ทุกวันนี้แม่เหล็กมีการใช้กันมากในต่างประเทศ เช่น สหรัฐฯ
ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬาที่ต้องการให้ความเจ็บปวดกล้ามเนื้อข้อเท้าข้อมือหายเร็วๆ
หรือแม่บ้านที่ปวดเคล็ดขัดยอกต้องการให้พ้นทุกข์ทรมาน
หรือคุณหญิงคุณนายวันทองต้องการความสบายเนื้อสบายอารมณ์ก็หันไปใช้แม่เหล็กกัน
เนื่องจากมีโฆษณาประชาสัมพันธ์กันมาก มีแม่เหล็กขายกันเกลื่อนตามร้านขายสารเสริมอาหาร
เสริมสุขภาพ ตามศูนย์การค้า ตามงานแสดงสินค้าและเป็นธรรมดาในยุคโลกาภิวัตน์
ที่ข้อมูลข่าวสารและแม่เหล็กจะเข้ามาสู่ตลาดเมืองไทยในลักษณะไดเร็คเซลกันมากขึ้น
ทำให้ท่านผู้บริโภคทั้งหลายสงสัยว่าแม่เหล็กมันดีจริงหรือไม่
แม่เหล็กมีกลไกในการทำงานอย่างไร มีทฤษฎีหลายอย่างบ้างก็ว่า
มันมีผลต่อประจุไฟฟ้าของอนุมูลเล็กๆ ในเซลล์ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการนำพากระแสไฟฟ้า
ที่ทำให้ระบบประสาทและกล้ามเนื้อทำงาน และบางคนก็ว่ามันสามารถทำให้หลอดเลือดขยายตัว
ทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนของร่างกายที่มีแม่เหล็กมากขึ้น นั่นเป็นทฤษฎีซึ่งถ้าท่านอ่านแล้วไม่เข้าใจ
ก็ไม่ต้องตกใจเพราะมีคนเหมือนท่านมากมาย แม้แต่หมอมาร์ค เอสจอร์จ
ซึ่งเชี่ยวชาญทางด้านนี้ก็บอกว่ายังไม่มีใครรู้แน่ว่าแม่เหล็กมีกลไกในการรักษาโรคอย่างไร
แต่ในทางการแพทย์ก็ยังมีอยู่หลายอย่างที่ยังไม่รู้กลไกแน่ชัด แต่รู้ว่ามันใช้ได้ก็พอแล้ว
เรื่องประโยชน์ของแม่เหล็กต่อสุขภาพมีคนศึกษากันมามากตั้งแต่สมัยโบราณ
มีคนคิดว่า แม่เหล็กน่าจะมีผลดีต่อสุขภาพ ในศตวรรษที่ 18 ชาวฝรั่งเศสชื่อ
ฟร้านซ์ แอนดอน เมสเมอร์ เขียนบรรยายเรื่องรักษาความเจ็บไข้ได้ป่วยโดยการสะกดจิตคนไข้
โดยใช้แม่เหล็กดังขึ้นมาปรากฏในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสและชื่อ Mesmer กลายเป็นคำกริยา
mesmerise แปลว่า สะกดจิตให้จังงัง การบริการขายแม่เหล็กทางไปรษณีย์มีมาตั้งแต่โบราณกาล
แต่ในช่วงไม่กี่เดือนมานี้เอง เรื่องผลดีของแม่เหล็กก็ดังขึ้นมาอีกเมื่อมีรายงานการศึกษาเล็กๆ
ว่าแม่เหล็กอาจจะมีผลดี ออกมาจากสถาบันการแพทย์ดังคือ เบเลอร์ คอลเล็จ ออฟ เม็ดดิซิน
ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองฮูสตัน แท็กซัล
การศึกษานี้ทำให้คนไข้โปลิโอ 50 คน ที่มีอาการปวดจากการเกร็งของกล้ามเนื้อ
และการตึงของข้อ โดยเขาให้ใช้แม่เหล็กเปรียบเทียบกับเหล็กธรรมดา
โดยฝ่ายคนไข้และผู้ทำการทดลองก็ไม่รู้ว่า อันไหนเป็นแม่เหล็กจริง
สรุปแล้วได้ผลว่า 70% ของคนที่ใช้แม่เหล็กจริงบอกว่า ได้ผลดีในการลดการเจ็บปวด
(19% ที่ใส่เหล็กธรรมดาบอกว่าดีขึ้นเช่นกัน)
จากการศึกษาที่แน็ชวิล เทนเนสซี หลายรายงานโดย หมออาร์ โฮลคัมบ์
พบว่าการใช้แม่เหล็กน่าจะมีผลดีในการบรรเทาอาการปวดบั่นเอวและปวดเข่า
จากการศึกษาของ หมอไมเคิล เจ ไวทรอบ ที่นิวยอร์ค พบว่าคนไข้เบาหวานที่เจ็บเท้า
เมื่อใส่รองเท้าที่เสริมแม่เหล็กแล้วทำให้ความเจ็บปวดลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ที่โบคา ราทอน มลรัฐฟลอริดา หมอศัลยกรรมเสริมสวย แดนียล แมน
รายงานต่อที่ประชุมศัลยแพทย์พลาสติกว่า คนไข้ที่เขาทำการผ่าตัดดึงหน้า
มีอาการปวดบวมหน้าน้อยลงเมื่อใช้แม่เหล็กหลังผ่าตัด
แต่เรื่องนี้ยังโต้เถียงกันอยู่มาก เนื่องจากมีฝ่ายค้านมากเท่ากับฝ่ายเสนอ
ฝ่ายที่ศึกษาแล้วเห็นว่าไม่ได้ผลก็มีอยู่มากบางคนไปไกลถึงขนาดว่า
แม่เหล็กมีผลดีแต่เพียงเอาไปทำเข็มทิศเท่านั้น
จากรายงานการศึกษาที่ นิวยอร์ค คอลเล็จ ออฟ โปไดอาทริค เม็ดดิซิน (โรงพยาบาลโรคเท้า)
พบว่าเมื่อให้คนไข้ที่เจ็บฝ่าเท้าเนื่องจากเอ็นฝ่าเท้าอักเสบใส่รองเท้าเสริมแม่เหล็ก
เปรียบเทียบกับคนที่ใช้แม่เหล็กหลอกแล้วปรากฏว่าได้ผลไม่ต่างกัน
มีนักวิจารณ์หลายคนกล่าวว่าการที่อาการของโรคหายจากแม่เหล็ก
อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาหลอกหรือที่ฝรั่งเรียกว่า placebo effect ก็เป็นได้
พลาซีโบเอ็ฟเฟ็ค นี้เป็นที่รู้จักกันดีมานานแล้ว คือ มันเกิดขึ้นจากพลังงานชี้แนะ (คล้ายสะกดจิต)
ทำให้จิตใจคนโน้นไปตามนั้น ดูแต่การศึกษาเรื่องผลดีของแม่เหล็กที่ เบเลอร์ คอลเล็จ
ตามที่กล่าวถึงบ้างบนนี้ มีอยู่ถึง 19% ที่ได้ผลดีจากการใช้แม่เหล็กหลอก
ดร.เจมส์ ดี. ลิวิงสตัน ดุษฎีบัณฑิตที่เคยทำงานทางด้านนี้ที่บริษัท เจนเนอรัล อีเล็กตริค
มาเป็นเวลานาน 30 ปีก่อนจะไปเป็นศาสตราจารย์ทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ที่ เอ็ม.ไอ.ที.กล่าวว่า
เขาไม่เชื่อว่าแม่เหล็กธรรมดาๆ (แบบ static อย่างที่ติดบนประตูตู้เย็น) จะมีฤทธิ์รักษาได้
แต่เขาก็ยังทำใจเปิดกว้างเอาไว้ เนื่องจากมีหลักฐานที่ว่ามันมีผลเหมือนกัน
เพียงแต่ว่าไม่มีนัยแตกต่างทางสถิติเท่านั้น
หลายคนวิจารณ์ว่า แม่เหล็กที่เขาเอามาขายให้กันนั้นมันมีความแรงน้อยเกินไป
ที่จะเกิดผลอะไรขึ้นมา ปกติแรงแม่เหล็กเราวัดกันเป็นความแรงที่แม่เหล็กสามารถยกน้ำหนักได้
ความแรงวัดกันเป็น gauss แม่เหล็กชนิดที่ติดหน้าประตูตู้เย็นส่วนมากมีความแรงประมาณ 50 กอสส์
แม่เหล็กที่มีขายอยู่มีความแรงอยู่ในช่วง 300 ถึง 1,000 กอสส์ แต่ขณะนี้ไม่มีใครกล้าแนะนำอะไร
ที่มันแรงกว่านั้น
แม่เหล็กมีขายมากมาย เวลาจะซื้อต้องอ่านฉลากให้ดีว่าเขาใช้อย่างไร สนนราคาที่สหรัฐฯ
ขนาดเล็กเหมือนที่ติดบนตู้เย็นราคาประมาณ 25 เหรียญ สำหรับฟูกเสริมแม่เหล็กราคาหลายร้อยเหรียญ
เหมาะสำหรับคนมีเงินมากจนไม่รู้จะเอาไปทำอะไรดี ถ้าท่านไปซื้อที่สหรัฐฯ เขาแนะนำว่า
ควรจะซื้อชนิดที่รับรองคืนเงินถ้าใช้ไม่ได้ผลหรือไม่พอใจ (money-back guarantee)
ขณะนี้ได้ข่าวว่ากำลังมีการทดลองใช้แม่เหล็กในเมืองไทย
แต่เป็นชนิดอื่นคือ ชนิดที่เป็นสนามแม่เหล็กไฟฟ้าเพื่อรักษาความเจ็บปวด
จากโรคกระดูกผุที่โรงพยาบาลรามาฯ ไม่ทราบว่าจะได้ผลอย่างไร ขณะที่รอผลการทดลอง
เมืองไทยก็ยังโฆษณาขายแม่เหล็กไม่ได้ แต่มีการขายตรงกันแล้ว ถ้ามีใครมาขายตรง
และท่านอยากลองก็คงจะไม่มีข้อห้าม เพราะยังไม่มีใครพบว่ามันมีผลเสียต่อสุขภาพกาย
แต่อาจจะมีผลดีต่อสุขภาพจิตของท่าน คือมีฤทธิ์พลาซีโบคือ
ทำให้ท่านหายเจ็บป่วยอย่างสุดฤทธิ์สุดเดชเหมือนการห้อยพระดูดทรัพย์
หรือทำให้น้ำหนักของท่าลดลงรวดเร็ว โดยไม่ต้องไปไดเอ็ดหรือจ็อกกิ้ง
เนื่องจากกระเป๋าเงินเบาลงอย่างรวดเร็ว
นพ.นริศ เจนวิริยะ
|