ความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์ ช่วยให้คนที่อวัยวะภายในบางอย่างเสื่อมสมรรถภาพไปแล้ว
สามารถมีชีวิตยืนยาวต่อไปได้ โดยมีคุณภาพชีวิตที่ดีใกล้เคียงกับคนทั่วไป
ด้วยวิธีการปลูกถ่ายอวัยวะ
ปัญหาสำคัญคือ จำนวนผู้ป่วยที่ต้องรับการปลูกถ่ายอวัยวะมีอยู่มาก
แต่จำนวนผู้ที่บริจาคอวัยวะมีน้อย และยังต้องให้ตายเสียก่อนจึงจะเอาอวัยวะของผู้บริจาค
มาปลูกถ่ายให้ผู้ป่วยได้ ยกเว้นเพียงอวัยวะเดียว คือ ไต ซึ่งมีอยู่ 2 ข้าง
จึงอาจผ่าตัดมาให้กันได้ขณะมีชีวิตอยู่ โดยผู้บริจาคต้องเป็นญาติร่วมสายโลหิต
หรือคู่สมรสที่แต่งงานกันมาอย่างน้อย 3 ปี
ประชากรของไทยมีกว่า 61 ล้านคน แต่มีผู้แสดงความจำนงบริจาคอวัยวะเพียงแสนกว่าคน
ซึ่งโอกาสที่จะได้อวัยวะจากผู้บริจาคเหล่านี้มีน้อยมาก เพราะส่วนใหญ่มักมีอายุยืน
กว่าจะตายก็อาจมีอวัยวะที่ชราภาพมากแล้ว ใช้งานได้ไม่ค่อยดี
ต้องเป็นผู้ที่ตายจากอุบัติเหตุในวัยหนุ่มสาว
จึงมีอวัยวะที่ค่อนข้างเหมาะสมแด่การปลูกถ่ายให้ผู้อื่น
ในโรงพยาบาลของรัฐหลายแห่ง มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุปีละหลายร้อยคน
แต่ไม่สามารถนำอวัยวะของเขามาใช้ได้ เพราะเขาไม่ได้พกบัตรประจำตัว
ผู้มีความจำนงบริจาคอวัยวะ ซึ่งอาจเป็นเหตุจากที่เขาไม่เคยบริจาค
หรือมีบัตรบริจาคแต่ถูกผู้ร้ายลอกคราบไประหว่างที่เกิดอุบัติเหตุ
เป็นพฤติกรรมเลวกำลังสอง
ประเทศสิงคโปร์ เป็นประเทศเดียวที่มีข่าวมาเมื่อไม่นานนี้
ว่ามีกฎหมายอนุญาตให้แพทย์นำอวัยวะของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุไปปลูกถ่ายให้ผู้ป่วยได้
โดยไม่ต้องมีหนังสือยินยอมล่วงหน้า นับว่าเป็นความกล้าหาญของผู้บริหารประเทศ
เขาที่กล้าตัดสินใจ รักษาผลประโยชน์ของส่วนรวม จากทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด
โดยไม่ต้องหวั่นเกรงว่า จะมีใครมากล่าวหาว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน
เรื่องนี้หากพิจารณาให้ดี จะเห็นได้ว่าเป็นการบริหารทรัพยากร อย่างมีประสิทธิภาพ
เนื่องจากอวัยวะของคนเราเมื่อตายแล้ว ก็มีแต่จะเน่าเปื่อยสลายไปโดยเปล่าประโยชน์
สู้เอามาให้คนที่เขาสามารถใช้ประโยชน์จากอวัยวะนั้นจะมิดีกว่าหรือ
อย่างนี้จึงจะเรียกว่าตายอย่างมีคุณค่า
สาเหตุที่คนไทยยังบริจาคอวัยวะน้อย เป็นเพราะปัจจัยหลายอย่าง
ปัจจัยแรกเป็นเรื่องของการประชาสัมพันธ์
เรื่องแบบนี้คนมักให้ความสนใจน้อย และไม่ขวนขวายที่จะไปบริจาค
จึงจำเป็นต้องมีการประชาสัมพันธ์เชิงรุกเพื่อให้คนสนใจบริจาคกันมากขึ้น
และต้องให้ความสะดวกแก่เขา อาจต้องไปบริการถึงที่ หรือให้ส่งทางไปรษณีย์
ผมเองก็ไปพบเข้าโดยบังเอิญในศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง จึงนำใบแสดงความจำนงมากรอก
และส่งไปรษณีย์ไป
กลุ่มเป้าหมายน่าจะเป็นหนุ่มสาวหรือวัยรุ่น ซึ่งมีความเสี่ยงจากอุบัติเหตุมากพอควร
อาจนำไปพ่วงกับนักเรียนอาชีวะที่ไปรับการฝึกทหารก็ได้ เป็นการส่งเสริมให้เขาทำความดี
และมีความเสียสละเพื่อสังคม
เรื่องของความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง ก็เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้บางคนไม่กล้าบริจาคอวัยวะ
เช่นกลัวว่าบริจาคไปแล้ว ชาติหน้าจะมีอวัยวะไม่ครบ เรื่องนี้ท่านผู้รู้ทางพุทธศาสนาหลายคน
ยืนยันแล้วว่าไม่เป็นความจริง ขอให้เลิกกลัวได้แล้ว เมื่อพูดถึงการบริจาคอวัยวะ
หลายคนมักมีความรู้สึกนึกคิดโยงไปถึงเรื่องความตายและพาให้รู้สึกหวาดเสียว
คนส่วนใหญ่รู้สึกว่าความตายเป็นเรื่องไกลตัว ทั้งนี้เพราะจิตใจของเขา
พยายามกลบเกลื่อนความกลัวตาย โดยใช้กลไกทางจิตลบออกไปจากจิตสำนึก
เมื่อคิดถึงการบริจาคอวัยวะจึงเกิดสำนึกระลึกถึงความตายขึ้นมา
ความกลัวจึงเกิดขึ้นมาเด่นชัด
การบริจาคอวัยวะจึงเป็นเรื่องที่ดี เพราะช่วยเตือนสติให้คนเห็นสัจธรรมของชีวิต
ว่าไม่มีใครหลีกหนีความตายได้พ้นและจะมาถึงเร็วหรือช้า ก็ไม่อาจรู้ได้
จึงควรดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาท และเตรียมตัวไว้บ้าง
คนเราเมื่อตายลงศพก็กลายเป็นภาระต้องจัดการ จะเอาไปทำมัมมี่ทุกคนก็คงเป็นไปไม่ได้
เพราะต้นทุนสูงและไม่มีที่เก็บด้วย การเอาศพไปเผา ก็เป็นการก่อมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
ทั้งเขม่า, ควัน, ความร้อน และก๊าซที่เกิดขึ้น ล้วนเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น
การเอาศพไปฝัง จะสลายไปตามธรรมชาติได้ ก็ต้องไม่ใส่โลงเพื่อให้จุลินทรีย์ย่อยสาย
ให้เป็นดินเป็นปุ๋ยที่มีประโยชน์ต่อพืชถ้าใช้โลงก็ต้องตัดไม้ เป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมอีก
ชนบางเผ่าที่เอาศพไปทิ้งให้แร้งกิน เป็นวิธีการที่กลมกลืนกับธรรมชาติมก
ตามหลักการของห่วงโซ่อาหาร (food chain) ซึ่งเป็นแบบเดียวกับการรีไซเคิล (recycle) นั่นเอง
การบริจาคอวัยวะเป็นแบบอย่างของการนำกลับมาใช้ (reuse)
เมื่อไม่มีประโยชน์สำหรับคนหนึ่งแล้วก็นำกลับมาให้อีกคนหนึ่ง
ที่สามารถใช้ประโยชน์จากอวัยวะนั้นได้ หากคิดในเชิงบวก เราอาจมองได้ว่า
การที่อวัยวะของเราได้รับการนำไปปลูกถ่ายให้คนอื่นเมื่อเราตายไปแล้วก็เท่ากับว่า
เรายังไม่ได้ตายไปหมดทั้งคน แต่ยังมีบางส่วนของเราอยู่รอดต่อไป
โดยไปฝากเลี้ยงไว้ในร่างของอีกคนหนึ่ง อย่างนี้ก็เท่ากับต่ออายุอวัยวะของเราเอง
คนไทยส่วนใหญ่ชอบทำบุญ แต่บางคนทำบุญแล้ว ยังไม่เห็นมีความสุข
ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะทำบุญมากเกินตัว หรือต้องผ่อนส่งค่าทำบุญ
และที่แย่ที่สุดคือทำบุญโดยหวังผลตอบแทน เหมือนกับลงทุนในตลาดหุ้น
จึงเกิดอาการหน้าเหี่ยวหน้าแห้ง จิตใจไม่เป็นสุข
การทำบุญที่ถูกวิธีต้องทำโดยไม่คาดหวังผลตอบแทน
เพราะการให้โดยไม่ต้องการรับนั้น เป็นการละกิเลสทำให้เกิดความสุขอย่างแท้จริง
การบริจาคอวัยวะเป็นการทำบุญที่มีประโยชน์ต่อโลกเป็นอย่างยิ่ง เป็นการช่วยชีวิตคนอื่น
ให้อยู่รอดต่อไป โดยผู้ให้ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย คนตายแล้วทิ้งไว้ก็เน่าเปื่อยไปโดยเปล่าประโยชน์
สู้บริจาคให้เขานำไปใช้จะดีกว่า
อวัยวะเป็นสิ่งที่มีค่า แต่ไม่ควรมีราคาคือไม่ควรมีการซื้อขายกัน ลำพังเรื่องการขายตัว
(ความจริงคือ การเช่าอวัยวะบางส่วน) ก็สร้างความเสื่อมเสียต่อประเทศเรามาพอแล้ว
อย่าให้เสียหายเพราะการขายอวัยวะอีกเลยครับ
ส่วนพวกที่คิดจะผ่าตัดแปลงเพศก็น่าจะบริจาคอวัยวะส่วนที่ไม่ต้องการใช้นั้น
ให้คนอื่นที่ต้องการ เพื่อเป็นการทำบุญอาจมีปัญหาอยู่บ้างในเรื่องการปลูกถ่ายอวัยวะส่วนนี้
ซึ่งยังได้ผลไม่ดี ส่วนใหญ่จะเน่า เพราะร่างกายผู้รับปฏิเสธ จึงควรปรึกษาศัลยแพทย์เสียก่อน
ถ้าใช้ไม่ได้จะบริจาคให้เป็ดกินก็ได้ มนุษย์ชอบกินอวัยวะสัตว์มานานแล้ว
ลองให้สัตว์ได้กินของคนบ้าง นึกว่าเป็นการโปรดสัตว์ก็แล้วกัน
นพ.เกษม ตันติผลาชีวะ
|