มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
http://www.oocities.org/Tokyo/Harbor/2093/
จำสั้นๆ i.am/thaidoc



ป้องกันการติดเชื้อในครรภ์และระหว่างคลอด


" การแนะนำเอแซดที
เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ระหว่างคลอดนี้
เป็นข้อเสนออย่างเดียว
โดยที่แม่ไม่มีโอกาสรับรู้ว่า
มีทางเลือกอื่นด้วย
ที่แม่อาจจะสนใจมากกว่า
การใช้เอแซดที "
ยูเอ็นเอดส์ (UNAIDS) ประเมินว่าในวันหนึ่งๆ จะมีเด็กที่เกิดมาพร้อมด้วยเชื้อเอชไอวี 1000 คน ทั่วทั้งโลก จึงมีการวิจัย และทดลองหลายอย่าง เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กเกิดใหม่ติดเชื้อ

ที่จริงแล้วการป้องกันการติดเชื้อ ในครรภ์ที่ดีที่สุดคือ การป้องกันไม่ให้ผู้หญิงติดเชื้อ

ปัญหานี้เป็นภาระที่หนักมากสำหรับผู้หญิง ตั้งแต่ยังเยาว์จนกระทั่งเป็นสาวและมีครอบครัว ผู้หญิงในสังคมเรา ไม่มีพลังป้องกันตัว โดยเฉพาะในเรื่องความสัมพันธ์กับผู้ชาย ดังนั้นในขณะที่เรามีโครงการ วางแผนครอบครัวที่ได้ผลในการลดอัตราประชากร แต่ในเวลาเดียวกัน การคุม
กำเนิดแบบที่สร้างความปลอดภัยให้ผู้หญิงเช่นการใช้ถุงยางอนามัย ก็ยังไม่อยู่ในความนิยม ทั้งๆ ที่ตระหนักกันดีว่า ถุงยางอนามัย เป็นการคุมกำเนิดวิธีเดียว ที่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ด้วย

การติดอาวุธแม่บ้านด้วยถุงยางอนามัยเท่านั้นไม่พอ ผู้หญิงจะต้องมีพลังในการขอให้คู่นอนของเธอใช้ถุงยางด้วย

ข้อโต้เถียงที่ว่า ถุงยางเป็นความรับผิดชอบของผู้ชาย แต่เราก็ลืมไปว่า บางทีผู้ชายเองก็รู้สึกอายที่จะเสนอการใช้ถุงยางอนามัยเช่นกัน การชักจูงให้ผู้ชายในครอบครัวมีความเข้าใจว่าการคุมกำเนิดนั้นผู้ชายก็มีส่วนสำคัญ เท่าๆ กับผู้หญิงน่าจะทำให้การคุมกำเนิดสมบูรณ์มากกว่าการเน้นให้ยา และอบรมผู้หญิงข้างเดียว

ในอีกทางหนึ่งหลายคนคงจะต้องทำความเข้าใจกับตัวเองว่าการคุมกำเนิด ไม่ใช่การเรียกร้องให้ลดความต้องการทางเพศหรือเป็นเรื่องสัปดน แต่การคุมกำเนิดหมายถึงการมีเพศสัมพันธ์ที่มีการวางแผน เพื่อให้ได้ความสุขที่สมบูรณ์ และอีกทางหนึ่งคือ การแก้ไขปัญหาที่เกิดจากผลลัพธ์ที่ไม่เป็นไปตามแผน

ในการให้การศึกษาเรื่องการคุมกำเนิดนั้น ควรจะทำร่วมกันทั้งครอบครัว ทุกคนรวมทั้งเด็กและเยาวชนทุกเพศทุกวัยในครอบครัวและที่สำคัญคือสามี ซึ่งจะทำให้เกิดเพศศึกษาในครอบครัวร่วมกันได้อีกประการหนึ่งด้วย

ทำแท้งแล้วทำหมันถาวร

ในหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทยเรา ยังมีการแนะนำให้แม่ที่ติดเชื้อเอชไอวี ทำแท้ง หรือรวมทำหมันให้เสร็จเลย การกระทำเช่นนี้ก็เป็นเรื่องที่รับกันได้ยาก เพราะเท่ากับว่า ไม่ยอมรับการมีอำนาจเหนือร่างกายตนเองของผู้หญิง และแน่นอนการที่จะต้องแท้งลูก ด้วยความจำยอมนั้น สำหรับแม่แล้วเป็นเรื่องที่เจ็บปวดหัวใจยิ่งนัก
แต่บางประเทศก็มีกฎหมายห้ามทำแท้ง ซึ่งก็เป็นอันว่าข้อนี้เลิกคิดถึงไปได้แม้ว่าก็เป็นปัญหาอีกว่า ถ้าผู้หญิงเกิดตั้งครรภ์โดยที่เธอไม่พร้อม กฎหมายข้อนี้ก็ลิดรอนสิทธิ์ในร่างกายของผู้หญิงออกไปอีกเช่นกัน
การทำหมันหมายถึงการสละสิทธิการมีลูกไปตลอดชีวิต ซึ่งสำหรับผู้หญิง ที่พร้อมที่จะเป็นแม่แล้วการมีลูกมีความหมายลึกซึ้งเพราะเป็นความต้องการทางชีวิต และจิตใจ
สำหรับเรื่องการทำหมันผู้หญิงที่ติดเชื้อเอชไอวีนั้นจะต้องแน่ใจว่าไม่ใช่เป็นการชักจูงแกมบังคับ แต่เป็นความพร้อมของผู้หญิงเอง หลังจากการปรึกษาหารือกันอย่างจริงจัง

การป้องกันในครรภ์

มีวิธีเสนอแนะหลายวิธีด้วยกัน สำหรับการป้องกันการติดเชื้อในครรภ์ เช่น การให้แม่ทานวิตามินเอ การควบคุมขณะเบ่งคลอด การผ่าออกทางหน้าท้อง การทำความสะอาดช่องคลอด และการใช้ยาต้านไวรัส (บ้านเราใช้เอแซดที)
การใช้วิตามินเอ นั้น เกิดจากการสรุปผลการศึกษาที่ว่า การขาดวิตามินเอ ทำให้ติดเชื้อเอชไอวีง่ายขึ้น ดังนั้นจึงมีการแนะนำให้ผู้หญิงติดเชื้อที่ตั้งครรภ์ ใช้วิตามินเอเพื่อป้องกันลูกติดเชื้อ มีการทดลองวิธีนี้ในประเทศแซมเบีย และซิมบาบเว
แต่ก็มีการโต้แย้งว่า ทฤษฎีนี้ไม่จริง วิตามินเอไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ อีกซ้ำการกินวิตามินเอมากๆ ก็จะทำให้เกิดปัญหาร่างกายสะสมวิตามินเอ มากเกินไป และอาจจะทำให้เด็กออกมาไม่สมประกอบได้อีกด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม แต่สำหรับสังคมที่ไม่มีปัญหาด้านโภชนาการนั้นการขาดวิตามินเอ ก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทดลองการติดเชื้อในครรภ์โดยวิธีนี้
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าการคลอดก่อน 37 สัปดาห์ ก็มีโอกาสมากเด็กจะติดเชื้อ จึงจำเป็นต้องมีการจัดการป้องกันการติดเชื้อในช่องคลอดขณะคลอดอย่างเต็มที่ รวมถึงการดูแลสุขภาพของแม่ ในขณะที่ท้องแก่อย่างเคร่งครัด เช่นไม่ให้ทำงานหนักเกินไป ควบคุมอาหาร มีการตรวจและฆ่าเชื้อในช่องคลอดเป็นประจำ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้แน่ใจว่าช่องคลอดนั้นปอลดภัยต่อการติดเชื้อมากที่สุด

การป้องกันการติดเชื้อระหว่างคลอด

ในการทำการคลอดเด็กที่เกิดจากครรภ์ผู้ติดเชื้อ จะต้องรีบช่วยให้เด็กผ่านช่องคลอด ออกมาโดยเร็วที่สุด ในขณะเดียวกันต้องระวังไม่ให้รกฉีกในช่องคลอด ซึ่งหมายถึงจะต้องงดเครื่องช่วยเหลือที่จะทำให้รกฉีกขาดเช่นเครื่องดูดช่วยเป็นต้น
มีผลงานวิจัยบางที่ระบุถึงผลลัพธ์ที่น่าพอใจ จากการผ่าเอาเด็กออกทางหน้าท้อง ซึ่งสามารถลดการติดเชื้อได้มาก แต่อย่างไรก็ตามมีรายงานหลายแห่งยืนยันว่า การผ่าท้องแม่ที่ติดเชื้อเอชไอวีนั้น แม่จะฟื้นตัวช้าและอาจจะมีอาการแทรกซ้อนได้ง่าย ดังนั้นการผ่าท้องจึงเป็นทางเลือกสำหรับใช้แต่เฉพาะรายที่คลอดยากเท่านั้น

วิธีที่ค่อนข้างนิยมกันแพร่หลายในเวลานี้ คือการให้ยาเอแซดทีแก่แม่ 2-3 สัปดาห์ก่อนคลอด ขณะคลอด และให้เอแซดทีทั้งแม่และลูกอีก 6 สัปดาห์หลังคลอด

อย่างไรก็ตาม ข้อโต้แย้งในเรื่องนี้ก็มีอยู่มาก เช่น แม่จะได้รับข้อเสนอการป้องกันโดยเอแซดที ในระยะใกล้คลอด ซึ่งก็ตกอยู่ในภาวะที่หมดทางเลือก การแนะนำเอแซดทีโดยทั่วไปแล้ว แม่อยู่ในภาวะจำยอมมากกว่าที่จะเต็มใจ หรือมีความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริง
การที่จะแนะนำยาเอแซดทีให้แม่ได้นั้น หมายความว่า แม่จะต้องถูกตรวจเลือดก่อนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งการตรวจเลือดแม่โดยทั่วไป มักจะรวมอยู่ในระบบการตรวจร่างกายแม่ไปเลย โดยที่แม่ไม่มีโอกาสรู้ตัว หรือแม้จะได้รับการปรึกษาก่อน

การแนะนำเอแซดที เพื่อป้องกันการติดเชื้อระหว่างคลอดนี้เป็นข้อเสนออย่างเดียว โดยที่แม่ไม่มีโอกาสรับรู้ว่า มีวิธีอื่นด้วย ที่แม่อาจจะสนใจที่จะเลือกใช้ มากกว่าการใช้เอแซดทีก็เป็นได้
แม่ถูกทำให้รู้สึกว่า ตนเองจะต้องรับผิดชอบถ้าปล่อยให้ลูกเกิดมาแล้วติดเชื้อ ซึ่งทำให้แม่ไม่ได้คำนึงถึงสุขภาพและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับตนเอง การเสนอยาก็คำนึงถึงแต่เรื่องป้องกันไม่ให้ลูกติดเชื้อ โดยลืมคิดถึงสุขภาพของแม่
ข้อเท็จจริงที่ว่าการใช้เอแซดทีป้องกันการติดเชื้อระหว่างคลอดนี้สถิติในสหรัฐอเมริกา สามารถลดการติดเชื้อได้ถีง 92% ไม่ใช่ลดได้ 100% อย่างที่เชื่อกัน

อนึ่งการติดตามผลข้างเคียงระยะยาวที่จะเกิดกับเด็กที่ใช้เอแซดทีหลังคลอด อีก 6 สัปดาห์นั้นว่าจะมีอย่างไรบ้างก็ยังสรุปลงความเห็นไม่ได้ และดูเหมือนจะลืมกันไปเลยว่า จะเกิดผลอย่างไรกับแม่เพราะว่าปัจจุบันนี้ มีข้อสรุปแล้วว่าไม่ให้ใช้เอแซดทีอย่างเดียว เพราะจะทำให้เกิดการดื้อยาได้ ซึ่งทำให้แม่ไม่สามารถใช้การรักษาแบบค็อกเทลได้ในอนาคตอีกต่อไป
ด้วยเหตุนี้ ทำให้เราเกิดสถานการณ์เด็กกำพร้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะอายุของแม่สั้นลงเนื่องจากผลของยาและการป้องกันไม่ให้ลูกติดเชื้อ

จากวารสาร "นามชีวิต"



[ที่มา..หนังสือ นิตยสารใกล้หมอปีที่ 23 ฉบับที่ 8 สิงหาคม 2542]

[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21] resolution 800x600