|
กลุ้ม บรรดาคุณแม่หลังคลอดคงอยากตะโกนดังๆแบบนี้วันละหลายยก
เพราะหลังคลอดแล้วร่าง
|
กายหลายๆ ส่วนยังไม่เข้าที่เข้าทาง คุณแม่บางคนอาจฟื้นตัวได้เร็วแต่มีคุณแม่อีกจำนวนมาก
ที่ยังนั่งรำพึงรำพันอย่างนี้หลายๆ เวลาในหนึ่งวัน
นั่นอาจเป็นเพราะก่อนหน้านั้น มัวแต่คิดเตรียมของใช้ให้ลูก โดยลืมดูแลตัวเองไปและพานคิดไปว่า
ถ้าลูกคลอดออกมาแล้วร่างกายก็คงกลับสู่สภาพปกติได้เร็วขึ้นเอง แต่พอคลอดลูกแล้วหลายๆ
อย่างที่คิดไว้ไม่เป็นไปตามคาดเพราะปัญหาที่ประเดประดังเข้ามานอกจากเรื่องต้องดูแลแก้ไขสารพันปัญหา
ให้ลูกแล้วยังต้องมาคอยประคับประคองสภาพร่างกายตัวเองที่มีสารพันปัญหาไม่แพ้กัน
ทั้งคุณแม่ผ่าคลอดและคุณแม่ที่คลอดปกติแต่คุณแม่ผ่าคลอดอาจจะมีอาการไม่สบายเนื้อตัว
มากกว่าคุณแม่ที่คลอดเองเพราะจะนั่ง จะลุก จะเดิน ช่างลำบากยากเย็น
ปัญหาส่วนใหญ่ที่มักเกิดขึ้นกับคุณแม่หลังคลอด ฉบับนี้เรามีตัวอย่างพร้อมวิธีดูแลแก้ไขมาฝากกันค่ะ
สำหรับคุณแม่หลายๆ ท่านที่เขียนจดหมายมาขอคำแนะนำ อ่านแล้วลองปฏิบัติตามดูนะคะ
 |
ตีนกาขึ้นที่หน้าท้อง |
บรรดาคุณแม่ที่มีผลงานศิลปะอันไม่พึงประสงค์บนหน้าท้อง มักเกิดความรู้สึกกลัวไม่สวยไปตามๆ กัน
เพราะหลังคลอดแล้วริ้วรอยนั้นก็ยังทิ้งลวดลายอยู่กลายเป็นจิตรกรรมธรรมชาติที่วาดแล้วลบออกไม่ได้
นอกจากจะพบเห็นลายนั้นที่หน้าท้องแล้ว ยังพบที่บริเวณสะโพก ขา หน้าอก หรือบริเวณรักแร้อีกด้วย
การแก้ไขหลังคลอดคงทำได้แต่อาจหายยากสักหน่อย ทางที่ดีเราต้องป้องกันตั้งแต่แรกจึงจะเห็นผล
โดยเฉพาะช่วงที่เริ่มเห็นรอยแตกเป็นสีชมพูใหม่ๆ หรือช่วงที่เริ่มรู้สึกคันท้องให้ใช้น้ำมันทาผิว
ครีมทาผิวทั่วๆ ไป หรือครีมยูเรียที่มีความมันสูง ใช้ทานวดทุกวัน บริเวณที่แตกและบริเวณอื่นๆ
จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยได้ค่ะ
แต่ถ้ารอยนั้นติดค้างถาวรก็อย่าไปใส่ใจเลยค่ะเพราะมันไม่ได้ทำลายความงดงามของความเป็นแม่
ให้ลดน้อยลงเลยแต่กลับเป็นสิ่งเตือนใจกันลืมแลกกับการได้เจ้าตัวเล็กมาเชยชม คิดได้อย่างนี้
คุณแม่ที่มีน้ำนมน้อยเพราะความเคร่งเครียดจะได้เลิกเอาคิ้วชนกันซะที น้ำนมจะได้ไหลมาเทมา
ให้ลูกกินอย่างเพียงพอ
 |
ปวดแผลบวมแดง |
คุณแม่หลังคลอดจะยังมีความรู้สึกปวดแผลอยู่ กว่าแผลที่ช่องคลอดจะหายก็ปาเข้าไปประมาณ 6 อาทิตย์
ซึ่งทั้งนี้อาการปวดอาจจะยังอยู่ ที่ต้องรอเวลาถึง 6 อาทิตย์ก็เพราะว่าลูกต้องอยู่ในท้องเรานานถึง 9 เดือน
มดลูกจึงถูกขยายใหญ่ขึ้นเมื่อเราคลอดลูกออกมาแล้วจึงต้องรอเวลาในการปรับสภาพร่างกายให้
เข้าที่เข้าทางเหมือนเดิม
ในช่วงนี้ต้องดูแลแผลให้สะอาดและแห้งสนิทด้วยนะคะ แผลจึงจะหายได้เร็วขึ้น
ทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำเพื่อถ่ายเบาหรือถ่ายหนักก็แล้วแต่ ควรล้างน้ำให้สะอาดแล้วใช้กระดาษชำระ
ซับแผลให้แห้งแผลจะค่อยๆ หาย แต่ถ้ายังปวดอยู่อาจกินยาพาราเซตามอลระงับปวดได้
แต่อย่ากังวลไปเลยค่ะ เพราะระบบการปรับตัวทางร่างกายของคุณแม่ไม่ว่าจะผ่าคลอดหรือคลอดเอง
ก็จะมีการปรับตัวเหมือนๆ กัน เพียงแต่ว่าใครจะเข้าที่เข้าทางได้เร็วหรือช้ากว่ากันเท่านั้นเอง
 |
หน้ามืด |
หลังคลอดลูกใน 24 ชั่วโมงแรก คุณแม่อาจจะยังมีอาการอ่อนเพลียจากการคลอด
และการเสียเลือดอยู่ทำให้มีอาการหน้ามืดเป็นลมได้ ต้องระวังเวลาจะลุกจะนั่งให้ดี
เพราะถ้าล้มลงไปอาจทำให้กระเทือนถึงแผลที่ช่องคลอดหรือแผลหน้าท้องที่เป็นรอยผ่าได้
 |
ท้องผูก |
คุณแม่ทุกคนต้องเจอกับอาการถ่ายไม่ออกบอกไม่ถูกในระยะ 2-3 วันแรก
ถ้าเป็นอย่างนี้ต้องพยายามกินน้ำกินผักผลไม้ให้มากๆ และพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ
อาการไหลง่ายถ่ายคล่องก็จะกลับมา
 |
น้ำนมน้อย |
ช่วง 9-10 วันแรก คุณแม่ที่มีน้ำนมน้อยต้องร้องเพลงรอไปอีกประมาณ 3 วันแน่ะค่ะ
ถึงจะเริ่มมีน้ำนมมากขึ้นในตอนนี้นมจึงคัดและปวดมาก คุณแต่ต้องเอาผ้าชุบน้ำอุ่นจัดๆ
มาประคบบรรเทาปวดบ่อยๆและให้ใส่ยกทรงดันทรงเอาไว้ ไม่อย่างนั้นจะทำให้นมคล้อย
หย่อนยานไม่เข้ารูปทรงในภายหลัง
 |
ปวดหลัง |
นี่ก็เป็นของคู่กันกับคนท้องอีกอาการหนึ่ง เพราะช่วงที่ตั้งท้องหลังของเราต้องแอ่นไปข้างหน้า
กระดูกสันหลังก็จะโค้งงอกมากขึ้นเพราะต้องคอยอุ้มน้ำหนักเอาไว้เกือบตลอด เมื่อคลอดเจ้าตัวเล็กออกไปแล้ว
หลังที่แอ่นอยู่ก็จะค่อยๆ กลับเป็นปกติ ในระหว่างนี้ถ้าปวดอยู่ก็ให้อาบน้ำอุ่นหรือเอาผ้าชุบน้ำอุ่นจัดๆ
ค่อยๆ ประคบก็ได้ค่ะ
 |
ริดสีดวง |
เป็นอีกอาการที่เรียกได้ว่าคู่ปาท่องโก๋กับคนท้องเลยทีเดียว เนื่องจากตอนที่เราท้องการไหลเวียนของเลือด
จากส่วนล่างขึ้นไปที่หัวใจทำได้ลำบาสก ทำให้เส้นเลือดปูดออกมามากกว่าปกติกลายเป็นก้อนริดสีดวง
ที่คอยสร้างความรำคาญให้กับบรรดาคุณแม่มานักต่อนัก
เมื่อคลอดแล้วจะให้หมอตัดเอาริดสีดวงออกก็ได้ แต่จะมีอาการเจ็บหลังผ่าอยู่ระยะหนึ่ง
หรือถ้าไม่ผ่าออกเจ้าตุ่มนี้ก็จะค่อยๆ ยุบกลับเข้าไปเอง หรืออาจจะโผล่ออกมานิดหน่อยก็เป็นเรื่องปกติ
แต่ถ้าหลังคลอดแล้วเดือนครึ่งถึงสามเดือนยังโผล่ไม่ยอมผลุบก็ต้องไปหาคุณหมอให้จัดการเจี๋ยนทิ้งซะ
จะได้หมดทุกข์กันไป
 |
กล้ามเนื้อหน้าท้องหย่อน |
เนื่องจากระหว่างท้อง กล้ามเนื้อบริเวณนี้ถูกดันให้ยืดขยายออกไป และกล้ามเนื้อในช่องคลอด
บริเวณอุ้งเชิงกรานถูกยืดขยายระหว่างการคลอดทำให้หลังคลอดแล้วหน้าท้องหย่อนในคุณแม่บางราย
จึงควรอย่างยิ่งที่จะต้องออกกำลังกายเข้าไว้ให้เป็นประจำ รวมทั้งต้องฝึกขมิบช่องคลอดเป็นประจำ
วันละไม่ต่ำกว่า 100 ครั้ง จะทำให้มดลูกกระชับ เพื่อเรียกความสวยงามฟิตเปรี๊ยะให้กลับมาในเร็ววัน
เป็นการป้องกันไม่ให้พ่อตัวดีดอดไปหาอีหนูหน้าเอ๊าะๆ หุ่นอวบอั้นเต่งตึงซะก่อน ไงละคะ
นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ถ้าหากยังไม่อยากมีเจ้าตัวเล็กมาเพิ่มภาระอีกคน
คุณแม่ก็ไม่ควรกระจุ๋งกระจิ๋งกับคุณสามีในช่วง 6 อาทิตย์หลังคลอดนะคะ ไม่งั้นจะเหนื่อยขึ้นอีกเป็นสองเท่า
คือเหนื่อยกับการต้องมานั่งหิ้วท้องใหม่กับต้องมาดูแลเจ้าคนที่เพิ่งคลอด เผลอๆ คุณสามีบางท่านนอกจากจะ
ไม่ช่วยดูแลลูกแล้ว ยังทำตัวเป็นพระราชาจอมสั่ง จอมโวยเพิ่มภาระขึ้นมาอีกคน ความเครียดและความเซ็งก็จะตามมา
ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีต่อสุขภาพกายและจิตสำหรับคนท้องเลย
แล้วภายใน 6 อาทิตย์หลังคลอดนี้คุณแม่ก็ต้องกลับไปตรวจสภาพร่างกายว่าเป็นปกติดีหรือยัง
รวมทั้งพาเจ้าตัวเล็กไปให้คุณหมอฉีดยาป้องกันโรคต่างๆ ให้ด้วย จะได้สบายใจหายห่วงว่าทั้งคุณแม่
และคุณลูกปลอดภัยแน่นอน
ในช่วงนี้เรื่องที่คุณแม่หลังคลอดต้องงดอีกเรื่องก็คือ อย่าพยายามทำตัวแข็งแรงไปยกนู่น
แบกนี่หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ต้องใช้กำลัง ควรงดอย่างเด็ดขาด รวมทั้งการไอจามแรงๆ ก็ไม่ควรทำ
เพราะมดลูกยังไม่เข้าสู่สภาพปกติ อาจทำให้มดลูกเคลื่อนต่ำลงได้
เรื่องสุขภาพของคุณแม่หลังคลอดเป็นเรื่องสำคัญพอๆ กับตอนท้องนั่นละค่ะ
หลังคลอดแล้วก็ต้องกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ เพราะจะได้กลายเป็นน้ำนมให้ลูกได้กิน
รวมทั้งต้องมีการออกกำลังกายที่เหมาะสม พักผ่อนให้เพียงพอ ถ้าสุขภาพกายและใจของแม่ดี
ก็จะส่งผลดีนั้นไปถึงลูกอีกต่อหนึ่งด้วยค่ะ
|