มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
http://www.oocities.org/Tokyo/Harbor/2093/
จำสั้นๆ i.am/thaidoc



 โรค Seborrheic dermatitis (ผื่นอักเสบตรงผิวมัน)


หลายคนคงไม่คุ้นหูกับชื่อนี้ แต่พบว่าในคนไทยเริ่มพบผู้ป่วยที่มีอาการของโรคนี้จำนวนมากขึ้น ดังนั้นหมอว่าเราน่าจะมาทำความรู้จักโรคนี้กันดีกว่านะคะ

โรค seborrheic dermatitis หรือผื่นอักเสบตรงผิวมันนี้มีลักษณะเป็นผื่นอักเสบเห็นเป็นผื่นแดง บางครั้งมีขุยลอกเป็นมัน มักจะเกิดบริเวณที่มีต่อมไขมันหนาแน่น เช่น T-zone, หัวคิ้ว, ซอกจมูก, ไรผมและบริเวณใบหู ถ้าเป็นมากอาจพบบริเวณหน้าอกและหัวเหน่าร่วมด้วย โรคนี้พบได้ทั้งในเด็กทารก ช่วงหนุ่มสาวและในคนสูงอายุ ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง แต่สันนิษฐานว่าอาจเกี่ยวข้องกับ

1. เชื้อจุลินทรีย์ตามผิวหนัง คือเชื้อ pityriasis ovale เป็นเชื้อยีสต์ที่อาศัยอยู่ในรูขุมขนกินไขมัน และโปรตีนของผิวหนังเป็นอาหาร ซึ่งในคนที่เนโรคนี้จะเพบเชื้อ P.ovale มากขึ้นผิดปกติ

2. สิ่งรบกวนที่ทำให้เซลล์ผิวหนังแบ่งตัวเร็วทำให้เกิดเซลล์ที่ยังอ่อนแอจำนวนมาก เซลล์ผิวหนังเหล่านี้เวลาโดนอะไรซ้ำเติม เช่น อากาศแห้ง ความหนาวเย็น ความเป็นด่างของสบู่ เครื่องสำอางที่มีแอลกอฮอล์ ก็จะเริ่มอักเสบเป็นผื่นแดงและลอกเป็นขุย

3. นอกจากนี้ยังมีปัจจัยภายในที่สำคัญ คือ กรดไขมันซึ่งเปลี่ยนมาจากไขมัน ที่อยู่ในรูขุมขนโดยพบว่าเชื้อ P.ovale สามารถเปลี่ยนไขมันธรรมดาให้เป็นกรดไขมันได้ และพบว่าผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีผนังรูขุมขนไม่แข็งแรง เซลล์หนังกำพร้าบริเวณนั้นๆ จะหลุดลอกง่ายเนื่องจากขาดไขมันชนิด linoleic acid ทำให้เซลล์เหล่านี้หลุดลอกง่ายขึ้น เมื่อมีกรดไขมันมารบกวน ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ทำให้เกิดการอักเสบแบบเรื้อรังเป็นๆ หายๆ

ดังนั้นการรักษาผื่นอักเสบชนิดนี้จึงต้องใช้ตัวยาหลายชนิด ได้แก่ยาที่ลดเชื้อ P.ovlae ซึ่งอาจเป็นยากินหรือยาทาก็ได้ ในช่วงที่มีผื่นแดงขุยลอก ก็ต้องใช้ตัวยาที่ช่วยลดการอักเสบ และลดการแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนัง เช่น สเตียรอยด์ ซึ่งถ้าใช้กับใบหน้าก็ต้องใช้สเตียรอยด์อ่อนๆ เพื่อป้องกันข้อแทรกซ้อน เช่น เป็นสิว ผิวบางฝ่อและติดสเตียรอยด์ นอกจากนี้มีรายงานว่า การใช้ evening primrose oil หรือ EPO ซึ่งอุดมไปด้วย linoleic acid นั้น นอกจากจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเซลล์ผิวแล้วยังช่วยลด หรือยับยั้งฮอร์โมนอักเสบของร่างกายที่เรียกว่า prostaglandin ฮอร์โมนนี้จะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของระบบต่างๆ ทั่วร่างกาย

เมื่อทราบสาเหตุและการรักษาแล้ว หมอว่าผู้ที่เป็นโรคนี้ก็ควรจะรู้จักวิธีปฏิบัติตัวง่ายๆ ดังนี้

1. การล้างหน้า ควรใช้สบู่อ่อนหรือบางครั้งอาจใช้น้ำเปล่าล้างหน้า ถ้าผิวอักเสบมาก
2. หลีกเลี่ยงเครื่องสำอางที่เป็นโลชั่นซึ่งมักมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
3. อย่าให้ผิวแห้งเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ที่อ่อนและบริสุทธิ์ไม่มีส่วนผสมของสารเคมี มากเกินความจำเป็นซึ่งจะทำให้เกิดการแพ้และระคายเคืองได้
4. ใช้ครีมกันแดดทาป้องกันผิวเพื่อป้องกันหน้าแดง เส้นเลือดขยาย และการรบกวนจากรังสีในแสงแดด
5. เครื่องสำอางควรใช้ชนิดที่เหมาะสำหรับผิวไว
6. การดูแลรักษาโรคนี้ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพื่อป้องกันและลดข้อแทรกซ้อนจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการรักษา เช่น ยาปฏิชีวนะ สารสเตียรอยด์ ยาลดการแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนัง ตลอดจนในกรณีที่มีปัญหาผิวพรรณอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น สิว ฝ้า รอยด่างดำ ก็ควรให้แพทย์ตรวจสภาพผิวและเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมให้ใช้

พญ.สุคนธรัตน์ มัลลิกะมาลย์



[ที่มา..หนังสือ นิตยสารใกล้หมอปีที่ 23 ฉบับที่ 9 กันยายน 2542]

[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21] resolution 800x600