โดยเฉลี่ยสตรีแทบทุกคนประสบปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะอักเสบอ
ย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต บางอาชีพทำให้สตรีต้องอดกลั้นปัสสาวะไว้นาน เช่น 
การฝึกครูหรือพนักงาน จัดชุมสายโทรศัพท์ หรืออาชีพที่อยู่กลางแดด เสียเหงื่อ 
เสียไอน้ำทางผิวหนัง แล้วสตรีผู้นั้นไม่ได้ดื่มน้ำชดเชยเพียงพอ
ทั้งสองกรณีย่อมยังผลให้สตรีเหล่านี้มีโอกาสเกิดโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้บ่อยมาก 
ถ้าเธอเพิกเฉยต่ออาการผิดปกติทางระบบปัสสาวะในระยะแรก 
เชื้อโรคอาจแพร่เข้ากระแสโลหิตหรือเดินทางขึ้นไปตามท่อไต กรวยไตถึงตัวไตเอง 
ซึ่งถ้าตั้งอยู่สองข้างของกระดูกสันหลังส่วนปั้นเอว ยังผลให้เกิดไตอักเสบเป็นหนอง 
สตรีผู้นั้นย่อมมีอาการไข้สูง หนาวสั่น รวมทั้งอาการปวดบั้นเอว สีข้างและท้องน้อยด้วย 
	
 ระบบโครงสร้างทางสรีระของร่างกายสตรีเอื้ออำนวยให้เชื้อโรคจากภายนอก
เดินทางเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะได้ง่ายกว่าในบุรุษ ทั้งนี้เพราะท่อปัสสาวะ
จากกระเพาะปัสสาวะสู่รูเปิดภายนอกร่างกายมีความยาวโดยเฉลี่ยเพียงสองเซนติเมตร 
ส่วนของบุรุษคือ ส่วนองคชาตยาวกว่าหลายเท่า ถึงแม้ว่าตลอดทางสองข้างของท่อปัสสาวะ
ทั้งหญิงและชายมีต่อมเล็กๆ สำหรับดักจับเชื้อโรคเรียงรายอยู่ แต่ด้วยระยะทางสั้นดังกล่าว 
ทำให้เชื้อโรคจากบริเวณปากช่องคลอดและทวารหนักสามารถเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะได้โดยง่าย 
นอกจากนี้ การมีเพศสัมพันธ์ซึ่งนับเป็นปฏิบัติการที่ช่วยให้เชื้อโรคเคลื่อนตัวผ่านท่อปัสสาวะ 
ซึ่งอยู่ส่วนหน้าของช่องคลอดส่วนบนและมดลูกส่วนล่าง ดังนั้น สตรีควรถ่ายปัสสาวะก่อน
และหลังภารกิจดังกล่าว ตลอดจนงดการมีเพศสัมพันธ์ระยะที่มีอาการของกระเพาะปัสสาวะอักเสบ 
ซึ่งอาจกินเวลาหนึ่งหรือสองสัปดาห์ ด้วยเหตุดังกล่าว สตรีหลังแต่งงานใหม่ๆ 
อาจเกิดอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ที่เรียกว่า "Honeymoon Cystitis"  ยามสตรีตั้งครรภ์ 
ฮอร์โมนสตรีเพศตัวทีชื่อ "โปรเจสเตอโรน" (Progesterone) มีผลทำให้ระบบขับถ่ายหนักและเบา 
คือลำไส้ใหญ่และท่อไต (ureters) ขยายพองตัว ทำงานบีบรัดตัวเชื่องช้าลง 
 นอกจากนี้ผลของการตั้งครรภ์ทำให้เส้นเลือดต่างๆ ของอวัยวะสืบพันธ์ขยายตัว 
เส้นที่มีบทบาทสำคัญคือเส้นเลือดของรังไข่ข้างขวามีขนาดใหญ่ขึ้นจนกดทับท่อไต
ที่ทอดตัวอยู่ข้างล่างก่อให้เกิดการอุดกั้นระบบถ่ายเทน้ำปัสสาวะจากไตสู่กระเพาะปัสสาวะ
จนเป็นปัญหาไตอักเสบได้ สตรีระหว่างตั้งครรภ์ อาจมีเชื้อโรคสะสมในน้ำปัสสาวะ
ที่ยังอยู่ในกระเพาะปัสสาวะโดยไม่เกิดอาการใดๆ ได้จนเมื่อถึงคั่นมากพอ 
ย่อมทำให้เกิดอาการของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบตลอดจนถึงไตเป็นหนองได้ 
ผลลัพธ์อีกข้อหนึ่งคือ อาจทำให้ทารกคลอดก่อนกำหนด ดังนั้น การตรวจปัสสาวะระหว่างการตั้งครรภ์ 
เป็นระยะเพื่อหาจำนวนเชื้อแบคทีเรียโดยทางอ้อมคือ เชื้อแบคทีเรียสังเคราะห์สารไนไตรท์ 
การใช้กระดาษย้อมสารเคมีทดสอบปริมาณไนไตรท์ในน้ำปัสสาวะ 
ย่อมเป็นเครื่องชี้บ่งถึงจำนวนเชื้อแบคทีเรีย ถึงแม้สตรีผู้นั้นยังไม่ปรากฏอาการให้เห็นก็ตาม 
ถ้าเกิดอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ซึ่งได้แก่ ความรู้สึกเจ็บแสบเวลาถ่ายปัสสาวะ 
รู้สึกปวดถ่วงหรือปวดเสียดในท้องน้อย ท้องอืดมีความรู้สึกอยากถ่ายปัสสาวะอยู่ตลอดเวลา 
แต่เมื่อไปห้องน้ำจริงๆ มีจำนวนปัสสาวะกลับออกมาแต่ละครั้งน้อยมาก 
เรียกว่าปัสสาวะกะปริบกะปรอยอาจมีปัสสาวะเป็นเลือด ถ้าเชื้อโรคลามขึ้นถึงท่อไตและตัวไต 
ย่อมเกิดอาการเจ็บปวดระบมมากขึ้นทั้งในท้องน้อยแนวสีข้างจนถึงบั้นเอวได้รวมทั้งอาการไข้รุมๆ 
จนถึงหนาวสั่น 
 ส่วนใหญ่บุรุษในวัยฉกรรจ์มักไม่เกิดปัญหาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ 
แต่ที่พบบ่อยคือ ท่อปัสสาวะอักเสบคือต่อมต่างๆ ที่เรียงรายอยู่ตามลำกล้องปัสสาวะ 
ทำหน้าที่ดักจับเชื้อโรคก่อนเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะ จนตัวมันเองอักเสบเป็นหนอง 
ถ้าเชื้อโรคนั้นเกิดจากเชื้อหนองในแท้ ก็ใช้ยารักษาแตกต่างจากอาการที่เกิดจากเชื้อตัวอื่น 
เช่น คลามีเดีย (Clamydia) ซึ่งเป็นตัวที่แพร่ระบาดขณะนี้ ด้วยเหตุที่เชื้อเหล่านี้ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 
ยังผลให้สตรีมีอาการปีกมดลูกอักเสบและท่อนำไข่ตีบตัน ส่งผลให้สตรีผู้นั้นไม่สามารถมีบุตรตามธรรมชาติได้ 
	
 เมื่อสตรีอายุมากขึ้น ระดับฮอร์โมนสตรีเพศเอสโตรเจนลดต่ำลง 
บริเวณอวัยวะสืบพันธุ์และระบบขับถ่ายปัสสาวะได้รับผลอย่างเห็นได้ชัด คือ 
เยื่อบุกระเพาะปัสสาวะและเยื่อบุช่องคลอดต่างบางลงเป็นเหตุให้เชื้อโรค
แทรกเข้าไปก่อให้เกิดการอักเสบ นอกจากนี้ระดับฮอร์โมนที่ลดต่ำทำให้กล้ามเนื้อกะบังลม
ซึ่งมีส่วนพยุงกระเพาะปัสสาวะและช่วยควบคุมการขับถ่ายกลั้นน้ำปัสสาวะลดศักยภาพลง 
สตรีผู้สูงอายุจึงเกิดปัญหากระเพาะปัสสาวะหย่อนตัว (Cystocele) น้ำปัสสาวะขังอยู่ คือ 
หลังจากการถ่ายปัสสาวะแต่ละครั้งแล้ว ยังมีจำนวนน้ำปัสสาวะหลงเหลืออยู่ในกระเพาะปัสสาวะ
ให้เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคได้ เธออาจมีอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่หรือมีอาการปวดถ่ายปัสสาวะบ่อยๆ 
อาการเหล่านี้ลดน้อยหรือหายไปได้ ถ้าสตรีผู้นั้นได้รับฮอร์โมนเสริมร่วมกับการออกกำลัง
ของกล้ามเนื้อส่วนกะบังลมด้วยการหัดขมิบช่องคลอด 
	
 ฝ่ายบุรุษเมื่ออายุมากขึ้น ต่อมลูกหมาก (ซึ่งอยู่ตรงส่วนล่างของกระเพาะปัสสาวะ
ต่อกับส่วนบนของท่อปัสสาวะ) มักเกิดมีขนาดใหญ่ขึ้น กั้นการระบายของน้ำปัสสาวะ 
ก่อให้มีอาการปัสสาวะกะปริบกะปรอยและกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้เช่นกัน
	
 การอักเสบของระบบทางเดินปัสสาวะเป็นสิ่งที่ป้องกันได้โดยดื่มน้ำมากๆ ที่เคยพูดกันว่า 
การดื่มน้ำแปดแก้วใหญ่เป็นอย่างน้อยนั้นควรเพิ่มเป็นสองเท่าสำหรับสตรี 
เวลาจะทำความสะอาดบริเวณส่วนล่างนั้น ควรชำระหรือเช็ดจากข้างหน้าไปข้างหลังคือ 
จากบริเวณท่อปัสสาวะไปทางทวารหนัก เพราะบริเวณทวารหนักมักมีเชื้อแบคทีเรียอีโคไล (E.Coli) 
ซึ่งเป็นตัวการสำคัญในการก่อให้เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบ บริเวณแคมเล็ก 
แคมใหญ่ไม่ควรใช้สบู่ถูแรงๆ ควรใช้น้ำล้างอย่างเดียว เพราะบริเวณนั้นผิวละเอียดอ่อน 
โดยเฉพาะเมื่อสตรีมีระดับฮอร์โมนลดลง ผิวแถบนั้นมักบางลงและเกิดอาการระคายเคือง
ต่อสบู่หรือสารต่างๆ ได้ง่าย สตรีไม่ควรกลั้นปัสสาวะไว้นานๆ เพราะเท่ากับเป็นการอนุญาต
ให้เชื้อโรคเพาะตัวแพร่พันธุ์ในกระเพาะปัสสาวะ 
 เป็นที่น่ายินดีที่ระยะสี่ห้าปีที่ผ่านมา ปั๊มน้ำมันต่างๆ ตามเส้นทางเดินรถของประเทศไทย
ได้แข่งขันกันเรื่องห้องสุขา เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่ทุกคนควรเห็นความสำคัญ 
เมื่อสามีปีที่แล้วดิฉันได้มีโอกาสไปตึกรัฐสภาอันทรงเกียรติ 
แต่ถึงแม้การสร้างดูภายนอกโอโถงสง่างาม ยามรักษาความปลอดภัยปฏิบัติหน้าที่น่าชมเชย
พออย่างเท้าขึ้นไปแต่ละขั้น กลิ่นความไม่สะอาดของห้องน้ำโชยมาอบอวลไปหมด 
ตามโรงพยาบาลทั้งรัฐบาลและเอกชนหลายแห่งต่างมิได้ให้ความสนใจในเรื่องนี้ 
ทั้งที่เป็นโรงพยาบาลแต่ในห้องน้ำไม่มีสบู่ล้างมือ 
การล้างมือให้สะอาดเป็นการตัดทางแพร่เชื้อโรคที่สำคัญที่สุด
เพราะได้มีการตรวจหาวิธีแพร่เชื้อโรคหวัดแล้วพบว่า มิใช่การจูบหรือการจามไอรดกัน 
การสัมผัสด้วยมือนั่นเอง ที่เป็นการนำโรคมาสู่ร่างกาย 
	
 วงการแพทย์ปัจจุบันมุ่งหน้าไปทางป้องกันมากเพราะโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
อาจยังผลร้ายดังกล่าวและการรักษาแต่ละครั้ง เชื้อโรคอาจเกิดการดื้อยา ดังนั้น 
ควรรับประทานยาให้ครบตามจำนวนที่แพทย์สั่งเนื่องจากโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
เป็นโรคที่สร้างความทรมานและเกิดขึ้นบ่อยในสตรีมากหลาย บริษัท Poly Medica Corporation 
(Woburn Mass) ได้จัดทำกระดาษอาบน้ำยาสำหรับทดสอบน้ำปัสสาวะ
โดยสตรีสามารถตรวจน้ำปัสสาวะของตนเองที่บ้านว่ามีเม็ดเลือดขาวออกมาในน้ำปัสสาวะ
หรือมีจำนวนไนไตรท์ซึ่งบ่งถึงปริมาณของเชื้อแบคทีเรียว่ามากน้อยเพียงใด 
เมื่อสตรีตรวจน้ำปัสสาวะแล้วพบว่ามีลักษณะผิดปกติเธอย่อมติดต่อขอการรักษาได้โดยทันที 
	
 ดังนั้น การดื่มน้ำมากๆ นอกจากทำให้ผิวพรรณดีแล้ว ระบบขับถ่ายทั้งหมดย่อมทำงานได้ดี 
โดยเฉพาะถ้าดื่มน้ำอุ่นตอนเช้า...
					
พญ.จันทรา เจณณวาสิน
  |