คุณเคยเป็นอย่างนี้บ้างไหม ถ่ายปัสสาวะบ่อย ถ่ายเรียบร้อยคิดว่าสุดแล้วก็ยังไม่ยักกะสุด 
พักใหญ่ก็ปวดท้องอยากฉี่อีก ตอนกลางคืนหลับไปไม่ทันถึงงีบต้องลุกขึ้นไปเข้าห้องสุขาอีกแล้ว 
บางคืนตั้งห้าหกครั้งไม่เป็นอันหลับอันนอน น่าเบื่อจริงๆ  
	
 ถ้ามีอาการอย่างนี้แถมถ่ายครั้งละมากๆ ไม่ต้องสงสัยอะไรต่อไปอีกแล้ว 
คุณต้องมีความวิปริตในร่างกายแน่นอน รีบไปปรึกษาแพทย์เสียก่อนโรคจะลุกลาม
จนเกิดอาการแทรกซ้อนดีกว่า 
	
 อาการถ่ายปัสสาวะบ่อย เดี๋ยวฉี่ เดี๋ยวฉี่ พอแบ่งออกได้เป็น 2 จำพวก
จำพวกแรก ถ่ายบ่อยครั้งและครั้งละมากๆ จำพวกหลัง ถ่ายบ่อยแต่ครั้งละเล็กๆ น้อยๆ 
ที่เรียกว่ากะปริบกะปรอย ถ่ายแล้วมีความรู้สึกว่ายังไม่สุด บางทีกลั้นไม่อยู่ 
พอปวดก็ปรี๊ดออกมานิดหนึ่งแล้วรู้สึกจะวุ่นกว่าจำพวกแรก 
	
 จำพวกแรกที่ถ่ายบ่อยและครั้งละมากๆ ในคนวัยกลางคนขึ้นไป 
ส่วนมากไม่พ้นโรคเบาหวานที่เรียกเป็นภาษาหมอว่า Non Insulin Dependent Diabetes Mellitus (DM) 
โรคนี้เป็นโรคที่สืบต่อมาตามสายพันธุ์ ที่เรียกว่าเป็นกรรมพันธุ์ สอบประวัติดูจะพบญาติพี่น้องเป็นกันหลายคน 
อาการที่นำผู้ป่วยมาหาแพทย์นอกจากถ่ายปัสสาวะบ่อยแล้วก็มีอาการคอแห้ง กระหายน้ำบ่อย
และน้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่รักษาก็จะเกิดโรคแทรกซ้อนตามมามากมาย 
บั่นทอนอายุเป็นอย่างยิ่ง 
	
 คนแต่ก่อนเชื่อว่าคนเป็นเบาหวานถ้าปัสสาวะทิ้งไว้มดจะมาตอมปัสสาวะหวาน 
ซึ่งไม่ค่อยจะถูกต้องนัก ปัสสาวะไม่หวานมากมายจนมดมาตอม ถ้าจะตอมก็เพราะเรื่องอื่น 
เช่นอาจเพราะมีไข่ขาว (อัลบูมิน) ปะปนซึ่งพบได้บ่อยในสตรี หรือในผู้ที่มีการติดเชื้อ
ในระบบทางเดินปัสสาวะส่วนล่างมากกว่า 
	
 ศาสตราจารย์นายแพทย์ ขุนเกตุทัศน์วิทยาพยาธิ (ขออนุญาตเอ่ยชื่อท่านหน่อยครับ) 
อาจารย์ผู้สอนวิชาพยาธิวิทยาคลินิก เมื่อผมเป็นนักศึกษาแพทย์เมื่อเกือบ 50 ปีมาแล้ว 
เคยเล่าว่า อาจารย์ฝรั่งคนหนึ่งถามนักศึกษาแพทย์ขณะสอนข้างเตียงผู้ป่วยว่า 
ปัสสาวะคนเป็นเบาหวานนี่หวานหรือไม่ นักศึกษาพากันเงียบ อาจารย์พูดต่อว่าลองดูซิ 
แล้วก็จิ้มนิ้วลงในปัสสาวะของผู้ป่วยในชามรูปไต เอานิ้วใส่ปากดูด นักศึกษาจึงทำตามทุกคน 
อาจารย์ถามอีกว่าหวานหรือไม่ นักศึกษาทุกคนส่ายหน้าตอบว่าไม่หวาน 
ท่านก็สอนว่าจะเป็นแพทย์อยู่แล้ว ก่อนทำอะไรต้องสังเกตและคิดให้ดี 
ไม่มีใครตรวจปัสสาวะโดยวิธีชิมหรอก ตัวท่านเองใช้นิ้วกลางจิ้มแต่เอานิ้วชี้ใส่ปากดูด 
ทีหน้าทีหลังระวังอย่าให้ใครหลอกเอาง่ายๆ อีก 
	
 อาการถ่ายปัสสาวะบ่อยๆ โดยไม่เป็นเบาหวานชาวบ้านเรียกว่าเป็น โรคช้ำรั่ว 
แพทย์เรียกอาการนี้ว่า Neurogenic Bladder เป็นอาการทางประสาท คนที่เป็นช้ำรั่วมักดื่มน้ำมาก 
ยิ่งตื่นเต้นหรือเครียดก็ยิ่งดื่มน้ำ เมื่อดื่มน้ำมากก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องถ่ายปัสสาวะมากเช่นกัน 
บางคนถ่ายมากและบ่อยจนแสบท่อปัสสาวะต้องไปให้แพทย์รักษาอาการท่อปัสสาวะอักเสบ 
	
 มีอีกโรคหนึ่ง ชื่อตรงข้ามกับเบาหวาน คือโรคเบาจืด (Diabetes Insipidus) 
เกิดจากความผิดปกติในการผลิตฮอร์โมนที่ต่อต้านการผลิตปัสสาวะของต่อมใต้สมอง 
ฮอร์โมนนี้เรียกว่า Antidiuretic Hormone หรือ ADH เมื่อมีอะไรก็ตามกระทบ
ต่อการผลิตฮอร์โมนนี้เป็นเหตุให้ผลิตได้น้อยลง ปัสสาวะก็จะมีปริมาณมากขึ้น 
ผู้ป่วยถ่ายปัสสาวะบ่อยและมาก อาจถึงวันละ 5 ลิตรหรือมากกว่านั้น 
สาเหตุอาจเนื่องจากต่อมใต้สมองผลิตฮอร์โมน ADH ได้น้อยกว่าปกติ โดยไม่ทราบสาเหตุ 
หรือต่อมใต้สมองถูกกระทบกระเทือนจากการถูกกระทบกระเทือนจากอุบัติภัยต่อศีรษะและสมอง 
หรือภายหลังการผ่าตัดใหญ่ 
	
 คราวนี้ก็มาถึงผู้ถ่ายปัสสาวะกะปริบกะปรอยบ้าง อาการนี้เรียกรวมว่า Polyuria & Dysuria 
(ถ่ายบ่อยและลำบาก) 
 ผู้ป่วยที่ถ่ายกะปริบกะปรอยมักเป็นชายวัยกลางคน โรคที่เป็นต้นเหตุส่วนมาก
หรือเกือบทั้งหมดเป็นโรคของต่อมลูกหมาก อาจเป็นโรคต่อมลูกหมากโต (ส่วนใหญ่) 
หรือเป็นเนื้องอกของต่อมลูกหมาก ที่แย่ที่สุดคือเป็นมะเร็งของต่อมเจ้ากรรมนี้ 
	
 ผู้ชายเท่านั้นที่มีต่อมลูกหมาก ต่อมนี้ทำหน้าที่ผลิต Semen หรือน้ำหล่อเลี้ยงอสุจิ 
มีลักษณะเป็นน้ำขุ่นข้นคล้ายน้ำแป้ง ซึ่งถ้าไม่มีการถ่ายเทตามระยะเวลาสมควร 
ก็จะเกิดการตกตะกอนพอกพูนอยู่ภายในตัวต่อม ถึงวัยกลางคนต่อมก็จะโตขึ้น
จนไปกดท่อปัสสาวะ (Prostatic Uretero)  ทำให้ถ่ายปัสสาวะไม่สะดวกเหมือนสมัยหนุ่ม 
มีปัสสาวะค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะภายหลังการถ่ายปัสสาวะมาก  
เมื่อถ่ายได้ไม่หมดจดก็ปวดถ่ายบ่อย อาการจึงเหมือนกันทุกรายคือ ปวดท้องเบาบ่อย 
ถ่ายครั้งละไม่มาก ลำปัสสาวะไม่พุ่งแรง น้ำปัสสาวะหยดแหมะๆ รดหัวแม่เท้า
จนเลอะเทอะเปรอะเปื้อนน่ารำคาญ เวลานอนตอนกลางคืนต้องลุกเข้าห้องน้ำบ่อยๆ 
ปวดแล้วบางครั้งกลั้นไม่อยู่ด้วย 
	
 ผู้อาวุโสท่านหนึ่งคุยอวดว่า "อั๊วเดี๋ยวนี้แย่มาก กลางคืนถ้าไม่ได้เข้าถึง 4 ครั้งก็ไม่สบายตัว 
นอนไม่หลับ เมียบ่นพึม" 
ลูกน้องขัดจังหวะว่า "เข้าห้องน้ำถ่ายเบาใช่ไหม พ่อผมก็เป็นอย่างนี้ ต่อมลูกหมากแกโตน่ะ"
ผู้อาวุโสค้อนขวับ บ่นว่า "ไอ้นี่ขัดคอเรื่อย สงสัยจะเลี้ยงไม่โต" 
	
 โรคต่อมลูกหมากโตถ้าไม่ใช่มะเร็งก็เรื่องง่าย ใช้การผ่าตัดด้วยมีดไฟฟ้าเข้าทางท่อปัสสาวะ 
แม้ปัจจุบันจะมีการรักษาหลายวิธี แต่การผ่าตัดก็ยังได้ผลเป็นที่พึงพอใจและนิยมกันมาก 
	
เดี๋ยวนี้มียาที่ใช้รับประทานป้องกันมิให้ต่อมลูกหมากโต 
แต่ต้องใช้แต่เนิ่นๆ ตั้งแต่ต่อมลูกหมากยังไม่โตและกินติดต่อกันเป็นปี 
ต้องให้แพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะตรวจเสียก่อนด้วย 
	
 อีกโรคหนึ่งที่เป็นสาเหตุของอาการขัดเบาและถ่ายปวดคือ 
โรคติดเชื้อทางระบบท่อทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง (Lower Urinary Tract Infection) 
โรคนี้เป็นในหญิงมากกว่าชาย ต้นเหตุส่วนมากมาจากเชื้อโรคในลำไส้ใหญ่ของตนเอง
คือ E.coil ในสตรีมักเป็นผลจากการกลั้นปัสสาวะและการทำความสะอาดทวารหนัก
และเบาไม่ถูกต้อง เชื้อ E.coil จึงผ่านจากลำไส้ใหญ่เข้าสู่กระเพาะปัสสาวะได้โดยง่าย 
ส่วนในผู้ชายสาเหตุมักมาจากการอักเสบของต่อมลูกหมาก 
	
 โรคที่เป็นตัวการของการอักเสบในท่อปัสสาวะบ่อยในผู้ชายได้แก่ โกโนเรีย 
หรือโรคหนองใน ที่ชายหนุ่มยุคก่อนเป็นกันจนเป็นเรื่องธรรมดา 
โรคนี้ผู้ที่เคยเป็นจะเนื่องจากความซุกซนทางเพศหรือใช้ผ้าขาวม้าสกปรกก็ตาม
แต่จะบอกได้ว่ามันเจ็บแสบและคันๆ ต้องถ่ายปัสสาวะบ่อย ถ่ายแล้วยังต้องขมิบอยู่เรื่อย 
บางคนเวลาถ่ายเจ็บแสบจนแทบเอาหัวชนฝาก็มี 
	
 ยารักษาโรคหนองในมีหลายชนิด ทั้งชนิดฉีดเข้ากล้ามและชนิดกิน 
บางอย่างกินครั้งเดียวอาการก็หมดไป แต่เชื้อก็ดื้อยาขึ้นเรื่อย ถ้ารักษาผิดวิธีโรคก็จะเรื้อรัง 
เชื้อเข้าไปซ่อนตัวในต่อมลูกหมากและเป็นพาหะแพร่เชื้อต่อไปที่ร้ายยิ่งขึ้นคือเป็นแผลในท่อปัสสาวะ 
เมื่อแผลหายก็เกิดแผลเป็น แก่ตัวเข้าแผลเป็นหดเกิดการดึงรั้งท่อปัสสาวะตีบลง 
จนถึงขั้นถ่ายปัสสาวะไม่ค่อยออกจะถ่ายเบาแต่ละทีต้องเบ่งกันหน้าดำหน้าแดง 
การรักษากลายเป็นเรื่องใหญ่ทรมานทรกรรม ชาวบ้านที่รู้เข้าบอกว่า 
นี่แหละเขาเรียกว่ามาคิดบัญชีเฉ่งปี๋กันตอนแก่ สมน้ำหน้า 
	
คุยเรื่อง เดี๋ยวฉี่ เดี๋ยวฉี่ อยู่แท้ๆ ไหงกลายเป็นเรื่องโรคบุรุษไปได้ คิดแล้วเสียวไส้ 
 ขอหยุดไว้แค่นี้แหละครับ ท่าน บก.
				
หมอพัตร
  |