สถิติการหย่าร้างของคู่สมรสของไทย ได้รับการเปิดเผยจากกระทรวงมหาดไทยว่ามีเพิ่มขึ้น
จากสถิติการหย่าร้างของกองทะเบียนสมรส
|
เรื่องการหย่าร้างหากจะถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวก็จริง แต่ผลกระทบจากการหย่าร้างนี้
ย่อมมีผลกระทบต่อสภาพครอบครัวที่มีลักษณะบ้านแตก กระทบจิตใจลูกๆ ที่พ่อแม่ต้องแยกจากกัน
ทั้งยังมีผลกระทบสืบเนื่องถึงสภาวะเศรษฐกิจของครอบครัวและสังคมด้วย ที่น่าคิดก็คือ
การหย่าร้างนั้นมิใช่จะมีสาเหตุเนื่องจากความไม่ซื่อของชายต่อภริยาตนเพียงฝ่ายเดียว
แต่ก็ยังมีสถิติเพิ่มขึ้นในเรื่องการฟ้องหย่าของชาย หญิงที่ไม่ซื่อต่อสามีนั้นมีอยู่หลายระดับ
ไม่ว่าในด้านสูงด้วยวุฒิภาวะการศึกษาอยู่ในสังคมชั้นสูง หรือในทางตรงกันข้าม
เป็นความจริงที่ว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่แต่งงานแล้ว (ยกเว้นผู้นิยมความสัมพันธ์ทางเพศเป็นพิเศษ)
ย่อมไม่ต้องการเลิกร้างจากสามีอย่างแน่นอน แต่เท่าที่ปรากฏหญิงที่ขอหย่าสามี
จนทำให้ครอบครัวแตกแยกนั้น สาเหตุสำคัญที่สุดก็ คือ ฝ่ายชายเป็นผู้ที่ไม่สนใจรักใคร่ภริยาเหมือนเดิม
หรือไม่ก็ฝ่ายชายทำตัวห่างเหินหรือแยกตัวไปทำมาหากินในถิ่นที่ไกลภริยา
ทั้งบางคนยังมีภริยาน้อยไว้สำรอง ฉะนั้นจึงทำให้ภริยาเกิดความหึงหวงโกรธแค้น
หรือคิดแก้แค้น เมื่อหญิงเกิดความว้าเหว่มากจนไม่อาจทนได้ จึงต่างคนต่างไป
ความว้าเหว่ผสมความโกรธแค้นนี้เองอาจทำให้ฝ่ายหญิงคิดแก้ลำโดยเริ่มประพฤติผิด
อาทิ การหันเข้าหาเหล้า ของเสพติดและหาความสุขทางเพศโดยไม่คิดถึงศีลธรรมอันดี
และประสบกับปัญหาเรื่องการคบชู้สู่ชาย ซึ่งเป็นที่ประณามของสังคม
ทั้งพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมนี้ หญิงก็จะถูกฟ้องหย่าได้ทันทีจากฝ่ายชาย
อนึ่งสังคมวัตถุนิยมก็ทำให้คนเราหลงผิดได้ง่าย รวมทั้งค่านิยมของสังคมไทยในปัจจุบัน
โดยเฉพาะฝ่ายชายมักจะถือว่าผู้ชายนั้นมีเงิน มีอิทธิพลเสียอย่าง การหาภริยาน้อย
ไม่ว่าสักกี่คนดูเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งเรื่องนี้ก็คงจะต้องแก้ไขปรับค่านิยมกันเสียใหม่
อย่างไรก็ดี ถ้าหากเราคำนึงถึงความรู้สึกนึกคิดของหญิงบ้างก็จะดี
เดิมฝ่ายหญิงก็รักใคร่สามี แต่เมื่อมาถูกสามีทอดทิ้งให้ว้าเหว่
ทั้งไม่เอาใจใส่สนใจครอบครัวเลย มิหนำซ้ำกลับไปสนใจภริยาน้อย
แต่สังคมแทนที่จะประณามกลับยกย่องชมเชยว่า เป็นชายชาตรีเก่งกล้าแบบขุนแผน
ก็น่าที่ผู้หญิงเราซึ่งเป็นมนุษย์ปุถุชนจะต้องมีความโกรธแค้นเป็นธรรมดา
และยิ่งผู้หญิงสมัยนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ได้รับการศึกษา มีอาชีพ มีเกียรติ
และมีเศรษฐกิจดี (และบางท่านดีกว่าชายมากด้วย) ผู้หญิงย่อมมีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น
เมื่อไม่สามารถทำให้เขากลับมารักมาอยู่กับตัวเช่นเคยได้ ก็ย่อมเกิดความรู้สึกมีทิฐิ
ไม่อยากง้องอน ยิ่งหากเผอิญได้พบชายอื่นที่ไม่ว่าจะเป็นคนใกล้ชิด
เพื่อนหรือนายที่รู้ใจหญิงก็ย่อมมีจิตใจเอนเอียงไปเป็นธรรมดา
ทั้งไม่คิดจะอดทนต่อสภาพที่ถูกเอาเปรียบจากฝ่ายชายต่อไป
อย่าได้คิดว่าหญิงอยากประพฤติต่ำทราม คิดจะมีสามีน้อยเหมือนอย่างชาย
เพราะเหตุผื่นดังที่ชายปากร้ายบางคนมักอ้างประชดประชันเสมอว่า
"ผู้หญิงสมัยนี้น่ะอยากเท่าเทียมชายทุกทางเลยมีผัวน้อยซะเลย"
อย่างไรก็ดี ปัญหาการหย่าร้างเป็นปัญหาร้ายแรงสำหรับชีวิตคู่
ถ้าคนเราไม่ว่าชายหรือหญิงรู้จักพอและพอใจในสิ่งที่ตัวมี และรู้จักหน้าที่ของตัวดี
ไหนเลยจะมีเรื่องผิดศีลธรรมของการครองเรือนและปัญหาครอบครัวเกิดขึ้น
ชีวิตคู่ก็จะต้องมีความสุข แต่เหตุแห่งความไม่พอนั่นเองจึงเกิดปัญหาหย่าร้างขึ้น
และสังคมก็ควรให้ความยุติธรรมแก่ฝ่ายหญิงบ้าง อย่างไรก็ดี
เรื่องการมีชายชู้หรือมีภริยาน้อยนั้นก็นับว่าผิดศีลธรรมพอๆ กัน ทั้งหญิงและชาย
ส.อินทรสุขศรี
|