วย

ฟันปลอมชนิดนี้จะต้องถอดออกมาทำความสะอาดหลังรับประทานอาหาร ก่อนนอนก็ต้องถอดออกและแช่เอาไว้ในน้ำสะอาดเพื่อให้ฟันปลอมไม่แห้งจนเสียรูปร่างไป การที่ต้องถอดฟันออกก็จะทำให้เหงือกได้พัก ไม่มีอะไรมาคลุมไว้ตลอดเวลา การหมุนเวียนเลือดบริเวณนั้นจะเป็นไปอย่างสะดวก เป็นการป้องกันไม่ให้สันเหงือละลายตัวเร็วเกินไป จนทำให้สันเหงือกมีขนาดเล็กลง จนเกิดเป็นปัญหาในการใส่ฟัน

อายุการใช้งานของฟันปลอมชนิดถอดได้ จะอยู่ที่วัสดุที่ใช้ทำนั้นมีความทนทานอย่างไร เราจะใช้ฟันปลอมชนิดถอดได้นั้นได้นานเท่าไร ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนด้วย การเคี้ยวอาหารแข็งหรือเหนียวเป็นประจำก็จะทำให้ฟันปลอมนั้นสึกเร็วขึ้น ฟันปลอมที่ทำด้วยพลาสติกจะสึกเร็วกว่า ฟันปลอมที่ทำด้วยโลหะ และเมื่อใช้ไปนานๆ ส่วนที่เป็นพลาสติกจะเปลี่ยนสีไปและมักจะเกิดกลิ่นไม่สะอาด ต้องเปลี่ยนฟันปลอมใหม่ โดยเฉลี่ยแล้วฟันปลอมชนิดถอดได้จะใช้ได้นานประมาณ 5-8 ปี แต่ก็มีหลายคนที่สามารถใช้ได้นาน นับเป็นสิบๆ ปี แต่การทนใส่ฟันปลอมที่หลวมแล้วอาจจะมีผลเสียคือ ฟันปลอมขยับไปมาอยู่บ่อยๆ อาจจะทำให้เกิดเหงือกอักเสบและทำให้กระดูกใต้ฐานรากฟันปลอมนั้นเกิดการละลายตัว หรือเนื้อเยื่อเกิดงอกเป็นครีบจนทำให้รู้สึกเจ็บเมื่อใส่ฟันปลอม ทันตแพทย์ต้องตัดเนื้องอกนั้นออกแล้วทำฟันปลอมใหม่

ฟันปลอมชนิดติดแน่น

เรามักจะเรียกว่า สะพานฟันติดแน่น เพราะจะต้องมีฟันแท้อยู่หัวท้ายช่องว่างของฟันที่ถอดไป โดยการกรอฟันบางส่วนออกเสียก่อนแล้วทำครอบฟันทับฟันแท้เพื่อเป็นหลักยึด ส่วนตรงที่ฟันหลอก็จะเป็นฟันปลอมเชื่อมต่อครอบฟันทั้งหมดคล้ายสะพานที่มีตอม่ออยู่ที่ปลายทั้งสองข้าง สะพานฟันติดแน่นจะมีรูปร่างและขนาดเหมือนฟันเดิมของเรา จึงทำให้ผู้ใส่รู้สึกเหมือนฟันธรรมชาติมาก เพราะไม่มีส่วนเหงือกและเพดานปลอมหรือตะขอต่างๆ ที่เกะกะเหมือนฟันปลอมชนิดถอดได้ การใช้เคี้ยวอาหารก็ดีกว่า ทนทานใช้งานได้นานกว่าชนิดถอดได้

สะพานฟันติดแน่นที่ทำในฟันหลังจะทำด้วยโลหะชนิดที่ใช้ในช่องปาก ส่วนที่ทำในฟันหน้านั้นเราต้องการความสวยงามจึงต้องทำด้วยวัสดุสีเหมือนฟัน ซึ่งอาจจะเป็นพลาสติกหรือพอรซเลน แต่ข้อเสียของสะพานฟันติดแน่นก็คือ ราคาแพงกว่ามาก การแปรงทำความสะอาดฟันปลอมก็ทำได้ยาก เพราะไม่สามารถถอดออกทำนอกปากได้ต้องใช้เครื่องมือทำความสะอาดเป็นพิเศษ ฉะนั้นถ้าทำความสะอาดได้ไม่ดีพอ ฟันแท้ของเราที่ฟันปลอมยึดอยู่นั้นมีโอกาสผุ หรือเป็นโรคเหงือกอักเสบ ต้องเสียฟันไป ฟันปลอมนั้นก็ใช้ไม่ได้ ปัญหาสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือเราไม่สามารถทำสะพานฟันติดแน่น ให้กับผู้ป่วยที่สันเหงือกยุบตัวไปมากๆ ได้ เพราะจะต้องมีการเสริมเหงือกให้สวยงาม จึงต้องแก้ปัญหาโดยใส่ฟันปลอมแบบถอดได้

อย่างไรก็ตามเนื่องจากสภาพในช่องปากจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติตลอดเวลา ฟันปลอมที่เราใส่จึงจำเป็นต้องปรับสภาพให้เหมาะสม เราจึงควรให้ทันตแพทย์ ตรวจสภาพฟันปลอมนั้นอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อแก้ไขปรับสภาพให้เราสามารถใช้ฟันปลอมนั้น ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถใช้งานได้นานๆ

การใส่ฟันปลอมเพื่อทดแทนฟันที่เสียไปเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาสมดุลสภาพของช่องปาก และช่วยให้การเคี้ยวอาหารเป็นไปได้ตามปกติ ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อการมีสุขภาพดี

ทญ.ฉวีวรรณ ภักดีธนากุล



[ที่มา..หนังสือ นิตยสารใกล้หมอปีที่ 23 ฉบับที่ 9 กันยายน 2542]

[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21] resolution 800x600