มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
http://www.oocities.org/Tokyo/Harbor/2093/
จำสั้นๆ i.am/thaidoc



อาการท้องแข็งหรือเจ็บท้องบ่อยๆ มักสร้างความกังวลใจให้ว่าคุณแม่ไม่น้อย จะทำอะไรหน่อยเดี๋ยวมันก็แข็งยุบหนอ พองหนออยู่ได้ทั้งวันถ้าท้องแข็งแล้วไม่ มีอะไรก็ดีไป แต่ถ้าแข็งไปแข็งมาดัน กลายเป็นเจ็บท้องคลอดก่อนกำหนด แบบไม่ทันรู้ตัวล่ะแย่เลย เอ…แล้วท้อง แข็งแบบไหนแข็งถี่แค่ไหนล่ะถึง อันตรายต้องไปพบคุณหมอแล้ว
ท้องแข็ง…โป๊ก
น.พ.อานนท์ เรืองอุตมานันท์

ท้องแข็ง เพราะลูกในท้อง

ท้องแข็งตามความหมายของหมอ จะหมายถึงมดลูกมีการบีบตัวแข็งตัวขึ้นก่อนเวลาอันควรอันอาจเป็นสาเหตุให้ มีการาเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด แต่ท้องแข็งตามความหมายของคนทั่วๆไปมีสาเหตุได้สารพัดอย่างครับ ก็เวลามาตรวจมาฝากครรภ์ หมอถามทีไรก็บอกว่าท้องแข็งทุกทีนี่
ท้องแข็งที่คุณแม่รู้สึกนั้น ก็เพราะลูกที่อยู่ในมดลูกกลมๆ ของคุณแม่นั้น ตัวเขาไม่ได้กลมป๊อกเป็นลูกบอลนะครับ เขามีแขนมีขา มีเข่า มีส้น มีส่วนที่เป็นส่วนนูนแข็งตั้งหลายอย่าง ดังนั้นหากคุณแม่รู้สึกท้องมันแข็งๆ แต่แข็งแค่บางที่บางตำแหน่งเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ก็นิ่มดี ลองเอามือลูบๆ คลำๆ ตรงที่มันแข็งก็รู้สึกว่า คลำเจอส่วนอะไรสักอย่างแข็งๆ ของลูก แล้วมันก็เคลื่อนตำแหน่งที่แข็งไปๆ มาๆได้ด้วยถ้าแบบนี้ ก็ปล่อยมันแข็งไปเถอะครับคงไม่มียาอะไรไปช่วยให้ลูกหดแขนหดขา เลิกยันท้องของคุณแม่ได้

ท้องแข็ง เพราะอิ่ม !

คุณแม่บางคนก็อาจจะบอกว่าท้องมักแข็งขึ้นหลังรับประทานอาหาร นั่งรอสักพักก็หายไปเอง อาการนี้มักเป็นตอนท้องแก่ๆ แล้ว ท้องอ่อนๆ ไม่ค่อยเป็นกัน ที่จริงแล้วมันก็ไม่ได้เกิดจากมดลูกมีการบีบตัว แต่เกิดจากท้องมันแน่นมากจนตึงไปหมด และที่มักเกิดตอนท้องแก่ก็เพราะพอมดลูกมีขนาดใหญ่มากจนเต็มท้อง มดลูกก็ไปเบียดกระเพาะอาหาร ลำไส้ เครื่องในทั้งหลายของคุณแม่ขึ้นไปจุกอยู่ใต้ลิ้นปี่หมด คุณแม่ที่ตัวเล็กๆ สั้นๆ จะยิ่งมีปัญหานี้เยอะ พอทานอาหารเข้าไปมากหน่อยก็ทำให้เกิดแรงดันในช่องท้องสูง แข็งตึงทั่วทั้งท้องไปหมด แต่โดยมากมักเป็นความรู้สึกแน่นมากกว่า พอมาจับมดลูกดูจริงๆ ก็พบว่า ไม่ค่อยแข็งสักเท่าไหร่
ท้องตึงแข็งแบบนี้รักษาไม่หายขาดนะครับ ต้องคลอดแล้วถึงจะหายเป็นปลิดทิ้งแต่ในช่วงที่ยังไม่คลอด คำแนะนำที่จะลดอาการได้คือ ต้องทานอาหารแบ่งเป็นมื้อย่อยๆ น้อยๆ หลังทานแล้วก็ต้องนั่งให้เรอออกมาก่อน แล้วพยายามอย่าให้ท้องผูก ควรถ่ายเป็นประจำทุกวัน ปล่อยของเก่าออกไปบ้างจะได้แน่นน้อยลง

ท้องแข็ง เพราะมดลูกบีบตัว !

ท้องแข็งแบบนี้ มดลูกกลมๆ ของคุณแม่จะต้องแข็งโป๊กขึ้นมาทั้งหมด ไม่ได้แข็งเป็นบางจุดบางที่ บางทีก็แข็งมาก แข็งน้อยจนบางคนอาจไม่รู้สึกอะไรเลย ขณะที่บางคนอาจรู้สึกเหมือนแน่นจนหายใจไม่ออก ท้องแข็งอย่างนี้แหละครับที่มักมีปัญหา
ท้องแข็งของแท้ (มดลูกบีบตัวก่อนกำหนด) ปกติแล้วไม่ค่อยเกิดขึ้นช่วงตั้งครรภ์อ่อนๆ แต่ถ้าเกิดก็ไม่ค่อยดี อาจมีอะไรผิดปกติ ทำให้ไม่สามารถอยู่จนครบคลอดได้ ซึ่งต้องหาสาเหตุอย่างละเอียดกันอีกที
ส่วนใหญ่ของคุณแม่ที่มีอาการท้องแข็งมักแข็งบ่อยที่สุดช่วงตั้งครรภ์ได้ 32 สัปดาห์ ยังจำได้หรือเปล่าครับว่า ลูกในท้องก็ดิ้นมากที่สุดตอน 32 สัปดาห์ด้วย สงสัยว่าการที่ลูกดิ้นมากๆอาจมีส่วนไปกระตุ้นทำให้มดลูกบีบตัว บ่อยขึ้นด้วยเหมือนกัน
และถ้าผ่านช่วง 32-24 สัปดาห์นี้ไปได้ก็จะมีอาการท้องแข็งน้อยลงบางคนพอถึงเวลาครบคลอด มดลูกกลับขี้เกียจไม่ยอมมีอาการเจ็บท้องคลอดซะเฉยๆ บางทีเลยกำหนดไปเลยก็มี แต่มีคุณแม่หลายๆ คนที่ท้องแข็งบ่อยแล้วไม่ดีขึ้นกลับยิ่งแข็งถี่ขึ้นซึ่งถึงตอนนี้คงเป็นเรื่องจำเป็น จะต้องไปหาคุณหมอแล้วล่ะครับ เพราะหากท้องแข็งแล้วไม่ได้รับการดูแลรักษามดลูกจะบีบตัวจนปากมดลูกเปิดตามมาด้วยการเจ็บท้อง คลอดก่อนกำหนด ทีนี้ละกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ
หมอว่าให้ลูกอยู่ในท้องจะเหนื่อยจะลำบากยังไงก็ให้อยู่ในท้องดีกว่าเพราะหากคลอดก่อนกำหนด มันจะยิ่งเหนื่อยกว่าหลายเท่าที่สำคัญคือจะจนลงเยอะด้วย เพราะการดูแลเด็กคลอดก่อนกำหนด จะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากอย่าบอกใคร แค่ยาช่วยขยายปอดน้ำใสๆ 2 ซีซี. ก็ตั้งห้าหมื่นบาทแน่ะ แล้วกว่าจะโตพอเอากลับบ้านไปเลี้ยงได้ไม่รู้ต้องหมดไปอีกเท่าไหร่
โดยปกติแล้วคุณแม่ทุกคนอาจมีอาการท้องแข็งที่เกิดจากมดลูกบีบตัวได้เป็นการแข็งตัว ที่เกิดขึ้นได้เองเป็นปกติภาษาฝรั่งเขาเรียกว่า Braxton Hicks Contraction สำหรับภาษาไทยยังไม่มีชื่อ เรียกเฉพาะเอาเป็นว่ามดลูกคนเรากลมๆอันนี้ไม่ใช่มันจะนิ่มตลอดทั้งวันหรอกนะ

ท้องแข็งแบบนี้ไม่ดีแน่

มดลูกเป็นก้อนกล้ามเนื้อที่ใหญ่และแข็งแรงมาก บางทีมันก็อาจจะอยากยืดเส้นยืดสาย บีบตัวเล่นๆ บ้าง แต่ก็จะบีบตัวเบาๆ ค่อยๆ บีบช้าๆ แข็งตัวอยู่นานพอสมควร แล้วก็คลายตัวลงช้าๆ เป็นอย่างนี้วันละหลายครั้ง แต่โดยมากไม่ควรเกินวันละ 6-10 ครั้งถ้าคุณแม่มีอาการท้องแข็งหน้าตาอย่างที่ว่ามานี้ก็สบายใจได้ ไม่มีอะไรต้องตื่นเต้นแค่ท้องแข็งแบบอีตาฮิกซ์นี่เอง แหมชื่อฝรั่งซะด้วย
แต่หากท้องแข็งบ่อยมากกว่าปกติ หรือเดี๋ยวแข็งเดี๋ยวหายติดๆ กันเป็นชุด บางทีแข็งจนเจ็บด้วยซ้ำไป ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่ควรนิ่งดูดาย ไปหาคุณหมอดีกว่าครับเพราะคุณหมอจะพยายามหาสาเหตุว่าทำไมท้องถึงแข็ง ทำไมคุณลูกถึงอยากออกมาข้างนอกเร็วนักนะ ลูกในท้องแข็งแรงดีหรือเปล่า รวมไปถึงช่วยพิจารณาด้วยว่า ระหว่างยอมให้คลอดออกมากับเลี้ยงไว้ในท้องอย่างไหนปลอดภัยกว่ากัน

จริงๆ แล้วสาเหตุของท้องแข็งมีตั้งเยอะแยะ เขียนสิบหน้าก็ไม่หมด เอาเป็นว่าอาจเกิดจากแม่ไม่แข็งแรง สุขภาพไม่ดีอาจเป็นเบาหวาน ความดันสูง หรืออาจเกิดจากมดลูกไม่แข็งแรง มดลูกไม่ปกติ หรือเกิดจากเด็กตัวใหญ่ น้ำคร่ำมาก แต่สาเหตุที่พบมากที่สุดก็คือ "ไม่ทราบสาเหตุ"

ทำยังไงหาย "ท้องแข็ง"

ในรายที่ท้องแข็งมาก แข็งถี่ คุณหมอก็คงจับนอนโรงพยาบาล ให้เจาะเลือด ฉีดยาแล้วให้นอนเยอะๆ ยาที่ใช้รักษาอาการท้องแข็งเป็นยากลุ่มเดียวกับยารักษาหอบหืด คุณแม่คงสงสัยใช่มั้ยล่ะว่า ไม่ได้เป็นหืดสักหน่อย เอายาหืดมาให้กินทำไม นั่นแหละครับถูกแล้ว ยาเดียวกันนี้รักษาได้ทั้งสองโรคเลยยานี้พอกินเข้าไปแล้ว จะมีอาการข้างเคียงคือ ใจมันจะสั่น หัวใจเต้นเร็วเหมือนเจ้าเข้า ดูเหมือนเหนื่อยๆ แต่ก็ต้องทนหน่อยนะครับ เพราะท้องจะหายแข็งต่อเมื่อใจสั่นหากใจไม่สั่น ท้องก็ไม่หายแข็ง ถ้าลดยาลงไม่ให้ใจสั่น ท้องก็จะกลับมาแข็งเหมือนเดิม ก็ต้องยอมทนใจสั่นไปก่อนพออาการท้องแข็งดีขึ้นหมอจึงจะลดยาลงได้เรื่อยๆ
ส่วนคุณแม่ที่ท้องแข็งบ่อยแต่ไม่มากถึงกับต้องนอนโรงพยาบาล คุณหมอก็จะให้ยากลับไปกินที่บ้าน ที่เขาเรียกกันว่า "ยาคลายมดลูก" คือ อันเดียวกันนี่แหละครับ แต่เท่านี้ไม่พอครับ ต้องอาศัยการปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง ควบคู่กันไปด้วยถึงจะสามารถอยู่รอดปลอดภัยได้
อันดับแรกเลยก็ต้องพักให้มากๆ หากทำงานที่ต้องเดินมาก ใช้แรงงานเยอะ ก็ให้หยุดอยู่บ้านดีกว่า อยู่บ้านแล้วก็ห้ามขยัน ให้ทำตัวขี้เกียจที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าขี้เกียจอยู่แล้วก็สบายหน่อย ท่าทางจะหายเร็ว และพยายามหลีกเลี่ยงการเดินมากๆ การขึ้นลงบันได การยกของหนัก เพราะยิ่งมีกิจกรรมมากท้องก็จะยิ่งแข็งมา งานบ้าน งานหลวง งานราษฎร์ยกให้สามีทำหมด อย่าลืมขอใบรับรองแพทย์จากคุณหมอมายืนยันให้สามีดูด้วยนะครับ



6 ย.ช่วยลดอาการ

1. ขี้เกียจได้ แต่อย่าบิดขี้เกียจ หมอสั่งให้นอนพักเยอะๆ ท้องจะได้ไม่แข็ง ตัวขี้เกียจเลยเกาะอยู่เต็มตัว พอบิดขี้เกียจปุ๊บท้องแข็งขึ้นมาทันที มันเหมือนกับตอนที่เราบิดผ้าเปียกๆ นั่นแหละน้ำก็จะทะลักออกมา ตอนเราบิดขี้เกียจเหมือนกัน ช่องท้องของเราปริมาตรจะเล็กลง ความดันในมดลูกก็สูงขึ้น ท้องก็เลยแข็ง

2. ลุกขึ้นลุกลง อย่าให้มดลูกสะดุ้ง!!! อันนี้เนื่องจากท้องมักจะแข็งตัวบ่อยตอนเราล้มตัวนอนลงบนเตียง หรือตอนนอนแล้วขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงท้องก็มักจะแข็งทุกที คราวนี้ก็ต้องระวังมากขึ้น จะล้มตัวลงนอนก็ต้องตะแคงลงช้าๆ จะลุกขึ้นก็ต้องพลิกตัวแล้วตะแคงขึ้นช้า ท่านี้เค้าเรียกว่าท่าบรรทมแบบนางเอกลิเก…แต่รับรองได้ครับ ท้องไม่แข็งแน่

3. อย่ากลั้นปัสสาวะ!!! อย่างที่รู้กันอยู่ว่าตรงตำแหน่งที่มดลูกอยู่เดิมเคยเป็นพื้นที่ ของกระเพาะปัสสาวะมาก่อนพอท้องโตขึ้นมากระเพาะปัสสาวะกับมดลูกก็เลยต้องเบียบด แย่งที่กันอยู่ตรงนั้น ยิ่งท้องโตขึ้นเรื่อยๆ กระเพาะปัสสาวะยิ่งจะถูกเบียดเล็กลงเรื่อยๆ คุณแม่เลยต้องปัสสาวะบ่อยขึ้น คราวนี้หากกลั้นปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะก็จะโป่งมากขึ้น แล้วก็จะไปกดเบียดมดลูกจนมดลูกมีความดันสูงขึ้น ดังนั้นคุณแม่ก็มักจะท้องแข็งบ่อย ตอนกำลังจะปวดปัสสาวะ พอปัสสาวะออกไปแล้วอาการท้องแข็งก็บรรเทาลง

4. อย่าจับท้องบ่อย!!! ยิ่งจับบ่อย ก็ยิ่งแข็งบ่อยนะจะบอกให้มดลูกเป็นอวัยวะที่ประกอบไปด้วย กล้ามเนื้อมากมายและไวต่อการกระตุ้นมาก เอามือจับไปจับมามดลูกก็แข็งตัวขึ้นมาได้ คุณแม่ที่รู้สึกว่าท้องแข็งบ่อยมักจะชอบเอามือไปลูบๆ คลำๆ อยู่ตลอด ด้วยเป็นกังวลว่า มดลูกมันจะแข็ง มดลูกมันก็เลยแข็งสมใจเพราะไปจับไปคลำมันมาก ท่องเอาไว้เลยนะครับ… ดูแต่ตา มืออย่าต้อง ท้องจะแข็ง

5. อย่าจู๋จี๋มีเพศสัมพันธ์ ช่วงที่ท้องแข็งบ่อย คุณหมอจำเป็นต้องสั่งงดการมีเพศสัมพันธ์ เพราะการมีเพศสัมพันธ์จะไปกระตุ้นแถวบริเวณปากมดลูก ซึ่งจะทำให้มีการบีบตัวของมดลูกตามมา เพราะถ้าจะเปรียบไปแล้วการกระแทกระเทือนระหว่างมีเพศสัมพันธ์มันก็เหมือนพาคนท้องนั่งสามล้อวิ่งบนลูกระนาด สุดท้ายก็ยิ่งทำให้ท้องแข็งไปกันใหญ่ แหม…บางคนยังมาต่อรองอีกนะว่า ค่อยๆ ทำเบาๆ ได้หรือเปล่า อย่าดีกว่าเพราะเดี๋ยวเวลาคุณเธอถึงจุดสุดยอดขึ้นมา มดลูกก็จะมีการบีบตัวเป็นจังหวะตามมาอีก เดี๋ยวยุ่งกันเสร็จก็ต้องพาไปคลอดต่อได้เลย นอกจากนั้นในทางการแพทย์ก็ยังพบว่าในน้ำอสุจิจะมีสารเคมีที่ชื่อว่า โปรสต้าแกลนดิน ซึ่งสารตัวนี้แหละเป็นตัวการสำคัญของธรรมชาติที่ทำให้ปากมดลูกขยายตัวในระหว่างการคลอด ดังนั้นหากแอบมีอะไรกันฝ่าฝืนคำสั่ง หมอก็ควรหลีกเลี่ยงการปล่อยน้ำเชื้อเขาไปข้างในนะครับ

6. ห้ามยุ่งกับ "หน้าอก" นะ เวลามีอะไรกัน ก็น้อยนักที่จะไม่ไปยุ่งอะไรกับเต้านมเลย ยิ่งในขณะที่ตั้งครรภ์เต้านมจะยิ่งขยายเป็นที่น่าดึงดูดต่อสามียิ่ง หมอเลยต้องเอ่ยปากห้ามยุ่งตรงนี้ไว้ก่อน หากมีอาการท้องแข็งก่อนกำหนด เพราะการจับ การกระตุ้นที่บริเวณหัวนมจะไปกระตุ้นให้มีการสร้างฮอร์โมน ที่ทำให้มีการบีบตัวของมดลูกได้
คุณแม่ที่เคยมีลูกมาก่อน อาจจะนึกออกว่าตอนลูกดูดนมมดลูกจะมีการบีบตัวพร้อมๆ กันด้วย ระหว่างอาบน้ำก็ไม่ควรไปฟอกจับบริเวณหัวนมด้วยเหมือนกัน หากหัวนมแข็งชันขึ้นมาเมื่อไหร่ มดลูกก็อาจจะแข็งตัวตามมาได้เมื่อนั้น สรุปแล้วหากท้องแข็งบ่อยก่อนเวลา หมอก็คงต้องสั่งห้ามการมีเพศสัมพันธ์ไว้ก่อน หลังคลอดแล้วค่อยว่ากันใหม่ครับ

เห็นไหมครับ เรื่องท้องแข็งในระหว่างตั้งครรภ์มีเรื่องราวที่ตอ้งพูดต้องอธิบายกันเยอะ…แต่ยังไม่หมดแค่นี้ครับ คราวหน้าจะมาเล่าต่อเรื่องท้องแข็งในช่วงท้ายๆ ของการตั้งครรภ์ ทั้งแข็งหลอก เจ็บเตือน เจ็บจริง… จนคลอดไปแล้วมดลูกมันก็ยังแข็งของมันต่อไปอีก ไว้เจอกันคราวหน้านะครับ


[ที่มา.. นิตยสารดวงใจพ่อแม่   ปีที่ 5 ฉบับที่ 55 พฤษภาคม 2543 ]

[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21] resolution 800x600