วันก่อนดูข่าวต่างประเทศทางทีวี มีข่าวของพ่อแม่ลูก ลูกอายุ 2 ขวบ 
ภาพข่าวแสดงให้เห็นถึงความสุขของครอบครัวนี้สามคนพ่อแม่ลูก
ที่กำลังเดินเล่นอยู่ในส่วนสาธารณะ คุณแม่เดินไปเข็นรถที่มีลูกนอนหลับไป
พร้อมๆ กับคุณพ่อที่เดินตามหลังมาติดๆ 
ทั้งคุณพ่อคุณแม่มีหน้าตาอิ่มเอิบเบิกบาน แสดงให้รับรู้ถึงความสุข
ที่มีอยู่ในจิตใจของคนทั้งสอง 
	
 ฟังดูแล้วมันก็ไม่น่าจะมีอะไรตื่นเต้น มันก็น่าจะเหมือนกับอีกหลายๆ 
ครอบครัวที่มีลูกเล็กๆ ก็ย่อมมีความสุขเป็นธรรมดาแต่ครอบครัวนี้ไม่ธรรมดาครับ 
เพราะอะไร 
 ก็เพราะว่า...  
 | 
มันไม่ธรรมดาในเรื่องของอายุของผู้เป็นแม่และผู้เป็นพ่อ  
เอาละฝ่ายพ่อนั้นพอทำเนา เพราะผู้ชายเสียอย่าง 
หากยังเตะปี๊บดังก็ทำให้ผู้หญิงท้องได้ทั้งนั้นแหละ  
ความไม่ธรรมดาจึงตกอยู่ที่ฝ่ายแม่เพียงคนเดียว  
เพราะคุณเธออายุปาเข้าไปตั้ง 65 ปี แล้ว 
ย้ำ!!...หกสิบห้าปี 
 | 
 
 
	
 นั่นก็หมายความว่า คุณเธอเริ่มมีลูกกันเมื่ออายุ 63 และเริ่มตั้งครรภ์เมื่ออายุ 62 ปี 
จึงไม่ใช่ของธรรมดา หากจะเป็นได้ก็น่าจะเป็นคุณย่าคุณยายเสียละมากกกว่าที่จะเป็นแม่ 
แต่รายนี้เธอเป็นแม่จริงๆ ของเด็กอายุ 2 ขวบ แน่นอนหละครับว่า 
กว่าที่เธอจะตั้งท้องและมีลูกออกมาได้นั้นคงต้องอาศัยเทคโนโลยี 
สมัยใหม่ช่วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 
	
 นับตั้งแต่การกระตุ้นรังไข่ที่เลิกทำงานไปนานแล้วนั้น 
ให้มันกลับมาทำงานอีกครั้ง แล้วคงจบลงด้วยการทำเด็กหลอดแก้ว 
โชคดีที่คุณเธอวัย 62 เกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาได้ ซึ่งโอกาสคุณผู้หญิงวัยนี้
จะตั้งครรภ์ได้ถึงแม้จะเป็นการทำเด็กหลอดแก้วก็ตาม มันมิใช่ของง่ายเลยแม้แต่น้อย 
	
 แต่เอาละ คุณเธอก็สามารถมีลูกได้ด้วยตัวเองก็แล้วกัน 
และคุณเธอก็มีความสุข คุณเธอยอมรับว่าการมีลูกออกมานั้นมันทำให้คุณเธอรู้สึกตัวว่า 
เป็นสาวขึ้นมาหลายปีในความรู้สึกเหมือนกับสาวๆ วัยเจริญพันธุ์อะไรทำนองนั้น 
มันเลยทำให้เธอปรับปรุงตัวเธอเองให้เหมือนแม่ทั่วๆ ไป ทั้งการแต่งกายที่ย้อนวัย 
การปฏิบัติตัวที่กระฉับกระเฉงไม่เหมือนผู้หญิงวัย 65 
	
 คุณเธอทำงานบ้านและเลี้ยงลูกด้วยตนเอง ผมดูจากหนังข่าวที่ถ่าย
ทำให้เห็นชีวิตประจำวันของเธอและครอบครัวแล้วต้องยอมรับว่า
คุณเธอมีความสุขและสาวกว่ากันเยอะ 
	
 ถึงกระนั้นก็ตาม ก็ยังมีคนออกมาวิจารณ์ไม่เห็นด้วยกับการมีลูกกันตอนแก่ 
โดยให้เหตุผลหนักไปทางเด็กเสียมากกว่า แน่ละพ่อแม่มีลูกก็ต้องดีใจสนุกตื่นเต้น 
เป็นการสนองตัณหาของตนเอง แล้วเด็กล่ะ ? 
 ถ้ามองไปถึงตัวเด็ก ตอนนี้เด็กอายุ 2 ขวบ แม่อายุ 65 พ่ออายุ 63 ครับ 
พ่ออายุน้อยกว่าแม่สองปี เมื่อเด็กอายุ 7 ขวบ ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นการศึกษา 
คุณแม่ก็จะอายุ 70 เมื่อเด็กจบชั้นอนุบาล เริ่มเข้าเรียนชั้นประถม 
คุณแม่อายุ 73 เด็กจบชั้นประถมเข้าต่อระดับมัธยมศึกษา
คุณแม่ก็จะอายุเกือบ 80 เรียนมัธยมอีก 6 ปี เมื่อจบชั้นมัธยม
จะเข้าเรียนต่อระดับอุดมศึกษา หรือระดับมหาวิทยาลัยคุณแม่ก็อายุ 86 
เรียนมหาวิทยาลัยอีก 4-5 ปี จบปริญญาตรี คุณแม่ก็อายุปาเข้าไป 90 
เมื่อเขามองก็ตรงประเด็นนี้ 
	
 ดูเหมือนว่า สถาบันครอบครัวที่คุณแม่อายุมากๆ แบบที่เป็นข่าว 
จะเป็นสถาบันครอบครัวที่ปกติสุขคงเป็นไปได้ยาก ทางหน่วยงานสังคมสงเคราะห์
คงอยากจะเป็นห่วงเอามากๆ กับเหตุการณ์ทำนองนี้ แม้แต่ทางการแพทย์เอง
ก็เป็นห่วงอยู่เหมือนกัน ถึงกับได้ออกมาสะกิดเตือนๆ กันบ้างเหมือนกัน
ให้พิจารณาดูดีๆ หน่อยกับการรักษาผู้มีบุตรยาก 
 ควรจะนึกถึงอะไรหลายๆ อย่าง สักใช่แต่ว่าตั้งหน้าตั้งตาทำลูกให้โดยไม่ดูตาม้าตาเรือ 
ใครจะเป็นอย่างไรก็ช่าง ยิ่งในสมัยนี้เป็นสมัยของยุคเด็กหลอดแก้ว 
เทคโนโลยีการทำเด็กหลอดแก้วยังคงวิวัฒนาการกันไปเรื่อยๆ 
	
 ความสำเร็จดูเหมือนจะดีขึ้นเรื่อยๆ และดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไร
ที่นักวิทยาศาสตร์บวกกับแพทย์บวกกับนักพันธุศาสตร์จะทำอะไรไม่ได้ 
	
 ทำได้หมดและคิดจะทำลูกเดียว 
	
 ครับ บางครั้งบางคราวทำไปเพื่อหวังผลเพียงด้านเดียว 
ไม่คิดให้รอบคอบหลายๆ ด้าน ผลเสียอาจเกิดขึ้นมาได้ 
	
 อย่างไรก็ตาม ผมก็เชื่อว่าคุณๆ ทั้งหลายที่อยากมีลูกและปล้ำจะให้มีลูก 
แม้จะต้องพยายามเสียเงินเสียทองมากมายแค่ไหนก็ยอมนั้น 
คงคิดสะระตะมาอย่างดีแล้วแน่นอน 
น.พ.พนิตย์ จิวะนันทประวัติ
  |