มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
http://www.oocities.org/Tokyo/Harbor/2093/
จำสั้นๆ i.am/thaidoc



ทำแท้งเหยื่อข่มขืน


ขณะนี้สงครายูโกสลาเวียได้ยุติลง สันติภาพได้กลับคืนมาสู่ยูโกสลาเวีย และโคโซโวอีกครั้งหนึ่ง ทหารสหประชาชาติและนาโต้ก็กำลังเคลื่อนพลเข้าสู่ยูโกสลาเวีย เพื่อรักษาสันติภาพ ชาวโคโซโวก็มีโอกาสได้กลับคืนสู่บ้านเกิดเมืองนอนอีกคำรบหนึ่ง

จุดเด่นของสงครายูโกสลาเวียมีอยู่สามประการคือ 1 เป็นสงครามที่มีแต่การทิ้งระเบิดอย่างเดียว โดยฝ่ายนาโต้ 2 เป็นสงครามที่เกิดจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่างโหดเหี้ยม ที่ทหารยูโกสลาเวียกระทำต่อชาวโคโซโว ซึ่งเป็นมุสลิมเสียเกือบทั้งหมด 3 สงครามนี้หญิงโคโซโวถูกทหารยูโกสลาเวียข่มขืนกันมากมายอย่างเป็นกระบวนการ เป็นการทำร้ายจิตใจกันอย่างรุนแรง

เมื่อมีการข่มขืนกันอย่างเป็นกระบวนการ ปัญหาเรื่องการท้องจากการข่มขืนจึงตามมา เนื่องจากเหยื่อการข่มขืน มีโอกาสตั้งครรภ์ได้มากกว่าธรรมดามาก เมื่อมีโอกาสตั้งครรภ์หญิงที่เป็นเหยื่อส่วนใหญ่จึงเสาะหาทางป้องกันการตั้งครรภ์

ตั้งแต่โบราณกาลมาแล้วมีการโต้เถียงไม่ยุติในเรื่องการทำแท้งว่าดีหรือไม่ดี ควรหรือไม่ควร ฝ่ายศาสนจักรเห็นว่าไม่ดีจึงต่อต้าน ส่วนฝ่ายหญิงท้องเห็นว่า เป็นทางเลือกที่ดีอย่างหนึ่ง ส่วนประชาชนทั่วไปที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียก็แบ่งเป็นสองฝักสองฝ่าย ที่ว่ามานี้หมายถึงเรื่องทำแท้ง ในสถานการณ์ทั่วๆ ไปแต่ในกรณีท้องเนื่องจากโดนข่มขืน ก็เป็นปัญหาที่ถกเถียงกันได้อีกแง่มุมหนึ่ง มีฝักมีฝ่ายที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าท้องจากการถูกรุมโทรมข่มขืนอย่างในโคโซโว จะมีใครคัดค้านการทำแท้งหรือไม่ ตามความรู้สึกของผมในตอนแรกก็ว่า ไม่น่าจะมีใครคัดค้าน แต่จริงๆ แล้วมีฝ่ายคัดค้านจนได้ คือกรุงวาติกันศาสนจักรคาทอลิกไงละครับ

ประเทศยูโกสลาเวียมีหลายมลรัฐ คือ เซอร์เบีย มอนเตเนโกร อัลบาเนีย มาเซโดเนียและโคโซโซ รัฐโคโซโวมีปัญหาเนื่องจากพลเมืองเป็นมุสลิมเกือบทั้งหมด และต้องการจะแบ่งแยกดินแดนไปปกครองกันเอง แต่ยูโกสลาเวียไม่ยอม จึงยกทัพเข้ายึดครอง แต่แทนที่จะยึดครองเฉยๆ กลับเข้าไปทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่างทารุณโหดร้าย นอกจากนี้ยังมีหลักฐานมากมายที่แสดงว่ามีการรุมข่มขืนกระทำชำเราหญิงมุสลิม ชาวโคโซโว โดยทหารยูโกสลาเวียกันอย่างเป็นกระบวนการมากมาย หญิงหลายคนไม่ยินยอมก็ถูกซ้อมสะบักสะบอมบอบช้ำ ทั้งทางร่างกายและจิตใจ หญิงหลายคนไม่ยี่หระออกมาให้การเปิดเผยพฤติกรรมของทหารยูโกสลาเวียซึ่งส่วนใหญ่เป็นคริสต์ หญิงหลายคนไม่กล้าเปิดเผยเพราะอายหรือเกรงกลัวสามีญาติพี่น้องเพื่อนฝูงจะดูถูกเหยียดหยาม

ความรู้สึกของคนในสังคมมนุษย์ไม่ว่าจะเป็นชาติใดภาษาใดก็เห็นว่า เรื่องข่มขืนเป็นเรื่องไม่ดี คนถูกข่มขืนรู้สึกว่าเป็นเรื่องอับอาย เป็นตราบาปติดอยู่ในใจไปนาน (แต่ใครจะทุกข์มีความกระทบกระเทือนใจมากน้อยแต่ไหนอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับพื้นฐานทางจิตใจของบุคคลนั้น) ฝ่ายผัวของผู้ถูกข่มขืนส่วนมาก ย่อมรู้สึกเคียดแค้นอยากเข่นฆ่าคนที่ข่มขืนเมียตน และรู้สึกรังเกียจหญิงที่ถูกข่มขืนไม่มากก็น้อย ความรู้สึกอย่างนี้มีอยู่ทุกแห่งรวมทั้งในสังคมมุสลิมโคโซโวด้วย

หญิงที่ถูกข่มขืนแล้วท้องย่อมมีความทุกข์ใจมากกว่าหญิงไม่ท้อง หญิงที่ถูกรุมข่มขืนแล้วท้องยิ่งมีความทุกข์มากขึ้น และที่ทุกข์มากที่สุด ก็เห็นจะเป็นหญิงที่ถูกข่มขืนแล้วท้องจากศัตรูที่บุกเข้ามายึดบ้านเกิดเมืองนอน ฆ่าสามีพ่อแม่ญาติพี่น้องอย่างที่เกิดขึ้นในโคโซโว หญิงประเภทหลังนี้ไม่มีใครอยากได้ลูกในท้อง และเนื่องจากหญิงที่ถูกรุมโทรมมีโอกาสตั้งท้องได้มากกว่าธรรมดา เหยื่อขมขืนในโคโซโวจึงเสาะแสวงหาการทำแท้งกันมาก องค์การสหประชาชาติเห็นปัญหานี้จึงมีโครงการช่วยเหลือเหยื่อ โดยจัดหน่วยแพทย์ไปให้ความช่วยเหลือ และมีการผลิตยาชุดปรับประจำเดือนแจก ยานี้เรียกว่า morning-atter pill ซึ่งเป็นส่วนผสมของฮอร์โมนเพศ มีฤทธิ์ทำให้ประจำเดือนมารวดเร็ว องค์การสหประชาชาติได้ทำการแจกยานี้ แก่เหยื่อข่มขืนที่ถูกกระทำมาไม่เกิน 3 วันเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์

ที่ว่ามานี้ฟังดูก็เชื่อว่าองค์การสหประชาชาติมีเหตุผลดีในการให้ความช่วยเหลือ หญิงที่ได้รับความทุกข์ทรมานมากอย่างนั้น แต่สำนักวาติกันซึ่งเป็นศาสนจักรโรมันคาทอลิก ผู้กำกับปฏิทาของชาวคาทอลิกทั้งโลกไม่เห็นด้วยกับการทำแท้งทุกรูปแบบ และเห็นว่า ยาชุดประจำเดือนนั้นเป็นยาทำแท้งดีๆ นี่เอง โรมันคาทอลิกถือว่าชีวิตมนุษย์นั้น พระเป็นเจ้าได้ประทานมาให้มันเป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีใครมีสิทธิ์ที่จะไปทะลาย โบสถ์โรมันคาทอลิกจึงต่อต้านการแจกยาชุดปรับประจำเดือนของสหประชาชาติ

เนื่องจากวาติกันเป็นรัฐที่มีสถานภาพเป็นสมาชิกสังเกตการณ์ในองค์การสหประชาชาติ ฝ่ายที่เห็นด้วยช่วยเหลือผู้ทำแท้งทั้งโลกจึงเกรงว่าวาติกันจะมีอิทธิพลต่อเรื่องนี้ในสหประชาชาติ จึงได้ดำเนินการกำจัดวาติกันออกจากสหประชาชาติ โดยองค์การเอกชน 130 องค์กรจากทั่วโลก ได้ลงนามในเอกสารขอให้เลขาธิการสหประชาชาติทบทวนสมาชิกภาพของวาติกันในสหประชาชาติ

เรื่องการทำแท้งนี้มีปัญหามานานแล้ว ฝ่ายที่เห็นด้วยกับการทำแท้ง มองเห็นว่ามันเป็นเสรีภาพของการเลือกวิถีชีวิต ซึ่งมนุษย์ทุกคนควรจะมีการที่ศาสนจักร จะเอาความเชื่อของตนมาครอบให้คนอื่นนั้นฝ่ายที่ไม่ใช่คาทอลิกเขายอมไม่ได้ บางคนถึงขนาดออกมาต่อว่าศานจักรนคาทอลิกกว่า "Play no game make no rule" หมายความว่า พระที่ไม่เคยมีชีวิตมีครอบครัว ลำบากลำบนเหมือนชาวบ้านเขา ก็ไม่ควรจะมาออกกฎระเบียบบังคับชีวิตของชาวบ้านเหมือนคนที่ไม่เคยเป็นนักกีฬา ไม่เคยเล่นกีฬามาก่อนก็ไม่ควรจะมาออกกฎกติกาบังคับคนเล่นฉันนั้น แต่ฝ่ายเคร่งศาสนาออกมาต่อต้าน เพราะถือว่าคนทำแท้งเป็นคนบาปอย่างมาก ส่วนฝ่ายต่อต้านทำแท้งเป็นฝ่ายมีศีลบริสุทธิ์ นักต่อต้านบางส่วนทำรุนแรงมาก ถึงขนาดบอมบ์คลินิกทำแท้ง และที่ล่าสุดที่นับว่าน่ากลัวคือ การออกไปไล่ล่าหมอนักทำแท้ง โดยการเอาปืนยิงสัตว์ติดกล้องส่องทางไกลยิงหมอนักทำแท้งที่เมืองบัฟฟาโล (มลรัฐนิวยอร์ก) ตายในห้องนั่งเล่นในบ้านขณะนั่งดูทีวี นอกจากนี้ฝ่ายต่อต้านทำแท้งยังดำเนินการในแนวรุก มีการขู่ฆ่าปรามนักทำแท้งโดยเอาภาพและที่อยู่ไปลงในเว็บไซต์ในอินเตอร์เน็ตเสียด้วย เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัว

เรื่องทำแท้งนี้เป็นเรื่องแปลกที่คนมีศีลบริสุทธิ์รักชีวิตปกป้องทารกในครรภ์ สามารถทำใจฆ่าคนอื่นได้ และไม่เห็นอกเห็นใจความสำคัญของมนุษย์ที่เป็นเหยื่อการข่มขืนหมู่เอาเสียเลย ความเชื่อของคนเรามันนำไปสู่ความรุนแรงได้มากถึงขนาดนั้นมนุษยชาติ จึงไม่มีทางปราศจากสงครามเพราะเหตุนี้แหละครับ

นพ.นริศ เจนวิริยะ



[ที่มา..หนังสือ นิตยสารใกล้หมอปีที่ 23 ฉบับที่ 7 กรกฎาคม 2542]

[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21] resolution 800x600