"หนูเป็นห่วงว่าเขาจะเป็นอะไรหรือเปล่าเวลาที่เขากลับดึก
แต่เขาไม่เห็นเป็นห่วงตัวเองเลย ขนาดอุบัติเหตุรุนแรงก็เคยเจอมาแล้ว
ส่วนหนูอยู่บ้านก็กลัวขโมยขึ้นบ้าน จะไปเที่ยวก็กลัวอุบัติเหตุต่างๆ นานา"
นี่คือตัวอย่างของความวิตกกังวลที่พบได้บ่อยๆ
มนุษย์ทุกคนต่างก็ประสบกับความวิตกกังวลมาแล้วถ้วนหน้า
แต่โรคกังวลไม่ใช่ความวิตกกังวลตามปกติของมนุษย์ แต่กลับเป็นโรคทางจิตใจชนิดหนึ่งของมนุษย์
โดยที่อารมณ์กังวลมีความรุนแรงกว่า เกิดขึ้นบ่อยกว่าและคงอยู่ในจิตใจนานกว่า
ทั้งนี้มากเสียจนเราไม่สามารถหาทางจัดการหรือทนต่อไปได้อีก
และรบกวนต่อความสงบสุขของจิตใจ นั่นแสดงว่าไม่ใช่ความวิตกกังวลตามปกติแล้ว
ความวิตกกังวลเป็นความรู้สึกไม่สบายใจ เครียดและหวาดหวั่นกลัวภัยบางอย่าง
เช่น กลัวบาดเจ็บ กลัวพิการ กลัวตาย หรือกลัวการคุกคามต่อศักดิ์ศรี
และความสุขในชีวิต แม้ว่าสิ่งที่หวาดหวั่นต่างๆ จะนำมาซึ่งความเจ็บปวดและตึงเครียด
ทั้งร่างกายและจิตใจ แต่ก็ถือได้ว่าเป็นธรรมดาของชีวิต หลังจากปรับตัวได้แล้ว
คนเราจะเริ่มรู้สึกดีขึ้น บางคนพบว่าตนเองมีทักษะในการเผชิญชีวิตเพิ่มขึ้น
แต่บางคนปรับตัวไม่ได้ ก็จะเกิดเป็นจุดอ่อนในจิตใจ เนื่องจากไม่เห็นหนทางแก้ไขปัญหา
ในลักษณะเดียวกันนี้ได้ อีกทั้งไม่สามารถยอมรับสภาพที่ตนประสบอยู่ด้วยจิตใจที่สงบสุข
ความวิตกกังวลที่ไม่มากเกินไปหรือแม้เพียงเล็กน้อยมีประโยชน์ต่อคนเรา
โดยเป็นแรงผลักดันและจูงใจให้คนเรากระตือรือร้นจัดการหน้าที่ของตนให้สำเร็จ
ถ้าปราศจากความกังวล จะทำให้ขาดแรงจูงใจที่สำคัญอย่างหนึ่งเลยทีเดียว
อาจทำให้เป็นคนเฉื่อยและเกียจคร้านได้
กรณีของผู้ป่วยโรคกังวลกลับพบว่า ความวิตกกังวลมากเกินไป
นอกจากนี้ยังพบอาการทางร่างกายหลายระบบ ได้แก่ ใจสั่น อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ หน้ามืด เบื่ออาหาร รู้สึกชาหรือวูบวาบตามตัวและแขน จุกเสียดหน้าท้อง
ท้องอืด ท้องผูก หรือถ่ายเหลวบ่อย นอนหลับยากและฝันร้ายบ่อย หงุดหงิด อารมณ์เสีย
ไม่มีสมาธิ ตื่นเต้นและตกใจง่าย ผู้ป่วยโรคกังวลจะไม่มีอาการรุนแรงอย่างผู้ป่วยโรคจิต
ไม่มีอาการประสาทหลอนเช่น หูแว่ว หรือภาพหลอน ผู้ป่วยโรคกังวลยังเข้าใจโลก
ตามความเป็นจริงและสามารถทำงานและดำเนินชีวิตได้เป็นปกติ
สาเหตุของโรคกังวล พบว่าอาจมีสาเหตุทางกรรมพันธุ์ หรือเกิดจากบุคลิกภาพเดิม
ที่วิตกกังวลง่ายหรือขี้อายหรือเกิดจากความเครียดทางจิตใจและสังคม ได้แก่
ปัญหาครอบครัว ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาการเรียนหรือการงาน
และความกดดันตึงเครียดหรือสูญเสียอื่นๆ
สำหรับบุคลิกภาพแบบวิตกกังวลง่าย เป็นบุคลิกภาพที่จะมีความกังวล
เมื่อถูกยั่วยุจากสิ่งต่างๆ ที่กระตุ้นให้เกิดความเครียด ความกังวลง่ายเป็นส่วนหนึ่ง
ของอารมณ์พื้นฐานถาวรของบุคคลนั้น จัดเป็นความโน้มเอียงของคนนั้น
ในการตอบสนองแบบกังวล ซึ่งแสดงออกมาตั้งแต่วัยเด็ก ดังนั้น
คนบางคนจึงมีแนวโน้มที่จะกังวลได้ง่ายและบ่อยกว่าคนอื่นทั้งๆ ที่ประสบกับสถานการณ์เดียวกัน
การรักษาผู้ป่วยโรคกังวลจำเป็นต้องรับการตรวจให้แน่ใจว่า ไม่ใช่โรคทางกาย
การได้ระบายความทุกข์และรับกำลังใจจากแพทย์เป็นส่วนสำคัญในการรักษาผู้ป่วย
ที่มีอาการเนื่องจากความเครียดที่เป็นปัญหาแก้ไขได้ และผู้ป่วยที่มีความเข้าใจตนเองได้ดี
ก็อาจหายได้ แต่ถ้าเกิดจากปัญหาที่แก้ไขยากและผู้ป่วยไม่สามารถปรับตัวต่อปัญหา
หรือมีบุคลิกภาพเดิมเป็นคนคิดมากก็อาจเรื้อรังและจำเป็นต้องรักษากับแพทย์ระยะยาว
นพ.วีรวุฒ เอกกมลกุล
|