
สารเคมีใต้รักแร้ เพิ่มเสน่ห์ดึงดูดใจเพศตรงข้าม
เรื่องความสวย ความหล่อของมนุษย์เรา นอกจากจะ "ไม่คงทน"
แล้วยัง "ไม่คงที่" อีกด้วย
ลองดูกันง่ายๆ ลองสังเกตความสวย ความหล่อของคนรอบข้างคุณดูสิ
คุณเคยรู้สึกไหมว่า ทำไมวันนี้ยายสุนีย์ ซึ่งเมื่อวานยังดู "เห่ย" อยู่หยกๆ
ทำไมวันนี้ถึงดูสวยจัง หรือ สมชายบางวันทำไม ดูล้อ...หล่อ แต่บางวันก็ดูงั้นๆ แหละ
เออ! ทำไม ? คุณรู้หรือเปล่า ?
ว่ากันถึงเรื่องความสวย ความหล่อ ทุกคนก็คงจะรู้สึกกันดีอยู่แล้วว่า
เป็นเรื่องที่ไม่มีสูตรสำเร็จอันใดสามารถนำมาวัดกันได้เป๊ะๆ เหมือน "สูตรคูณ"
เพราะนี่เป็นเรื่องของนามธรรม ซึ่งขึ้นอยู่กับสายตา ความรู้สึก
อารมณ์และรสนิยมของแต่ละคน
แต่นอกจากนั้นยังขึ้นอยู่กับ "ฟีโรโมนส์ (Pheromones)" ด้วย
ฟีโรโมนส์ที่ว่านี้ไม่ใช่ "ครีมทาหน้า" หรือ ครีมสูตรมหัศจรรย์ที่ไหนนะคะ
หากแต่เป็นสิ่งที่ผู้หญิงผู้ชายทุกคนมีอยู่กับตัวเราแล้ว
ตรงรักแร้!
ชักน่าสนใจแล้วสิ แล้วคุณจะรู้สึกว่าเจ้าฟีโรโมนส์ช่างน่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีก
เมื่อคุณรู้ว่าเจ้าฟีโรโมนส์ช่างน่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อคุณรู้ว่าเจ้าฟีโรโมนส์นี้
มันมีส่วนช่วยให้คุณดูเป็นผู้หญิง-ผู้ชายที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจเพศตรงข้ามยิ่งขึ้นด้วย
ว้าว!
ทั้งนี้จากบทความของรอยเตอร์เขียนโดย แพทริเซีย รีนีย์
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมาเล่าว่า ฟีโรโมนส์เป็นสารเคมีในร่างกาย
เป็นสารไร้กลิ่น หากแต่ "ไม่ไร้น้ำยา" เพราะมีสรรพคุณช่วยกระตุ้นความรู้สึกเสน่ห์หา
ช่วยกระตุ้นความรู้สึกว่าเพศตรงข้ามต่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจมากขึ้น
ไม่ใช่แต่มนุษย์เท่านั้น ที่มีสารเคมีตัวนี้ในร่างกายแม้แต่สัตว์ก็มี
และสารฟีโรโมนส์ในสัตว์ก็เป็นสารเคมีตัวสำคัญ ที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมทางเพศ
ของสัตว์ต่างๆ เหล่านั้นหรือพูดง่ายๆ ก็คือเป็นสารเคมีที่กระตุ้นให้สัตว์
เกิดความรู้สึกปิ๊งปั๊งอยากมีคู่นั่นเอง
เรื่องสารเคมีบริเวณรักแร้ที่น่ารักเหลือหลายนี้ เป็นผลการศึกษาใหม่ล่าสุด
ที่คณะผู้เชี่ยวชาญของอังกฤษนำมาเสนอ ในการประชุมประจำปีของสมาคม
นักจิตวิทยาแห่งอังกฤษ ที่เมืองวินเชสเตอร์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 เมษายน
เพื่อให้ที่ประชุมรับทราบว่า สารเคมีตัวนี้ก็ส่งผลหรือมีอิทธิพลต่อมนุษย์
เหมือนที่มีต่อสัตว์นั่นแหละ
"สารฟีโรโมนส์ในผู้ชายสามารถกระตุ้นให้ผู้หญิงรู้สึกว่า
ผู้ชายมีหน้าตามีเสน่ห์ดึงดูดใจมากขึ้น"
ดร.นิก นีฟ แห่งมหาวิทยาลัยนอร์ธัมเบรีย หัวหน้าคณะศึกษาวิจัยเรื่องนี้
ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์ทางโทรศัพท์
ดร.นีฟและคณะทำงานของเขาค้นพบว่า ยิ่งให้ผู้หญิงได้สัมผัสสารฟีโรโมนส์
ในผู้ชายมากขึ้นก็ยิ่งจะช่วยกระตุ้นให้พวกเธอรู้สึกว่าผู้ชายดูมีเสน่ห์ดึงดูดใจมากขึ้น
ทั้งนี้จากการศึกษาดังกล่าว คณะทำงานของ ดร.นีฟได้ทดลองในผู้หญิง 32 คน
โดยให้พวกเธอให้คะแนนความมีเสน่ห์น่าดึงดูดใจ ต่อการดูรูปภาพของผู้ชายหลายๆ
คนแล้วยังรูปวาดครึ่งตัวของผู้ชายและตัวละครผู้ชายในนิยาย
หลังจากนั้นก็ให้ผู้หญิงกลุ่มนั้นสัมผัสสารฟีโรโมนส์ของผู้ชาย
แล้วให้เธอลองให้คะแนนความมีเสน่ห์ดึงดูดใจของรูปภาพผู้ชายชุดเดิมอีกครั้ง
จากนั้นต่อมาอีก 2 สัปดาห์ เมื่อผู้หญิงกลุ่มเดิมอยู่ในช่วงต่างๆ
ของรอบประจำเดือนของพวกเธอก็ลองทำการทดสอบซ้ำแบบเดิมทั้ง 2 อย่างนั้นอีก
ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาก็คือ ผู้หญิงทุกคนต่างให้คะแนนว่า
รูปภาพของผู้ชายเหล่านั้นดูหล่อเหลา ดูมีเสน่ห์น่าดึงดูดใจพุ่งกระฉูด
ในช่วงที่เธอได้สัมผัสสารฟีโรโมนส์ของผู้ชาย
"ในช่วงที่ได้รับสารฟีโรโมนส์ใบหน้าของผู้ชายทุกคนล้วนดูหล่อเหลา
ดูมีเสน่ห์ขึ้น แม้แต่ใบหน้าของผู้ชายที่ได้รับการประเมินคะแนนจากพวกเธอว่า
ขี้เหร่ที่สุด ก็ยังดูมีเสน่ห์ขึ้น" ดร.นีฟเล่า
ทั้งนี้จากบทความของรอยเตอร์ว่าการค้นพบของ ดร.นีฟเป็นเสมือนกระจก
ที่สะท้อนให้เห็นถึงผลการศึกษาก่อนหน้านี้ของออสเตรเลีย
ต่อเรื่องอิทธิพลของสารฟีโรโมนส์ในสตรีที่ส่งผลต่อผู้ชาย
ซึ่งยังระบุด้วยว่าสารเคมีดังกล่าวจะส่งผลต่อผู้หญิงมากที่สุด
ในช่วงกลางรอบเดือนของพวกเธอ คือจะทำให้พวกเธอดูมีเสน่ห์ดึงดูด
ต่อผู้ชายมากขึ้นในช่วงนั้น
"ส่วนการศึกษาชิ้นอื่นๆ ที่เคยปรากฏมาในอดีตก็เช่น
การศึกษาถึงผลของยาคุมกำเนิดที่พบว่าสามารถทำให้ฟีโรโมนส์ของผู้หญิงลดลง
ทำให้เธอไม่ค่อยมีเสน่ห์ดึงดูดใจต่อเพศตรงข้าม" ดร.นีฟเล่า
อย่างไรก็ตาม การศึกษาเรื่องอิทธิพลของสารฟีโรโมนส์ในมนุษย์
ก็ยังเพิ่งอยู่ในระยะเริ่มต้นเท่านั้น ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไปอีกมาก
แต่สารฟีโรโมนส์มีการค้นพบว่าเป็นสารที่มีอิทธิพล มีบทบาทสำคัญต่อสัตว์มานานแล้ว
เช่นช่วยในการเลือกคู่ของหนูแอมสเตอร์
แต่อย่างไรซะก็อย่าหวังพึ่ง "ฟีโรโมนส์" จนลืมเสน่ห์ที่จริงอย่างความดี
ความงามของจิตใจไปซะล่ะ!!
|