นอกจากผิวพรรณและเส้นผมแล้ว เรายังมีเล็บเป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่ง
ที่มองเห็นได้ชัดเจนจากภายนอก ทุกคนมีความรักในเล็บของตนเอง ต้องการให้เล็บสวยและดูดี
วิธีการถนอมเล็บในแต่ละคนจะแตกต่างกันตามสภาพฐานะและสภาพทางสังคม
เริ่มตั้งแต่วิธีง่ายๆ ประหยัดไปจนถึงการเสริมสวย เช่น ล้างเล็บ เคลือบเล็บและทาเล็บ
เป็นสิ่งที่ธรรมชาติมอบให้แก่ร่างกายมนุษย์นั้นมีประโยชน์ทุกสิ่งทุกอย่าง
เล็บเริ่มสร้างตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์มารดา มีไว้เพื่อมิให้ปลายนิ้วกระแทกกับสิ่งต่างๆ
เนื่องจากจะเกิดอาการเจ็บปวดจากการกระแทกมากมายเพราะปลายนิ้ว
จะมีเส้นประสาทสัมผัสหลายเส้น ลองวาดภาพดูก็ได้ ถ้าเราเดินแกว่งแขนไปมา
แล้วนิ้วกระแทกประตูหรือนิ้วเท้าแตะสิ่งของและเราไม่มีเล็บ
ปมเส้นประสาที่ปลายนิ้วเรากระแทกโดยตรงทำให้เกิดความเจ็บปวดมาก
ถ้าตอนเราพิมพ์ดีดหรือใช้คอมพิวเตอร์เราออกแรงกดมากเกินไป
จะมีแรงกดกระแทกกับประสาททำให้เกิดความเจ็บปวด
แต่ถ้าเรามีเล็บจะเสริมความแข็งให้ปลายนิ้ว แม้กดแรงๆ ก็ไม่เกิดความเจ็บปวด
เล็บประกอบด้วยเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วก็จริงแต่เพิ่มความยาวได้ตามกาลเวลา
ความยาวของเล็บจะมีประมาณ 0.1-0.2 มม. ต่อวัน และเล็บเท้าจะยาวช้ากว่านี้มาก
การตัดเล็บควรทำทุก 2-3 สัปดาห์ อายุประมาณ 15-30 ปี จะเป็นช่วงที่เล็บยาวเร็วที่สุด
ถ้าเราเกิดอุบัติเหตุเช่นถูกประตูหนีบหรือเดินเตะก้อนอิฐ เล็บจะได้รับบาดเจ็บ
อาจมีเลือดออกในเล็บให้ปล่อยทิ้งไว้หลายวัน ร่างกายจะขจัดเม็ดเลือดเหล่านั้นออกไปเอง
แต่ถ้าอุบัติเหตุรุนแรงจนเล็บหลุดออกไปทั้งแผ่น ก็ไม่ต้องตกใจเพราะจะมีเล็บใหม่ๆ ค่อยๆ
งอกออกมาแทนที่ ถ้าเป็นเล็บมือจะยาวเร็ว ใช้เวลา 2-3 เดือนก็จะยาวเหมือนเดิม
แต่ถ้าเป็นเล็บเท้าอาจใช้เวลานานกว่านั้นประมาณเท่าตัว
เมื่อเล็บมีประโยชน์ต่อเราดังที่ได้กล่าวมาแล้ว การดูแลรักษาเล็บจึงสำคัญมาก
เพราะเป็นการทำให้เล็บมีสุขภาพดี มองดูสวยงามเป็นที่เจริญหูเจริญตาแก่เราเองและผู้พบเห็น
การดูแลเล็บเริ่มด้วยวิธีง่ายๆ คือ ตัดเล็บให้มีขนาดสั้นพอประมาณ
เพราะการไว้เล็บยาวเกินไปอาจทำให้เล็บเกิดฉีกขาดและเกิดความเจ็บปวดควรตัดเล็บทุก 2-3 สัปดาห์
ส่วนจมูกเล็บอาจมีเนื้อแข็ง ถ้ารำคาญอาจขลิบออกได้บ้าง แต่ถ้าขลิบแล้วเจ็บต้องงดทำ
เพราะจะเกิดเลือดออกและมีการติดเชื้อ กรรไกรตัดเล็บควรอยู่ในสภาพที่สะอาด
เช็ดแอลกอฮอล์เป็นครั้งคราวเพื่อฆ่าเชื้อโรคก็จะเป็นการดี ห้ามใช้กรรไกรตัดเล็บ
ร่วมกับผู้เป็นโรคติดเชื้อของเล็บ เช่นเชื้อราเล็บ เพราะจะเป็นการกระจายโรคมาสู่เล็บของเรา
ส่วนในการทำความสะอาดเล็บควรใช้สบู่ทำความสะอาดชนิดเดียวกับที่เราล้างมือ
นั่นคือล้างมือก็ล้างเล็บไปด้วย ส่วนซอกเล็บโดยเฉพาะเล็บเท้าอาจมีฝุ่นละอองเข้าไปอัดแน่น
จึงควรทำความสะอาดเพิ่มเติมโดยใช้แปรงนิ่มถูเบาๆ ตรงซอกเล็บเพื่อขจัดสิ่งสกปรกออกไป
ไม่ควรใช้ตะไบแซกลงในซอกเล็บอย่างรุนแรง เพราะจะทำให้เล็บแยกออกจากผิวรอบขอบเล็บ
และเป็นบ่อเกิดของการติดเชื้อ โดยเฉพาะเชื้อรากรณีเช่นนี้จะพบในคนที่นิยมทำเล็บตามร้านเสริมสวย
และใช้ตะไบเล็บอันเดียวกันในลูกค้าหลายคนโดยไม่ทำความสะอาดตะไบอย่างถูกต้อง
ทำให้เชื้อราจากบุคคลหนึ่งติดต่อไปยังบุคคลอื่นๆ
เล็บของผู้มีสุขภาพแข็งแรง จะผิวเรียบ สีชมพูเล็กน้อยและไม่มีสีสันสะดุดตา
บางคนจะนิยมทาเล็บเพื่อความสวยงาม สีเคลือบเล็บที่ทำให้เกิดความสวยงามแก่เล็บนั้น
มีข้อดีคือทำให้เล็บสวยขึ้นเมื่อทาสักระยะหนึ่งก็จะหลุดออก แต่หลุดออกไม่หมด
ต้องใช้น้ำยาล้างสีเหล่านั้นออกไป แล้วจึงทาใหม่ สีเคลือบเล็บและน้ำยาล้างเล็บอาจทำให้เล็บมีสีเหลือง
หรือเล็บลอกตามตัวออกจากฐานเล็บ ถ้ามีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งควรหยุดทาเล็บ
อาการต่างๆ จะหายไปใน 3-6 เดือน เมื่อทาอีกก็จะเกิดอาการดังกล่าวอีกครั้งและอาจรุนแรงกว่าเดิม
เพราะอาการแพ้ยาทาเล็บและน้ำยาล้างเล็บนั่นเอง
ทุกอวัยวะในร่างกายของเราสามารถเกิดโรคได้หมดรวมถึงเล็บ ที่พบบ่อย ๆ คือ
เชื้อราที่เล็บ อาการสำคัญที่บ่งบอกว่าเริ่มเป็นเชื้อราที่เล็บคือปลายเล็บหนาตัวขึ้น
และมีผิวที่ขรุขระ อาการลามมากขึ้นเรื่อยๆ เข้าสู่ในเล็บ ถ้าปล่อยทิ้งไว้ อาจลามเป็นโรคได้ทุกเล็บ
ส่วนมากเกิดจากการติดเชื้อราจากดิน สัตว์เลี้ยงตามบ้าน เช่น สุนัข แมว หรือไก่
ดังนั้นเมื่อสัมผัสกับสิ่งเหล่านี้ควรทำความสะอาดเล็บให้เกลี้ยง หรือที่ป้องกันได้แน่นอนกว่าคือ
การสวมถุงมือเมื่อจะสัมผัสกับสิ่งเหล่านี้จะเป็นการดีที่สุด เนื่องจากโรคเล็บนั้น
เมื่อรักษาต้องใช้เวลาหลายเดือน ทั้งยาทาและรับประทาน การป้องกันจึงเป็นการดีกว่า
อาการผิดปกติของเล็บอาจบ่งถึงโรคต่างๆ ในร่างกายเราได้ เช่นถ้าเล็บและปลายนิ้ว
มีรอยสีเขียวคล้ำแสดงว่าเลือดมาเลี้ยงที่บริเวณนี้ได้น้อยลงหรือมีออกซิเจนมากับเลือดลดลง
พบในโรคปอดหรือหลอดเลือดตีบ เล็บที่มีรอยบุ๋ม หลายแห่งมักพบในผู้ป่วยโรคเรื้อนกวาง
ผมร่วงเป็นหย่อม หรือภูมิแพ้ผิวหนัง ส่วนเล็บลอกหลุดจากฐานเล็บอาจบ่งชี้ถึงโรคต่อมธัยรอยด์เป็นพิษ
เล็บจึงเป็นอวัยวะสำคัญอีกอย่างหนึ่งของเรา นอกจากช่วยป้องกันอันตรายต่อปลายนิ้วของเราแล้ว
ยังเป็นอุบัติเหตุของโรคต่างๆ ในร่างกายได้อีกด้วย
|