ไม่ว่าชีวิตคู่ของคุณจะเพิ่งเริ่มต้นหรือดำเนินชีวิตคู่มานานเพียงใดก็ตาม
เชื่อได้เลยว่าในใจของคุณอยากมีชีวิตคู่ที่มีความสุข
สังคมปัจจุบันพบว่า มีอัตราการหย่าร้างสูงขึ้นมาก สังคมในอดีตนั้น
สามีและภรรยาต่างก็แบ่งหน้าที่กันไป สามีทำงานหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว
โดยไม่ประพฤติตัวเหลวไหลแต่มุ่งเน้นความรับผิดชอบในหน้าที่ของตน
ส่วนภรรยาก็จัดการงานบ้านและดูแลลูกครอบครัวจึงเป็นสถาบันที่ให้ความสุข
ความอบอุ่นแก่สมาชิกในครอบครัวเสมอมา แต่สังคมปัจจุบันครอบครัวส่วนใหญ่
ไม่ได้สัมพันธ์กันด้วยหน้าที่อย่างเดิม เนื่องจากทั้งสามีและภรรยาทำงานนอกบ้านทั้งคู่
หัวใจสำคัญที่ทำให้ครอบครัวผูกพันธ์กันดีจึงกลายเป็นเรื่องการพูดจาสื่อสารที่เหมาะสม
ซึ่งก่อให้เกิดผลดีต่อความผูกพันธ์ ความเข้าอกเข้าใจให้ความใส่ใจต่อกัน เกิดความอบอุ่นใจ
และเสริมกำลังใจซึ่งกันและกัน นอกจากนั้นจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการพูดจาสื่อสารไม่เหมาะสม
ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาลูกโซ่ตามมามากมาย
ลักษณะของการพูดจาสื่อสารที่ไม่เหมาะสม ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยนัย
มีลักษณะดังต่อไปนี้
การพูดจาสื่อสารแบบก้าวร้าว ตัวอย่างเช่น สามีตกงานไม่มีรายได้
ส่วนภรรยาต้องทำงานคนเดียว รายได้ลดลง จึงพูดจาตำหนิสามี ส่วนสามีก็พูดจาก้าวร้าว
เพื่อตอบโต้ ต่างฝ่ายต่างเสียงดัง กล่าวโทษ ท้าทายและประชดประชัน
การพูดจาสื่อสารแบบนี้เป็นการพยายามแสดงอำนาจข่มกันเพื่อสื่อสารว่าอีกฝ่ายไม่ดี
ไม่ถูกต้อง ทั้งคู่จะทะเลาะกัน ประชดประชันกันและอาจทวีความรุนแรง
ถึงขั้นทำลายข้าวของหรือทำร้ายร่างกายกัน
ตัวอย่างประโยคที่แสดงการพูดจาสื่อสารแบบก้าวร้าว ได้แก่
"โอ้ย ไม่เอา คุณน่าจะรู้ว่ามันแพงเกินไป" ประโยคนี้แสดงความก้าวร้าวแบบเสียงดัง
"เดี๋ยวนี้นะผู้ชายต้องช่วยงานบ้าน" ประโยคนี้แสดงความก้าวร้าวแบบพร่ำสอน
"คุณไปเก็บผ้าเร็วๆ ฝนจะตกแล้วนะ" ประโยคนี้แสดงความก้าวร้าวแบบใช้คำสั่ง
"คุณไม่มีมือหรือไง" ประโยคนี้แสดงความก้าวร้าวแบบประชดประชัน
"ภรรยาคนข้างบ้านไม่เห็นเหมือนคุณเลย" ประโยคนี้แสดงความก้าวร้าว
แบบพูดเปรียบเทียบกับผู้อื่น
"ทำไมคุณไม่เคยล้างจานเลย ถ้าคุณไม่ทำอีก คอยดูสิ" ประโยคนี้แสดงความก้าวร้าว
ในลักษณะสืบสวนและข่มขู่
การพูดจาสื่อสารแบบผสมผสาน
ตัวอย่างเช่น ภรรยาทำงานนอกบ้านเช่นเดียวกับสามี ไม่มีคนรับใช้ในบ้าน
ภรรยาไม่สามารถทำงานบ้านตามลำพังส่วนสามีก็ไม่คุ้นเคยกับงานบ้านมาก่อน
บางครั้งลืมช่วยบ้าง บางครั้งทำผิดทำถูกบ้าง ภรรยาอารมณ์เสียกลายเป็นคนขี้บ่นชอบใช้คำสั่ง
ซึ่งจะทำให้สามีดูเป็นคนรับใช้ บางครั้งก็พร่ำสอนซึ่งจะทำให้สามีดูเป็นเด็กในบ้าน
การพูดจาสื่อสารของสามีรายนี้เป็นแบบสมยอม ยอมรับว่าตนเองไม่ดี
ไม่ถูกต้องยอมให้ภรรยาของตนอยู่เหนือกว่าและข่มตนได้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้เก็บกด
พอเก็บกดมากเข้าอาจจะระเบิดอารมณ์รุนแรงได้ บางครั้งอาจรุนแรงถึงฆาตกรรมได้
ดังที่เป็นข่าวอยู่เสมอ
ตัวอย่างประโยคที่แสดงการพูดจาสื่อสารแบบสมยอม ได้แก่
"ความจริงผมอยากพักผ่อน แต่เอาล่ะ ผมจะไปเป็นเพื่อนคุณ"
"ฉันผิดเองที่ไม่ได้ทำอาหารให้ทันเวลาทั้งที่รู้ว่าคุณเหนื่อยและหิว"
"จะด่าจะว่าผมอย่างไรก็ได้ เพราะผมเป็นคนไม่ดีเอง"
การพูดจาสื่อสารแบบหาเหตุผลมาอ้าง เป็นการชักแม่น้ำทั้งห้า
ตัวอย่าง เช่น สามีตกงานแต่ไม่หางานหรือหารายได้มาจุนเจือครอบครัว
ปล่อยให้ภรรยาทำงานคนเดียว แบกรับรายได้ไม่พอใช้จ่ายเพียงคนเดียว
เมื่อภรรยาปรึกษาด้วยสามีก็จะอ้างเหตุผลว่าสมัยนี้มีคนตกงานมากมายนับได้ว่าเป็นคนทันสมัย
ตัวอย่างประโยคที่แสดงการพูดจาสื่อสารแบบหาเหตุผลมาอ้าง ได้แก่
"ถึงผมจะตกงานแต่คนตกงานมีหลายล้านคน นับว่าเป็นเรื่องทันสมัยเหมือนคนอื่น"
"ถึงคุณว่ามันแพงแต่มันก็สวยนะคุณ"
"ที่ฉันโมโหเพราะคุณเริ่มก่อน"
การพูดจาสื่อสารที่ไม่เหมาะสมว่าแบบใดก็ตามจะทำให้อีกคนรู้สึกด้อยค่าหรือถูกเอาเปรียบ
แต่สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตคู่ คือ ความรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า ซึ่งมีผลต่อความผูกพันธ์ในชีวิตคู่
การพูดจาสื่อสารที่เหมาะสมจะบ่งบอกความต้องการของตนเองอย่างตรงไปตรงมา
โดยกล้าแสดงสิทธิของตนของตนเองและไม่ล่วงเกินสิทธิของผู้อื่น การพูดแบบนี้เริ่มจากตัวเรา
ผมอยากให้คุณช่วยทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ ควรบอกตรงไปตรงมาอีกฝ่ายไม่ได้รู้สึกว่าตนเองถูกลดคุณค่า
แต่จะรู้สึกว่าตนได้รับเกียรติจากการขอความช่วยเหลือ ถ้าช่วยทำให้ได้ตามคำขอนั้น
จะทำให้รู้สึกว่าตนมีค่า การพูดจาสื่อสารแบบนี้มักจะสื่อสารในลักษณะที่ว่า "นี่คือสิ่งที่ฉันรู้สึก"
หรือ "นี่คือสิ่งที่ฉันเห็นในสถานการณ์นี้" โดยที่การพูดจาแบบนี้ไม่ได้ทำตัวเหนือกว่าผู้อื่น
ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเสียหน้าหรือเสียเกียรติ ในขณะเดียวกันก็ไม่ใช่การสมยอม
โดยยอมจำนนว่าผู้อื่นดีกว่า หรือเก่งกว่าตน การพูดจาสื่อสารที่ตรงไปตรงมามักไม่ค่อยมีปัญหาลูกโซ่
ซึ่งต่างจากการประชดประชันการใช้คำสั่ง พร่ำสอน อ้างเหตุผลโน่นนี่
หรือเก็บกดความต้องการของตนเอง
การพูดจาสื่อสารที่เหมาะสมเริ่มต้นจากการมีทัศนคติที่ดีต่อตนเองและผู้อื่น
แตกต่างจากการพูดจาสื่อสารที่ไม่เหมาะสมมักเริ่มจากทัศนคติที่ไม่ดีต่อตนเอง
หรือต่อผู้อื่นหรือทั้งสองอย่าง
ตัวอย่างประโยคที่แสดงการพูดจาสื่อสารที่เหมาะสม ได้แก่
"พูดตรงๆ เลยนะ ถ้าคุณไม่ถามผม ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ถ้าคุณถาม
ผมรู้สึกว่าราคาแพงไป"
"ขอโทษที่ทำให้คุณไม่สบายใจ"
"วันนี้ฉันอยากให้คุณกลับบ้านเร็วหน่อย ได้มั้ยค่ะ"
"ขอโทษด้วยนะ วันนี้ผมรู้สึกเหนื่อยมาก ผมอยากพักผ่อน"
"ฉันรู้ว่าพี่เหนื่อยและหิว พอดีฉันมีงานด่วนสำคัญมาก พี่รอเดี๋ยวนะ
ฉันจะรีบกลับไปจัดการแล้วค่ะ"
การพูดจาสื่อสารในชีวิตคู่ที่เหมาะสมเป็นส่วนสำคัญให้มีความสุขในชีวิตครอบครัว
แม้ว่าจะมีอุปสรรคใดๆ ในชีวิตก็สามารถฟันฝ่าไปได้ด้วยสายใยผูกพันที่ดี
มีอะไรก็สามารถพูดกัน
นพ.วีรวุฒิ เอกกมลกุล
|