มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
http://www.oocities.org/Tokyo/Harbor/2093/
จำสั้นๆ i.am/thaidoc



แม่เหล็กแก้ปวดเคล็ดขัดยอก


ทุกวันนี้แม่เหล็กมีการใช้กันมากในต่างประเทศ เช่น สหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬาที่ต้องการให้ความเจ็บปวดกล้ามเนื้อข้อเท้าข้อมือหายเร็วๆ หรือแม่บ้านที่ปวดเคล็ดขัดยอกต้องการให้พ้นทุกข์ทรมาน หรือคุณหญิงคุณนายวันทองต้องการความสบายเนื้อสบายอารมณ์ก็หันไปใช้แม่เหล็กกัน เนื่องจากมีโฆษณาประชาสัมพันธ์กันมาก มีแม่เหล็กขายกันเกลื่อนตามร้านขายสารเสริมอาหาร เสริมสุขภาพ ตามศูนย์การค้า ตามงานแสดงสินค้าและเป็นธรรมดาในยุคโลกาภิวัตน์ ที่ข้อมูลข่าวสารและแม่เหล็กจะเข้ามาสู่ตลาดเมืองไทยในลักษณะไดเร็คเซลกันมากขึ้น ทำให้ท่านผู้บริโภคทั้งหลายสงสัยว่าแม่เหล็กมันดีจริงหรือไม่

แม่เหล็กมีกลไกในการทำงานอย่างไร มีทฤษฎีหลายอย่างบ้างก็ว่า มันมีผลต่อประจุไฟฟ้าของอนุมูลเล็กๆ ในเซลล์ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการนำพากระแสไฟฟ้า ที่ทำให้ระบบประสาทและกล้ามเนื้อทำงาน และบางคนก็ว่ามันสามารถทำให้หลอดเลือดขยายตัว ทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนของร่างกายที่มีแม่เหล็กมากขึ้น นั่นเป็นทฤษฎีซึ่งถ้าท่านอ่านแล้วไม่เข้าใจ ก็ไม่ต้องตกใจเพราะมีคนเหมือนท่านมากมาย แม้แต่หมอมาร์ค เอสจอร์จ ซึ่งเชี่ยวชาญทางด้านนี้ก็บอกว่ายังไม่มีใครรู้แน่ว่าแม่เหล็กมีกลไกในการรักษาโรคอย่างไร แต่ในทางการแพทย์ก็ยังมีอยู่หลายอย่างที่ยังไม่รู้กลไกแน่ชัด แต่รู้ว่ามันใช้ได้ก็พอแล้ว

เรื่องประโยชน์ของแม่เหล็กต่อสุขภาพมีคนศึกษากันมามากตั้งแต่สมัยโบราณ มีคนคิดว่า แม่เหล็กน่าจะมีผลดีต่อสุขภาพ ในศตวรรษที่ 18 ชาวฝรั่งเศสชื่อ ฟร้านซ์ แอนดอน เมสเมอร์ เขียนบรรยายเรื่องรักษาความเจ็บไข้ได้ป่วยโดยการสะกดจิตคนไข้ โดยใช้แม่เหล็กดังขึ้นมาปรากฏในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสและชื่อ Mesmer กลายเป็นคำกริยา mesmerise แปลว่า สะกดจิตให้จังงัง การบริการขายแม่เหล็กทางไปรษณีย์มีมาตั้งแต่โบราณกาล แต่ในช่วงไม่กี่เดือนมานี้เอง เรื่องผลดีของแม่เหล็กก็ดังขึ้นมาอีกเมื่อมีรายงานการศึกษาเล็กๆ ว่าแม่เหล็กอาจจะมีผลดี ออกมาจากสถาบันการแพทย์ดังคือ เบเลอร์ คอลเล็จ ออฟ เม็ดดิซิน ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองฮูสตัน แท็กซัล

การศึกษานี้ทำให้คนไข้โปลิโอ 50 คน ที่มีอาการปวดจากการเกร็งของกล้ามเนื้อ และการตึงของข้อ โดยเขาให้ใช้แม่เหล็กเปรียบเทียบกับเหล็กธรรมดา โดยฝ่ายคนไข้และผู้ทำการทดลองก็ไม่รู้ว่า อันไหนเป็นแม่เหล็กจริง สรุปแล้วได้ผลว่า 70% ของคนที่ใช้แม่เหล็กจริงบอกว่า ได้ผลดีในการลดการเจ็บปวด (19% ที่ใส่เหล็กธรรมดาบอกว่าดีขึ้นเช่นกัน)

จากการศึกษาที่แน็ชวิล เทนเนสซี หลายรายงานโดย หมออาร์ โฮลคัมบ์ พบว่าการใช้แม่เหล็กน่าจะมีผลดีในการบรรเทาอาการปวดบั่นเอวและปวดเข่า
จากการศึกษาของ หมอไมเคิล เจ ไวทรอบ ที่นิวยอร์ค พบว่าคนไข้เบาหวานที่เจ็บเท้า เมื่อใส่รองเท้าที่เสริมแม่เหล็กแล้วทำให้ความเจ็บปวดลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ที่โบคา ราทอน มลรัฐฟลอริดา หมอศัลยกรรมเสริมสวย แดนียล แมน รายงานต่อที่ประชุมศัลยแพทย์พลาสติกว่า คนไข้ที่เขาทำการผ่าตัดดึงหน้า มีอาการปวดบวมหน้าน้อยลงเมื่อใช้แม่เหล็กหลังผ่าตัด

แต่เรื่องนี้ยังโต้เถียงกันอยู่มาก เนื่องจากมีฝ่ายค้านมากเท่ากับฝ่ายเสนอ ฝ่ายที่ศึกษาแล้วเห็นว่าไม่ได้ผลก็มีอยู่มากบางคนไปไกลถึงขนาดว่า แม่เหล็กมีผลดีแต่เพียงเอาไปทำเข็มทิศเท่านั้น

จากรายงานการศึกษาที่ นิวยอร์ค คอลเล็จ ออฟ โปไดอาทริค เม็ดดิซิน (โรงพยาบาลโรคเท้า) พบว่าเมื่อให้คนไข้ที่เจ็บฝ่าเท้าเนื่องจากเอ็นฝ่าเท้าอักเสบใส่รองเท้าเสริมแม่เหล็ก เปรียบเทียบกับคนที่ใช้แม่เหล็กหลอกแล้วปรากฏว่าได้ผลไม่ต่างกัน

มีนักวิจารณ์หลายคนกล่าวว่าการที่อาการของโรคหายจากแม่เหล็ก อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาหลอกหรือที่ฝรั่งเรียกว่า placebo effect ก็เป็นได้ พลาซีโบเอ็ฟเฟ็ค นี้เป็นที่รู้จักกันดีมานานแล้ว คือ มันเกิดขึ้นจากพลังงานชี้แนะ (คล้ายสะกดจิต) ทำให้จิตใจคนโน้นไปตามนั้น ดูแต่การศึกษาเรื่องผลดีของแม่เหล็กที่ เบเลอร์ คอลเล็จ ตามที่กล่าวถึงบ้างบนนี้ มีอยู่ถึง 19% ที่ได้ผลดีจากการใช้แม่เหล็กหลอก

ดร.เจมส์ ดี. ลิวิงสตัน ดุษฎีบัณฑิตที่เคยทำงานทางด้านนี้ที่บริษัท เจนเนอรัล อีเล็กตริค มาเป็นเวลานาน 30 ปีก่อนจะไปเป็นศาสตราจารย์ทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ที่ เอ็ม.ไอ.ที.กล่าวว่า เขาไม่เชื่อว่าแม่เหล็กธรรมดาๆ (แบบ static อย่างที่ติดบนประตูตู้เย็น) จะมีฤทธิ์รักษาได้ แต่เขาก็ยังทำใจเปิดกว้างเอาไว้ เนื่องจากมีหลักฐานที่ว่ามันมีผลเหมือนกัน เพียงแต่ว่าไม่มีนัยแตกต่างทางสถิติเท่านั้น

หลายคนวิจารณ์ว่า แม่เหล็กที่เขาเอามาขายให้กันนั้นมันมีความแรงน้อยเกินไป ที่จะเกิดผลอะไรขึ้นมา ปกติแรงแม่เหล็กเราวัดกันเป็นความแรงที่แม่เหล็กสามารถยกน้ำหนักได้ ความแรงวัดกันเป็น gauss แม่เหล็กชนิดที่ติดหน้าประตูตู้เย็นส่วนมากมีความแรงประมาณ 50 กอสส์ แม่เหล็กที่มีขายอยู่มีความแรงอยู่ในช่วง 300 ถึง 1,000 กอสส์ แต่ขณะนี้ไม่มีใครกล้าแนะนำอะไร ที่มันแรงกว่านั้น

แม่เหล็กมีขายมากมาย เวลาจะซื้อต้องอ่านฉลากให้ดีว่าเขาใช้อย่างไร สนนราคาที่สหรัฐฯ ขนาดเล็กเหมือนที่ติดบนตู้เย็นราคาประมาณ 25 เหรียญ สำหรับฟูกเสริมแม่เหล็กราคาหลายร้อยเหรียญ เหมาะสำหรับคนมีเงินมากจนไม่รู้จะเอาไปทำอะไรดี ถ้าท่านไปซื้อที่สหรัฐฯ เขาแนะนำว่า ควรจะซื้อชนิดที่รับรองคืนเงินถ้าใช้ไม่ได้ผลหรือไม่พอใจ (money-back guarantee)

ขณะนี้ได้ข่าวว่ากำลังมีการทดลองใช้แม่เหล็กในเมืองไทย แต่เป็นชนิดอื่นคือ ชนิดที่เป็นสนามแม่เหล็กไฟฟ้าเพื่อรักษาความเจ็บปวด จากโรคกระดูกผุที่โรงพยาบาลรามาฯ ไม่ทราบว่าจะได้ผลอย่างไร ขณะที่รอผลการทดลอง เมืองไทยก็ยังโฆษณาขายแม่เหล็กไม่ได้ แต่มีการขายตรงกันแล้ว ถ้ามีใครมาขายตรง และท่านอยากลองก็คงจะไม่มีข้อห้าม เพราะยังไม่มีใครพบว่ามันมีผลเสียต่อสุขภาพกาย แต่อาจจะมีผลดีต่อสุขภาพจิตของท่าน คือมีฤทธิ์พลาซีโบคือ ทำให้ท่านหายเจ็บป่วยอย่างสุดฤทธิ์สุดเดชเหมือนการห้อยพระดูดทรัพย์ หรือทำให้น้ำหนักของท่าลดลงรวดเร็ว โดยไม่ต้องไปไดเอ็ดหรือจ็อกกิ้ง เนื่องจากกระเป๋าเงินเบาลงอย่างรวดเร็ว

นพ.นริศ เจนวิริยะ



[ที่มา..หนังสือ นิตยสารใกล้หมอปีที่ 23 ฉบับที่ 8 สิงหาคม 2542]

[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21] resolution 800x600