อาการท้องแข็งหรือเจ็บท้องบ่อยๆ
มักสร้างความกังวลใจให้ว่าคุณแม่ไม่น้อย
จะทำอะไรหน่อยเดี๋ยวมันก็แข็งยุบหนอ
พองหนออยู่ได้ทั้งวันถ้าท้องแข็งแล้วไม่
มีอะไรก็ดีไป แต่ถ้าแข็งไปแข็งมาดัน
กลายเป็นเจ็บท้องคลอดก่อนกำหนด
แบบไม่ทันรู้ตัวล่ะแย่เลย เอ
แล้วท้อง
แข็งแบบไหนแข็งถี่แค่ไหนล่ะถึง
อันตรายต้องไปพบคุณหมอแล้ว
|
|
|
|
น.พ.อานนท์ เรืองอุตมานันท์
|
ท้องแข็ง เพราะลูกในท้อง
ท้องแข็งตามความหมายของหมอ จะหมายถึงมดลูกมีการบีบตัวแข็งตัวขึ้นก่อนเวลาอันควรอันอาจเป็นสาเหตุให้
มีการาเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด แต่ท้องแข็งตามความหมายของคนทั่วๆไปมีสาเหตุได้สารพัดอย่างครับ
ก็เวลามาตรวจมาฝากครรภ์ หมอถามทีไรก็บอกว่าท้องแข็งทุกทีนี่
ท้องแข็งที่คุณแม่รู้สึกนั้น ก็เพราะลูกที่อยู่ในมดลูกกลมๆ ของคุณแม่นั้น ตัวเขาไม่ได้กลมป๊อกเป็นลูกบอลนะครับ
เขามีแขนมีขา มีเข่า มีส้น มีส่วนที่เป็นส่วนนูนแข็งตั้งหลายอย่าง ดังนั้นหากคุณแม่รู้สึกท้องมันแข็งๆ
แต่แข็งแค่บางที่บางตำแหน่งเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ก็นิ่มดี ลองเอามือลูบๆ คลำๆ ตรงที่มันแข็งก็รู้สึกว่า
คลำเจอส่วนอะไรสักอย่างแข็งๆ ของลูก แล้วมันก็เคลื่อนตำแหน่งที่แข็งไปๆ มาๆได้ด้วยถ้าแบบนี้
ก็ปล่อยมันแข็งไปเถอะครับคงไม่มียาอะไรไปช่วยให้ลูกหดแขนหดขา เลิกยันท้องของคุณแม่ได้
ท้องแข็ง เพราะอิ่ม !
คุณแม่บางคนก็อาจจะบอกว่าท้องมักแข็งขึ้นหลังรับประทานอาหาร นั่งรอสักพักก็หายไปเอง
อาการนี้มักเป็นตอนท้องแก่ๆ แล้ว ท้องอ่อนๆ ไม่ค่อยเป็นกัน ที่จริงแล้วมันก็ไม่ได้เกิดจากมดลูกมีการบีบตัว
แต่เกิดจากท้องมันแน่นมากจนตึงไปหมด และที่มักเกิดตอนท้องแก่ก็เพราะพอมดลูกมีขนาดใหญ่มากจนเต็มท้อง
มดลูกก็ไปเบียดกระเพาะอาหาร ลำไส้ เครื่องในทั้งหลายของคุณแม่ขึ้นไปจุกอยู่ใต้ลิ้นปี่หมด คุณแม่ที่ตัวเล็กๆ สั้นๆ
จะยิ่งมีปัญหานี้เยอะ พอทานอาหารเข้าไปมากหน่อยก็ทำให้เกิดแรงดันในช่องท้องสูง แข็งตึงทั่วทั้งท้องไปหมด
แต่โดยมากมักเป็นความรู้สึกแน่นมากกว่า พอมาจับมดลูกดูจริงๆ ก็พบว่า ไม่ค่อยแข็งสักเท่าไหร่
ท้องตึงแข็งแบบนี้รักษาไม่หายขาดนะครับ ต้องคลอดแล้วถึงจะหายเป็นปลิดทิ้งแต่ในช่วงที่ยังไม่คลอด
คำแนะนำที่จะลดอาการได้คือ ต้องทานอาหารแบ่งเป็นมื้อย่อยๆ น้อยๆ หลังทานแล้วก็ต้องนั่งให้เรอออกมาก่อน
แล้วพยายามอย่าให้ท้องผูก ควรถ่ายเป็นประจำทุกวัน ปล่อยของเก่าออกไปบ้างจะได้แน่นน้อยลง
ท้องแข็ง เพราะมดลูกบีบตัว !
ท้องแข็งแบบนี้ มดลูกกลมๆ ของคุณแม่จะต้องแข็งโป๊กขึ้นมาทั้งหมด ไม่ได้แข็งเป็นบางจุดบางที่ บางทีก็แข็งมาก
แข็งน้อยจนบางคนอาจไม่รู้สึกอะไรเลย ขณะที่บางคนอาจรู้สึกเหมือนแน่นจนหายใจไม่ออก ท้องแข็งอย่างนี้แหละครับที่มักมีปัญหา
ท้องแข็งของแท้ (มดลูกบีบตัวก่อนกำหนด) ปกติแล้วไม่ค่อยเกิดขึ้นช่วงตั้งครรภ์อ่อนๆ แต่ถ้าเกิดก็ไม่ค่อยดี
อาจมีอะไรผิดปกติ ทำให้ไม่สามารถอยู่จนครบคลอดได้ ซึ่งต้องหาสาเหตุอย่างละเอียดกันอีกที
ส่วนใหญ่ของคุณแม่ที่มีอาการท้องแข็งมักแข็งบ่อยที่สุดช่วงตั้งครรภ์ได้ 32 สัปดาห์ ยังจำได้หรือเปล่าครับว่า
ลูกในท้องก็ดิ้นมากที่สุดตอน 32 สัปดาห์ด้วย สงสัยว่าการที่ลูกดิ้นมากๆอาจมีส่วนไปกระตุ้นทำให้มดลูกบีบตัว
บ่อยขึ้นด้วยเหมือนกัน
และถ้าผ่านช่วง 32-24 สัปดาห์นี้ไปได้ก็จะมีอาการท้องแข็งน้อยลงบางคนพอถึงเวลาครบคลอด
มดลูกกลับขี้เกียจไม่ยอมมีอาการเจ็บท้องคลอดซะเฉยๆ บางทีเลยกำหนดไปเลยก็มี
แต่มีคุณแม่หลายๆ คนที่ท้องแข็งบ่อยแล้วไม่ดีขึ้นกลับยิ่งแข็งถี่ขึ้นซึ่งถึงตอนนี้คงเป็นเรื่องจำเป็น
จะต้องไปหาคุณหมอแล้วล่ะครับ
เพราะหากท้องแข็งแล้วไม่ได้รับการดูแลรักษามดลูกจะบีบตัวจนปากมดลูกเปิดตามมาด้วยการเจ็บท้อง
คลอดก่อนกำหนด ทีนี้ละกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ
หมอว่าให้ลูกอยู่ในท้องจะเหนื่อยจะลำบากยังไงก็ให้อยู่ในท้องดีกว่าเพราะหากคลอดก่อนกำหนด
มันจะยิ่งเหนื่อยกว่าหลายเท่าที่สำคัญคือจะจนลงเยอะด้วย เพราะการดูแลเด็กคลอดก่อนกำหนด
จะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากอย่าบอกใคร แค่ยาช่วยขยายปอดน้ำใสๆ 2 ซีซี. ก็ตั้งห้าหมื่นบาทแน่ะ
แล้วกว่าจะโตพอเอากลับบ้านไปเลี้ยงได้ไม่รู้ต้องหมดไปอีกเท่าไหร่
โดยปกติแล้วคุณแม่ทุกคนอาจมีอาการท้องแข็งที่เกิดจากมดลูกบีบตัวได้เป็นการแข็งตัว
ที่เกิดขึ้นได้เองเป็นปกติภาษาฝรั่งเขาเรียกว่า Braxton Hicks Contraction สำหรับภาษาไทยยังไม่มีชื่อ
เรียกเฉพาะเอาเป็นว่ามดลูกคนเรากลมๆอันนี้ไม่ใช่มันจะนิ่มตลอดทั้งวันหรอกนะ
ท้องแข็งแบบนี้ไม่ดีแน่
มดลูกเป็นก้อนกล้ามเนื้อที่ใหญ่และแข็งแรงมาก บางทีมันก็อาจจะอยากยืดเส้นยืดสาย บีบตัวเล่นๆ บ้าง
แต่ก็จะบีบตัวเบาๆ ค่อยๆ บีบช้าๆ แข็งตัวอยู่นานพอสมควร แล้วก็คลายตัวลงช้าๆ เป็นอย่างนี้วันละหลายครั้ง
แต่โดยมากไม่ควรเกินวันละ 6-10 ครั้งถ้าคุณแม่มีอาการท้องแข็งหน้าตาอย่างที่ว่ามานี้ก็สบายใจได้
ไม่มีอะไรต้องตื่นเต้นแค่ท้องแข็งแบบอีตาฮิกซ์นี่เอง แหมชื่อฝรั่งซะด้วย
แต่หากท้องแข็งบ่อยมากกว่าปกติ หรือเดี๋ยวแข็งเดี๋ยวหายติดๆ กันเป็นชุด บางทีแข็งจนเจ็บด้วยซ้ำไป
ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่ควรนิ่งดูดาย ไปหาคุณหมอดีกว่าครับเพราะคุณหมอจะพยายามหาสาเหตุว่าทำไมท้องถึงแข็ง
ทำไมคุณลูกถึงอยากออกมาข้างนอกเร็วนักนะ ลูกในท้องแข็งแรงดีหรือเปล่า รวมไปถึงช่วยพิจารณาด้วยว่า
ระหว่างยอมให้คลอดออกมากับเลี้ยงไว้ในท้องอย่างไหนปลอดภัยกว่ากัน
จริงๆ แล้วสาเหตุของท้องแข็งมีตั้งเยอะแยะ เขียนสิบหน้าก็ไม่หมด เอาเป็นว่าอาจเกิดจากแม่ไม่แข็งแรง
สุขภาพไม่ดีอาจเป็นเบาหวาน ความดันสูง หรืออาจเกิดจากมดลูกไม่แข็งแรง มดลูกไม่ปกติ หรือเกิดจากเด็กตัวใหญ่
น้ำคร่ำมาก แต่สาเหตุที่พบมากที่สุดก็คือ "ไม่ทราบสาเหตุ"
ทำยังไงหาย "ท้องแข็ง"
ในรายที่ท้องแข็งมาก แข็งถี่ คุณหมอก็คงจับนอนโรงพยาบาล ให้เจาะเลือด ฉีดยาแล้วให้นอนเยอะๆ
ยาที่ใช้รักษาอาการท้องแข็งเป็นยากลุ่มเดียวกับยารักษาหอบหืด คุณแม่คงสงสัยใช่มั้ยล่ะว่า ไม่ได้เป็นหืดสักหน่อย
เอายาหืดมาให้กินทำไม นั่นแหละครับถูกแล้ว ยาเดียวกันนี้รักษาได้ทั้งสองโรคเลยยานี้พอกินเข้าไปแล้ว
จะมีอาการข้างเคียงคือ ใจมันจะสั่น หัวใจเต้นเร็วเหมือนเจ้าเข้า ดูเหมือนเหนื่อยๆ แต่ก็ต้องทนหน่อยนะครับ
เพราะท้องจะหายแข็งต่อเมื่อใจสั่นหากใจไม่สั่น ท้องก็ไม่หายแข็ง ถ้าลดยาลงไม่ให้ใจสั่น ท้องก็จะกลับมาแข็งเหมือนเดิม
ก็ต้องยอมทนใจสั่นไปก่อนพออาการท้องแข็งดีขึ้นหมอจึงจะลดยาลงได้เรื่อยๆ
ส่วนคุณแม่ที่ท้องแข็งบ่อยแต่ไม่มากถึงกับต้องนอนโรงพยาบาล คุณหมอก็จะให้ยากลับไปกินที่บ้าน
ที่เขาเรียกกันว่า "ยาคลายมดลูก" คือ อันเดียวกันนี่แหละครับ แต่เท่านี้ไม่พอครับ ต้องอาศัยการปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง
ควบคู่กันไปด้วยถึงจะสามารถอยู่รอดปลอดภัยได้
อันดับแรกเลยก็ต้องพักให้มากๆ หากทำงานที่ต้องเดินมาก ใช้แรงงานเยอะ ก็ให้หยุดอยู่บ้านดีกว่า อยู่บ้านแล้วก็ห้ามขยัน
ให้ทำตัวขี้เกียจที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าขี้เกียจอยู่แล้วก็สบายหน่อย ท่าทางจะหายเร็ว และพยายามหลีกเลี่ยงการเดินมากๆ
การขึ้นลงบันได การยกของหนัก เพราะยิ่งมีกิจกรรมมากท้องก็จะยิ่งแข็งมา งานบ้าน งานหลวง งานราษฎร์ยกให้สามีทำหมด
อย่าลืมขอใบรับรองแพทย์จากคุณหมอมายืนยันให้สามีดูด้วยนะครับ

1. ขี้เกียจได้ แต่อย่าบิดขี้เกียจ หมอสั่งให้นอนพักเยอะๆ ท้องจะได้ไม่แข็ง ตัวขี้เกียจเลยเกาะอยู่เต็มตัว
พอบิดขี้เกียจปุ๊บท้องแข็งขึ้นมาทันที มันเหมือนกับตอนที่เราบิดผ้าเปียกๆ นั่นแหละน้ำก็จะทะลักออกมา
ตอนเราบิดขี้เกียจเหมือนกัน ช่องท้องของเราปริมาตรจะเล็กลง ความดันในมดลูกก็สูงขึ้น ท้องก็เลยแข็ง
2. ลุกขึ้นลุกลง อย่าให้มดลูกสะดุ้ง!!! อันนี้เนื่องจากท้องมักจะแข็งตัวบ่อยตอนเราล้มตัวนอนลงบนเตียง
หรือตอนนอนแล้วขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงท้องก็มักจะแข็งทุกที คราวนี้ก็ต้องระวังมากขึ้น จะล้มตัวลงนอนก็ต้องตะแคงลงช้าๆ
จะลุกขึ้นก็ต้องพลิกตัวแล้วตะแคงขึ้นช้า ท่านี้เค้าเรียกว่าท่าบรรทมแบบนางเอกลิเก
แต่รับรองได้ครับ ท้องไม่แข็งแน่
3. อย่ากลั้นปัสสาวะ!!! อย่างที่รู้กันอยู่ว่าตรงตำแหน่งที่มดลูกอยู่เดิมเคยเป็นพื้นที่
ของกระเพาะปัสสาวะมาก่อนพอท้องโตขึ้นมากระเพาะปัสสาวะกับมดลูกก็เลยต้องเบียบด
แย่งที่กันอยู่ตรงนั้น ยิ่งท้องโตขึ้นเรื่อยๆ กระเพาะปัสสาวะยิ่งจะถูกเบียดเล็กลงเรื่อยๆ
คุณแม่เลยต้องปัสสาวะบ่อยขึ้น คราวนี้หากกลั้นปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะก็จะโป่งมากขึ้น
แล้วก็จะไปกดเบียดมดลูกจนมดลูกมีความดันสูงขึ้น ดังนั้นคุณแม่ก็มักจะท้องแข็งบ่อย
ตอนกำลังจะปวดปัสสาวะ พอปัสสาวะออกไปแล้วอาการท้องแข็งก็บรรเทาลง
4. อย่าจับท้องบ่อย!!! ยิ่งจับบ่อย ก็ยิ่งแข็งบ่อยนะจะบอกให้มดลูกเป็นอวัยวะที่ประกอบไปด้วย
กล้ามเนื้อมากมายและไวต่อการกระตุ้นมาก เอามือจับไปจับมามดลูกก็แข็งตัวขึ้นมาได้
คุณแม่ที่รู้สึกว่าท้องแข็งบ่อยมักจะชอบเอามือไปลูบๆ คลำๆ อยู่ตลอด ด้วยเป็นกังวลว่า
มดลูกมันจะแข็ง มดลูกมันก็เลยแข็งสมใจเพราะไปจับไปคลำมันมาก ท่องเอาไว้เลยนะครับ
ดูแต่ตา มืออย่าต้อง ท้องจะแข็ง
5. อย่าจู๋จี๋มีเพศสัมพันธ์ ช่วงที่ท้องแข็งบ่อย คุณหมอจำเป็นต้องสั่งงดการมีเพศสัมพันธ์
เพราะการมีเพศสัมพันธ์จะไปกระตุ้นแถวบริเวณปากมดลูก ซึ่งจะทำให้มีการบีบตัวของมดลูกตามมา
เพราะถ้าจะเปรียบไปแล้วการกระแทกระเทือนระหว่างมีเพศสัมพันธ์มันก็เหมือนพาคนท้องนั่งสามล้อวิ่งบนลูกระนาด
สุดท้ายก็ยิ่งทำให้ท้องแข็งไปกันใหญ่ แหม
บางคนยังมาต่อรองอีกนะว่า ค่อยๆ ทำเบาๆ ได้หรือเปล่า
อย่าดีกว่าเพราะเดี๋ยวเวลาคุณเธอถึงจุดสุดยอดขึ้นมา มดลูกก็จะมีการบีบตัวเป็นจังหวะตามมาอีก
เดี๋ยวยุ่งกันเสร็จก็ต้องพาไปคลอดต่อได้เลย นอกจากนั้นในทางการแพทย์ก็ยังพบว่าในน้ำอสุจิจะมีสารเคมีที่ชื่อว่า
โปรสต้าแกลนดิน ซึ่งสารตัวนี้แหละเป็นตัวการสำคัญของธรรมชาติที่ทำให้ปากมดลูกขยายตัวในระหว่างการคลอด
ดังนั้นหากแอบมีอะไรกันฝ่าฝืนคำสั่ง หมอก็ควรหลีกเลี่ยงการปล่อยน้ำเชื้อเขาไปข้างในนะครับ
6. ห้ามยุ่งกับ "หน้าอก" นะ เวลามีอะไรกัน ก็น้อยนักที่จะไม่ไปยุ่งอะไรกับเต้านมเลย
ยิ่งในขณะที่ตั้งครรภ์เต้านมจะยิ่งขยายเป็นที่น่าดึงดูดต่อสามียิ่ง หมอเลยต้องเอ่ยปากห้ามยุ่งตรงนี้ไว้ก่อน
หากมีอาการท้องแข็งก่อนกำหนด เพราะการจับ การกระตุ้นที่บริเวณหัวนมจะไปกระตุ้นให้มีการสร้างฮอร์โมน
ที่ทำให้มีการบีบตัวของมดลูกได้
คุณแม่ที่เคยมีลูกมาก่อน อาจจะนึกออกว่าตอนลูกดูดนมมดลูกจะมีการบีบตัวพร้อมๆ กันด้วย
ระหว่างอาบน้ำก็ไม่ควรไปฟอกจับบริเวณหัวนมด้วยเหมือนกัน หากหัวนมแข็งชันขึ้นมาเมื่อไหร่
มดลูกก็อาจจะแข็งตัวตามมาได้เมื่อนั้น สรุปแล้วหากท้องแข็งบ่อยก่อนเวลา หมอก็คงต้องสั่งห้ามการมีเพศสัมพันธ์ไว้ก่อน
หลังคลอดแล้วค่อยว่ากันใหม่ครับ
|
เห็นไหมครับ เรื่องท้องแข็งในระหว่างตั้งครรภ์มีเรื่องราวที่ตอ้งพูดต้องอธิบายกันเยอะ
แต่ยังไม่หมดแค่นี้ครับ
คราวหน้าจะมาเล่าต่อเรื่องท้องแข็งในช่วงท้ายๆ ของการตั้งครรภ์ ทั้งแข็งหลอก เจ็บเตือน เจ็บจริง
จนคลอดไปแล้วมดลูกมันก็ยังแข็งของมันต่อไปอีก ไว้เจอกันคราวหน้านะครับ
|