มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
http://www.oocities.org/Tokyo/Harbor/2093/
จำสั้นๆ i.am/thaidoc



อยากจำกลับลืม อยากลืมกลับจำ

นพ.ชุมศักดิ์ พฤกษาพงษ์


ปรากฏการณ์ที่น่ากลัวมากประการหนึ่งในชีวิตคนเราคือ "การลืม" หรือ "การจำไม่ได้" ซึ่งถ้าหากมีคนใกล้ชิดช่วยดูแลให้เป็นอย่างดีแล้วก็ดูเหมือนว่าการลืมจะไม่น่ากลัวเท่าใดนัก แต่ถ้าการดูแลเกิดบกพร่องหรือเกิดช่องว่างขึ้นก็อาจเกิดความผิดพลาดจนถึงแก่ชีวิตได้ อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อหลายสิบปีก่อนตอนที่เศรษฐีนีวัยสูงอายุของเมืองไทยคนหนึ่ง ซึ่งเกิดความขี้ลืมจนเดินออกจากที่พักหายไปไหนก็ไม่ทราบ ญาติพยายามตามหาอยู่หลายวัน กลับพบเธอนอนเป็นศพอยู่ในป่า

ท่านผู้อ่านเคยสงสัยหรือไม่ว่า ทำไมคนเราจึงมี "ความจำ ?" ความจำเกิดจากอะไรหนอ ?

ความจำ (memories) เกิดขึ้นเมื่อสมองใช้กระบวนการดำเนินการกับสัญญาณประสาทที่นำข้อมูล จากประสาทรับรู้ต่างๆ เข้ามาส่ง
ลองนึกย้อนกลับไปสมัยที่เรายังเป็นเด็กเล็กๆ แล้วคุณแม่ร้องเพลงกล่อมเด็กเพื่อให้เรานอนหลับ หรืออย่างเวลาเราฟังเพลงอยู่ขณะนี้ก็ได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือเส้นประสาทในบริเวณหูของเราจะได้ยินเสียงเพลง ที่อาจมีทั้งทำนองและเนื้อร้องหรือสัญญาประสาทจากหูจะเดินทางไปตามเส้นประสาทสู่สมองของเรา

การได้ยินเพลงครั้งแรกจึงอาจยังไม่ก่อให้เกิดการจำ
แต่ถ้าในวันต่อๆ มาเราได้ยินเสียงเพลงดังกล่าวซ้ำอีก การถ่ายทอดสัญญาณจะซ้ำรอยเดิม สัญญาณที่เกิดซ้ำๆนี้จะเดินทางผ่านรอยต่อของเส้นประสาทจนเกิดเป็นร่องสัญญาณใหม่เรียกว่าร่องความจำ "MEMORY TRACES" แต่ละครั้งที่สัญญาณจากเสียงเพลงเดิมผ่านไปตามร่องความจำนี้เซลล์ประสาท จะรับรู้และสามารถส่งสัญญาณเดิมได้ในคราวต่อไป จนถึงจุดหนึ่งร่องความจำสามารถนึกถึงเพลงทั้งเนื้อร้อง และทำนองได้โดยไม่ต้องฟังเสียงเพลงจากแผ่นเสียงหรือจากคุณแม่ผู้ร้องกล่อมอีกต่อไป


อาการขี้ลืม (dementia) คืออะไร ?

"การลืม" ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชีวิตประจำวันมากน้อยตามความรุนแรงของการลืมที่เกิดขึ้น แต่ถ้าถึงขั้นขี้หลงขี้ลืมแบบที่ทางการแพทย์เรียกว่า "ดี-เมน-เซีย" (dementia) แล้วหมายถึง การสูญเสียความสามารถทั้งทางสังคมและต่อตัวบุคคลเองจนถึงขนาดทำกิจวัตรประจำวันไม่ได้ ซึ่งในสมัยหนึ่งเคยเรียกว่า เป็นเรื่องของคนแก่ (SENILITY) และถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการแก่ตัวลง ดังนั้นจึงขอให้ทำใจเสียแต่เดี๋ยวนี้ วงการแพทย์พบว่ามีโรคภัยไข้เจ็บหลายสิบโรคที่ก่อให้เกิด "อาการหลงลืม" ได้ โดยอาการหลงลืมนี้มีความรุนแรงมากน้อยต่างกัน โดยทุกระดับจะต้องมีความบกพร่องของความจำ ความคิด เหตุผลและการใช้ภาษาไม่มากก็น้อย และบางโรคจะรับการเปลี่ยนแปลงของบุคลิกภาพ และพฤติกรรมด้วยเมื่อภาวะหลงลืมดำเนินต่อไป


การแก่ชราตามปกติ

ความจำและข้อมูลเกิดจากการจัดส่งสัญญาณผ่านเซลล์ประสาท (neuron) ไปสู่สมองดังกล่าวมาแล้ว แต่พอคนเราแก่ชราลง เซลล์ประสาทจะมีขนาดเล็กน้อยและจำนวนน้อยลงทำให้สมองทำงานลดลงบ้าง บางครั้งเราจึงเริ่มรู้สึกขี้ลืม ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามปกติในคนสูงอายุ โดยความจำช่วงสั้นๆ เช่น ความสามารถในการจำหมายเลขโทรศัพท์ได้หลายวินาที และความจำระยะสั้นตั้งแต่หลายๆ นาที ไปจน 2-3 สัปดาห์ยังคงอยู่ อย่างไรก็ตาม การวิจัยของแพทย์ในผู้ที่มีอายุระหว่าง 62-100 ปีนั้น ความสมารถในการเคลื่อนย้ายข้อมูลใหม่ๆ ไปไว้ในหน่วยความจำระยะยาว (การเรียนรู้) จะลดลงตามวัยที่สูงขึ้น

ที่ควรเข้าใจไว้ตรงนี้คือ คนเราแต่ละคนจะแก่ลงไม่เท่ากัน และหลายต่อหลายคนแก่ตัวเฉพาะสังขาร แต่สติปัญญายังเฉียบแหลม

นักวิจัยพบด้วยว่าความสามารถในเชิงสติปัญญายังขึ้นกับการที่สมองได้รับการกระตุ้นมากน้อยแค่ไหน อย่างเช่นคนที่ยังทำงานต่อเนื่องหรือยังทำตัวเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ตนสนใจอยู่จะแสดงความตื่นตัว ของสติปัญญาดีกว่าคนที่ไม่สนใจจะทำอะไรเลย (คืออยู่ไปวันๆ)

อาการหลงลืมมีสาเหตุได้มากมาย ที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงมากที่สุดคือ โรคอัลไซเมอร์ ทั้งนี้เพราะในบรรดาคนมีอาการหลงลืม 100 คนจะพบว่า เป็นโรคอัลไซเมอร์เสียกว่าครึ่ง แค่อย่าลืมว่ายังมีอีกราว 50 สาเหตุ บางสาเหตุรักษาได้ บางสาเหตุก็รักษาไม่ได้

ตัวอย่างเช่น

1. โรคหลอดเลือดเลี้ยงสมองแตกหรือตีบ (stroke) ซึ่งเป็นโรคที่เกิดเป็นผลตามมาจาก ภาวะความดันโลหิตสูงหรือโรคหัวใจ แล้วทำให้เส้นเลือดในสมองแตกหรือเกิดการอุดตันของเส้นเลือด

วิธีแก้ไขหรือป้องกันคือ
  • การมุ่งรักษาภาวะความดันโลหิตสูงให้ดี
  • หยุดสูบบุหรี่
  • ลดระดับไขมันโคเลสเตอรอลในเลือด
  • รักษาโรคหัวใจที่เป็นอยู่
  • บำบัดรักษาโรคเบาหวานที่เป็นอยู่
2. การติดเชื้อ เช่น ติดเชื้อไวรัสเอดส์ (HIV) วัณโรค ซิฟิลิส โรคเยื่อหุ้มสมอง หรือเนื้อสมองอักเสบบางชนิดก่อให้เกิดการอักเสบของสมองจนมีผลทำให้เซลล์ประสาทเสียหายไป

3. ยารักษาโรคบางขนาน มีผลทำให้ความจำเสียไป เช่น ยานอนหลับ ยากล่อมประสาทบางกลุ่ม (tricyclic antidepressant) ยาปฏิชีวนะบางขนาน

4. การบาดเจ็บ หรือความผิดปกติทางสมอง เช่น อุบัติเหตุที่ทำให้สมองบาดเจ็บรุนแรง หรือเกิดเนื้องอกของสมองขึ้น

5. สาเหตุอื่นๆ เช่นการขาดแคลนฮอร์โมนจากต่อมธัยรอยด์ การขาดวิตามินบี 12 ภาวะซึมเศร้า การดื่มสุราจัดๆ

โดยสรุปแล้วอาการขี้ลืมอาจเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามปกติของสังขาร แต่ก็มีอาการหลงลืมที่เป็นผลจาก โรคภัยไข้เจ็บบางอย่างแก้ไขได้ บางอย่างก็แก้ไขไม่ได้ ซึ่งผู้ที่จะช่วยตัดสินได้อาจต้องเป็นคุณหมอ



เมื่อศตวรรษที่แล้ว นักวิทยาศาสตร์พบว่า โรคอัลไซเมอร์หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันดีว่า เป็นโรคความจำเสื่อมเกิดกับมนุษย์น้อยมาก แต่เมื่อชีวิตมนุษย์ได้เปลี่ยนแปลงไป ตามสภาพสิ่งแวดล้อมและสังคม อัลไซเมอร์กลับเติบโตรุกคืบเข้าหามนุษย์อย่างรวดเร็ว ในอเมริกา เมื่อปี ค.ศ.1977 ผู้สูงอายุโดยเฉพาะผู้มีอายุ 85 ปีขึ้นไปมีโอกาสจะเป็นโรคอัลไซเมอร์ถึง 40%

สมองปกติ จะมีสีแดง สีส้ม สีเหลือง แสดงถึง การเปลี่ยนแปลงของกลูโคส

สมองที่เป็นอัลไซเมอร์ จะมีสีน้ำเงิน ม่วง แสดงถึงความผิดปกติ

สมองปกติของเด็กทารก สีจะแสดงให้เห็นว่า ส่วนต่างๆ ยังไม่สมบูรณ์

(update 9 ตุลาคม 2000)


[ที่มา..หนังสือ นิตยสารใกล้หมอปีที่ 24 ฉบับที่ 7 กรกฎาคม 2543]

[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21] resolution 800x600