ขณะนี้สงครายูโกสลาเวียได้ยุติลง สันติภาพได้กลับคืนมาสู่ยูโกสลาเวีย
และโคโซโวอีกครั้งหนึ่ง ทหารสหประชาชาติและนาโต้ก็กำลังเคลื่อนพลเข้าสู่ยูโกสลาเวีย
เพื่อรักษาสันติภาพ ชาวโคโซโวก็มีโอกาสได้กลับคืนสู่บ้านเกิดเมืองนอนอีกคำรบหนึ่ง
จุดเด่นของสงครายูโกสลาเวียมีอยู่สามประการคือ 1 เป็นสงครามที่มีแต่การทิ้งระเบิดอย่างเดียว
โดยฝ่ายนาโต้ 2 เป็นสงครามที่เกิดจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่างโหดเหี้ยม
ที่ทหารยูโกสลาเวียกระทำต่อชาวโคโซโว ซึ่งเป็นมุสลิมเสียเกือบทั้งหมด
3 สงครามนี้หญิงโคโซโวถูกทหารยูโกสลาเวียข่มขืนกันมากมายอย่างเป็นกระบวนการ
เป็นการทำร้ายจิตใจกันอย่างรุนแรง
เมื่อมีการข่มขืนกันอย่างเป็นกระบวนการ ปัญหาเรื่องการท้องจากการข่มขืนจึงตามมา
เนื่องจากเหยื่อการข่มขืน มีโอกาสตั้งครรภ์ได้มากกว่าธรรมดามาก
เมื่อมีโอกาสตั้งครรภ์หญิงที่เป็นเหยื่อส่วนใหญ่จึงเสาะหาทางป้องกันการตั้งครรภ์
ตั้งแต่โบราณกาลมาแล้วมีการโต้เถียงไม่ยุติในเรื่องการทำแท้งว่าดีหรือไม่ดี
ควรหรือไม่ควร ฝ่ายศาสนจักรเห็นว่าไม่ดีจึงต่อต้าน ส่วนฝ่ายหญิงท้องเห็นว่า
เป็นทางเลือกที่ดีอย่างหนึ่ง ส่วนประชาชนทั่วไปที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียก็แบ่งเป็นสองฝักสองฝ่าย
ที่ว่ามานี้หมายถึงเรื่องทำแท้ง ในสถานการณ์ทั่วๆ ไปแต่ในกรณีท้องเนื่องจากโดนข่มขืน
ก็เป็นปัญหาที่ถกเถียงกันได้อีกแง่มุมหนึ่ง มีฝักมีฝ่ายที่แตกต่างกันออกไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าท้องจากการถูกรุมโทรมข่มขืนอย่างในโคโซโว
จะมีใครคัดค้านการทำแท้งหรือไม่ ตามความรู้สึกของผมในตอนแรกก็ว่า
ไม่น่าจะมีใครคัดค้าน แต่จริงๆ แล้วมีฝ่ายคัดค้านจนได้ คือกรุงวาติกันศาสนจักรคาทอลิกไงละครับ
ประเทศยูโกสลาเวียมีหลายมลรัฐ คือ เซอร์เบีย มอนเตเนโกร อัลบาเนีย
มาเซโดเนียและโคโซโซ รัฐโคโซโวมีปัญหาเนื่องจากพลเมืองเป็นมุสลิมเกือบทั้งหมด
และต้องการจะแบ่งแยกดินแดนไปปกครองกันเอง แต่ยูโกสลาเวียไม่ยอม
จึงยกทัพเข้ายึดครอง แต่แทนที่จะยึดครองเฉยๆ กลับเข้าไปทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่างทารุณโหดร้าย
นอกจากนี้ยังมีหลักฐานมากมายที่แสดงว่ามีการรุมข่มขืนกระทำชำเราหญิงมุสลิม
ชาวโคโซโว โดยทหารยูโกสลาเวียกันอย่างเป็นกระบวนการมากมาย
หญิงหลายคนไม่ยินยอมก็ถูกซ้อมสะบักสะบอมบอบช้ำ ทั้งทางร่างกายและจิตใจ
หญิงหลายคนไม่ยี่หระออกมาให้การเปิดเผยพฤติกรรมของทหารยูโกสลาเวียซึ่งส่วนใหญ่เป็นคริสต์
หญิงหลายคนไม่กล้าเปิดเผยเพราะอายหรือเกรงกลัวสามีญาติพี่น้องเพื่อนฝูงจะดูถูกเหยียดหยาม
ความรู้สึกของคนในสังคมมนุษย์ไม่ว่าจะเป็นชาติใดภาษาใดก็เห็นว่า
เรื่องข่มขืนเป็นเรื่องไม่ดี คนถูกข่มขืนรู้สึกว่าเป็นเรื่องอับอาย เป็นตราบาปติดอยู่ในใจไปนาน
(แต่ใครจะทุกข์มีความกระทบกระเทือนใจมากน้อยแต่ไหนอย่างไร
ก็ขึ้นอยู่กับพื้นฐานทางจิตใจของบุคคลนั้น) ฝ่ายผัวของผู้ถูกข่มขืนส่วนมาก
ย่อมรู้สึกเคียดแค้นอยากเข่นฆ่าคนที่ข่มขืนเมียตน และรู้สึกรังเกียจหญิงที่ถูกข่มขืนไม่มากก็น้อย
ความรู้สึกอย่างนี้มีอยู่ทุกแห่งรวมทั้งในสังคมมุสลิมโคโซโวด้วย
หญิงที่ถูกข่มขืนแล้วท้องย่อมมีความทุกข์ใจมากกว่าหญิงไม่ท้อง
หญิงที่ถูกรุมข่มขืนแล้วท้องยิ่งมีความทุกข์มากขึ้น และที่ทุกข์มากที่สุด
ก็เห็นจะเป็นหญิงที่ถูกข่มขืนแล้วท้องจากศัตรูที่บุกเข้ามายึดบ้านเกิดเมืองนอน
ฆ่าสามีพ่อแม่ญาติพี่น้องอย่างที่เกิดขึ้นในโคโซโว หญิงประเภทหลังนี้ไม่มีใครอยากได้ลูกในท้อง
และเนื่องจากหญิงที่ถูกรุมโทรมมีโอกาสตั้งท้องได้มากกว่าธรรมดา
เหยื่อขมขืนในโคโซโวจึงเสาะแสวงหาการทำแท้งกันมาก
องค์การสหประชาชาติเห็นปัญหานี้จึงมีโครงการช่วยเหลือเหยื่อ
โดยจัดหน่วยแพทย์ไปให้ความช่วยเหลือ และมีการผลิตยาชุดปรับประจำเดือนแจก
ยานี้เรียกว่า morning-atter pill ซึ่งเป็นส่วนผสมของฮอร์โมนเพศ
มีฤทธิ์ทำให้ประจำเดือนมารวดเร็ว องค์การสหประชาชาติได้ทำการแจกยานี้
แก่เหยื่อข่มขืนที่ถูกกระทำมาไม่เกิน 3 วันเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์
ที่ว่ามานี้ฟังดูก็เชื่อว่าองค์การสหประชาชาติมีเหตุผลดีในการให้ความช่วยเหลือ
หญิงที่ได้รับความทุกข์ทรมานมากอย่างนั้น แต่สำนักวาติกันซึ่งเป็นศาสนจักรโรมันคาทอลิก
ผู้กำกับปฏิทาของชาวคาทอลิกทั้งโลกไม่เห็นด้วยกับการทำแท้งทุกรูปแบบ และเห็นว่า
ยาชุดประจำเดือนนั้นเป็นยาทำแท้งดีๆ นี่เอง โรมันคาทอลิกถือว่าชีวิตมนุษย์นั้น
พระเป็นเจ้าได้ประทานมาให้มันเป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีใครมีสิทธิ์ที่จะไปทะลาย
โบสถ์โรมันคาทอลิกจึงต่อต้านการแจกยาชุดปรับประจำเดือนของสหประชาชาติ
เนื่องจากวาติกันเป็นรัฐที่มีสถานภาพเป็นสมาชิกสังเกตการณ์ในองค์การสหประชาชาติ
ฝ่ายที่เห็นด้วยช่วยเหลือผู้ทำแท้งทั้งโลกจึงเกรงว่าวาติกันจะมีอิทธิพลต่อเรื่องนี้ในสหประชาชาติ
จึงได้ดำเนินการกำจัดวาติกันออกจากสหประชาชาติ โดยองค์การเอกชน 130 องค์กรจากทั่วโลก
ได้ลงนามในเอกสารขอให้เลขาธิการสหประชาชาติทบทวนสมาชิกภาพของวาติกันในสหประชาชาติ
เรื่องการทำแท้งนี้มีปัญหามานานแล้ว ฝ่ายที่เห็นด้วยกับการทำแท้ง
มองเห็นว่ามันเป็นเสรีภาพของการเลือกวิถีชีวิต ซึ่งมนุษย์ทุกคนควรจะมีการที่ศาสนจักร
จะเอาความเชื่อของตนมาครอบให้คนอื่นนั้นฝ่ายที่ไม่ใช่คาทอลิกเขายอมไม่ได้
บางคนถึงขนาดออกมาต่อว่าศานจักรนคาทอลิกกว่า "Play no game make no rule"
หมายความว่า พระที่ไม่เคยมีชีวิตมีครอบครัว ลำบากลำบนเหมือนชาวบ้านเขา
ก็ไม่ควรจะมาออกกฎระเบียบบังคับชีวิตของชาวบ้านเหมือนคนที่ไม่เคยเป็นนักกีฬา
ไม่เคยเล่นกีฬามาก่อนก็ไม่ควรจะมาออกกฎกติกาบังคับคนเล่นฉันนั้น
แต่ฝ่ายเคร่งศาสนาออกมาต่อต้าน เพราะถือว่าคนทำแท้งเป็นคนบาปอย่างมาก
ส่วนฝ่ายต่อต้านทำแท้งเป็นฝ่ายมีศีลบริสุทธิ์ นักต่อต้านบางส่วนทำรุนแรงมาก
ถึงขนาดบอมบ์คลินิกทำแท้ง และที่ล่าสุดที่นับว่าน่ากลัวคือ การออกไปไล่ล่าหมอนักทำแท้ง
โดยการเอาปืนยิงสัตว์ติดกล้องส่องทางไกลยิงหมอนักทำแท้งที่เมืองบัฟฟาโล (มลรัฐนิวยอร์ก)
ตายในห้องนั่งเล่นในบ้านขณะนั่งดูทีวี นอกจากนี้ฝ่ายต่อต้านทำแท้งยังดำเนินการในแนวรุก
มีการขู่ฆ่าปรามนักทำแท้งโดยเอาภาพและที่อยู่ไปลงในเว็บไซต์ในอินเตอร์เน็ตเสียด้วย
เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัว
เรื่องทำแท้งนี้เป็นเรื่องแปลกที่คนมีศีลบริสุทธิ์รักชีวิตปกป้องทารกในครรภ์
สามารถทำใจฆ่าคนอื่นได้ และไม่เห็นอกเห็นใจความสำคัญของมนุษย์ที่เป็นเหยื่อการข่มขืนหมู่เอาเสียเลย
ความเชื่อของคนเรามันนำไปสู่ความรุนแรงได้มากถึงขนาดนั้นมนุษยชาติ
จึงไม่มีทางปราศจากสงครามเพราะเหตุนี้แหละครับ
นพ.นริศ เจนวิริยะ
|